ไมโครซอฟท์ประกาศปรับปรุงลอจิกของ Windows Update ด้วยการนำ Machine Learning มาคาดเดาเวลาที่เหมาะสมในการรีสตาร์ทได้อย่างแม่นยำใน Windows 10 Insider Preview Build 17723
โมเดลนี้จะตรวจสอบว่าเรากำลังใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ หรือเพิ่งลุกจากหน้าจอไปทำธุระอื่น ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องหยุดทำงานรอ Windows อัปเดตและรีสตาร์ทหลังกลับมาจากห้องน้ำ หรือไปหยิบถ้วยกาแฟแค่ 5 นาที นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งปัญหาผ่าน Feedback Hub ถ้าพบการรีสตาร์ทผิดเวลาเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับโมเดล
ไมโครซอฟท์ได้รับฟังเสียงผู้ใช้และปรับปรุงประสบการณ์การอัปเดตมาโดยตลอด เช่น
- เลือกช่วงเวลาไม่ให้อัปเดตในชั่วโมงทำงาน (สูงสุด 18 ชม.) ด้วย Active Hours
- แจ้งเตือนให้เลือกเวลารีสตาร์ท เลื่อนอัปเดตได้สูงสุด 3 วัน
- หยุดอัปเดตชั่วคราวได้สูงสุด 35 วันสำหรับ Windows 10 Pro
- นำ AI มาช่วยเลือกอัปเกรด วิเคราะห์ไม่อัปเกรดบนเครื่องที่เสี่ยงเกิดปัญหา
- ควบคุมการอัปเดตสำหรับองค์กรด้วย Windows Update for Business
- รวมถึง การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ไม่ให้พนักงานยึดติดความสำเร็จในอดีตแบบเดิมๆ ด้วยการแปะเสียงบ่นลูกค้าบนแก้วกาแฟกระดาษ
ทั้งนี้ การอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นรุ่นล่าสุดถือเป็นเรื่องสำคัญ (อ่านเพิ่มเติม เจาะลึก Windows Update ยอมเสียเวลากดอัพเดตสักนิด เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยกว่าเดิม )
ส่วนการเปลี่ยนแปลงใหม่อื่นๆ ใน Windows 10 ได้แก่
- Mixed Reality Flashlightสำหรับส่องดูสภาพแวดล้อมในโลกจริงโดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์ได้จาก Start menu หรือคำสั่งเสียง
- ปรับปรุงและเพิ่มอีโมจิใหม่ รองรับ Unicode 11
- การตั้งค่า Microsoft Edge Group Policies ใหม่
- เพิ่มความแม่นยำของระบบเวลา รองรับอธิกวินาที (Leap Second) และ Precision Time Protocol
- ถอด XSS Filter มาใช้ Content Security Policy ที่เข้ากันได้กับเบราว์เซอร์ยุคใหม่ เพื่อป้องกันการโจมตี
- ปรับปรุงการใช้งานพีซีเป็นตู้ kiosk หรือป้ายหน้าจอตามสถานที่ต่างๆ เช่น ตั้งค่าให้ Microsoft Edge เปิดเว็บแบบ InPrivate เต็มหน้าจอ พร้อมจำกัดฟีเจอร์ไม่ให้ปิดโปรแกรม โดยยังสามารถลบประวัติการท่องเว็บได้ด้วยปุ่ม End session
- เปิด Game bar ได้จาก Start menu หรือคีย์ลัด Win + G
