พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบาย "ประเทศไทยเป็น Blockchain Hub แห่งอาเซียน" เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยระดมทุนจากทั่วโลกโดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคารแบบเดิม ส่งเสริมให้ศิลปินไทยขายงานเป็น NFT ไปยังตลาดโลกได้
นโยบายเรื่องบล็อคเชนของพรรคเพื่อไทย เป็น 1 ใน 8 นโยบายใหม่ที่เปิดตัววันนี้ โดยขยายความต่อจาก ประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่จะสร้าง Blockchain ของประเทศไทยเอง เพื่อใช้ซื้อขายสินค้าเกษตร และทำ NFT ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายอีกข้อคือ ให้คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปได้ "กระเป๋าเงินดิจิทัล" (Digital Wallet) ที่สร้างด้วยบล็อคเชน ใช้เงินดิจิทัล (ที่เป็นเหรียญ) ที่ได้รับจากภาครัฐ (ยังไม่ระบุตัวเลข) เพื่อจับจ่ายกับร้านค้าชุมชนในรัศมี 4 กิโลเมตรรอบที่อยู่อาศัยตามบัตรประชาชน หากใช้ไม่หมดภายใน 6 เดือนจะหมดอายุจนไม่สามารถใช้งานได้
‘เศรษฐา’ ร่วมเวที ‘เพื่อไทย’ ประกาศความพร้อม ‘กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่’ ผ่าน ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’อ่านต่อที่ https://t.co/6PBlBJB9wz #คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน #17มีนา66 pic.twitter.com/vfiOM5b8CJ
— พรรคเพื่อไทย Pheu Thai Party (@PheuThaiParty) March 17, 2023
เพื่อไทยดัน 3 นโยบาย (1) ครอบครัวมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บ. /เดือน (2) บล็อกเชน ระดมทุนจากทั่วโลก (3) แก้ปัญหาฝุ่นพิษ ลดภาษีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษไม่เกินมาตรฐาน"นโยบายนี้อาจดูเหมือนประชานิยม แต่ความจริงคือการยกระดับ GDP ประเทศ เงินที่จะใช้ มาจากภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง" pic.twitter.com/LNaCuobVkm
— Voice TV (@VoiceTVOfficial) March 17, 2023
ปัญหาชีวิตผู้สมัครสส.เพื่อไทย คือนโยบายเยอะมาก ครอบคลุมปัญหาสังคมและประชาชนในทุกมิติ แต่เวลาปราศรัยต้องพูดให้ครบในเวลาจำกัดนี่แค่ก๊อกสองนะครับ รอยุบสภานโยบายชุดสามมา ยังจะปังกว่านี้ได้อีก pic.twitter.com/c9gW6YoemE
— ส.ส.จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ (@jamornvivat) March 17, 2023
คลิปเต็ม ช่วงที่พูดถึง Blockchain Hub อยู่ราวชั่วโมงที่ 1:21 และช่วงที่พูดถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล อยู่ราวชั่วโมงที่ 1:38
Comments
ก็คือ . . . .แจกเงินสินะครับ
ถ้าจะแจก โอนเข้าเป๋าตังเลยก็ได้นะ
จะได้ไม่ต้องเสียเงินมา dev
เห้อ .... นี่แหละที่กลัว นักการเมืองแจกเงินจนคนชินกับการแจก
