ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของ Windows Mobile 7 ในงาน Mobile World Congress กลางเดือนนี้ เว็บไซต์ PPC Geeks ได้เปิดเผยข้อมูลวงในที่อ้างว่าเป็นของ Windows Mobile/Phone 7 (ต้นฉบับใช้คำว่า Windows Phone 7 ครับ)
- ในงานนี้จะเปิดตัวเฉพาะส่วนติดต่อผู้ใช้แบบใหม่ของ Window Phone 7 เท่านั้น
- ส่วนติดต่อผู้ใช้นี้มีรหัสเรียกว่า "METRO" หน้าตาเหมือนกับ Zune HD จะมาแทนหน้าจอ Start เดิม
- ยังไม่รองรับ Flash เพราะทำไม่ทัน
- จำกัดวิธีการลงโปรแกรมให้ลงผ่าน App Store (ของไมโครซอฟท์เรียก Marketplace) เท่านั้น ไม่สามารถก็อปปี้โปรแกรมลงในการ์ดเพื่อติดตั้งได้อีกต่อไป
- ไม่มีมัลติทาสกิง แต่รันโปรแกรมทีละหลายตัวได้ โดยโปรแกรมที่ไม่ได้อยู่บนจอจะถูก "หยุด" การทำงาน
- Marketplace จะมีตัวเลือกให้ทดลองใช้โปรแกรมก่อนซื้อได้
- ไม่รองรับ .NET Compact Framework เอาโปรแกรมเก่ามารันไม่ได้
- ทำงานร่วมกับ Zune อย่างเต็มที่ ยกเลิกโปรแกรม Windows Mobile Device Center สำหรับฝั่งพีซี เปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ของ Zune แทน
- ฮาร์ดแวร์ที่เป็น Windows Phone จะต้องใช้ส่วนติดต่อผู้ใช้ของไมโครซอฟท์เท่านั้น อวสาน Sense UI หรือ SPB Mobile Shell ของซัมซุง?
- สนับสนุน social network และระบบเกมออนไลน์ของ Xbox
จากข่าวลือบอกว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวเครื่องจริงได้ในเดือนกันยายนนี้
ที่มา - PPCGeeks
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
หมดกันเลยอ่ะ ความยืดหยุ่นแบบ wm
ถ้าเป็นจริงนี่ อืมมมม นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของ Matrix ชัดๆ ...
รอดู interface อ่ะแต่ให้เดาพอจะเดาออกว่าคล้ายๆ ZuneHD แต่ผมก็ชอยน่ะ
เล่นเอาความสามารถเก่าออกหลายอย่างเลย
หวังว่าคงจะมีการปรับเปลี่ยนหลังจากที่เปิดตัวในงาน WMC อยู่นะ..
เปิดตัวเดือนกันยานี่เอามาชนกับ iPhone Gen 4 เต็มๆ
เอ่อ แล้วถ้าไม่รองรับ .NET CF แล้วจะใช้ framework ไหนเขียนโปรแกรมล่ะเนี่ย??
ถ้าเกมรู้สึกว่าใช้ XNA
แต่โปรแกรมนี่ เอ่อ นั่นสินะ... (แต่ถ้าช็อคโลกด้วย .NET ตัวเต็มนี่จะชาบูเลย)
เฮ่ย นอกจากฟังดูไม่ wow แล้วยังดูแย่อีกต่างหาก อะไรกันเนี่ย???
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ไม่รองรับ Multitasking - -'
ที่ไม่รองรับคงเป็นเพราะว่า user หลายคนไม่รู้ว่าการกด X/OK เป็นการ minimize โปรแกรม ทำให้เมื่อเปิดโปรแกรมอื่นแล้วมีปัญหา RAM ไม่พอ MS เลยยกเลิกมันซะเลย เหอๆ
สุดท้ายก็เหมือน Palm OS และ iPhone จนได้
อะไรเหมือนกันหรือครับ แต่ Palm OS มัน Multitasking ไม่ใช่หรือครับ
มีคนเชียร์ให้ winmo ใช้ UI ของ Zune ผมก็ว่ามันสวยน่ะ แต่ผมว่ามันไม่เหมาะกับระบบที่มันซับซ้อนเลย พอมีอะไรที่ต้องเพิ่มเติมเข้าไปเยอะๆ นี้ดูรกอย่างเห็นได้ชัด
เยี่ยมครับ ผมเห็นด้วยในทุกความเห็นที่ MS เล็งเห็นจุดที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
- การเปลี่ยนไปใช้ MarketPlace ส่งผลให้สร้างตลาดการขาย App ได้เทียบเท่าเจ้าอื่นๆ อยู่ที่ว่าทำออกมาให้ดีล่ะกัน
- ระบบเดียวกับ Zune เยี่ยมเลยครับ แต่ช่วยพัฒนา SW สำหรับการ Sync ที่มันดีๆหน่อย และไม่เอา WMP (ยกเว้นว่า 13 มันจะเจ๋งกว่านี้)
- โละ Software เก่าทิ้งไปซะ เน่าๆ ซะเยอะ มีเจ๋งๆอยู่แค่ไม่กี่ตัว (จากที่เคยใช้ตอน WM5-6 นะครับ 6.1 6.5 ผมไม่เคยเล่น ขายเครื่องทิ้งไปแล้ว)
- MS UI เองก็ดีครับ Optimize มาให้ดีๆ ล่ะกัน
สุดท้าย รอดูครับ น่าสนใจดีทีเดียว ให้ดีเอา Zune มาวางขายแบบ Worldwide ด้วย เหมือนกับที่ Apple เอา Apod Touch มาขายพร้อม iPhone เผื่อบางคนอยากได้ App และเครื่องฟังเพลงที่ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์ได้แบบผม
ทำงานร่วมกับ zune อย่างเต็มที่....
