จากประเด็น กฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ ตกลงแล้วการ Embed เนื้อหาถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความเห็นว่าการ embed เนื้อหาเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกมาแก้ไขเนื้อหาตรงนี้แล้ว โดยบอกว่าการ embed วิดีโอแบบ public ถือว่าเจ้าของอนุญาตให้คนทั่วไปเข้าถึงงานดังกล่าวได้ ดังนั้นการ embed ถือว่า "อาจไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์" ครับ
ที่มา - มติชน
ข้อความเดิม
การทำบล็อกแล้ว embed โพสต์ของยูทูบมาไว้ที่บล็อกของเรา ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
ตอบ การทำบล็อกแล้ว embed โพสต์ของยูทูบมาไว้ที่บล็อกของเรา ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำซ้ำงานลิขสิทธิ์ในบล็อก และถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งสิทธิในการทำซ้ำและสิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์ต่อสาธารณชน เป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์
ในกรณีของการแชร์ลิงค์ (link) เพื่อแนะนำและบอกที่มาของเว็บไซต์ ก็อาจไม่เข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อความใหม่
การทำบล็อก (Blog) แล้วนำคลิปวิดีโอของยูทูบมาเผยแพร่ที่บล็อกของเรา (embed) ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
ตอบ ถ้าเจ้าของคลิปวิดีโอบนยูทูบเผยแพร่คลิปวิดีโอนั้นในลักษณะ Public จะถือว่าเจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้สาธารณชนทั่วไปเข้าถึงงานดังกล่าวได้ เพราะฉะนั้น การทำบล็อกแล้วนำคลิปวิดีโอซึ่งเผยแพร่บนยูทูบมาไว้ที่ blog ของเราในลักษณะของ การฝังโค้ด (embed) จึงอาจไม่เข้าข่ายละเมิดเช่นเดียวกับการ share link ของคลิปวิดีโอดังกล่าวเนื่องจากการ embed หรือการ share link เป็นการอ้างอิงกลับไปยังคลิปวิดีโอของเจ้าของลิขสิทธิ์
สำหรับการดาวน์โหลด(download) คลิปวิดีโอและอัพโหลด (upload) ขึ้นใหม่ใน blog เป็นการทำซ้ำ และเผยแพร่งานลิขสิทธิ์ใน blog จึงจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
Comments
ทำไมหน่วยงานราชการไทยชอบตอบอะไรแบบก้ำกึ่งๆ ละเมิดก้อบอกละเมิดไปเลย หรือไม่ละเมิดก้อไม่ละเมิดไปเลย ไม่ใช่บอกว่าอาจจะ แบบนี้มันแปลความได้ทั้งสองแบบ
Destination host unreachable!!!
เพราะคนตัดสินคือศาลครับ ไม่ใช่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
ก็ศาลไม่ใช่หรอครับ ที่มาอ่านตัวหนังสือพวกนี้ แล้วก็ตัดสิน
ถ้าไอ้ตัวหนังสือพวกนี้มันบ่งบอกไปเลย ว่าอันนี้ผิดนะ อันนี้ไม่ผิด ก็ง่ายที่ศาลจะตัดสินหรือป่าวครับ
แล้วถ้าคนนำสื่อไปใช้ เพราะคิดว่าตัวเอง "อาจจะไม่ผิด" แล้วตอนตัดสินมัน "ผิด" ละครับ
สิ่งที่ต้องทำคือ อธิบายขั้นตอนให้ศาลเข้าใจ อันนี้ต้องพึ่งทนายที่มีความชำนาญ และข้อมูลจากผู้ชำนาญการที่ศาลเชื่อถือได้มาให้ข้อมูลจนศาลเชื่อแบบนั้นครับ
ใช่ครับ ศาลไม่ได้มีความรู้ทุกศาสตร์ แต่สามารถให้ความเป็นธรรมได้ ดังนั้นการให้ศาลเชื่อว่าฝ่ายไหนชนะความ ก็อยู่ที่ฝีปากแหละหลักฐานนั่นแหละครับ
+1
เคยเจอคนใกลตัว ที่ไม่รู้ว่าทำบางอย่างมันผิด ไม่ใช่เพราะไม่เคยอ่าน กม แต่อ่านแล้ว นึกว่าทำได้
ซ้ำครับ
เค้าไม่กล้าฟันธงหรอกครับ ถ้าเค้าตอบผิดกลัวโดนฟ้องอะครับ
เพราะคนตัดสินคือศาลไงครับ
ยังดีที่รู้ตัวทัน
ผมว่านักวิชาการของกรมเนี้ย เค้าเพิ่งเข้าใจ คำว่า embed มันคืออะไร "เมื่อวานนี้" มากกว่าครับเหอะ ๆ
นั่นแหละครับที่น่ากลัว แล้วศาลหละเข้าใจยัง
-*- น่ากลัวผุดๆ
ก็ต้องมี case แล้วเข้าไปถกกันในศาลเพื่อสร้างบรรทัดฐานก่อนครับ
ศาลใช้วิธีดูการหลักฐานและการแก้ต่างว่ามีเหตุผลตามกฏหมายหรือไม่ครับ ถ้าแก้ต่างได้ก็รอดครับ คนรวยถึงต้องมีทนายครับ ส่วนคนจนที่ติดคุกเพราะไม่เงินจ้างทนายมีความสามารถ(มีทนายฟรีขอได้แต่ก็วัดดวงเอาว่าจะเจอทนายเช้าชามเย็นชามหรือเปล่า)หรือไม่อยากเสียเวลาหรือเงินเดินทางเข้าศาล ฯลฯ ก็ยอมรับผิดรอลงอาญา หรืออะไรก็ว่าไปครับ ติดคุกฟรีก็มี
สรุปว่าศาลไม่จำต้องรู้จนกระทั่งมีการฟ้องร้องก็ได้ครับ ยกเว้นศาลจะสนใจเป็นการส่วนตัว
คิดเหมือนกันเลย
มันซับซ้อนมากกว่าแค่ embed นะครับ เพราะต้นฉบับที่เราไป embed อาจจะเป็นการรีอัพโหลดดัดแปลง ตัดเฉพาะบางส่วนมาอีกทีก็ได้ครับ
ยังไงก็ขึ้นอยู่กับศาลที่เคารพอยู่ดี
"อาจ" ?