พอชินแล้ว ผู้คนก็จะอยากได้มากขึ้น จนนักการเมืองก็จะเน้นการแจก (เพราะมันง่ายดี ไม่ต้องใช้สมอง)
แล้วมันก็จะวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าประเทศจะพัง
Blockchain, NFT, เหรียญดิจิตอล ขาดคีย์เวิร์ด ควอนตั้ม ไปอีกอันจะครบแล้ว
ขาด AI ด้วย
เหมือนว่าคอมเม้นท์รอบก่อนจากหลายๆ คนเขาไม่ได้ใส่ใจเลย ยังมามุขเดิม
WE ARE THE 99%
ยังดีที่ตัด soft power ที่มีทุกบ้านออกไปนะ อันนั้นรับไม่ได้จริงๆ
พรรคนี้เอาคำโก้ๆดูทันสมัย มาผูก แล้วทำอะไรๆ ไร้สาระอีกแล้ว ตอนแทบเล็ตก็ทีหนึ่งละ บอกแล้วประเทศไม่ได้เป็นผู้ผลิตแทบเล็ต เอาไว้ประเทศอื่นเขาประสบความสำเร็จค่อยตามก็ไม่ต่างกัน
นโยบายดูดีมีความหวัง เทคโนโลยีการศึกษา มีเหตุผลหลักการ สร้างสรรค์ที่สำคัญมองมนุษย์เท่าเทียมกัน ให้โอกาสเด็ก ๆ เทียบกับนโยบายจากพวกอนุรักษนิยม
ตอนนั้นปวดหัวมาก spec มันต่ำ ยุคนั้นใช้เรียนจริง ยากมาก
ตอนtablet ต้องบอกว่านโยบายมาก่อนกาล มาตั้งแต่ยุคtabletยังแพง specที่ได้ก็ตามงบสองพันกว่าบาท ในขณะที่ยี่ห้อinterถูกสุดตอนนั้นหมื่นห้า(ss) จริงๆมันก็พอเอาอ่าน ebook ได้อยู่นะ
แต่ตอนนั้นคนต่อต้านอ้างว่าจะทำให้เด็กเสียการเรียนรู้ ติดเกม บลาๆ
ตอนนี้คนที่เคยด่าตอนนั้นซื้อ ipad ให้ลูกตั้งแต่อนุบาลกันแทบทุกคน....
น่ากลัวเด็กจะเป็นออติสทิกเทียมอีกล่ะ
ถ้าหลังห้าขวบก็ไม่ค่อยน่าห่วงแล้วครับ ทางการแพทย์ให้งดหน้าจอถึงห้าขวบ หรือยิ่งนานได้เท่าไรยิ่งดี
ลักษณะที่ให้งดคือทิ้งลูกไว้กับหน้าจออ่ะนะ ถ้าดูบ้างไม่เกินครึ่งชม.ต่อครั้ง หรือดูด้วยกันแบบมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว อันนั้นไม่มีปัญหาเท่าไร
ในทางการแพทย์ยังเถียงกันอยู่ว่าให้เรียนในหน้าจอนี่นับด้วยมั้ย หรืออ่านนิทานจากหน้าจอนี่นับเป็นข้อเสียมั้ย
ก็ขึ้นกับพ่อแม่ล่ะครับ ต่อให้ไม่มี tablet ทิ้งลูกไว้แล้วเปิดทีวีให้ดูทั้งวันก็คงแทบไม่ต่างกัน...
ที่ยกมาเพราะผมจำได้คนในFB ที่ผมรู้จักหลายคนด่าโครงการสาดเสียเทเสีย แต่ ณ วันนี้ ซื้อ ipad ให้ลูกกันทุกคน แต่ผมก็ไม่ได้รู้ไปขนาดว่าเขาควบคุมดูแลลูกเขาดีมากน้อยแค่ไหน
นโยบายเต็มไปด้วย buzzword bs...
หัวจะปวด
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เหมือนเด็กยุคก่อนทำรายงานส่งครูต้องใส่ Keyword ล้ำๆ เข้าไปเยอะๆ
NFT อีกแล้ว ... เขาเข้าใจว่ามันคืออะไร
Blockchain ในแง่ performance มันสู้ DBMS ที่เราใช้ๆกันอยู่ไม่ได้เลยนะ
ปีนี้ต้อง AI ไหมนะ
wallet อะไรอีก เป๋าตังค์ก็มี แอพธนาคารก็มีกัน จะเอามาเพิ่มอีกทำไมกันนะ
NFT นี่มันจะเจ๊งละนะ คนไม่เอากันแล้ว
เห็นมีแต่หยุดสนับสนุน ปิดโปรเจค ไม่เห็นมีโปรเจคใหม่แล้ว
ยังจะสนับสนุนให้ศิลปินขาย NFT อยู่อีกเหรอ?