ที่มา - Windows Blog
Comments
พาดหัวอ่านแล้วงง ๆ ครับ อาจจะลองเป็น ใช้ ML หาเวลาอัปเดตที่ไม่กวนการทำงาน, หาเวลาอัปเดตที่เหมาะสม ฯลฯ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำฮะ แก้ไขแล้วครับผม
ควาแม่นยำ => ความแม่นยำ
เห็นหลายคนบอกว่า Microsoft มี AI ในการเลือกอัพเดตในช่วงเวลาที่สำคัญอยู่แล้วนะครับแค่ตั้งค่าสลับกันก็ได้แล้วมั้งครับ ^^"
แต่จริงๆ ก็คือส่วนใหญ่ไม่ยอมกดตรวจสอบอัพเดตบ่อยๆ เป็นประจำทุกวันกับเลือกใช้ SSD เพื่อเพิ่มความเร็วในการอัพเดต จะได้ไม่มีปัญหา
ผมไม่เคยกดตรวจสอบอัปเดตเองครับ ปล่อยอัตโนมัติหมด
ผมว่าระบบอัพเดทควรมีการชี้แจงการทำงานบ้าง ไม่ใช่จู่ๆจะปิดเครื่องถึงรู้ว่ามีอัพเดท
อาทิขึ้นแจ้งเตือนว่า มีอัพเดทความปลอดภัยเข้ามา ผู้ใช้ควรรีบอัพเดท(ข้อความโน้มน้าว)
ปกติก็ มีแจ้ง อยู่นะค้าบ
ไม่ใช่แจ้งแบบนี้ แจ้งใน notifications ซิ
เป็นการแจ้งก่อนที่จะเริ่มทำการโหลดไฟล์ หรือแจ้งว่ามีอัพเดทใหม่มา สเหมือนเป็น news ฉบับหนึ่ง
ผมว่าแจ้งแบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะครับ ขึ้นมาให้เห็นเลยว่าจะอัปเดทหรือไม่หรือพักไปตอนไหน ผมเห็นบางคน notification ขึ้นมาเป็นสิบก็ยังไม่อ่าน
เอาแค่ไม่บังคับรีสตาร์ทก็พอแล้ว
+1 แค่ตั้งค่าสลับกันก็ได้แล้วมั้งครับ ^^"
ตรรกกะง่ายๆ แค่ให้ผู้ใช้คุมการรีสตาร์ทได้ 100% เหมือนสมัย windows 7 ก็พอ อย่าสู่รู้ อย่าอวดดี อย่ามาทำเป็นฉลาดทั้งที่จริงๆไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
เคยรันงานทิ้งไว้โดยไม่อยู่บ้าน 5 วันกลับมาคาดหวังว่ามันจะเสร็จ ปรากฏกลับมาแม่มรีเครื่องไปตั้งแต่วันที่สองไปเรียบร้อย
ทุกวันนี้หนีกลับมาใช้ windows 7 สบายใจมาก ไว้มันหมดอายุจริงๆแล้วค่อยพิจารณา os ตัวอื่นที่สามารถคุมการอัปเดตได้ดีกว่า microsoft ละกัน
ผมก็โดนตอนบอทโปเกมอนโก
คุมไม่ได้ยังไงหรือครับ
สามารถแสดงแจ้งเตือนและเลือกเวลารีเครื่องเองได้ เลื่อนได้ 3 วัน
ถ้าไม่อยู่บ้านหลายวัน ปุ่ม Pause Update ก็มีให้ใช้นี่ครับ (คงไม่ได้กะจะเปิดทิ้งไว้เกิน 35 วันใช่ไหม)
ย่อหน้าแรกนี่แรงไปหน่อยมั้งครับ
Pause update มันซ่อนไว้ใน advance option ด้วยซ้ำนะครับเอาจริงๆ best practice คือ ให้ผู้ใช้ยืนยันการ restart ด้วยตนเองทุกครั้งนะครับ os อื่นๆก็ทำแบบนี้ ไม่ใช่ ไม่ยืนยันใน 10 วินาทีคือ restart
ไม่ต้องไปถึงขั้น machine learning หรอก
ลองนึกภาพ คนแปลง video หรือรัน ML หรือ render งานทิ้งเอาไว้ ไม่ต้อง 2 วันหรอก บางทีแค่ 5-6 ชั่วโมง แต่ทำทุกๆ วัน หรือ ทุก 2-3 วัน แล้วต้องมานั่งเข้า advance option คอย pause update ทุกครั้ง มันไม่โอเคนะครับ
