แอปเปิลเพิ่งได้รับสิทธิบัตรใหม่ 27 รายการเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2555 โดยมีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับส่วนติดต่อผู้ใช้งานที่เด่นๆ ดังนี้
- สิทธิบัตรอุปกรณ์, วิธีการ และกราฟิกส่วนติดต่อผู้ใช้งานสำหรับการเคลื่อนย้ายวัตถุบนหน้าจอโดยไม่ใช้เคอร์เซอร์ ซึ่งครอบคลุมทั้งการสั่งงานแบบ single-touch และ multi-touch (US. Patent: 8284170)
- สิทธิบัตรการปลดล็อคหน้าจอโดยการสั่งงานแบบ gesture ซึ่งรวมถึงการปลดล็อคเพื่อเข้าถึงแอพพลิเคชันโดยตรง และการปลดล็อคหน้าจอแบบ 2 ขั้นตอน (US. Patent: 8209637)
- สิทธิบัตรด้านการออกแบบรูปแบบการจัดวางไอคอน, วัตถุ และกราฟิกหน้าจอเริ่มต้นของอุปกรณ์ (US. Patent: D668666)
- สิทธิบัตรด้านการออกแบบไอคอน (US. Patent: D668672) , (US. Patent: D668674)
เป็นที่น่าจับตามองว่าแอปเปิลจะใช้สิทธิบัตรซึ่งเพิ่งผ่านการรับรองมาสดๆ ร้อนๆ ในการฟ้องคู่แข่งรายอื่นๆ อีกหรือไม่ ซึ่งหลายฟังก์ชันที่ระบุในสิทธิบัตรข้างต้นก็มีใช้กันในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตส่วนใหญ่ที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน
ที่มา - Patently Apple
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
วิบากกรรมของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมาถึงแล้ว
แหม ถ้าไม่มีแอปเปิลลุยเปิดตลาดนี้มาก่อน ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นๆ ก็คงยังจับจดออกแบบไม่ถูก และก็คงไม่มีรายได้ถล่มทลายเหมือนตอนนี้หรอกครับ ... แค่สิทธิบัตรไม่กี่ชิ้น จิ๊บๆ ครับถ้าเทียบกับกำไรจากแนวทางที่แอปเปิลวางไว้ตั้งแต่ออก iPhone ตอนปี 2007
positivity
คิดว่าที่ Google ถอนฟ้องสิทธบัตรการเล่น video บนมือถือ และ ทั้งหมดที่เป็น siri น่าจะถอนเพื่อมาดูเชิงกันตรงนี้มากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
นิดเดียวครับ ไม่ต้องแท็ก Design Pattern
ดูวิธีการใส่ list ด้วยนะครับ ไม่ต้องเว้นบรรทัด
แก้แล้วทั้งเรื่อง list และเรื่อง tag ครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ยิ่งติดตามยิ่งรู้สึกว่า "ไปกันใหญ่แล้ว"
ถ้ามีข่าวว่า Apple จดสิทธิบัตร หลอดดูดน้ำที่ทำให้งอได้ ผมจะไม่แปลกใจเลย
ถ้าจดเพื่อป้องกันการฟ้องร้องก็ดี แต่จดเพื่อเอามาโจมตี ผมคงเบื่อกับสิทธิบัตร
รายการแรกนี่ขอจด 2008 ผ่านมา 4 ปีเพิ่งจะอนุมัติ งี้ฟ้องย้อนหลังได้เปล่านี่ เข้าข่ายกันบานเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สมเป็นแอปเปิ้ล
เยอะไปนะ เรื่องสิทธิบัตรเนี่ย เอาเวลาไปทำอย่างอื่นมั่งเหอะ
ฮาตรง หนาวกันเป็นแถว นี่แหละครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
สักหน่อย apple จะจดทะเบียนการหายใจโดยใช้ออกซิเจน ไหมครับ
เมื่อปี2008 เรื่องพวกนี้มันก็แปลกใหม่สุดๆจริงๆนั่นแหละครับ
แต่กว่าจะจดเสร็จ ก็ใช้กันทั้งโลกแล้ว =__=
จดได้ ก็ฟ้องยกเลิกได้ครับ ถ้าสิทธิบัตร มัน Evil เกินไป
ทำไมต้องหนาว เพราะไปได้แรงบันดาลใจจากแอปเปิ้ลมา ?