ถ้าศิลปินเขาจะขายงานได้ มีคนซื้อ เขาขายได้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้มันจะเจ๊งเพราะโดน AI มาแย่งงานต่างหาก
ไม่ได้เกี่ยวกับมี NFT หรือไม่มี NFT เลย
มั่ว AI กับ NFT คนละเรื่อง นี่คือคนไอทีใช่ไหม ?
เค้าบอกว่า NFT ไม่ใช่ประเด็นที่ศิลปิน สนใจ/กระทบแต่ AI ต่างหากที่จะกระทบ
เค้าแค่เอา 2 เรื่องเทียบกัน ก็ไม่แปลกมั้ยคัรบ
ผมว่าคุณอ่านใหม่อีกรอบดีกว่านะครับ
The Dream hacker..
อาจจะกำกวมอยู่บ้าง
คุณน่าจะสับสนเพราะผมใช้คำว่า "เจ๊ง" สองรอบ
แต่จริงๆ มันเป็นคนละย่อหน้า ไม่เกี่ยวกัน ไม่เชื่อมโยงกันครับ
"เจ๊ง" อันแรกของ NFT จบไปแล้วว่ากระแสมันดับ"เจ๊ง" อันสองของศิลปิน หมายถึงว่าเขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องวิธีการขาย ช่องทางการขาย หรือต้องการ Hub แต่ที่เดือดร้อนกันตอนนี้เพราะว่ามันมี AI เข้ามาแย่งงานมากกว่า คนซื้อ คน Commission งานมันก็ลดลง แถมโดนขโมยงานไปเทรน AI อีก (ผมไม่ได้หมายความว่า NFT มันเจ๊งเพราะ AI)
ลองอ่านอีกครั้งครับ ผมว่าเค้าเขียนไว้เคลียร์นะ
แอพกระเป๋ารัฐบาลตอนนี้เขาทำไว้แล้ว มันจะเริ่มตกยุคและครับ ตามบ้างไหมจะไปใช้ขายนโยบายทำไม ยุคนี้ต่อไปอนาคต ai หมดแล้ว 55555+
น่าสนใจ ให้เด็กลองใช้ให้คุ้นเคยกับเหรียญดิจิตอล คนตจว.บ้านๆก็ได้ใช้ กระตุ้นแจกเงินไม่พอ ให้คนต้องเรียนรู้ว่าเหรียญมันใช้ยังไง อะไรคือblockchain ดีไม่ดีพ่อค้าแม่ค้าได้เรียนรู้เพิ่มอีก
เข้าใจว่าblockchainมันเอาไปทำอย่างอื่นนอกจากเงินได้ เดี๋ยวให้เด็กๆไปหาไอเดียเอาจะใช้อะไร
ติดเชื้อเบียวจากดูไบแหละ กลุ่ม Y Z เขาไม่ได้โง่ขนาดนั้น
ทำไมต้อง Blockchain
ถ้าพูดถึง AI ยังจะเห็นความจำเป็นมากกว่า
ว่าแต่ blognone จะมีจัดดีเบตให้ตัวแทนแต่ละพรรคโชว์วิสัยทัศน์ด้านดิจิทัลบ้างไหมครับ
+1024
ได้แต่ถอนหายใจ และไม่ใช่แค่พรรคเดียวที่เอา buzzword แนวนี้มาหาเสียงด้วย เห็นได้จากป้ายหาเสียงข้างถนน ติดกันแทบจะไม่มีที่ว่างเลย
แต่ละพรรคที่เอานโยบายแบบนี้มาหาเสียงเนี่ย รู้เรื่องและเข้าใจเนื้อหาเหล่านี้จริงๆ แล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แจกเงินดิจิทัล ทำให้นึกถึงบาทดิจิทัล น่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน
ล็อคเชนจะช่วยตัดตัวกลางและเพิ่มความน่าเชื่อถือป.ล.
