หลังจาก โซนี่ปล่อยอัพเดทเฟิร์มแวร์ล่าสุดของเพลย์สเตชั่น โดยปิดคุณสมบัติรองรับการลงระบบปฏิบัติการอื่นไป ล่าสุดโซนี่ก็ถูกฟ้องแล้ว เนื่องด้วยทำผิดข้อตกลงที่ให้ไว้กับผู้ที่ซื้อเพลย์สเตชั่นและยังโฆษณาว่าผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นได้หากปิดออปชั่นในเฟิร์มแวร์ใหม่ทิ้ง
เป็นที่เข้าใจกันว่าคุณสมบัติดังกล่าวสร้างข้อกังวลด้านความปลอดภัย แต่โจทก์ฟ้องร้องกล่าวว่าแท้ที่จริงแล้วโซนี่ต้องการลดการละเมิดลิขสิทธิ์มากกว่า เนื่องจากหากปล่อยให้สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการอย่างลีนุกซ์ได้แล้ว จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงระบบไฟล์ของเพลย์สเตชั่นและหลีกเลี่ยงระบบป้องกันการคัดลอกได้
คดีความนี้มีผลกับผู้ที่ซื้อเพลย์สเตชั่น 3 ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2549 จนถึงวันที่โซนี่ปล่อยเฟิร์มแวร์ดังกล่าวคือวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ยังไม่มีการระบุมูลค่าความเสียหายแต่คาดกันว่าน่าจะสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 160 ล้านบาท
ที่มา: Electronista
Comments
เอาเข้าให้แล้ว
เห้อ เดี๋ยวนี้เนอะ ทำเครื่องออกมาที เหมือนทำให้ชาวบ้านใช้
ไม่ดีหรอคับ?
ถ้าไม่ทำเครื่องให้ใช้ แล้วให้เอาไปตั้งโชว์หรอครับ ???
ไม่ผลิต PS ให้ชาวบ้านเขาใช้แล้วจะผลิตให้ใครละครับ (= ="
ปล.ความจริงไม่ UP ก็ได้ แต่ก็จะไม่สามารถเข้าถึง Playstation Network และเล่นเกมส์ใหม่ๆได้อีก..
งงความเห็นนี้
ก็ตอนเอามาขาย บอกว่าทำได้ๆๆๆ พอซื้อไปแล้วปิดไม่ให้เค้าใช้ แล้วมันไม่ผิดยังไงครับ?
จริงๆ แล้วมันมีหลายๆ องค์กรที่ต้องการซื้อเพื่อไปใช้ลินุกซ์ครับ เพื่อไปต่อกันเป็นกริดเพื่อใช้ในงานวิจัย เพราะว่า Spec ของเครื่อง PS3 มันเป็น Super Computer ในราคาถูกได้การที่ Sony ปิดความสามารถนี้ไป ก็เหมือนกับไปกระทบงานที่เขาทำๆ กันอยู่โดยตรงเลยแหละครับ
ถ้าไม่อัพ FW เพื่อเล่นเกม คงไม่กระทบมาก เพราะSonyเค้าไม่ได้บังคับต้องอัพFWPS3 ยังมีรุ่นเฉพาะสำหรับนักพัฒนา อีกด้วย
คนที่ซื้อไปทำ super computer ควรยอมเสียเงินเพิ่มนะ เพราะใช้ผิดวัตถุประสงค์ของโซนี่ไป
เนื่องจากโซนี่เองก็ยอมขายเครื่องในราคาเท่าทุน เพราะต้องการจะขายเกม
แต่โซนี่เองก็ผิดที่โฆษณาว่าลง OS อื่นได้
a link
ราคาขาดทุนครับ มิใช่เท่าทุน อิอิ
มีบางมหาลัยในอเมริกา(ผมจำไม่ได้แล้ว) โซนี่บริจาคเครื่อง PS3 ให้เลยครับ ตั้งใจให้ไปทำ cluster เลยโดยตรง
+1
ถ้าไม่โฆษณาคุณสมบัติข้อนี้เอาไว้ ก็คงไม่มีปัญหา พอโฆษณาแล้วไปปิดความสามารถนี้ซะ มันก็ทำไม่ได้ เลยกลายเป็นการโฆษณาข้อความที่เกินจริงน่ะสิ .. แต่เรื่องพื้นฐานแบบนี้ บริษัทฯ ก็น่าจะมีฝ่ายกฏหมายให้ข้อมูลก่อนตัดสินใจทำอยู่แล้วนะ .. งงเหมือนกัน
my blog
จะว่าไปโซนี่ก็ผิดจริงๆ ครับ ที่ไปเบี้ยวสัญญาลูกค้าเค้าว่าแต่โจกท์ที่ยื่นฟ้องนี่ใครครับ
ในนามของกลุ่มที่ชื่อว่า "ผู้เสียหายทั่วโลกที่ซื้อ PS3 ตั้งแต่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2006 จนถึง 27 มีนาคม ค.ศ. 2010 และยังไม่ได้ขายต่อในช่วงเวลานั้น" ครับ
บางทีมันอาจจะคุ้มกว่า เพราะ PS3 นั้น ขายขาดทุน การเสียเงินตรงนี้ อาจจะคุ้มกว่า ครับ
ปัญหามันเกิดจากการขายขาดทุนของโซนี่อะแหละ ทำให้ไม่คุ้มถ้ามีคนซื้อไปทำงานอื่นที่ไม่ใช่เล่นเกมส์ของเขา
จริงๆมันผิดที่สัญญา คือถ้าเครื่องรุ่นใหม่ๆเปลี่ยนสัญญาซะก่อน แล้วให้ลง os อื่นไม่ได้เฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ ก็คงปัญหาน้อยกว่านี้
เพราะgeohotคนเดียวเลย
ความผิดมันคนเดียวเลย
บวกหนึ่ง :D
ฮาครับ -*-
แต่ถ้า Sony ไม่ยอมขายขาดทุน ทั้ง ๆ ที่คนอื่นทำ ก็สู้เขาไม่ได้ เพราะเครื่องตัวเองมันแพงกว่า . . .
หลายคนที่ซื้อไปเพราะต้องการลง os อื่นโดนฟ้องก็สมควรแล้วครับ
เจอรูโหว่ความปลอดภัยดันแก้ไขโดยการตัดฟีเจอร์ทิ้ง ผมว่าโซนี่มักง่ายไปหน่อยครับ
ยังอยากให้ PS3 รัน Linux ได้ ถึงจะรู้ว่า Slim ของเราไม่มีสิทธิก็ตาม