หลังจาก เยือนไทย เมื่อวานนี้ ล่าสุด Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA บินต่อไปเวียดนามพร้อมประกาศว่าจะเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาในเวียดนาม โดยจะมุ่งเน้นด้านปัญญาประดิษฐ์เป็นหลัก
จุดสำคัญของความร่วมมืออยู่ที่ Ecosystem ด้านนวัตกรรมที่มีชีวิตชีวาของเวียดนามโดย Jensen Huang ระบุเองว่า NVIDIA จะประโยชน์จากพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) ที่เข้มแข็งของเวียดนาม ตลอดจนความร่วมมือกับอุตสาหกรรม สตาร์ทอัพ หน่วยงานรัฐบาล และมหาวิทยาลัย
ที่ผ่านมา NVIDIA ได้ลงทุนในเวียดนามเป็นเวลากว่า 8 ปี ร่วมมือกับสตาร์ตอัปกว่า 100 ราย และมหาวิทยาลัยกว่า 65 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา NVIDIA ยังจับมือกับ FPT Smart Cloud ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์รายแรกของเวียดนาม การประกาศครั้งนี้จึงเป็นการสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นไปอีก
ที่มา: NVIDIA
Comments
ตื่นๆ
ตอนมาไทยมาเอายาดมอย่างเดียว
เมืองไทยดูไม่มั่นคงสำหรับการลงทุนนะ เกิดมาจากเหตุการณ์ทางการเมือง
กับพวกข่าวคอรับชั่นใหญ่ๆ มันแสดงให้เห็นว่า กฏที่คุยกันไว้อาจไร้ค่า หากเจอเจ้าใหญ่ โดยเฉพาะข่าว C... รอด
แล้วอีกอย่างใหญ่ๆ การศึกษาเราโดยทั่วๆไป ต่อไป อาจจะล้าหลังกว่าเวียดนาม เห็นครูทำเอกสารก็ไม่มีเวลาสอนแล้ว
การศึกษาแบบเรียนรวมก็หนึ่งในปัญหานั้นครับ ผมอยากสอนเขียนโค้ด scratch ก็ยังทำไม่ได้เลยครับเพราะมีแต่เด็กพิเศษ
ปล่อยให้ไทยฝันลมๆ แล้งๆ ที่คิดว่าตัวเองเด่น
มาดูเมืองไทยเเล้วไม่มั่นใจว่านายกคือคนไหน เลยประกาศลงทุนเวียดนามซะเลย คนไทยได้เเค่ถ่ายรูปนะครับ
ไทยนี่ทางผ่าน จริงๆเขาจะมาทำธุรกิจที่เวียดนามตะหาก
ไทยควรรีบดึง AMD official มาร่วมลงทุนด้วยเลย จะได้มีคู่แข่ง ไม่แน่ต่อไปกระแสอาจจะเปลี่ยนจาก CUDA เป็นของ AMD ก็ได้
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
จะลงด้านไหนน่ะสิ เพราะฐานใหญ่ Amd อยู่มาเล ครับโรงงาน assembly โรงเก่า
อย่างน้อยขอบริษัทแม่นำของเข้ามาขายเองแบบ intel ก็ยังดีครับ TT context
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ดีแล้ว อย่าลงเลยไทย ดีไม่ดี ต้องจ่ายส่วยอ่วม
อ้างถึงคุณ Architec
"การศึกษาแบบเรียนรวมก็หนึ่งในปัญหานั้นครับ ผมอยากสอนเขียนโค้ด scratch ก็ยังทำไม่ได้เลยครับเพราะมีแต่เด็กพิเศษ"
เข้าใจว่าที่คุณพูดถึง "เด็กพิเศษ" คาดว่าน่าจะหมายถึง "เด็กพิการ" ถ้าใช่ ผมมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับปัญหาการเรียนการสอนในประเทศนี้นะครับ ประเทศที่เขาเจริญแล้ว การเรียนรวมก็มีให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ผมว่าหากท่านมองว่ามันเป็นปัญหาจากเด็ก "พิเศษ" จริง ๆ ทำไมท่านไม่ลองมองกลับกันละครับ จริง ๆ ปัญหาอาจไม่ได้มาจากเด็กเขาก็ได้ แต่อาจจะมาจากผู้สอนที่ไม่สามารถจัดกระบวนการเรียนที่เหมาะสมกับเด็กหรือไม่ scratch ที่คุณอยากใช้สอนเด็กจริงๆ แล้ว ตัวมันคือเครื่องมือที่จะช่วยให้เด็กเข้าใจถึง Algorithm พร้อมกับการคิดเป็นเหตุเป็นผล การที่เด็กพิเศษเขาอาจจะไม่สามารถใช้เครื่องมือดังกล่าวได้ ตัวผู้สอนก็ควรที่จะเป็นคนประยุกต์ปรับเปลี่ยนเครื่องมือให้เหมาะสมกับตัวเด็กนะครับ
ปล. ผมไม่ทราบว่าสิ่งที่ท่านได้รับมาเป็นประสบการณ์ตรงหรือไปฟังเขามานะครับและหากท่านมีข้อสงสัยเรื่องการเรียนการสอนกับเด็กพิเศษจริง ๆ ผมยินดีที่จะพูดคุย เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยกันนะครับ
" ทัศนคติที่ดีของคนในสังคม จะช่วยให้สังคมน่าอยู่"
รากปัญหาการศึกษาไทยปัจจุบัน คือ child center
ช่วงยุคหลังต้มยำกุ้ง เราเคยมีศูนย์ของ AMD ที่แครายและ Intel ก็สนใจจะร่วมโครงการ SubMicron ของเราเพื่อให้เราเป็นฐานการผลิตชิป
แต่ รบ.ของโทนี่ ประกาศปฏิรูปการศึกษาโดยใช้แนวทาง child center
Intel จึงยกเลิกการเข้าร่วมทันที โดยให้เหตุผลว่า"10ปีต่อจากนี้ ประเทศไทยจะขาดแคลนบุคคลากรสายวิทย์"
แล้วหันไปลงทุนที่ มาเลเซีย,จีน,เวียดนาม แทน
เพราะฝรั่งมีสถิติ อัตราการเรียนสายวิทย์ต่อประชากร ต่ำลงอย่างน่าใจหาย หลังใช้ child center
ง่ายๆเลยคือ
child center โฆษณาว่า ให้เด็กได้เลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบแต่ความจริง เด็กก็คือเด็ก อยากเล่น ไม่อยากเรียน
ระบบจึงเบี่ยงไปทางไม่เรียน-เรียนสิ่งที่ยากน้อยกว่าวิทย์ มากขึ้นเรื่อยๆ
พอ supply คนสายวิทย์น้อย ก็หาคนสายวิทย์ได้ยาก หาได้ไม่พอความต้องการ หรือไม่ก็ต้องจ่ายราคาแพงเขาก็ไปลงทุนที่อื่นจะดีกว่า
พอผ่านไป 10ปี AMD ก็เองอยู่ไม่ได้ ปิดศูนย์ไปด้วยเราจึงไม่มี ฐาน/เชื้อ ของ บ.ชิประดับโลกอีกเลย