ดูเหมือนหลายๆคอมเม้นท์ชาว blognone จะมองว่า ล็อคเชนเป็นเรื่อมเพ้อฝันและไม่จำเป็น แปลกดี
ผมก็งงๆ นะ ว่าทำไมคน Blognone ถึงไม่เห็นด้วยกับการเอา Blockchain มาทำ มีแต่ว่าแจกเงิน มีแต่ว่าเอา Buzzword มาหาเสียง ทั้งที่สองอันนี้ผมว่ามันมีเหตุผลของมันอยู่
ผมว่าหลายประเทศก็ใช้การแจกเงินให้ทดลองใช้ตอนทำเงินดิจิตอลของตัวเองนะ คืออย่างแอพเป๋าตังที่รัฐบาลปัจจุบันทำก็ใช้วิธีแจกเงินเป็นตัวจุดเริ่มต้นให้คนคุ้นเคยกับการจ่ายเงินผ่าน QR ผมว่าผมค่อนข้างทึ่งนะที่มันเปลี่ยนพฤติกรรมได้จริง ๆ การจ่ายเงินผ่าน QR มันมีมานานแล้วก็จริง แต่การมาของโครงการคนละครึ่งทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องปรับตัวรองรับ QR ถึงตอนนี้มันจะไม่มีโครงการแล้ว แต่พฤติกรรมผู้บริโภคมันเปลี่ยนแล้วเป็นการจ่ายเงินผ่าน QR ผมว่าถ้าไม่มีการแจกตังยังไงแม่ค้าก็ไม่เปลี่ยนเยอะขนาดนี้ คุณป้าแม่ค้าที่ไม่รู้เรื่องเทคอะไรเลยยังต้องพยายามศึกษาเรื่องนี้เลย
โควิดก็เป็นส่วนนึงก็จริงที่ทำให้ผู้บริโภคพฤติกรรมเปลี่ยน แต่ผมว่าหลัก ๆ ก็ระบบคนละครึ่งนะที่ทำให้แม่ค้าเปลี่ยนพฤติกรรม
คราวนี้แจกตังทำบาทดิจิตอล ผมว่าไม่แปลกเท่าไรนะ
ผมก็งงนะ ปกติคนในนี้ต่อต้านการสอดส่องชีวิตประชาชนของรัฐฯจะตาย แต่ไอ้เรื่องการใช้จ่ายเงินไฮเทคแบบนี้โดนส่องเก็บข้อมูลตลอดกลับชอบ ที่รัฐฯต้องการให้ใช้ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการดูการเงินของแต่ละคนด้วย เก็บภาษีได้มากขึ้นหลบลำบาก
เพราะหลายคนในนี้เขารู้จักคิดวิเคราะห์และแยกแยะครับ ไม่ใช่เอะอะๆก็จะเอาแต่ความเป็นส่วนตัวแบบพวกอวยคริปโตบางกลุ่ม
อะไรที่รู้สึกเก็บข้อมูลเกินความจำเป็นก็ตั้งข้อสงสัย อะไรที่รู้สึกว่ามันเป็นผลดีกับประเทศชาติมากกว่าและมีข้อเสียหรือความเสี่ยงน้อยก็สนับสนุน อย่างเรื่องการเงินถ้าทำได้สมบูรณ์ที่เป็นผลดีกับเราแน่ๆคืออาชญากรรมเรื่องการเงินจะทำได้ยากขึ้นครับ
ส่วนตัวผมไม่ได้ต่อต้านการเสียภาษีครับ เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องพวกนี้เท่าไรครับ อยากเก็บเก็บไปครับข้อมูล แต่ผมก็ไม่ได้ว่าคนที่หลบเลี่ยงการเสียภาษีเป็นคนไม่ดีนะครับ อยากหลบก็หลบไป หลบให้ได้ตลอดแล้วกันครับ @_@
ส่วนไอเรื่องเอาภาษีไปใช้แล้วคุ้มค่าไม่คุ้มค่าเป็นอีกเรื่องนึงนะครับ
