รถไฟฟ้า BTS แจ้งผู้ใช้งานบัตรแรบบิทผ่านช่องทางทวิตเตอร์ว่า ตั้งแต่ 15 ก.พ.นี้ ตอนไปเติมเงินหรือเติมเที่ยวเดินทาง ที่ห้องตั๋ว BTS, BRT และศูนย์บริการแรบบิทสถานีสยาม เจ้าหน้าที่จะขอบัตรประชาชนเพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตน และสำหรับชาวต่างชาติ จะให้ใช้หนังสือเดินทางมายืนยัน
ในขั้นตอนการลงทะเบียน ผู้ใช้นอกจากยื่นบัตรประชาชนแล้ว ต้องแจ้งเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลด้วย สำหรับคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนแต่ยังมีเงินหรือเที่ยวเดินทางในบัตรอยู่ ยังคงใช้บัตรได้ตามปกติ แต่เวลาเติมเงินครั้งต่อไปจะต้องใช้บัตรประชาชนมาลงทะเบียนเช่นกัน
ทาง BTS แจ้งว่า การยืนยันตัวตนนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ ปปง. เป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งข้อดีคือเมื่อบัตรหาย จะได้แจ้งระงับเพื่อรักษาเงินและเที่ยวเดินทางในบัตรได้
เจ้าของบัตรแรบบิท #ทุกใบ โปรดฟังจ้า แอดมิน Rabbit Card ฝากมาแจ้งข่าว☺️ตั้งแต่ 15 ก.พ.นี้ #ตอนไปเติมเงินหรือเติมเที่ยวเดินทาง ที่ห้องตั๋วบีทีเอส, บีอาร์ที และศูนย์บริการแรบบิท (สถานีสยาม) เจ้าหน้าที่จะขอบัตรประชาชน เพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนให้ท่านด้วยนะครับ pic.twitter.com/ZOFDUwG30H
— BTS SkyTrain (@BTS_SkyTrain) February 4, 2019
ที่มา - BTS
Comments
เขาบอกว่าบัตรที่เชื่อมกับ LINE Pay ต้องลงทะเบียนด้วย
คำถามคือ มันไม่ redundant หรอ? (เพราะใน LINE Pay ก็ลงทะเบียนไปแล้วนะ)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รอข่าวข้อมูลหลุดเป็นข่าวต่อไปได้ไหม
I need healing.
เดี๋ยวนะ แต่บัตรหาย มันต้องทำประกันถึงได้เงินคืนไม่ใช่เหรอไม่งั้นจะอายัดไปทำไม
ไม่รู้สินะ เหมือนกับ บังคับให้ทุกบัตรต้องเอาข้อมูลส่วนตัวไปแลกเพื่อใช้งาน
อันที่จริง ผมมีบัตรนี้ เพื่อวัตถุประสงค์เดียวเลย คือไม่ต้องเสียเวลาไปแลกเหรียญ เพื่อไปเข้าคิวซื้อโทเคนเพื่อเข้าใช้บริการ ซึ่งอันนี้ก็คือเอาเงินผมไปหมุนก่อนแล้ว ยังไม่นับต้องมีค่ากินเปล่า ที่เรียกว่าเป็นค่าประกันบัตรอีก 100 บาท
ซึ่งท่านก็จงใจเสียเหลือเกินที่ทำให้คนที่ไม่เข้าโปรแกรมกระต่ายต้องเสียเวลาเป็นอันมาก
แล้วนี่ท่านก็เอาบัตรกระต่าย ไปเป็นบัตรสะสมเพื่อใช้จ่าย ซึ่งคนรับก็มีแค่หยิบมือเดียว ซึ่งผมเองไม่เคยใช้บัตรกระต่ายเพื่อเรื่องอื่นใด นอกจากใช้บริการรถไฟฟ้า ยังไม่นับที่เคยโฆษณาว่าจะบัตรเดียวทั้งรถบนดิน รถใต้ดิน ซึ่งมันก็ไม่มีวันเกิด
แล้วนี่ก็ยังจะมาบังคับขืนใจ เอาข้อมูลบัตรประชาชนไปแลกการใช้งานบัตรกระต่ายของท่าน เพราะอ้างว่าติด ป.ป.ง. ซึ่งอันที่จริงผมไม่เคยคิดอยากจะใช้อะไรเลย นอกจากทำให้ผมเสียเวลาเดินทางไปไหนน้อยลงอีกนิด