....zune มันฮิตขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
UI ของ Zune สวยกินขาด เลยครับ
จุดเด่นของ WM หายไปหมดเลยแบบนี้ คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใช้ WM ต่อไปอีกแล้วล่ะไหน ๆ มันก็เปลี่ยนไปมากซะขนาดนี้ เปลี่ยนไปใช้ Android ซะเลยดีกว่า
พวกฝั่งโปรแกรมแพทย์คงบ่นระนาวเพราะว่า
เห็นหมอหลายคนซื้อมาเพราะเป็นสมองที่สอง
ลง ทั้งโปรแกรมยา เอย Five Minute Consult เอย
เปลี่ยนหน้าตาได้ยาก ผมว่าเดี่ยวคงมี hack มาจนได้แหละ
เอ่อ "ไม่มี Flash" กับ "รันแบบ Multitasking ไม่ได้" นี่ผมว่ามันคุ้นๆ อยู่นะครับ
5555555555555555555555เรื่องลงโปรแกรมได้จาก app store อย่างเดียวก็ด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อย่าเอะไปครับ ที่นี่ MS เค้าคุมอยู่
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
หลายคนเข้าข้างเพราะสนับสนุนและส่งเสริม(รวมถึงอยากให้มี)ทิศทางที่ดีของบริษัทนั้นๆครับ
แต่ไม่ได้คิดแบบจะเข้าข้าง เพราะแค่คิดว่าชอบค่ายนั้นเฉยๆ..
ไม่จำเป็นครับ เสียเงินไปให้เขาแล้วจะไปปกป้องเข้าข้างหรืออคติเพื่ออะไรดังนั้น User ที่ดี เล็งเห็นประโยชน์การใช้งานที่ใครก็ตาม สามารถมอบให้กับเรามากที่สุดจะดีกว่าครับ(แต่ถ้าแทงกั๊กก็ต้องมีโวย)
ไม่เกี่ยวว่าจะค่ายไหน นั่นคือประเด็นหลัก..
ดังนั้น มองให้กว้างขึ้นอีกนิดครับ
แค่Fanboyค่ายเดียวก็(เกิน)พอแล้วครับ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
UI ของ Zune ดูเจ๋งจริงๆนะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
อ่านมา เข้าใจว่าล้างไพ่เลยนะเนี่ย
ผมใช้ WM6.1 อยู่ แต่เท่าที่อ่านมา นี่มันไม่เหลือคุณสมบัติของ WM เลยนะครับ
เลยเข้าใจว่า ไมโครซอฟต์จะโละ WM เดิมทิ้งหมด (แอบเห็นด้วย ดูท่าทางจะปั้นไม่ขึ้นแล้ว) แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วย Zune OS แทน เรียกว่า Windows Phone 7 (จุดร่วมกับรุ่นเดิมคือแค่ใช้ WinCE เป็นฐานเหมือนกัน แต่คนละเวอร์ชั่นอีก)
เช่นไม่รองรับ Multitasking, ใช้ ActiveSync ไม่ได้ กับไม่มี Flash นี่มันคือ ZuneOS แหงๆ เพราะอันที่จริงตัว WM6 เองใกล้จะมี Flash แล้ว อีกอย่างตอนนี้ก็มี Flashlight ให้ใช้
คงเหมือนตอนแอปเปิลล้างไพ่จาก OS9 เป็น OSX ล่ะมั้งครับ เปลี่ยนใหม่หมด แต่อันที่จริงแอปเปิลก็ยังทำให้ใช้กับซอฟต์แวร์เดิมได้นะ แต่ถ้า WM7 เอาซอฟท์แวร์เก่ามารันไม่ได้ ดูจะผิดวิสัย microsoft อย่างแรง..อย่างคุณ tomazzu ว่าหมอคงบ่นระงม เพราะหมอนิยมใช้ WM เพราะมีซอฟต์แวร์ทางการแพทย์
เข้าใจว่าที่เลื่อนเอาๆ จนช้าเป็นปีเนี่ย เพราะตอนแรกซุ่มทำ WM7 จริง (อย่างที่เห็นๆ ภาพหลุดกันมาก่อน) แต่พัฒนายังไงมันก็ไม่เวิร์ค ของเดิมห่วยแตก ปล่อยไปก็สู้ชาวบ้านไม่ได้แน่ๆ รอตายอย่างเดียว เลยตัดสินใจ เอาว่ะ เอา ZuneOS มาใช้ซะเลย เพื่ออนาคต
