ฟีเจอร์ย่อยของ macOS Catalina (OSX 10.15) นอกจากจะเปลี่ยน bash เป็น zsh แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงปลีกย่อยที่มีความสำคัญอยู่อีกหลายอย่าง ได้แก่
- macOS frameworks ถอดโค้ดส่วน 32 บิต (i386) ออกทั้งหมด หากรันโค้ด 32 บิตจะได้โค้ด EBADARCH เช่นเดียวกับ QuickTime framework
- ถอดการรองรับ SPDY ให้ไปใช้ HTTP2 หรือ HTTP1.1 แทนเสมอ
- Xcode ไม่ใส่ Subversion มาในตัว ต้องติดตั้งเอง
- รันไทม์สำหรับภาษาสคริปต์ ได้แก่ Python, Perl, Ruby จะใส่มาในเวอร์ชั่นนี้เป็นรุ่นสุดท้าย หลังจากนี้แอปที่ต้องการใช้รันไทม์ต้องใ่ส่มาเอง
ที่มา - macOS 10.15 Beta Release Notes
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ยอมรับความเป็น Close economy system ของ apple จริงๆ ความพยายามสู่ยุค 64Bit ทำได้ง่ายกว่าฝั่ง Windown เยอะ
ผมว่ากรณีนี้ไม่ใช่ความพยายามสู่ยุค 64bit นะ
คือโลกเราเข้าสู่ยุค 64bit มานานแล้วครับ ทั้ง MacOS/Win/Linux(ยกเว้นฝั่ง embedded) ที่เห็นเป็น 32bit นั่นคือเพื่อ conpatibility ล้วนๆ
การทำแบบนี้เป็นเพียงการตัด framework 32bit(ซึ่งไม่ค่อยจำเป็นสำหรับ Mac) ออกไปเพื่อทำให้ OS lean ขึ้น เหตุผลเดียวกับไม่ preinstall Xcode หรือการจะตัด runtime ต่างๆออกไปนั่นแหละ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
พวก plug in audio 32 bit นี่ยังใช้กันเยอะมากครับ พวกทำงานเกี่ยวกับดนตรี มีร้องอะครับข่าวนี้
น่าจะคนละส่วนกันหนือเปล่าครับ
[S]
+1
คงเพราะไม่ค่อยมีปัญหากับพวก Software องค์กรเท่าไหร่ด้วยเลยเปลี่ยนง่าย
ต้องใส่มาเอง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
แปลว่าน่าจะเล่นเกมหลาย ๆ ตัวไม่ได้สินะ
หวังว่า Dev คงไม่มีอะไรกระทบนะ
น่าจะไม่ครับ แอพบางส่วนต้องแก้ทุกครั้งที่มี OSX ตัวใหม่ออกอยู่แล้ว (อัพเดตทีไรพังตลอด) ก็เลยคิดว่าน่าจะเหมือนเดิม (ฮา)
เอาจริง ๆ ถ้าไม่เล่นแร่แปรธาตุในโค๊ดมากก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าเขียน low-level มาก ๆ และยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนเป็น 64 บิท ก็น่าจะพังได้ครับ