Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ซีอีโอ Automattic โพสต์บล็อกตอบโต้กับ David Heinemeier Hansson หรือ DHH ผู้สร้าง Ruby on Rails หลังจาก DHH แสดงความเห็น ต่อ สงคราม WordPress ระหว่าง Automattic กับ WP Engine ว่ากำลังทำให้วงการโอเพนซอร์สโดยรวมสกปรกขึ้น
Matt เริ่มต้นว่านี่เป็นการโต้แย้งด้วยความเคารพต่อกัน จริง ๆ ทั้งสองคนควรโทรคุยกันเอง แต่ไม่สะดวกเพราะต่างคนต่างเดินทางอยู่ เขาบอกว่า DHH พยายามบอกว่าตนคือผู้เชี่ยวชาญโอเพนซอร์ส แต่ผลิตภัณฑ์ในบริษัท 37signals ทั้ง Hey, Campfire, Writebook, Basecamp ต่างก็ไม่ใช่โอเพนซอร์ส แถมไม่ได้รับความนิยมมากนัก
จากนั้น Matt พูดถึงโอเพนซอร์สที่บริษัทนี้มีคือ Rails ซึ่งมีโค้ด 943k บรรทัด เทียบกับโอเพนซอร์สของ Automattic ที่มี 6.58M บรรทัด เขาบอกว่าถึงตรงนี้ ไม่แน่ใจว่าใครรันวงการโอเพนซอร์สกันแน่ แถมคนอื่นก็ต่อยอด Rails ไปสร้างผลิตภัณฑ์ทำเงินเช่น Shopify ขณะที่ DHH ไปไม่ถึงจุดนั้น
Matt ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่ง DHH ก็ควรเข้าใจดีเพราะทั้ง Rails, Ruby on Rails และโลโก้ Rails ก็จดเครื่องหมายการค้าโดยมี DHH เป็นเจ้าของ และให้ไลเซนส์ผ่าน The Rails Foundation เหมือนกัน
หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ DHH ก็โพสต์ตอบโต้เช่นกัน โดย เริ่มต้นใน X ว่า จริง ๆ เขาควรโมโหกับสิ่งที่ Matt โพสต์ แต่เห็นได้ว่า Matt มองว่าหากมีคนนำสิ่งที่เราสร้างไปทำเงินได้มากกว่า นั่นคือความล้มเหลว ซึ่งพื้นฐานโอเพนซอร์สสำหรับเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น จริง ๆ เขาภูมิใจในสิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้ง
เขาบอกว่าบริษัททั้ง Shopify, GitHub, Gusto, Zendesk, Instacart, Procore, Doximity, Coinbase ล้วนพัฒนาบน Rails และสร้างมูลค่ามหาศาล นั่นคือสิ่งที่เขาภูมิใจ แต่ถ้าเราไปมองด้วยแว่นว่าทำไมฉันไม่ได้ส่วนแบ่งจากสิ่งเหล่านี้บ้าง นั่นก็ไม่ใช่จิตวิญญาณของโอเพนซอร์ส
DHH บอกว่าหากเรามองว่าคนที่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราสร้าง ถือว่าติดหนี้เราอยู่ เราจะมองด้วยมุมมองแบบนี้ติดตัวไปตลอดและไม่มีวันจบ เราควรพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ เขายอมรับว่ามุมมองนี้อาจดูไม่ทุนนิยม แต่นั่นคือสิ่งที่เขาพอใจ
ที่มา: Matt Mullenweg และ DHH
Comments
ใครรันวงการโอเพนซอร์สมากกว่ากันตัดสินไม่ได้จากจำนวนโค้ดนะ
แต่ทัศนคติของ DHH เป็นทัศนคติที่ดีของคนทำโอเพนซอร์ส
แต่สุดท้ายผมรู้สึกว่าทั้งสองคนคุยกันคนละมุม เพราะ Matt เองก็โดน WP Engine เอาเปรียบอยู่จริงๆ
Matt โดนเอาเปรียบยังไงเหรอครับ?
