หลังจากแอปเปิลออก iOS 15.3 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ก็มี iOS 15.4 เบต้า รุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนาออกตามมา โดยมีผู้พบฟีเจอร์น่าสนใจในอัพเดตนี้ ที่ทำให้ใช้งานตัวปลดล็อกหน้าจอ Face ID ได้ ขณะสวมใส่มาสก์ แต่ไม่ ต้องมี Apple Watch ช่วย
แอปเปิลอธิบายตัวเลือกการทำงานของ Face ID ใหม่นี้ว่า เป็นการจดจำตำแหน่งที่สำคัญรอบดวงตาเพื่อใช้ยืนยันตัวบุคคล ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดคุณสมบัตินี้เพิ่มเติมเอง (opt-in) จากนั้นต้องสแกนใบหน้าใหม่อีกครั้ง ซึ่งจากตรงนี้จะทำให้สามารถปลดล็อกจอแม้ใส่มาสก์
ตัวเลือกสำหรับการปลดล็อกแบบใหม่นี้มีทั้งเงื่อนไข ปลดล็อกขณะใส่มาสก์ ไปจนถึงขณะใส่ทั้งมาสก์และแว่นตาพร้อมกัน
MacRumors พบว่าฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้กับ iPhone 12 และ iPhone 13 เท่านั้นในตอนนี้
ที่มา: MacRumors
Comments
น่าสนใจจัดฟีเจอร์นี้
รุ่นเก่าอดอีกเหรอเนี่ย
เข้าใจว่าเป็นเรื่องของ Neural Engine ครับ iPhone X/XS/XR/11 มี Neural Core น้อยเมื่อเทียบกับ 12/13 (12/13 มี 12 คอร์ X-11 มี 2-6 คอร์) เลยทำให้ใช้ไม่ได้เพราะพลังประมวลผล ML ไม่พอ
ขนาดแค่นี้ ตัวเครื่องยังแจ้งว่าความปลอดภัยตอนสแกนลดลงด้วยเลยครับ เพราะมันประมวลผลแค่หน้าผากกับตา
ผมใช้ iPhone X ปลดล็อกตอนใส่หน้ากากบ่อยๆ จนวันนึงอยู่ดีๆมันก็ปลดล็อกได้เอง ไม่ต้องใส่ pin ไม่ต้องถอดหน้ากาก เข้าไปถามที่ iStudio ก็มีเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ทคนนึง เค้าก็ว่าเครื่องเค้าก็ปลดล็อกได้เหมือนกัน สรุปคือมันปลดได้ แต่เป็นแค่เฉพาะเครื่อง อาจจะเพราะ Neural Engine มันเรียนรู้จนมันทำได้
สำคัญมากครับ ขอให้สำเร็จนะ
ใส่สแกนนิ้วก็จบ กั๊กอยู่ได้ ที ipad ยังใส่ได้
จริง ใช้ชีวิตลำบากมากเลยไม่มีแสกนลายนิ้วมือ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันรับโทรไลน์ได้ดีกว่าแอนดรอย ก็ไม่ได้คิดจะใช้เลย
apple จะไม่ใส่อะไรที่ซ้ำซ้อนน่ะครับ คือต้องเลือกอย่างใดอย่างนึง มีมันสองอย่างไม่ได้
แล้วเค้าคงเลือกสแกนหน้า 555
iPhone X โฆษณาไว้ไงว่าปลอดภัยกว่า เดี๋ยวโดนหาว่าไม่ปลอดภัย
สแกนนิ้วก็ใช่ว่าไม่มีปัญหานะครับ แค่ว่าไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่หนาวเย็นจนต้องใส่ถุงมือ พอมีสแกนหน้ามันก็ใช้ได้หมด จนมาเจอโควิดเนี่ย
อุปกรณ์อื่นเค้าก็มีสแกนหน้าพร้อมสแกนนิ้วกันได้นะครับ
ก่อนจะใส่ของเพิ่มต้องหาของที่จะตัดออกก่อนครับ
ทำบ่อยจนแฟนแอปเปิลชอบเผลอคิดไปว่า ถ้าจะเอาของเดิมกลับมา ของใหม่มันต้องหายไปเท่านั้น (ทั้งที่บางอย่างมันใส่มาทั้งคู่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว)
แล้วสุดท้ายก็ใส่ทั้งของเดิมของใหม่พร้อมกัน แล้วเรียกมันว่านวัตกรรม
Ipad สแกนนิ้วนี่โคตรจะเป็นจุด pain point ตอนนี้เลยนะ โคตรจะไม่สะดวกใช้13promaxอยู่ ลองทำมือแบบสแกนปุ่ม power ก็ไม่สะดวกทั้งมือซ้ายมือขวา
ที่ scan นิ้วมือมันดียังไงอะครับ ?