เหมือนใช้ชีวิตในความระแวงตลอด
ครั้งไหนลืมปิด แล้วแจ๊คพอตโดน update พอดีก็ซวยไป
+1 ตามนั้นครับ แค่มีขึ้นยืนยันให้กดก็ไม่มีปัญหาแล้ว หรืออย่างน้อยที่สุดขอแค่มี option ให้เราตั้งได้ว่าสำหรับเครื่องนี้ต้องให้ "กด" ยืนยันทุกครั้งก่อน restart แค่นี้ก็จบแล้วครับ
ไอการ pause update นี่เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุครับ แก้ที่ต้นเหตุอย่างที่บอกข้างบนง่ายนิดเดียว แต่ไม่ยอมทำคงเพราะกลัวเสียหน้ามั้งอุตส่าห์ดันมาขนาดนี้แล้ว
ผมคิดว่าแค่ปุ่มง่ายๆแค่นั้นผมก็ทำให้ได้ครับ แต่เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ไม่ยอมให้เลี่ยงการรีสตาร์ทเป็นเหตุผลเดียวกับการที่คนปิดไม่ยอมอัพเดท แล้วมันเคยเกิดปัญหาตอนอยู่ Windows XP เขาก็เลยทำทุกวิถีทางให้ทุกคนได้อัพเดทและคงได้วิธีแก้ให้ทุกความต้องการเป็นไปได้มากที่สุด
ปิดอัปเดตถาวร กับการไม่รีสตาร์ท มันเหมือนกันยังไงครับ?
แล้วการออกปุ่ม pause update มานี่มันเลวร้ายกว่าเดิมอีกนะครับ แทนที่จะทยอยอัพบางอย่างที่มันไม่ต้อง restart ได้ กลายเป็นต้องหยุดทุกอย่างเพื่อรอทำทุกอย่างในคราวเดียวกัน
+1 แค่ไม่รีสตาร์ทเองก็จบแล้ว จะขึ้นมาเตือนถี่ ๆ ก็ได้ แล้วสั่ง mute ได้กี่ชั่วโมงก็ว่าไปแต่ถ้าไม่กดก็ไม่ต้องรี ขึ้นค้างไว้งั้น
เล่น dota2 อยู่มันอัพเดตเองฝรั่งบ่นโครตฮา มันเล่นไม่ได้เลย
ผมไม่เคยเจอปัญหาเรื่องการอัพเดตแฮะ อาจจะเพราะระยะหลังไม่ค่อยได้รันงานค้างไว้สักเท่าไหร่แล้ว
เบื่อที่จะตบตีกับ Windows Update แล้ว หลังๆ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ มีตังค์หาอีกเครื่องสำรอง หรือซื้อเครื่อง Mac ใหม่แล้ว เครื่อง Mac เก่าพึ่งพังไป ใช้อยู่เครื่องเดียว เลยหลอนๆ ถึงมันจะดีกว่าแต่ก่อนก็เหอะ
เรื่องง่ายๆ ที่ไม่ควรจะมาเป็นปัญหา เรนเดอร์งานอยู่ จะมารีเครื่องเองตอนไม่อยู่ไม่ได้ น้ำตาจะไหล บางทีเปิดอัพเดททิ้งไว้ก็ลืมปิด
ทำ Automated Query ทิ้งไว้แล้วขับรถออกไปซื้อของครึ่งชั่วโมง กลับมาอีกที... หน้าจอโล่งมากเลยจ้า
ยกนิ้วให้ MS เลย
ใครที่ยังตบตีกับ Windows เรื่อง forced restart ใช้วิธีนี้ครับตั้งแต่ใช้มายังไม่เคยโดนอีกเลย
ป.ล.ฟีเจอร์ pause restart มันไม่มีใน Windows 10 Home ตามในบทความเลย ใครที่บอกว่าทำง่าย ๆ
https://www.windowscentral.com/how-prevent-windows-10-rebooting-after-installing-updates
นิ้วโป้ง
The Last Wizard Of Century.