เอาคูปองกลับมาไหมล่ะ จะได้รีบกลับไปคืนบัตรกระต่ายท่านเสียวันนี้เลย
ไอ้บัตรเติมเงินโทรศัพท์ ยังพอเข้าใจได้ว่ามีการซื้อขายผ่านตัวแทน ยกล็อต แต่ผมไม่เคยเห็น BTS ขายบัตรกระต่ายแบบยกล็อตเลยนะ แถมการใช้งานก็จำกัดจำเขี่ยมาก ยังงงอยู่ว่าจะไปฟอกกันอีท่าไหน
สักวันถ้า data breach ขึ้นมา ได้ชื่อ-นามสกุล, ที่ผูกกับประวัติการเดินทางทั้งหมด
ขอให้โชคดี
lewcpe.com , @wasonliw
คนประสงค์ร้ายสามารถเอาไปวางแผนทำอะไรได้บานเลย
เออ พวกบัตรศูนย์อาหาร อย่างพวก eathai อะไรงี้ วันหลังคงต้องขอบัตรประจำตัวประชาชนเวลาไปใช้บริการเพราะว่า "การยืนยันตัวตนนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ ปปง. เป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งข้อดีคือเมื่อบัตรหาย จะได้แจ้งระงับเพื่อรักษาเงิน"
จริงๆ เขาเขียนเรื่องนี้ไว้นะครับ ว่าไมต้องเพราะบัตรพวกนั้นไม่สามารถจ่ายอย่างอื่นได้ เช่นเดียวกับบัตร MRT ที่ไม่สามารถจ่ายอย่างอื่นได้
ปัญหาคือ BTS ไม่มีทางเลือกบัตร "จ่ายอย่างอื่นไม่ได้" เลย มีแต่บัตร Wallet อย่างเดียวเท่านั้น
lewcpe.com , @wasonliw
ประเด็นสำคัญเลยคือ BTS เอาเปรียบผู้ใช้บริการ BTS เริ่มจากเอาเงินลูกค้าไปหมุนก่อน (บัตรเติมเงิน) ทำให้การจ่ายเงินวิธีอื่นๆ ยาก/ช้าเข้าไว้ และต่อมาเลือกแปลงตัวเองเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มจากไปเป็นตัวกลางระหว่างร้านค้า (ร้านน้อยแค่หยิบมือ แถมดูเหมือนจะมีแต่จ่ายเล็กๆน้อยๆ จ่ายบัตรเครดิตจริงๆ จะดูปลอดภัยกว่าอย่างมาก) เพื่อกินค่าต๋ง ในร้านค้ารายย่อยบน BTS ลามปามไปยังโอนเงินจากคนสู่คน (จะใช้ทำไม PromptPay ก็มี) เพื่อจะดักข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า โดยในที่สุดทำให้ผู้ใช้บริการ BTS จนทางเลือกอื่น โดยตัดการเติมเงินผ่านบัตรเครดิต เลวร้ายอย่างมาก
ให้ความรู้สึก หลายๆบริษัทในไทย เอาแต่ได้ ปราศจากความรับผิดชอบต่อลูกค้า (accountability) ต่อสังคม อยากได้ข้อมูลสวนบุคคลใจจะขาด แต่พอถามเรื่องความรับผิดชอบ กลับเอาแต่บ่ายเบี่ยงเลี่ยงไม่พูดไม่จา แต่ก็ยังแบมือขอเหมือนเดิม
ตรง " เติมเงินผ่านบัตรเครดิต " จริงผมว่า ฟีเจอร์นี้ไม่ต้องใช้ก็ได้นะครับ เพราะ เวลาจ่าย มันตัดตรงจากบัตรเครดิตได้เลย ไม่ต้องเอาเงินพักในระบบก่อน
สมัยก่อนที่รูดบัตรเครดิตเติมเงินนี่สบายเลยได้เงินใช้ ไม่ต้องมีดอกเบี้ยแบบรูดกดเงินจากบัตรตรงๆ
บัตรศูนย์อาหาร เข้าข่ายเป็นกิจกรรมยกเว้นครับ
"การลงทุนรถไฟฟ้าเมื่อ 20ปีที่แล้ว เป็นเพราะผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์"
ครับพี่...