ความเห็นส่วนตัว... มาล้างไพ่อย่างนี้ เครื่องหน้าต้อง Android เท่านั้นครับ หมดเหตุผลใช้ WM แล้ว
ผมเองลังเลอยู่พักใหญ่ เพราะอยากใช้ Skype บน WM ครับ
เห็นแบบนี้แล้วก็คิดได้
lewcpe.com , @wasonliw
+1 คนชอบระบบเปิดก็จะไปใช้ Android ส่วนคนชอบระบบปิดก็จะไปใช้ iPhone แทน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่าน่าจะแค่ข่าวลือนะ เพราะไม่คิดว่า MS จะเดินตามคนอื่นขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่แต่เดิมก็มีจุดขายต่างกัน (และนั่นผมมองเป็นข้อดีนะ) อีกอย่าง ผมไม่ค่อยเชื่อว่า MS จะทิ้ง .NET Compact Framework จริงๆ
กะละว่าต้องมีเรื่อง Zune มาเกี่ยวข้อง อิอิ
คาดว่าเครื่องต่อไปคง Android แน่นอน (ขอ SatNav ดีๆ แผนที่ดีๆ หน่อยละกัน)
We need to learn to forgive but not forget...
แค่นี้คนใช้ก็หายหมดแล้วครับ หวังว่าคงไม่ทำออกมาจริงๆ ไม่งั้นผมล่ะเลิกใช้คนนึงเลย
เหอๆๆ อ่านแล้ว เปลี่ยนใจไปหา Android ได้เลย...
Apple เห็นแล้วคงยิ้มกระโดดมาเล่นตามทาง iPhone ซะงั้น ทั้งที่คนบ่นเรื่อง app store เรื่อง multitasking ฯลฯ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
กี่ % เหรอครับที่บ่นเรื่อง multitasking ผมว่าส่วนมากก็เป็นพวก GEEK อ่ะ
เพราะคนปกติรู้จัก multitasking?
คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักคำว่า multitasking ครับ แต่ถ้าบอกว่าเปิดได้หลายๆโปรแกรมพร้อมกันผมว่าเค้าน่าจะเข้าใจนะ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่าในแง่ของการใช้งานจริง คุณจะเปิดกี่โปรแกรมบนหน้าจอขนาด 3.5 นิ้วเหรอครับ? บางรุ่นจออาจจะเล็กกว่านี้ซะด้วยซ้ำ มันต่างจากบนคอมที่เราอาจจะมีจอภาพ 13+ นิ้วนะสำหรับผม
คือ คนทั่วๆไปไม่สนใจหรอกครับว่าจะเปิดได้กี่โปรแกรมหรือ multitasking แต่เค้าสนใจว่า ชั้นจะ chat ได้ไหม, ออนเอมได้ป่าว, เปิดเว็บได้ไหม, ดูหนัง ฟังเพลงยังไง?, เช็ค ตอบอีเมลล์ยังไง
แบบเดียวกับ flash อ่ะครับ เค้าไม่สนใจหรอกครับว่าใช้ flash ได้หรือเปล่า เค้าสนแค่ว่าชั้นจะดู video บน youtube ยังไง, เล่นเกมยังไง บนโทรศัพท์เครื่องนี้ ตราบใดที่มันยังตอบโจทย์นี้ได้ เค้าไม่สนหรอกครับว่าจะเล่นผ่าน flash หรือ app อะไร
ถ้ามองเป็น ชั้นจะ chat พร้อมกับเปิดเว็บได้ไหมหล่ะครับ มันทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นรึเปล่า? ผมว่าอะไรที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นคนทั่วไปเค้าสนใจกันนะครับ เพราะโปรแกรมหลายๆตัวมัน combo กันได้
flash ก็เหมือนกัน เห็นด้วยครับที่ว่าคนส่วนน้อยมากๆที่จะรู้จัก flash แต่หลายๆคนเล่น facebook สมมติว่าถ้าลูกค้าถามว่าจะเล่นเกมบน facebook ได้ยังไง ถ้าถูกตอบว่าเล่นไม่ได้ ไม่ก็ไม่ต่างอะไรจากคำว่าไม่มี flash หรอกครับ ก็อย่างอย่างที่คุณบอก เค้าไม่สนหรอกว่าจะมี flash หรือไม่มี flash แต่ถ้าจะเปิดสิ่งที่เค้าต้องการเปิด แล้วมันเปิดไม่ได้ ยังไงก็ถูกมองเป็นข้อเสียอยู่ดี