ผมใช้ Pixel 3 มีปุ่ม scan นิ้วที่กดติดยากมาก ไม่แน่ใจว่า sensor ไม่ดีหรือว่าพื้นผิวตรงนั้นสะอาดไม่พอ เช็ดแบบขอไปทีกับพวกเสื้อหรือกางเกงก็ไม่ได้ ต้องไปเอาผ้ามาเช็ดแบบจริงจังถึงจะได้ สุดท้ายก็เลยต้องกดรหัสประมาณ 30% ของจำนวนครั้งการ unlock เครื่องทั้งหมด
ผมก็ไม่เคยลองของยี่ห้ออื่นนะ แต่ตอนผมซื้อ Pixel 3 มา ผมก็ซื้อมาราคาไม่ถูก ก็มีความคาดหวังระดับหนึ่งที่ไม่ใช่แบบนี้
That is the way things are.
ส่วนของผม Pixel 3 ผมไม่เคยสแกนไม่ผ่านเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ ไม่เลยจริงๆ
Surface Duo 1 เสียอีกที่มันแคบจนวางมุมลำบากบวกกับ bumper ที่นูนหนาแล้วน่าจะมีต้องหยิบมาเปลี่ยนมุมสแกนนิ้วดีๆ สักวันละครั้งสองครั้ง แต่สุดท้ายก็ผ่านอยู่ดี
เรื่องนี้อันที่จริงขึ้นอยู่กับลักษณะกายภาพของแต่ละคนด้วยครับ
สมัยผมใช้ iPhone ที่เป็น Touch ID เรียกว่ามีหงุดหงิดทุกปีเพราะผมมือลอกทุกหน้าหนาวครับ แสกนจนกระทั่งทำยังไงก็แสกนไม่ติดแล้ว
ก็ต้องมาลบ Fingerprint ออก Add ใหม่ทุกปี
พอได้ Scan หน้า ชีวิตก็ดีขึ้น จนกระทั่ง Covid มาเนี่ยหล่ะครับในความเห็นของผมคือ ให้มาทั้งคู่จะดีกว่าครับ ให้พอมีทางเลือกกันบ้าง
ผมใช้ Sony, Nokia แตะทีเดียวติด ไม่เคยมีปัญหาครับ iPad ก็เช่นกัน
ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้น iPhone 12 คือรุ่นที่ได้ face-id version upgrade มั๊งมันถึงรองรับ function นี้ได้
มันอาจจะมีในรุ่น X, Xsอนาคตก็ได้ เหมือนยังไม่คอนเฟิร์มนะครับ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
คอมเมนต์เมืองนอกมีแต่คนบอกว่า "พึ่งคิดได้เหรอ Apple?"
ใช้ IR แบบ Windows Hello ไม่ได้เหรอ เจ้านั้นสแกนหน้าในที่มืดได้ด้วยนะ สะดวกมาก
face id ก็สแกนหน้าในที่มืดได้อยู่แล้วนะครับแต่อันนี้เพิ่มมาคือใส่หน้ากากปิดปากก็สแกนได้
เทคโนโลยี คล้ายกัน แต่ logic เพิ่งปรับแก้ แสกนมั้งหน้า เหลือแค่ที่ตาแทน
face id ก็แสกนในที่มืดได้ครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ทำได้เหมือนกันนะครับที่มืด ลองอ่านเบื้องหลังดูhttps://appleinsider.com/inside/face-id
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ใช้ IR อยู่เหมือนกันครับ คล้ายๆ กัน ของ Apple ยิงเป็นไฟจุด Dot เพิ่มมาด้วย
ขอโทษครับทุกคน ผมสับสนกับกล้อง thermal camera 555
นวัตกรรม!!!