ถ้าเปิดรับบัตร Debit/Credit, บัตรแมงมุม บัตร RFID (Visa payWave/MasterCard PayWave) โดยตรงก็ไม่ต้องไปลงทุน Rabbit ให้เสียเวลาและเสียเงินหรอกครับ
ถ้าทำเพื่อสร้าง Ecosystem แต่ไม่แข็งหรือแกร่งพอคู่แข่ง ก็รุ่งริ่งไปครับ หรือเป็นพันธมิตรครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
งงว่าบัตร Rabbit มันจะเอาไปเป็นช่องทางฟอกเงินได้อย่างไรช่องทางการใช้จ่ายที่น่าจะมีจำกัด ถอนเงินสดออกไม่ได้ วงเงินในบัตรไม่แน่ใจว่ามีกำหนดไว้เท่าไร
ใน Rabbit LINE Pay มันสามารถถอนเงินสดได้ครับ https://www.9tana.com/node/line-pay-withdrawals/
แล้วถ้าเฉพาะตัวบัตร (ที่ไม่ใช่ Rabbit LINE PAY Wallet ล่ะครับ)
มันเป็นกระเป๋าเงินดิจิตอล ต้องเข้าข่ายอยู่แล้วครับเพราะมันไม่ใช่เป็นแค่บัตรรถไฟฟ้า True Money ก็ต้องทำครับเพียงแต่ Rabbit จะเป็นกระเป๋าเงินดิจิตอลที่ล้าหลังกว่าเพื่อนครับ ระบบยังกะราชการ จ่ายบัตรเครดิตเงิน โอนเงินออก ใช้เวลา 2 วันทำการ(ไม่นับวันหยุด) เติมเงินก็ต้องเต็มจำนวน เป็นเศษสตางค์ไม่ได้ โอนออกก็เต็มจำนวน ต่างกะทรูที่ทำเหมือนบัญชีธนาคารเลยโอนเข้าออกได้เงินทันที
ตลกแล้ว BTS แบบนี้ก็ซวยสิครับ ถ้าข้อมูลรั่วไหล ส่วนเงินคืนกรณีบัตรหาย ระบบคุณไม่มี DB เก็บค่าใช้งานบัตรคงเหลือเหรอ ไม่มีอะไร backup เลยหรือไง หรือคุณทำเรื่องโอนย้ายไปบัตรใหม่ไม่ได้ เพราะไม่อยากเสียเวลาและรายได้
ผมเองก็ไม่ได้ใช้ BTS/MRT บ่อยด้วย ก็ใช้แลกเหรียญกับกดบัตรเที่ยวเดียวหน้าตู้ต่อไป บัตร BBL ผมที่มี Rabbit ก็พึ่งยกเลิกไปเอา MC ไร้ Rabbit แทนไปด้วย ไม่เห็นใช้อะไรได้เลย ร้านก็น้อย
BTS ลงทุนเกินขอบเขตตัวเอง แถมยังงกไม่ให้ใช้บัตรอื่นเข้ารถไฟฟ้าอีก แม้แต่เรื่องหยอดเหรียญกับเครื่องออกบัตรก็ยังเหมือนเดิม ไร้การเพิ่มตู้ธนบัตรหรือตู้แลกเงิน งี่เง่าไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เดี๋ยวนี้ดีหน่อยตรงตู้รับ qr กับ rabbit แล้วครับ สะดวกดีมากๆ อยากให้ mrt ทำบ้างเลย
รับ QR นี่มาแรงแซงโค้งจริงครับ อยากได้มากกว่ารับธนบัตรแบบ MRT อีก
สะดวกที่ไม่ต้องมาแลกเหรียญครับ แต่ผมว่า process โดยรวม ช้ากว่าหยอดเหรียญหรือใช้ธนบัตร
1.เปิดแอพ
2.แสกน
3.ใส่รหัส
4.ยืนยัน
ซึ่งกระบวนการขึ้นอยู่กับความเร็วเน็ตและมือถือด้วย บางทีก็ช้าบรรลัย! วันนี้เจอมากับตัวกดจ่าย QR รอมันหมุนเกือบ 20 วินาที ที่น่าลำคาญคือ QR ตัวแรกมันจะเป็น rabbit ต้องมากด thai qr อีกที รอไปอีก 20 วิ โอนเงินออกตู้นิ่งไม่ยอมออกตั๋วอีกเกือบ 20 วิ
เคยเจอตู้เน็ทเต่า หมุนๆๆๆๆ QR code ไม่ขึ้นสักที รอไม่ไหวผมหยิบบัตร rabbit แตะผ่านเข้าไปเร็วกว่าเยอะ ก็ยังหมุนๆ
รอบสองรอนานหน่อย กว่าจะขึ้น
ใช่ครับ ช่วงนี้ผมไม่ได้นั่งตอน 6 โมง ไม่รู้ว่าบรรลัยขนาดไหนคือแค่ดีกว่าไปยืนรอแลกเหรียญ แต่ยังห่างไกลจากคำว่า “ดี” อีกเยอะครับ
นี่ยังไม่นับความห่วยแตกของ rabbit line pay ที่ยังต้องกดรหัส (แสกนนิ้ว) 2 รอบด้วยนะครับ