Matt เคลมว่า WP Engine ไม่ได้ Contribute กลับต้นน้ำ WordPress เลย แถมบริการของ WP Engine เองก็ยังตัดฟีเจอร์สำคัญบางอย่างออกไปด้วย ที่ผมจำได้มีเท่านี้ แต่หลัก ๆ คือเรื่องไม่ช่วยส่งโค้ดกลับนั่นแหละ
ไม่น่าใช่เรื่องนี้นะครับ Matt ต้องการ 8% จากรายได้ของ WP Engine ให้ Automattic ซึ่งเป็นบริษัทของ Matt คนเดียว ไม่ได้จ่ายเข้า Wordpress foundation ด้วยซ้ำ
มีตัวเลือกอืนคือเอา8% จ่ายเป็นเงินเดือนให้พนักงานในWP Engine ที่Contributeกลับต้นน้ำแต่WP Engine ก็ไม่เอาเงื่อนไขนี้เช่นกัน เพราะแทบไม่ได้Contributeอะไรกลับต้นน้ำเลย
ตอบได้จนทัศนคติที่มีต่อ WordPress ต้องกลับมาคิดว่า ยังมั่นคงอยู่ไหม?สงสัยคงได้พัฒนาหรือ CMS สำรองแทน WordPress ซะแล้ว
พูดอะไรก็ได้เพราะมีฐานลูกค้าเป็น backup ทั่วโลก
คุณ lew คุณ mk คงดีใจที่เลือก drupal
ตกลงคุณเป็น open source หรือหรือคุณต้องการให้คนคนอื่นมาเขียนโปรแกรมให้คุณฟรีๆโดยสิทธิยังเป็นของคุณ คุณเอาไปหากินได้คนเดียว
ในเมืองไทยก็มีอยู่เจ้านึงตอนแรกก็บอกว่าเปิดเป็น open source ให้ทุกคนเอาไปใช้พอทุกคนเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับสายงานสายงานนึง หลายๆบริษัทก็มาช่วยรุมกันเขียนให้ฟรีจนกระทั่งโปรแกรมสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง สุดท้ายก็ออกมาประกาศตัวว่าตัวเองถือลิขสิทธิ์โปรแกรมอยู่ ใครจะใช้ต้องเสียเงินคราวนี้ไอ้คนที่ติดตั้งไปแล้วทำยังไงล่ะเลิกใช้ก็ไม่ได้ฐานข้อมูลที่ทำลงไปตลอด 2-3 ปีจะย้ายก็ย้ายไม่ออก เพราะไอ้โปรแกรมเวรนี่มันต้องเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่นอีกมากมาย ถ้าจะเอามันออกก็จะเป็นปัญหาใหญ่โตมโหฬารก็เลยจำใจต้องจ่ายเงินในราคาแพงให้ไอ้บริษัทนี้ จากตอนแรกจ่ายครั้งเดียว ตอนหลังจ่ายรายปีมันจะเรียกยังไงก็เรียกได้เพราะเอาฐานข้อมูลเป็นตัวประกัน ถ้าไม่จ่ายก็ล็อคไม่ให้เชื่อมต่อกับโปรแกรมตัวอื่นได้
ใบ้เพิ่มเติมให้หน่อยครับว่าเจ้าไหน ผมสนใจตามไปดู
ไม่กล้าครับ กลัวโดนฟ้องงงงง
เพราะเค้าพูดมาตลอด ตอนคนที่โดนหลอกใช้เค้ารวมตัวกันไปโวยว่าทำไมทำอย่างนี้ เค้าบอกว่า เค้าเคยบอกตอนไหน ว่าเป็น open source ให้ใช้ฟรีได้ เขางอกกันไปเป็นแถบ ๆ
คนที่เค้าโดนหลอกใช้ เค้าบริสุทธิ์ใจทำให้ ช่วยกันเขียน คนจากหลาย ๆ บริษัทก็มาช่วยกันนอกเวลางาน เพราะมันเป็นประโยชน์กับคนทั่วไปเยอะแยะเลย เมื่อก่อนเสียเงินให้ของนอกเป็นล้าน ก็เลยอยากให้มีของฟรีของไทยเกิดมาให้ใช้ แต่สุดท้าย ก็โดนหลอกใช้
คนแบบนี้ ผมไม่สู้ด้วยหรอกครับ
เอาไปให้สื่อเล่นดูครับ น่าจะช่วยได้ ถ้าไม่เจอตอ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
พอจะแย้ม ๆ ได้ไหมครับว่าเป็น software ประเภทไหน
ด้านบัญชีไหมครับ
ฟังแล้วเพลียเลย
..: เรื่อยไป
คงไม่ใช่ทางการศึกษานะครับ 55+
วงการโอเพนซอร์สโดยรวมสกปรกขึ้น
โลโก้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ตรรกะ Matt ดูบิดเบี้ยว ไม่น่าเชื่อว่านี้คือคนโปรแกรมเมอร์ผมใช้ Joomla เคยคิดจะใช้ WP นะแต่มีสิ่งที่ไม่ชอบ.