เรื่องนี้นั้น Apple แก้ได้ทั้ง multitask และ flash แค่ใส่มันไปทั้งคู่และ default ให้เป็น disable ไว้ คนที่ไม่รู้และไม่สนใจก็จะใช้แบบเดิมๆต่อไปและได้ค่าพื้นฐานที่หลายๆคนคิดว่าดี ส่วนคนที่รู้สนใจและอยากเปิดก็เปิดได้ โดยอาจจะทำให้เปิดได้ยากหน่อยและอาจจะได้ความหนืดตามมาซึ่งต้องยอมรับมันหากจะใช้ ซึ่งแบบนี้ผมว่ามันแฟร์กับทุกคนและทุกคนยอมรับได้ ไม่ใช่แทงกั๊กแบบที่ Apple ทำมาตลอดทั้งในอดีตและปัจุจบัน โดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ
ผมยังยืนยันแนวคิดเดิมว่า การเลือกใช้สินค้าอะไรและจะเอาสินค้าไปใช้ทำอะไรนั้น ควรขึ้นอยู่กับลูกค้ามิใช่ผู้ผลิต และเพราะลูกค้านั้นแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งคือมองว่าตัวสินค้ามันทำตามความต้องการได้แล้วเช่นคุณ กลุ่มที่สองคือยังทำตามความต้องการไม่ได้ จึงนำมาคิดเป็นข้อเสีย(ที่มีต่อพวกเค้า) เพราะฉะนั้นความคิดของคนสองกลุ่มนี้ต่างกัน จึงอย่าพยายามยัดเยียดความพอใจของคนกลุ่มแรกให้กับกลุ่มที่สองเพราะมันเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากความต้องการของแต่ละคนมันต่างกัน ดังนั้นเมื่อคนที่สองพยายามบอกความไม่พอใจของเค้าก็ควรรับฟังบ้าง มิใช่นำความพอใจที่คุณมีมากระแนะกระแหนคนอื่น และไปดูถูกสินค้าตัวอื่นที่ทำตามความพอใจของคนกลุ่มที่สองได้มากกว่า ไม่อย่างนั้นก็กระแนะกระแหนกันไปเรื่อยๆไม่รู้จบ เหมือนอย่างกระทู้นี้ที่อยู่ดีๆคุณ Zatang ก็มาพูดถึง Apple
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ด้วยความเคารพครับ ไม่ได้ต้องการยัดเยียดอะไรเลยครับ แต่อยากแสดงความเห็นของตัวเองบ้างน่ะครับ ในเรื่อง multitasking ซึ่งผมมองว่า คนส่วนมากที่ไม่ใช่ GEEK ไม่คิดว่าเป็นปัญหาน่ะครับ
ซึ่งมันอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เราก็มาคุยกันแค่นั้น
คนส่วนใหญ่ที่ใช้ iphone ไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนะครับ ดังนั้นผู้ใช้ไม่ทราบหรอกครับ ว่าการมีระบบ multitasking และ flash ทำให้แบตหมดไว โดยเฉพาะ flash ที่กิน process สะเหลือเกิน แล้วตามข้อความข้างต้นนะครับ adobe ยังพัฒนา flash ให้ลงบน iphone ได้(ไม่ได้มาตรฐานของ apple) ดังนั้น apple จึงไม่เอา flash ลงคับ(บวกกับเรื่องแบตด้วย)
ปล. apple สนใจสมรรถนะของสินค้าของเค้าเองครับ ถ้าสิงไหนที่จะทำให้สินค้าเกิดผลเสีย หรือทำให้ผู้ใช้ใช้สิ้นค้าของเค้าได้ไม่เต็มคุณภาพเค้าจะไม่ทำออกมาครับ
ความเห็นส่วนบุคคล แสดงความเห็นตอบกลับได้ แต่อย่าด่าว่ากันนะครับ อิอิ
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
แล้วอย่างการมีโปรแกรมที่ทำงานในลักษณะเดียวกันกับโปรแกรมของแอปเปิลที่มาไอโฟนเอง มันเป็นผลเสียตรงไหนครับ ?
