มีความคืบหน้าคดีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ฟ้องกูเกิล เรื่องการผูกขาดธุรกิจระบบค้นหา (Search) และศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ตัดสิน ว่ากูเกิลมีพฤติกรรมผูกขาดจริง ซึ่งกูเกิลก็เตรียมอุทธรณ์ ขณะเดียวกันศาลก็สั่งให้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และ กูเกิล เสนอแผนเยียวยาที่เป็นผลจากการผูกขาด
ประเด็นหนึ่งที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐใช้เป็นข้อมูลเพื่อแสดงว่ากูเกิลพยายามผูกขาดธุรกิจค้นหา คือการจ่ายเงินให้แอปเปิลจำนวนมากทุกปี แลกกับการเป็นระบบค้นหาค่าเริ่มต้น (default) โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐบอกว่าถ้ากูเกิลต้องเลิกจ่ายเงินส่วนนี้ แอปเปิลก็จะพัฒนาระบบค้นหาของตนเองขึ้นมาแทน ( เคยมีข่าวลือด้วย )
เรื่องนี้ทำให้ Eddy Cue รองประธานอาวุโสส่วนธุรกิจ Services ของแอปเปิล ได้ทำหนังสือชี้แจงศาลว่าสมมติฐานนี้ไม่ถูกต้อง แอปเปิลมีหลายเหตุผลที่จะไม่ทำระบบค้นหาของตนเองดังนี้
- แอปเปิลมีความสนใจธุรกิจอื่นเพื่อสร้างการเติบโตมากกว่าทำระบบค้นหา ที่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล พนักงาน และเวลาหลายปี
- ธุรกิจระบบค้นหามีความก้าวหน้ารวดเร็วจาก AI การลงทุนมหาศาลเพื่อเข้าร่วมธุรกิจนี้ จึงมีความเสี่ยงสูงมาก
- ธุรกิจระบบค้นหามีรายได้หลักจากโฆษณาแบบเจาะจง ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลักของแอปเปิล บริษัทเองก็ไม่มีทรัพยากรมารองรับส่วนธุรกิจนี้ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากระบบค้นหาเล็ก ๆ เฉพาะกลุ่มเช่นใน App Store ที่ต่างไปจากระบบค้นหาขนาดใหญ่ และการเข้าสู่ธุรกิจนี้ จะทำให้บริษัทต้องทบทวนแนวทางปกป้องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานของบริษัทครั้งใหญ่ด้วย
แอปเปิลยังยื่นคำขอต่อศาล เพื่อร่วมเป็นพยานในการพิจารณาคดี ในประเด็นการจ่ายเงินให้แพลตฟอร์มเพื่อให้กูเกิลเป็นตัวค้นหาค่าเริ่มต้นด้วย
Comments
เลือกเอาเงินปีละ 100 บาท
ดีกว่าเอาไปลงทุนค้นหาปีละ 1000 บาท
ไม่รู้กี่ปีกว่าจะได้ทุนคืน
เกิดชนะขึ้นมาโดนสั่งแยกอีก
ตอนนั้น ที่แข่งกัน มันมี Yahoo, Bing, Google
กับ DuckDuckGo (Default ของ Browser ทางเลือกอย่าง FireFox กับ opera) ไงครับ
ถ้าลงเครื่องใหม่แล้วมี Choice ให้เลือก คงกลัว DuckDuckGo แหละ มาแรงอยู่นะ
สำหรับผมที่ใช้เว็บทั่วไปไม่ชอบ DuckDuckGo เลยครับหาอะไรไม่ค่อยเจอ
โอ้ย ดอกนี้จุก!! แรงมาก!!!
แต่ผมมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มสุดๆแล้วนะ (เพราะ Google เป็นผู้ชนะด้วย) เพราะ Search engine ยังคงทำเงินได้อีกยาวนาน ต่อให้มี AI เข้ามาแบ่งเค๊กลดจำนวนการค้นหาลง แต่ถ้าเทียบต้นทุนกันแล้ว ผมว่า Search engine ธรรมดาน่าจะต่ำกว่า
..: เรื่อยไป
เอเปิล ให้ความสำคัญเรื่องเก็บข้อมูล ลุกค้ามากๆ มาทำแบบนี้ ต้องเก็บข้อมูลซึ่งไม่ตรงกับที่เอเปิลทำไว้ คือ จะไม่เก็บข้อมูลเลย สักนิดเดียว
apple ฉลาดที่ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองแต่ได้เงินมาใช้ฟรีๆไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องลงทุนไม่ต้องเสี่ยงกับการขาดทุน บริษัทเขาถึงได้โตเอาโตเอาเพราะเขารู้ว่าเขาควรจะทำอะไรและไม่จำเป็นจะต้องทำอะไร
ผมก็เคยคิดนะว่า ในเครื่องแอปเปิ้ลมีซาฟารี เปิดซาฟารีมาก็ยิงเข้าแอปเปิ้ลด็อตคอมก่อนเลย แล้วทำแอปเปิ้ลด็อตคอมเป็นเว็บค้นหา หาได้ทุกอย่างที่มีในอินเตอร์เน็ต พร้อมกันนั้นก็เสนอขายของแบบแอมะซอนไปด้วย(ขยายตัวมาจากร้านแอปเปิ้ลสโตร์ แต่ทีนี้รับสินค้าอย่างอื่นมาขายด้วย) โดยใช้คีย์เวิร์ดที่ได้จากการใช้ ai แอบฟังลูกค้าคุยกันว่าอยากได้อะไร พร้อมกันนั้นก็รับงานโฆษณาสินค้าอย่างอื่นไปด้วย
จะไปเหมือนช่วงนึงที่ Microsoft ตั้ง msn.com เป็น default ของ IE ไงครับ ไม่รู้เอาจริงไม่พอ คนรำคาญ หรือโดนฟ้องผูกขาดก่อน คนใช้เยอพ แต่ยังสู้เจ้าอื่นไม่ได้ทุกวันนี้พยายามให้ Bing เป็น default ของ Edge ก็ยังตาม Google อย่างห่าง
ทำไม search engine ของไทยต่างชาติไม่นิยม
apple ใสใจ privacy (1) , หรือ ใส่ใจความคุ้มค่าระหว่างคุณค่าจาก data เทียบกับการจัดการ privacy (2) ?
ถ้า (1) .. apple ก็น่าจะทุ่มทำ search เองเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า , หรือเลือก default เป็นเจ้าอื่นที่เน้นเรื่อง privacy .. เว้นแต่บริการ search ของ google นี่เรื่อง privacy ดีสุดแล้ว , ไม่ว่าเจ้าไหนหรือแม้แต่ทำเอง ก็ยังทำไม่ได้ทัดเทียมกับ google
ถ้า (2) .. ก็บวกลบคูณหารแล้ว , เลือกรับเงินจาก google คือได้เงินมากกว่าทางเลือกอื่น
รึมีประเด็นไหนที่มี น้ำหนัก มากกว่านี้ ? 🤔