ปล.เหมือนบางคนจะอ่านไม่ถึง 4 บรรทัดแฮะ
เยอะ!
ก็อย่าไปลอกเขาสิจะไปกลัวทำไม คิดของใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมา
เหมือนจะทับรอยเดิมช่วง Windows แรกๆ ปะ Macintoshเดี๋ยวนี้ Android ปะทะ iOS
ก็ต้องหนาวสิ เพราะก็อปแอปเปิ้ลมาซะเยอะ
ก็จริง
ถ้าไม่ได้ลอกเขามาจะเดือดร้อนทำไมล่ะ จริงไหม?
ถ้าจะโทษควรไปโทษตัวกฏหมายมากกว่ารึเปล่าครับ เห็นหลายๆคนโทษแต่ Apple ต่อให้ Apple ไม่จด เดี๋ยวมันก็มีคนจดอยู่ดีแหละ
ผมว่าจากข่าวเก่าๆ Apple เองก็คงเจ็บแล้วจำ ไม่จดก็โดนเหล่า Troll มาแทะเล็มไม่หยุดหย่อน แต่ก็ต้องดูต่อไปว่าจดได้แล้วจะทำยังไงกับสิทธิบัตรที่มีอยู่ในมือ
น่าจะมีบทความเขียนอธิบายหลักการทำงาน,วิธีที่ได้มา,ข้อบังคับใช้และขอบเขตของสิทธิ์บัตรของอเมริกันในเวปนะครับ เพราะพออ่านข่าวนี้แล้วเทียบอยากด่าแอปเปิ้ลทันที แต่ก็มองอีกมุมเผื่อไว้ว่าต่อให้แอปเปิ้ลได้ไปก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เพียงแต่ยังไม่แน่ใจและไม่มีเวลาไปค้นคว้า text/reference เอง
สิทธิ์บัตร มันน่าจะเป็น อะไรที่ ยากกว่าการวาง icon นะ เช่น วิธีกำเนิดพลังงานไฟฟ้า หรือ การชาร์ตไฟเองระหว่างเคลื่อนไหว อะไรแบบนี้ แต่นี่มันคือการใช้ช่องว่างทางกฎหมายเล่นงานทางอ้อมชัดๆ
มีผลต่อการเลือกซื้อแทบเล็ตของผมช่วงนี้เลยครับ
อ่านมาหลายข่าว รู้สึกแอนตี้แอปเปิ้ลมากขึ้นเรื่อยๆ
จากเดิมที่ชื่นชม
ไม่รู้ว่าคราวนี้ Microsoft จะได้สมาชิกสมาคมไม่กลัวหนาวเพิ่มขึ้นหรือเปล่า
ถ้าด๋อยไม่ลอกไอเดียไอโฟนจนเกินไป (เพราะมีบอร์ดกูเกิ้ลในแอปเปิ้ล) เกินจนสตีฟโกรธจัด และซัมซุงไม่ลอกดีไซน์จนเกินไป เกินจนแทบจะเหมือนกัน แอปเปิ้ลคงไม่ตามจองเวรขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้แอปเปิ้ลไม่ได้คลั่งไล่ฟ้องดะเหมือนตอนนี้
ดีแล้วแอปเปิ้ล
กฏหมายทรัพย์สินทางปัญญา คือดาบสองคม ในการพัฒนาของโลกมนุษย์
หนาวๆ ก็เพราะทำผิดกันทั้งนั้นแหละ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
อยากรู้ว่าสงครามสิทธิบัตรขอบเขตการฟ้องร้องควรจะเป็นอย่างไร ถึงเหมาะสมไม่มากไป ไม่น้อยไป
บ.อื่นๆก็จดกันเยอะแยะนะแต่ไม่เป็นข่าว ไม่ใช่ว่ามีแต่ Apple เจ้าเดียวที่จด
ทางเลือกที่แสนโหดร้าย
1) ทำสัญญาคุ้มครองสิทธิบัตร
2) ทำสัญญาแลกเปลี่ยนสิทธิบัตร
3) โดนห้ามจำหน่าย
จะจดอะไรก็จดไปเถอะครับ มันเป็นส่วนที่เราไม่มีสิทธิตัดสินใจ ยังไงเราก็เลือกสินค้าจากฟีเจอร์และยี่ห้ออยู่แล้ว
ปลดล็อคหน้าจอแบบ Gesture กับปลดล็อคเพื่อเข้าแอพเลย...