อย่างนี้ความปลอดภัยก็ลดลงไปอีกสิ เพราะลดจุดสำคัญในการระบอัตลักษณ์ของใบหน้าลงไปอีกแค่หน้าคนเต็มใบหน้าก็คล้ายกัน 1 ในหมื่นแล้วนะ
ไม่แน่ครับ อันนี้อาจต้องดูงานวิจัยเค้าว่าทำไมมันถึงเวิร์คได้ มันสกัดคุณลักษณ์ด้วยข้อมูลอะไรบ้าง
เห็นว่ามีงานวิจัยเรื่องระบุตัวตนด้วยหู (อันนี้ได้ยินมาจากสาย ML บอกว่ามีนะครับ ผมยังไม่ได้หาเพิ่มเติม)
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เอาจริงๆ มันใช้งานได้แต่แรกอยู่แล้วครับ เขาแค่ตั้งเงื่อนไขว่าถ้าใส่มาร์สจะไม่ให้ผ่าน อันนี้แค่มี option ให้ User เปิดปิดเองครับ เข้าใจว่าหลังบ้านก็ยังเหมือนเดิมอาจจะมี Model ที่แม่นขึ้นก็เลยลองเปิดเป็น option
ผมทำไว้ระบบไว้ก่อน Covid จริงจังช่วงนั้นลูกค้าใช้มาร์สก็ยอมให้ Authen ครับขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละเรื่อง
ความคิดผมก็น่าจะลดลงจากเต็มหน้าหนะครับ เลยไม่ได้เปิดเป็น default ต้องไป opt-in และยอมรับเงื่อนไขยาวๆ(ที่ไม่ค่อยมีใครอ่าน)
ตอนเปิดใช้มีแจ้งเลยครับว่าความปลอดภัยลดลง เพราะพื้นที่สแกนเหลือแค่ตากับหน้าผาก
iPhone Xs ตรูโดนด้อยค่าด้อยราคาเลยซะงั้น
มีใครลองบ้างยังครับ เป็นไงบ้าง
อยากทราบว่า บุคคลอื่นมาสแกน จะผ่านไหม
?
เอาให้เพื่อนที่เป็นฝาแฝด (แฝดเหมือน) ลองเล่นแล้วครับ มีผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง (อย่างว่าของใหม่ ต้องใช้เวลาเรียนรู้) แต่ถ้าบุคคลอื่นเลย ไม่ผ่านครับ
หลอกให้คนซื้อ Watch จนยอดเข้าเป้าแล้วสินะ
ส่วนเรื่องไม่ใส่แสกนนิ้ว อันนี้ No Comment แต่ขำบางเม้นต์ ที่ปกป้อง Apple สุดตัว
เรานึกถึง samsung เลยที่ใส่แสกนม่านตามาให้ใน S8 คือชอบและดีมาก แสกนได้เร็วด้วยแต่ไม่รู้ว่าหลังๆเอาออกไปทำไม เราใช้แล้วรู้สึกว่ามันสะดวกมากเลยนะ ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่เพราะแสกนม่านตานี่แหละ
อยากให้ม่านตากลับมาเลยครับ เสียดายทำไมเลิกใช้กันก็ไม่รู้
ผมใช้สแกนม่านตาของ 950XL มาก็พบว่ามันไม่สะดวกเพราะค่อนข้างต้องเล็งมุมเยอะครับ เทียบสแกนนิ้วที่อยู่ตรงไหนก็ได้กับสแกนหน้าที่กว้างกว่าไกลกว่า
แต่ผมว่าเหมาะมากกับยุคโควิดถ้ามาพร้อมสแกนนิ้ว
จริงๆก็น่าจะคิดไว้นานตั้งแต่ช่วงโควิดเข้าแล้วแหละ แต่กว่าจะเทรน ai เสร็จ เลยออกมาช้าหน่อย ?