ควรทำแบบ ซื้อจากใน app แล้วเอา QR ไป scan ที่ตู้ แบบพวกกดเงินไม่ใช้บัตรมากกว่า
ปล ช่วงนี้ใช้ QR บ่อยเพราะมันได้คืน 5 บาท
ตอนผมใช้นะครับ
พวก QR มันจะเร็วได้ต่อเมื่อกดทั้งหมดให้พร้อมก่อนจะเข้าตู้ครับ
อันนี้ก็พอจะเข้าใจสาเหตุได้ล่ะนะครับ - -" แต่ผมโชคดีที่ตอนผมใช้มันเร็วแฮะ และผมเพิ่งได้ใช้จริงๆ แค่ครั้งเดียวครับ นอกนั้นรีบจนแตะบัตรเอา
ของผมใช้กับ app scbeasy ตั้งค่า quick pay หรืออะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ ประมาณว่า ถ้ายอดจ่ายน้อยกว่าที่ตั้งค่าไว้ไม่ต้องใส่รหัสผ่านอ่ะครับ รู้สึกสะดวกดีกว่า ธนบัตรหรือหยอดเหรียญครับ
1. เปิดแอพ2. สแกน
3. กดยืนยัน
แต่เสียเวลาตรงต้องมาเลือก เป็น qr หน้าตู้ เพราะ default เป็น line pay
วันนี้ผมไปลองด้วย LINE Pay มาละครับ ช้าจนเหนื่อยใจ ? จริงๆ ทำแค่เปิดมาก็เปิดกล้องพร้อมสแกน สแกนเสร็จขึ้นยอดเงินให้สแกนนิ้วยืนยันเลยก็ได้มั้งครับ (หรือมันทำไม่ได้???)
line pay เคยใช้ครั้งแรกๆ รู้สึกยุ่งยากซับซ้อนอ่ะครับ มีเด้ง browser ขึ้นมาแว้บนึง สแกนนิ้วอีกสองสามที เจอ quick pay ของ scbeasy แล้วรู้สึกโอเคดีครับ
Quick pay ของ KPLUS ก็มีครับ
ผมว่าไอ้ที่ควรลงทะเบียนและโจรใช้ฟอกเงินอ่ะ น่าจะเป็นทรูมันนี่นะ
อันนั้นบังคับลงทะเบียนอยู่แล้วหนิครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
หมายถึงบัตร ทรูมันนี่ รึเปล่าครับ
ถ้าบัตรก็คงยังเป็นช่องโหว่แหละครับ เรียกทรูมันนี่ ผมนึกว่า truemoney wallet
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เว็บที่รับบัตรทรูมันนี่นี่น่ากลัวมาก ปปง ไม่เห็นมาควบคุมตรงนี้เลย
ที่ต้องทำเพราะว่าบัตร rabbit ไม่ใช่แค่ใช้เพื่อผ่านรถไฟฟ้าอย่างเดียวครับจะกลายเป็นกระเป๋าเงิน ถ้าแค่ติ้ดๆสแกนรถไฟฟ้าอย่างเดียวแบบเมื่อก่อนไม่ต้องทำเรื่องนี้ก็ได้ ตามจริงน่าจะมีทางเลือกนะเพราะผมก็ใช้แค่สำหรับรถไฟฟ้าไม่ได้ต้องการฟีเจอร์อื่น
งกแฮะขนาด 7-11 ลงทะเบียน พนักงานแทบจะกราบขอโทษลูกค้าแถมแสตมป์ให้อีกนิดหน่อยเป็นการขอโทษลูกค้าด้วย
อันนี้เล่นซะเหมือนประกาศแนวขู่ว่าถ้าไม่ลง ก็ไม่เติมเงินให้ไม่ง้อนะ ยังไงชอบกล
คิดออกมาแต่ละอย่าง
ผมไม่ได้ผูกไลน์เปย์แบบนี้ผมก็ควรจะไม่ต้องลงทะเบียนก็ได้สินะ
จากข่าวนี้ระบุว่า Rabbit card เลยนะครับ ไม่ใช่ Rabbit line pay ซึ่ง Rabbit card เองก็เอาไปจ่ายได้หลายอย่าง ไม่ใช่แค่บัตรรถไฟฟ้าอยู่ดี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เท่าที่ถามมาคือ ตัวบัตรต้องลงทะเบียน ตัว Rabbit LINE Pay ก็ต้องลงเช่นกัน (ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะตัวบัตรก็ถือในนิติบุคคลของ LINE Pay แล้ว)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ลองคิดๆดู อาจจะมีเคสที่ฟอกเงินโดยเอาเงินเข้าผ่านทางบัตรที่ยังไม่ทำผูก LINE Pay ได้รึเปล่า เลยต้องบังคับ KYC ทั้งหมด?