คนในนี้ไม่สนับสนุนนโยบายที่แจกเงินแค่เพื่อหวังผลแค่ความนิยมของประชาชน (หรือที่เรียกว่าประชานิยม) แค่นั้นครับ
ถ้าเป็นนโยบายที่หวังผลอื่นๆด้วย เช่น ผลักดันเทคโนโลยีใหม่ หรือเพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยเข้าสู่ระบบ อะไรพวกนี้ โดยพื้นฐานหลายๆคนนี้ก็เห็นด้วยครับ แค่อาจจะไม่เห็นด้วยในบางจุด หรือมองว่าบางจุดทำได้ดีกว่านี้เท่านั้นเองครับ
คุณเองก็คงไม่คิดว่าโครงการคนละครึ่งมันเพอร์เฟคไร้ที่ติสินะครับ? อย่างคนละครึ่งรอบหลังๆเนี่ย ส่วนตัวผมยังมองไม่เห็นว่ามันช่วยเรื่องที่คุณว่ามากมายขนาดนั้นเลย
ใช่ครับ เฟสหลัง ๆ ทำมาเพื่อลดการด่าเฉย ๆ ครับ
แต่ส่วนตัวผมชอบนะครับโครงการคนละครึ่ง มันช่วยให้ผมได้ต่อชีวิตจริง ๆ คนในนี้ส่วนใหฯ่อยู่วงการ IT อาจจะไม่กระทบมากตอนโควิด แต่ผมอยู่วงการโรงแรม รายได้ผมหายไปเลย 80% เหลือประทังชีวิต 20% แต่รายจ่ายเท่าเดิม ต่อให้ผมประหยัดแล้วก็ยังลำบากอยู่ดีครับ โครงการนี้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างครับอย่างน้อยก็สามารถทานอะไรที่อยากทานได้ในบางมื้อครับ ตอนนั้นคือไม่มีเงินจริง ๆ ครับ ไม่ได้ไปทำงานเลย อยู่บ้านเป็นปี ๆ อาหารตามร้านอาหารคือไม่สามารถกินได้เลย ต้องซื้อของมาทำกินเองเท่านั้นครับถึงจะอยู่รอดก็ดีที่ว่ามีโครงการคนละครึ่งที่ช่วยซื้อของที่ตลาดอยู่ ความสุขของผมช่วงนั้นคือ ได้กินซูชิตลาดนัดที่ใช้คนละครึ่งช่วยจ่าย จากเมื่อก่อนการกินร้านอาหารญี่ปุ่นตามห้างคือเรื่องปกติของผมนะครับ ผมคงบอกไม่ได้ว่าผมเป็นคนที่ลำบากที่สุด คนที่ลำบากกว่าผมมีอีกเยอะครับ แต่ผมแค่พูดในมุมมองว่าคนละครึ่ง อาจจะเป็นแค่นโยบายประชานิยมของใครบางคน แต่สำหรับบางคนมันคือช่วยให้คนหลายคนให้ผ่านช่วงเวลาที่มันลำบากไปได้ริง ๆ ครับ แต่ช่วงเฟสหลังสุดผมก็ได้เงินเดือนปกติแล้วอ่ะนะครับ คนละครึ่งก็เป็นกิมมิคตอนใช้เงินสำหรับผมเฉย ๆ ครับ แต่ผมก็เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะลุกได้ไวครับคนที่ยังลำบากและต้องการโครงการนี้ก็ยังมีครับ ผมคิดว่านะ
แล้วใครจะเป็น node ของบาทดิจิทัล บ้างครับแต่ละคนเชื่อถือได้ขนาดไหน
และ blockchain นี้มัน implement จริงๆ ยังไงใช้ database ธรรมดา แล้วเข้ารหัสเฉพาะ field ที่มัน sensitive ไม่ได้เหรอ
บอกความจำเป็นมาหน่อยครับ ในเมื่อมันไม่ได้ทำเป็น distributed ledger ที่เปิดให้เข้าร่วมและเลิก แบบสมัครใจ ?