งงครับ = =" อธิบายที(ผมอ่านไม่เข้าใจ หรือว่าเว้นวรรคผิดครับ)
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
ไม่มีอะไรครับ เหมือนจะอ่านข้อความคุณผิดเอง
จากที่บอกไปแหละครับว่าให้มีแต่ disable ไว้และทำให้ปรับยาก จะทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่เข้าไปยุ่ง(เนื่องจากไม่สนใจ)และได้ experience ในแบบที่ Apple ต้องการคือไม่มี flash และ multitasking ที่กินแบตและทำให้อืด แต่หากผู้ใช้บางกลุ่มต้องการที่จะทำ multitasking หรือใช้ flash ก็ให้ไปเปิดกันเอง ผมเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้ยอมรับความช้าลงที่จะตามมาอยู่แล้ว เหมือนกับกรณี jailbreak นั่นแหละครับที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำ และคนทำก็ยอมรับความเสี่ยงอยู่แล้ว
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ความคิด disable นี่เจ๋งมากครับ
เด๋วจะลองส่ง mail หา job ดูครับ
เพื่อศาสดาจะรับฟังคำอ้อนวอนของผู้ใช้บ้าง
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
หัวใจของเรื่องนั้นน่าจะชัดเจน ถ้าลูกค้าเล่น flash game แล้ว เกมส์บน app store จะขายใด้น้อยลงค่าหัวคิวที่ apple จะใด้ก็ลดลง นั้นแหละคือเรื่องสำคัญ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เออะ.... -_--"
.......... (ไม่มีความคิดเห็นใดๆจะตอบกลับ)
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
+1
ผมก็เห็นตามนั้น ที่ไม่มีแฟลชไม่มีจาวา เพราะแอปเปิลกลัวขายของไมไ่ด้ มากกว่ามันจะมากระทบอะไรอย่างที่ว่า
+1
คิดเหมือนกันครับ เหตุผลของแอปเปิลสั้นๆ คงมีแค่นี้
เอาง่ายๆ ตอนขายไอโฟนแรกๆ แอปเปิลขอส่วนแบ่งจากโอเปอเรเตอร์มากแค่ไหน
บริษัทนี้คงจะกระหายเงินมากมาย จะเอาทุกช่องทางที่ทำได้ล่ะครับ <-- ไม่ได้ผิดจ้า เค้าเป็นบริษัท ก็ต้องกระหายเงินเนอะ อันนี้ยอมรับว่าเก่งจริงที่ทำให้คนยอมจ่ายได้
ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าทำให้ไม่พอใจ
กระทู้อื่นไม่ว่าจะพูดถึง product ไหน ก็ย่อมมีการเปรียบเทียบกับ product อื่นอยู่แล้วหนิครับ หรือต่อไปในกระทู้ MS ห้ามพููดเรื่อง apple ด้วยครับ
แล้วที่ผมพยายามจะพูด ผมไม่ได้ว่า MS นะครับ ผมอยากจะบอกแค่ว่าการที่ apple ตัดสินใจเกี่ยวกับฟังก์ชั่นบางอย่าง เกิดจากความเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช่เรื่องผิด เช่นเดียวกับ MS ที่ไม่ว่าเค้าจะใส่ multitask หรือไม่ใส่ก็ตามก็ไม่ผิด ถ้าเค้าทำแล้วมีคนซื้อนั่นก็คือเครื่องพิสูจน์ชั้นดีแล้วครับ และตอนนี้ผมก็ใช้ Android อยู่
และที่ผมอยากจะบอกอีกอย่างก็คือ บางทีลูกค้าไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรครับ การที่ให้สิทธิทำอะไรได้ทุกอย่างกลับกลายเป็นความยากลำบากสำหรับลูกค้า (แม้ค่าเริ่มต้นจะเป็น disable ถ้ามีเค้าก็ต้องเปิด คนอื่นก็ต้องบอกให้เค้าเปิด ในเน็ตก็จะบอกว่าต้องเปิด สุดท้ายคนที่ไม่ค่อยรู้อะไรก็ต้องเปิดโดยไม่รู้ว่ามีผลอะไรบ้าง) บางคนสนุกที่ลง app ลง widget ตั้งค่านู่นค่านี้ ปรับแต่งนู่นนี้้ แต่แบบ apple นั้นเค้าทำมาแบบที่เค้าคิดว่าลูกค้าควรจะได้แบบนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างกันเท่านั้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1 ครับ
"บางทีลูกค้าไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรครับ การที่ให้สิทธิทำอะไรได้ทุกอย่างกลับกลายเป็นความยากลำบากสำหรับลูกค้า"