แล้วทรูมันนี่ล่ะ เว็บหนังโป๊ เว็บเถื่อน เว็บแทงบอล ฯลฯ ก็จ่ายกันผ่านทรูมันนี่หลายเจ้า และ track ยากมาก
ทรูมันนี่มีลงทะเบียนแบบนี้มั้ยครับ
บังคับแล้วครับ เส้นตาย 28 กพ. นี้
lewcpe.com , @wasonliw
ขอบคุณครับ
เข้าใจว่าลงทะเบียนได้แค่ฝั่งผู้รับนะครับ ฝั่งต้นทางผู้โอนหรือซื้อบัตร true money ก็ตามไม่ได้ ยังไงซะก็ยังเป็นช่องฟอกเงินได้อยู่ดี คิดง่ายๆใครจะยอมเสียค่าธรรมเนียมสิบกว่าเปอร์เซ็นต์กับธุรกรรมทางการเงินในยุคนี้ ถ้าไม่ใช่พวกธุรกรรมสีดำหรือเทา พวกค่ายมือถือถึงไม่ยอมให้ถอนเงินสดออกจากบัญชีมือถือก็เพราะเหตุนี้ด้วย
เอางี้คนละครึ่งทาง
หาตู้มาให้ผมเสียบบัตรประชาชน
แล้วลิ้งค์ไป มหาดไท หรือ ธปท. ก็แล้วแต่
ซึ่งข้อดีคือเมื่อบัตรหาย จะได้แจ้งระงับเพื่อรักษาเงินและเที่ยวเดินทางในบัตรได้
เชื่อได้ด้วยหรอ แค่เปลี่ยนบัตรใหม่จากนศ เป็นปกติยังคืนเงินไม่ได้เลย ทั้งที่บางคนเรียนอยู่แต่อายุเกิน หรือเพิ่งจบ
ปชช ได้แค่ทำตามกฎหมาย แต่คนใหญ่คนโตอยู่เหนือกฏหมาย
ทำไมทำเหมือนญี่ปุ่นไม่ได้อ่ะครับ ประเทศที่ทำให้ดูก็มีอยู่แล้ว บัตรรถไฟญี่ปุ่นซื้อของตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ ง่ายต่อ นทท อีกต่างหาก
มูลค่าสูงสุดในบัตร 4,000 บาทถ้วนอืมมม ....
ถ้า BTS บังคับให้ rabbit ทำการ verify ทุกคน เนื่องจากมันฟอกเงินได้ ทาง BTS ควรออกบัตรเติมเงิน BTS ปกติ ที่ใช้เฉพาะได้แต่ BTS ออกมาเหมือนเดิม (ซึ่งไม่ต้อง verify เหมือนบัตร food court)
ไม่เป็นไรครับ ให้ข้อมูลกับเอกชนดีกว่าให้กับรัฐบาลครับ เพราะเราเลือกได้ ถ้าไม่ชอบใจก็ไม่ต้องใช้บริการได้ ไปใช้บริการเจ้าอื่นได้ ไปเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวกับเอกชนเจ้าอื่นต่อไปครับ
ถ้าไม่ใช้ bts คุณจะใช้รถไฟฟ้าสายไหนครับ
เยอะแยะครับ นั่งรถเมล์ เท็กซี่ grab เดินเอา หรือย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน หรือจะยังนั่งรถไฟฟ้าต่อก็จ่ายด้วยเงินสดเอาครับ เห็นไหมครับทางเลือกเยอะแยะ ถ้าไม่ชอบใจการบริการก็อย่าไปใช้มันเดี๋ยวบริษัทเขาก็เจ๊งไปเองครับ โลกเสรีมันดีอย่างนี้นี่เอง
โอเค เข้าใจแล้วว่าประชด
แต่ถ้าไม่ได้ประชดนี่ก็นะ ...