นะ นะ นะ นี่มัน!!!
Educational Technician
นี่มันแอนดรอยชัด ๆ
55555
Android ทำออกมาใช้งานก่อน apple นะ แต่ apple เอาไปจดได้ก่อนซะงั้น เงิบเลย
+10.1
การลากเพื่อปลดล็อกหน้าจอของ iOS ก็ถือว่าเป็น gesture นะผมว่าแถม iPhone gen. 1 เปิดตัวก่อน android beta เสียอีก
เพราะจดกว้างขนาดนั้นจะอ้างอะไรก็ได้ครับ ความจริงก็รู้กันอยู่ว่าเป็นอย่างไร Apple ออกแบบมาแค่ไหน Google ออกแบบมาแค่ไหน แต่พอจดสิทธิบัตรได้ก็จบข่าวครับ
555 like
ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยนะ แต่ผมฮา 55555555
นึกถึงรูปที่ถูกดักถ่ายก่อนเข้าที่ท่องเที่ยว
เข้ามาฮ่า 5555+
ฮาาาาาา
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ขอผ้าห่มด้วย หนาวจัดๆ
งานนี้ที่โดนน้อยสุดคงจะ Windows Phone
อย่าอ่านกันแค่ผ่านๆ ก่อนแสดงความเห็นเกี่ยวกับสิทธิบัตรเข้าไปอ่านสักหน่อยก็ดีนะครับเป็นกลางกันหน่อย
ยื่นขอจดเมื่อปี 2011 ??
อันนี้ไม่ซ้ำกับของ Google เหรอหรือว่า Google ไม่ได้ยื่นขอจดเอาไว้ ??
แปลกใจแฮะที่ยื่นจดสิทธิบัตรนี้ผ่านมาได้ แต่สิทธิบัตรนี้ก็ไม่น่ากลัวเท่าไรเมื่อเทียบกับอันแรกที่ยื่นจดไว้เมื่อปี 2008 คราวนี้ Apple คงมีอาวุธเอาไว้ต่อกรและต่อรองกับคนอื่นได้อีกเยอะ
That is the way things are.
ผมเซ็งครับ เหมือนกับว่าเป็นการค่อย ๆ ปิดกั้นฝีมือการออกแบบของคนไปเรื่อย ๆ
แต่ก็ดี จะได้มีแรงบันดาลใจในการ
ลอกออกแบบใหม่ครับCoder | Designer | Thinker | Blogger
"สิทธิบัตรอุปกรณ์, วิธีการ และกราฟิกส่วนติดต่อผู้ใช้งานสำหรับการเคลื่อนย้ายวัตถุบนหน้าจอโดยไม่ใช้เคอร์เซอร์ ซึ่งครอบคลุมทั้งการสั่งงานแบบ single-touch และ multi-touch (US. Patent: 8284170)"Windows Mobile ก็ไม่มี Cursor นะฮะ =_=
"สิทธิบัตรการปลดล็อคหน้าจอโดยการสั่งงานแบบ gesture ซึ่งรวมถึงการปลดล็อคเพื่อเข้าถึงแอพพลิเคชันโดยตรง และการปลดล็อคหน้าจอแบบ 2 ขั้นตอน (US. Patent: 8209637)"แอนดรอยด์มีก่อนชัดๆ
วงการสิทธิบัตรมันจะเกรียนเกินไปแล้วววววววววววววววว
มันจะเป็น pairart ไปเองครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
prior art ครับ