สั้นๆก็คือ Simply the best.... ในความเห็นของผมนะ
คำถามกลับ ใครเป็นคนตัดสินว่าลูกค้าควรจะใช้อะไรไม่ใช้อะไร และสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดีครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผู้ผลิตเป็นคนตัดสินใจผลิต ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อ ยอดขายคือผลว่าผู้ผลิตตัดสินใจถูกหรือไม่ ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรดีที่สุดครับ เป็นแค่คนละแนวทาง ทำไมต้องมีอะไรดี อะไรไม่ดี ถ้าแนวทางนั้นดีจริงๆ ทุกยี่ห้อก็คงออกมาเหมือนกันหมด
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
งั้นก็แปลว่าถ้าลูกค้าเอาการที่ไม่มี flash และ multitask มาเป็นข้อเสียและไม่เลือกซื้อ iPhone ก็เป็นเรื่องปกติใช่ไหมหล่ะครับ ดังนั้นเวลาคนบอกว่าที่จะไม่ซื้อ iPhone/iPad เพราะว่ามันไม่มี flash+multitask ทำไมคุณจึงต้องไปกระแนะกระแหน?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขอแสดงความเห็นนะครับ "ชั้นจะ chat พร้อมกับเปิดเว็บได้ไหมหล่ะครับ"
ปัจจุบันผมแค่เปิดเว็บที่ table หนักๆอย่างเดียวยังจะค้างเลยอ่ะครับ - -'' chat ไปด้วยนี่ไม่ต้องพูดถึง
นึกภาพ chat BB ไปเปิดเว็บไป - -' มันแทบไม่มีที่สำหรับแสดงผลอะไรเลยอ่ะครับ
ทุกวันนี้ผมอ่านเมล, Twitter, เว็บ (หลายแท็บ), IM บน Android ทุกวันได้ดีไม่มีปัญหาครับ นี่ขนาด HTC Magic ซีพียูสุดช้านะ
ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่ากี่ % เพราะ iPhone โดนกัดตลอดเวลา ทั้งที่ผมเองก็เห็นว่าเค้ามีเหตุผลที่ไม่เปิด multitasking และเวลามีเปรียบเทียบอะไรเช่น N1 หรือตัวอื่น กับ iPhone ก็มีประเด็นนี้ตลอด และโดนด่าตามน้ำกันตรึม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าเรื่องไม่มี multi-tasking มันเป็น engineering decision นะครับ เค้าคิดมาดีแล้ว และเลือกทางนี้
แต่ตลาดจะตอบรับแค่ไหน อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคจะเลือกนี่ครับ ถ้ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกจริงๆ คู่แข่งก็แพ้ไปเองนั่นแหละ
ผมก็คิดแบบนี้แหละครับ ถ้าไม่ชอบ และเค้าไม่ทำ ก็เลือกตัวอื่นที่คิดว่าดี ถ้ามันไม่ดีจริงๆ apple ก็มี 2 ทางคือ เปลี่ยน กับ เจ๊ง ทำไมแค่ว่าแนวทางของผู้ผลิตไม่เหมือนลูกค้าบางกลุ่มจะต้องเป็นประเด็นขนาดนี้ก็ไม่รู้ ไม่ใช่สินค้าผูกขาดนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
MS มีประวัต backward compatible ที่ดีมาโดยตลอด ไม่เชื่อว่าจะไม่รองรับโปรแกรมเก่า
ส่วนเรื่องที่ user ยี้กันบน iPhone เช่นไม่มี Multitasking ก็เป็นไปใด้ยากเพราะมันมีอยู่ใน windows ce ... (แต่เป็นไปใด้ว่าจะมีการเปลี่ยน priority ตามโปรแกรมที่อยู่ข้างบน)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
นี่มันข่าวลือ แค่ข่าวลือ โอ้ววว Y-Y
iPAtS
ขอให้เป็นแค่ข่าวลือ
หลายๆอย่างทำให้ความยืดหยุ่นแบบ WM หมดไปครับ อย่างน้อยก็เรื่องการติดตั้งโปรแกรม รับไม่ได้อย่างแรงที่ต้องติดตั้งผ่าน Marketplace เท่านั้น (แล้วก็แก้ Maketplace ตอนนี้ให้มันติดตั้งลง Storage Card ได้สักทีเหอะ Main Memory จะเต็มแล้ว)
การไม่มี Multitasking แต่โปรแกรมที่ไมไ่ด้ใช้จะถูกหยุดเอาไว้ นี่ผมไม่ค่อยเข้าใจ หมายถึงโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้จะพักการทำงานไว้เฉยๆ ไม่ได้ปิด ?