คุยกันคนละเรื่อง แล้วก็ดันเอามา ตอบโต้กัน
- Automattic โดนละเมิดเครื่องหมายการค้า เลยเปิด Wars
- DHH ดันบอกว่า เขาทำเงินได้ก็เรื่องของเขาในฐานะ Open Source ไม่ควรไปขอส่วนแบ่ง
ซึ่งเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
แล้วดันมาตีกันต่อว่า "ใคร Run วงการ" ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แล้วดันใช้ Criteria คนละเรื่องเดียวกันมาวัด เช่น จำนวนบรรทัด หรือ Forge ไปทำเงินได้
คุยกันคนละเรื่อง
อ้าว ออกทะเลได้!
กรณีเครื่องหมายการค้าทำให้นึกถึงกรณี Red Hat ที่เปลี่ยน CentOS แล้วออกมาบอกว่า บริษัทยังส่งโค้ดกลับต้นน้ำเสมอ, คนดูดโค้ดไป build ไม่สร้างคุณค่าอะไร ตรงเครื่องหมายการค้า Red Hat ถอดแบรนด์ออกจากโค้ดให้ก่อนเผยแพร่ไป git.centos.org ก่อนมาเปลี่ยน เลิกเปิดซอร์สโค้ด RHEL ต่อเว็บสาธารณะ ต้องล็อกอินบัญชีลูกค้าเท่านั้นภายหลัง
กรณีนี้ยุ่งวายพอควร นอกจากนี้ยังเคยมีกรณี Elastic เปิดใจ เปลี่ยนไลเซนส์เพราะ AWS เอาโค้ดไปให้บริการแถมบอกว่าเป็นความร่วมมือกัน อีกที่น่าจะผิดเรื่องใช้ชื่อ Elasticsearch ที่เป็นเครื่องหมายการค้าอยู่ในชื่อบริการโดยตรง โดยไม่มีการขอกันก่อน.
ของ WordPress โดน WP Engine เอาเครื่องหมายการค้าที่เป็นของ Automattic มาใช้งานในชื่อ โดยใช้ WordPress.org ถ้าเป็น Elastic หรือเจ้าอื่น ๆ ในอดีตคงใช้การบังคับเปลี่ยนไลเซนส์หรือวิธีการเปิดโค้ดแทนการออกมา war ตรง ๆ แบบนี้ เพราะทั้ง Automattic กับ WP Engine เป็นคู่แข่งกันโดยตรง แถมใหญ่พอ ๆ กัน ขณะที่กรณีในอดีตเป็นใหญ่-เล็ก และเริ่มออกทะเลไปไกล
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ออกทะเลได้ .... 🚤
แต่ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับ Matt เรื่องหนึ่งคือเรืิ่อง plugin ที่ดาวน์โหลดจาก Wordpress ส่วนกลางว่าต้องมีการซื้อสิทธิ์เพื่อใช้ในการดาวน์โหลดให้ลูกค้านะ เพราะมันเป็นภาระของทาง Wordpress ถ้าจะเอาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ควรจะจ่ายในส่วนนี้ เพราะมันก็เป็นภาระของ wordpress จริงๆ server ที่โหลดไปใช้งานไม่ได้แบนวิธมาฟรีๆ ควรมี Server ของตัวเองต่างหาก
ไม่จบง่ายจริงๆ เลยประเด็นนี้
ทั้งคนใช้ WP หรือคนอื่นๆ ก็เสียงแตกออกเป็นหลายฝั่ง
CMS บางเจ้าเองก็มองเห็นโอกาสตรงนี้ อย่าง Drupal เองก็มีท่าทีจะเร่งผลักดัน Drupal Starshot เพื่อออกมาแข่งความใช้ง่าย เริ่มต้นง่ายกับ WP เหมือนกัน รวมถึงมีการ ลองทำหน้าแรกของเว็บโครงการใหม่ อีกด้วย
dark theme ของ bn ใกล้มาแน่นอนครับ 😁
แต่จริงๆ ธีมของ bn ตอนนี้ไม่ต้อง dark แล้วล่ะครับ เพราะแทบไม่มีสีสว่างละ ปรับโทนมาได้เนียนไปกับ dark theme ของบราวเซอร์ละ
..: เรื่อยไป