มันมีอะไรที่ Blockchain ทำได้ แล้วเป็นประโยชน์ เหนือกว่าวิธีบ้านๆที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้วทำไม่ได้ครับ
ผมมองในทางปฏิบัติ กับคนทำงาน กับชาวบ้านเดินถนนอีก 20-40 ล้านคน ที่ไม่ใช่ tech-savvy นะครับ
ถ้ามีเคสในข้อสองขึ้นมา ชาวบ้านรีบขายลดแลกออกมาเป็นเงินครับ เพื่อลดความเสี่ยง
+1 ใช่เลย
ตามนี้แหละว่าทำไมถึงไม่เห็นด้วย ปัญหามันเยอะกว่าข้อดี
+1 ใช่เลย ที่บ้านเปิดธงฟ้าถ้าลงไปที่หมู่บ้านรู้ไหมวว่า คนใช้บัตรตอนนี้ในบางพื้นที่ เขาฝากกันไป เพราะจากบ้านไปร้านค้า ห่างกัน 40-50 โล ในหมู่บ้านไฟฟ้า+สัญญาณเน็ตไม่ดี เพราะอยู่ในพื้นที่อุทยาน ฝากคนโน้นที คนนี้ที อาศัยความเชื่อใจ บางคนเงินหาย เพราะฝากกันไปก็มี หลายครั้งต้องโทรเข้าศูนย์ของกรุงไทย สอบถาม ถ้าตามไม่ได้ว่าไปไหน แล้วจะสอบย้อนกลับอย่างไร ตัวอย่างนี้เฉพาะบัตรประชารัฐานะครับ
ถ้าคิดว่าแปลกงั้นช่วยบอกหน่อยครับว่ามันจำเป็นยังไง มีอะไรบ้างที่ทำไม่ได้ถ้าไม่ใช่ blockchain และเรื่องที่ว่ามันจำเป็นกับประเทศยังไง
แล้วก็.. เท่าที่ผมเข้าใจ แนวคิดของสกุลเงินดิจิตอลที่หลายๆประเทศกำลังทำ คือเงินในรูปแบบดิจิตอลที่รัฐรับรองโดยตรง (ปัจจุบันมีแค่ธนาคารหรือผู้ให้บริการ e-wallet นั้นๆเป็นผู้รับรอง) เช่นเดียวกับเงินกายภาพที่รัฐรับรองโดยตรง และเข้าใจว่ามันไม่จำกัดเทคโนโลยีว่าต้องเป็น blockchain ไม่ใช่หรอกเหรอครับ?
ช่วยบอกความจำเป็นของบล็อกเชนหน่อยครับ เอาเฉพาะแค่ในเคสของนโยบายหาเสียงนี้ก็ได้
The Dream hacker..