การไม่มี multitasking ผมเลยสงสัยต่อว่า Direct Push จะทำงาไนด้อยู่หรือเปล่า เพราะปกติ Direct Push จะเปิด ActiveSync ไว้เบื้องหลังเพื่อคอยทำ long-polling อยู่เรื่อยๆ
ไม่รองรับ .NET CF ? ถ้าไปรองรับ .NET ตัวเต็มแทนจะเจ๋งมาก แต่ถ้าไม่รองรับ ใNET เลย ความเป็น Windows หายไป 50%
การยกเลิกการซิงค์ผ่าน WMDC นี่ผมไม่รู้ว่าจะเป็นการยกเลิกการใช้โพรโตคอล ActiveSync ไปเลยหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คงจะต้องมีวิธีอื่นสำหรับซิงค์กับ Exchange Server แทน เพราะถ้าทำไมไ่ด้ ขายไม่ออกชัวร์
ส่วนสำคัญ ทำ Custom UI ไม่ได้ ทั้งที่มันเป้นจุดเด่นจุดหนึ่งของ WM เลย แย่นะที่ทำแบบนี้่ (ถึงส่วนตัวไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ เพราะใช้ UI ของ WM เป็นหลักอยู่แล้ว)
สรุปแล้วมันจะเกิดใหม่ หรือตอกฝาโลง ต้องดูกันต่อกัน
ตรงที่มาแทน Multitasking ผมเข้าใจว่าเหมือนกับ Android นะคือเปิดไปเปิดมาได้ โปรแกรมที่ยังไม่ปิดก็ถูก Pause / Stop แต่ไม่ได้โดน Terminate (เปิดกลับมายังจำ State ล่าสุด)
ตัว Android ถ้าเปิดโปรแกรมหลายตัว พวกที่ไม่ได้ดึงมาใช้นานๆ ตัว kernel จะปิดให้ครับ (คล้ายๆ Garbage Collector)
เหมือนกับ Native app ของ iPhone OS ด้วยครับ (Mail, Safari อะไรเทือกนั้น)
พอดีผมใช้ iPod Touch อยู่ ขอเล่าการให้งานเล็กๆน้อยๆให้อย่างเช่น
เปิด iPod ฟังเพลงผมเปิด Mail จะส่งอีเมลหาเพื่อน
กำลังนั่งพิมพ์ๆ และอยากจะส่ง URL หาเพื่อน
กดปุ่ม Home (ออก) ดื้อๆเลย (ไม่ save draft)
เปิด Safari หา link ใน Google
พอได้มา ก็ Copy URL นั้นๆ
กดปุ่ม Home (ออก) เข้า Mail อีกรอบ มันก็จะยังอยู่หน้า compose ที่ผมกำลังเขียนอยู่เหมือนเดิม (เพลงก็ยังฟังได้ตลอดเวลา<< มีคนบอกว่า iPhone OS ไม่ multitasking ฟังเพลงพร้อมกันไม่ได้ แสดงว่าไม่เคยใช้จริง =_=")
สรุปว่า ไม่ว่าจะเป็น Contacts, Maps, Calendar, Note ถ้าผมกด Home ออกไป มันจะหยุด และถ้าเข้าไปเหมือนเดิม มันก็ยังอยู่แบบนั้น ทำงานต่อจากเดิมได้ ซึ่งผมคิดว่า มันก็ไม่ได้ต่างจากน้องด๋อยเลย และผมก็คิดว่า แค่นี้มันก็สะดวกพอๆ กับการมี multitasking แล้วล่ะ (ยกเว้น Third party app ที่ไม่ยอมจำ state เดิม)
ส่วน Safari มันสามารถเปิดหลายๆ page เพื่อโหลดหน้าเวบพร้อมกันได้นะครับ (ถ้าแรมพอ)
ผมว่าต่างกันตรงที่มันต้องปิด-ต้องเปิดนี่แหละ app เล่นเกมส์บางเกมส์อยู่ต้องกลับมาเล่นใหม่ต่างกันตรงที่ app ที่อยู่ด้านหลังก็หยุดการทำงานไว้ก่อนเรียกขึ้นมาก็สามารถเรียกใช้ได้ต่อเนื่องทันทีไม่ต้องรอครับ
แสดงว่า app นั้นทำมาไม่ดีครับ ปกติต้องมีการสำรอง data ไว้ว่าทำอะไรอยู่ใช้ iphone ทุกวันนี้ ออกเกมกลับมาเล่นต่อได้ตลอดครับ
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
ของ Nexus one (ไม่แน่ใจ) ผมว่าขั้นตอนการเปลี่ยน app (เปลี่ยน tasking) มันก็ไม่ได้ต่างจาก iPhone OS มากนะครับ (คือต้องออกก่อน ก่อนที่จะไปใช้ app ตัวใหม่)
อันนี้เดาๆ นะครับ
เหมือนจะไม่แคร์สาวก WM เก่าเลยแฮะ
ดูท่าจะเป็นอย่างนั้น
เหมือนที่มีความเห็นข้่างบนบอกว่า "ล้างไพ่"
ผมขอใช้คำว่า "ตายแล้วเกิดใหม่"
ไปเกิดเป็น species เดียวกับ iPhone, Android เพื่อสู้กันอย่างสูสีหน่อย
(ของเก่ามันโดนเขาทิ้งห่างกันจนหาทางตามทันไม่เจอ)
ส่วนตัวนะ ผมคิดว่า Windows Mobile เนี่ย เก็บไว้ เอาไปแข่งในตลาด Business Phone ไปเลย (ตลาดเดิมของ BB) ส่วนตลาด Smartphone ที่อวตารมาอยู่ใน Fashion phone นี่เอา Zune OS ไปแข่ง
อวตารจริงๆด้วย 55
ผมก็ได้ข่าวมาว่าอย่างนั้นนะครับ
ว่า Windows Phone 7 นี่จะออกมาสอง vertion
แต่ข่าวนี้ ดูจะนำเสนอเฉพาะฝั่งที่ เป็น ฝั่งของ media แต่ฝั่งของ business นี่ก็คงเป็นการนำเอา Windows mobile แบบเดิมๆ มาต่อยอดหละครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
น่าจะเป็นข่าวลือเพื่อเป็นการโยนหินถามทางล่ะมั้ง
หวังว่านะ
onedd.net
ข่าวต่อไป...