ที่ผมเจอๆคนบ่นมา กับที่ออฟฟิต สังเกตมา การที่จะ [หาเวลาอัปเดตที่ไม่กวนการทำงาน] เป็นไปไม่ได้เพราะต้องรีสตาทระบบอีกรอบต่างหาก ตอนทำงานไม่มีใครอยากมารอ อัพเดดหรอก ส่วนก่อนกลับ ก็ shutdown แล้วกลับเลย ถ้ามีการตัดไฟกระทันหันตอนมันอัพเดดก็บันเทิง
เอาจริงๆที่ผมสังเกตนะคือคนไม่อยากอัพเดดเลยต่างหาก จะใช้ก็อยากใช้ให้เต็มเวลาไม่ใช่มารออัพเดดหน่ะ เวลาไม่ใช้ก็ปิดเครื่องเลย แบบนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปอัพเดด
ไม่ใช่ว่ามันโหลดที่อัพเดทรันเป็นแบลกกราวอยู่หรือครับ เราจะรู้ก็เมื่อมัน restart
โหลดนะคนใช้ไม่สะเทือนที่ที่สะเทือนคือรีสตาท์หน่ะครับ เลยทำใไ้คนไม่อยากจะอัพเดดไปด้วยเลย
ต้องให้ITแต่ละองค์กรกำหนดเวลาอัพเดทอีกทีว่า เวลาใดให้อัพเดท เพื่อไม่กระทบงานองค์กร..นี่คือ ดีที่สุด
อันนั้นทำได้มานานแล้วนี่ครับ?
ต้องทำให้สามารถอัพเดทได้โดยไม่ต้อง Restart อีกเลยจะดีกว่ามาก ให้ผู้ใช้ทำการ Restart ตามปกติ โดยทำการอัพเดทในพื้นหลัง ระบบ OS อื่นที่ผมใช้มา ไม่มีการบังคับให้ Restart เหมือน Windows 10 โดยเฉพาะอัพเดท ยิ่งเป็นรุ่น Home ยิ่งทำไม่ได้เลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ช่วยเพิ่ม Shutdown แบบ ไม่ต้อง reopen โปรแกรมหน่อย
มีนานแล้วค่ะ hibernatehttps://support.microsoft.com/en-us/help/13770/windows-shut-down-sleep-hibernate-your-pc
ผมหมายถึง ผมต้องการกด Shutdown โดยที่เปิดมาใหม่ "ไม่ต้อง" เปิดโปรแกรมที่เคยเปิดไว้จากครั้งที่แล้ว(reopen) ถ้าของ mac มันจะมีให้เลือกว่าจะ Shutdownจริงๆ หรือ จะ reopen
ลองไปที่ Settings > Accounts > Sign-in options > Privacy > Off ตัวเลือก Use my sign-in info to automatically finish setting up my device and reopen my apps after an update or restart.
มีทางแก้ ให้อัปเดตได้ง่าย และไม่กระทบกับผู้ใช้ คือ สร้างใหม่ทั้งระบบ แต่ไมโครซอฟท์คงไม่ทำ ขนาด Windows 10 ยังไปเอา NT ตัวเดิมมาทำใหม่
ปล. Linux เลือกเวลาอัปเดตได้ (แต่ถ้าเป็น Linux Desktop จะจิกถามทุกครั้งที่เปิดเครื่อง) อัปเดตได้ระหว่างใช้งาน อัปเดตเสร็จก็สั่งรีสตาร์ท เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
ดูๆแล้ว เป็นการพัฒนา ที่ดูแล้วเสียเวลาโดยใช่เหตุยังไงไม่รู้
ยังกะเรื่องเล่า forward mail ที่ Nasa เสียงบหลายล้าน เพื่อพัฒนาปากกาเขียนในอวกาศ (หมายเหตุ: ผมรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นเรื่องแต่ง)
เวลาสำคัญ = เวลาทำงาน 0800-1700, เวลาไม่สำคัญ = ปิดคอมเลิกงาน จะเอาเวลาไหนไปอัพเดทอ่อ เข้าใจแล้ว เอาเป็น 16 โมง 59 แล้วกัน
=_=