ประเทศไทย เลยจุดที่จำเป็นต้องใช้ บาทดิจิทัล เป็นการแลกเปลี่ยนหลักไปแล้วสำหรับกลุ่ม retail
เพราะตอนนี้โครงสร้างการโอนเงินในประเทศแข็งแกร่งอยู่แล้ว (promptpay นั้นแหละ)
ตอนนี้ ก็ได้แต่รอ use case ว่าจะเอามาทำอะไร
ข้อดีนึงที่เราอยากให้บาทดิจิทัลเป็นคือมันเป็นเงินสดดิจิทัลที่เทียบเท่าเงินสดจริงๆ ได้อย่างใกล้เคียง
พูดไปก่อนทำได้ไม่ได้ก็ค่อยมาลบรูปตอนหาเสียง
NFT นี่คือไม่ได้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเลยใช่มั้ยนะ
..: เรื่อยไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดในทางการเมืองคือเสียงสนับสนุน ดังนั้นนักการเมืองเลือกที่จะให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงเป็นเรื่องรอง พูดในสิ่งที่คนอยากได้ยินเป็นเรื่องหลัก ก็นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่เข้าใจได้ แต่ผมไม่เลือกแล้วคนนึง(จ้า)
นโยบายแบบนี้จะทำให้ผมไม่เลือกนะ มันเพ้อเจ้อไป NFT นี่มันเจ๊งไปแล้ว
That is the way things are.
พูดยากนะ คนอยู่บนหอคอยงาช้างก็อยากทำในสิ่งที่ตนเองอยากได้เห็น อยากได้ยิน โดยไม่สนใจที่ดูความเป็นจริง ปัญหามันอยู่ที่สิ่งที่ตัวเองอยากได้ยินมันดันต้องใช้ภาษีประชาชนนี่ด้วยสิ พอมีคนแย้งก็บอกว่าสมองอย่างคุณไม่เข้าใจผมหรอก หึ หึ หึ พรรคนี้ผมห่วงอย่างเดียว คือ เรื่องอำนาจนิยมนี่แหล่ะ ตัวบุคลากรไม่ค่อยน่าห่วงหรอก พอได้เป็นรัฐบาลก็จะตายด้วยอำนาจนิยมเช่นกัน
จริงๆ นโยบายเทคที่ประกาศออกมาน่ะ ไม่ต้องรอเลือกตั้งก็ทำได้นะ เช่น ไปตั้งบ.แล้ว demo มันขึ้นมาก็ได้นะ จะได้ดูจับต้องได้หน่อยเงินก็มี คนก็พร้อม(ต้องพร้อมแล้วล่ะถึงประกาศได้)
ไม่รู้ว่าผิกฏหมายมั้ยถ้าทำแบบนั้น หรือไปสนับสนุนบ. อื่นๆด้วยนโยบายนี้ให้เกิดจริงๆจังก่อนก็ได้นะ
ปล. แต่ไม่แน่ใจนะที่ไม่ทำเพราะน่าจะแค่เอามาหาเสียง ไม่กล้าลงทุนเองรึเปล่า ใช้เงินภาษีไม่ขาดทุนอยู่แล้ว
นักการเมืองก็เหมือนกันหมด ตอนนี้จะเอาคะแนนเสียงไงก็ต้องขายฝันกันก่อน พอได้คะแนน ก็หมดประโยชน์แล้ว
ตกยุคมากอ่ะ แต่ไม่กินความคาดหมายของผมนะ เพื่อไทยตอนนี้กลายเป็นแนวขวาๆ ไปแล้ว
เอ หรือจริงๆ แล้วมันก็ขวาแบบนี้มาตลอดแต่ผมเพิ่งรู้ตัว นั่นสินะ
ถ้าซัก 4-5 ปีก่อน เอามาพูดว่า Blockchain มาทำนี่ทำโน่นคงเท่ดี แต่สมัยนี้ผมว่าไม่ใช่แล้ว 55
📸
ก่อนหน้านี้หมดศรัทธาเพราะไม่สนใจบรรดาเสื้อแดงที่ตายไป และคนที่อยู่ในคุก
ตอนนี้หมดสิ้นความหวังเพราะ buzzword กลวงๆ
ยังขายใครได้อีกเหรอนโยบายนี้
มีแต่ Buzzword แถมไม่อัพเดทข่าวสารด้วย
น่าแปลกใจที่ไม่มีพรรคการเมืองไหนชูเรืองแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิตอลและเศรษฐกิจบ้างเลย
เห็นแต่เปรยๆแค่การสนันบสนุนการนำเทคโนโลยีไปใช้เท่านั้น