Apple ฟ้อง Microsoft ลอกการไม่มี flash และ การลงโปรแกรมผ่าน App Store และการไม่มี Multitask
ข่าวต่อจากข่าวต่อไป ...
Microsoft โต้
ไม่ได้ลอกแต่ยอมลด feature บางอย่างให้ Apple
เพื่อการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
+555
ไม่น่าเป็นไปได้นะครับ ดูจาก spec ที่เรียกร้อง CPU สูงมากขนาดที่เอาไป run งานเดียวแล้วเสียดายแทน อีกอย่างใน Windows CE ที่เป็นแกนมันรองรับอยู่ไม่น่าจะเอาออกได้นะครับ (ถ้าปิดไว้เฉยๆ ก็คงมีคนใจดีเปิดให้แน่ๆ)
นี่ก็ไม่น่าเป็นไปได้นะครับ ถึงมันจะเปลี่ยน Core Windows CE5 ไปเป็น CE6 ก็ตาม โปรแกรมจำนวนหนึ่งน่าจะยังรองรับการทำงานได้อยู่ไม่ใช่ไม่ได้หมดเลย แต่ไม่แน่อาจจะมีเซอร์ไพรซ์ตามที่คุณ MrWhisper เสนอคือรองรับ .NET ตัวเต็มแทนซึ่งผมก็จะชาบูตามไปเช่นกัน
ผมได้ข่าวว่า WM7 เป็น CE7 เลยครับ
ไม่มี Flash
ไม่ Multitasking
ไม่ยักด่า
อ่านมา ผมว่ามีแต่คนด่าทั้งนั้นเลยนะ
+1
+1
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
MS เอาอีกแล้ว
เมื่อจะเลิกก๊อปชาวบ้าน
copy เรื่องไม่มี multitask / ลงโปรแกรมผ่านmarketplace เนี่ยนะครับ เหอๆ
ถ้างั้นจะให้ iPhone ลอกเรื่อง Copy & Paste มาจาก WM ดีมั๊ยนี่ ?
มัน copy ยังไงอ่ะครับ?
ถ้าข่าวลือเป็นจริงคงพูดได้คำเดียวว่า "บัลเมอร์อย่าหวังว่าจะได้เงินจากข้า"
ถ้าอย่างงั้น เวลาเราเปิดเพลงฟัง แล้วเรียกโปรแกรมอื่นขึ้นมาใช้งานอีกที เพลงมันจะยังเล่นมั้ยอ่า
น่าจะเหมือน iPhone คือโปรแกรมหลักของเครื่องหรือที่เกี่ยวกับระบบ run ใน background ได้ครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สำหรับ Third party app ถ้าเขียนดีๆ ก็เล่นเพลงไอพอดใน background ได้เหมือนกัน อย่าง Need for Speed ซื้อมา เปิดเพลง rock ไปด้วย drift ไปด้วย มันมากครับ :D
ปล. แต่ก็ไม่ใช่ทุก app ที่จะยอมทำอย่างนั้น
ตรงจุดนี้อยากให้ Apple ทำ SDK ที่มี API ควบคุมตรงนี้มาให้เลย(หรือมีอยู่แล้วหว่า) น่าจะชดเชย multitask ไปได้มาก รวมทั้งเป็นประโยชน์กับทั้งตัว Apple เอง Dev และผู้บริโภคด้วย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)