ประเทศนี้ควรเพิ่มศาลสำหรับคดีเฉพาะทางที่ไม่ใช่คดีการเมืองได้แล้วนะครับ ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ศาลกีฬา อะไรเงี้ย
เรามีศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางนะครับ
คดีละเมิดลิขสิทธิขึ้นศาลเฉพาะครับ มีสองชั้นศาลคือชั้นต้นแล้วกระโดดไปฎีกาเลย
คำว่า "อาจ" นี่สรุปว่าถูกหรือผิดอ่ะครับ คำที่กรมใช้มันโคตรกำกวมเลย
เอาคนไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยีมาทำงานด้านนี้ก็จะเจออะไรหลุดๆแบบนี้หละครับ คนไทยชอบคิดว่ามีความอาวุโสก็จะทำได้ถูกต้องทุกเรื่องโดยไม่ต้องมีความรู้ หรือศึกษามาก่อนก็ได้ มีปริญญาคือรู้หมดทุกศาสตร์แขนงแล้ว
มันจะมี 2 เคสไง ที่กระทบหลักๆ (ไม่รวมพวกดูดไป embed อันนี้มันควรจะผิดลิขสิทธิ์อยู่ล่ะ ขึ้นกับ cc ต้นทางอีกที)
embed จาก youtube
1.1 มีปุ่ม embed แชร์ให้ ไป embed ต่อ //ไม่ควรผิดลิขสิทธิ์
1.2 ไม่มีปุ่ม embed แต่พวกละเมิด แกะ src ไป embed ต่อ //ควรผิดลิขสิทธิ์
embed จากเว็บทั่วไป ที่มี sv stream-file เอง
2.1 มีปุ่ม embed แชร์ให้ ไป embed ต่อ //ไม่ควรผิดลิขสิทธิ์ //เจ้าของ sv แบกรับภาระ data-bw เอง
2.2 ไม่มีปุ่ม embed แต่พวกละเมิด แกะ src ไป embed ต่อ //ควรผิดลิขสิทธิ์
กฏก่อนหน้านี้มันผิดทั้ง x.1 ด้วยไง ซึ่งมันปกป้อง x.2 ก็จริง แต่พวกใช้แบบ x.1 เดือดร้อน
ปล. นี่ช่วยกรมแถ-ลงให้เลยนะเนี่ย เหอะๆๆ คนออกกฎไม่ได้ใช้-คนใช้ไม่ได้ออกกฏ เป็นมันแทบทุกหน่วยงาน ของประเทศเล็กๆแถว SEA ก็เงี้ยะ วนอยู่กับที่ไม่ไปไหนซักที
จริงๆ ข้อกำหนดพวกนี้อยู่ใน พรบ.ลิขสิทธิ์ฉบับแรก (2537) เลยนะคัรบ ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ไม่ได้เกี่ยวกับ พรบ.ฉบับปัจจุบันด้วย คนละเรื่องกัน
ผมเข้าใจว่า ถ้าวีดีไหนที่ไม่อนุญาตให้ embed ต่อให้แกะsource มาได้ก็embed ไม่ได้เพราะ youtubeจะไม่ให้เล่น
ผมไปฟังอธิบดีแถลงมาและได้มีโอกาสถามประเด็น embed youtube ได้คำตอบค่อนข้างชัดเจน คืออาจไม่เข้าข่ายละเมิด การที่กฏหมายเขียนไว้กว้างๆเพราะจะให้ศาลใช้ดุลย์พินิจร่วมกับปัจจัยอื่นครับ โดยปัจจัยหลักๆที่นำมาพิจารณาคือ
1 วัตถุประสงค์ของการเอาไปใช้
2 ปริมาณการเอาไปใช้
3 การอ้างอิง หรือให้เครดิต
4 ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเจ้าของลิขสิทธิ์
คราวนี้มาอธิบายเพิ่มเติมองค์ประกอบแต่ละข้อ อย่างวัตถุประสงค์การเอาไปใช้ ที่บอกว่าถ้าใช้เชิงพานิชย์ก็อาจจะผิด เช่นถ้า embed มารวมไว้ที่เว็บเราเยอะๆ แล้วมีการเก็บค่าสมาชิกเพื่อเข้ามาใช้งาน อันนี้ผิด เพราะเอาของเค้ามาขาย แต่ถ้าแค่ติด ads ขายโฆษณา banner ในหน้าเว็บที่มี embed อันนี้ไม่ผิด แม้เว็บจะมีรายได้ แต่เนื้อหาหลักไม่ใช่ youtube ซึ่งก้เข้าองค์ประกอบข้อ 2 ปริมาณการเอาไปใช้ถ้าไม่มากพอ เช่นถ้าไม่ไม่ถึง 10% ของเนื้อหาทั้งหมดก้ไม่ผิด ส่วนข้อ 3 การอ้างอิงหรือให้เครดิตก้ใส่ไปเถอะครับว่าของใครเอามาจากไหนเพื่อ save ตัวเอง ถ้าไม่มีอาจจะโดนเล่นข้อนี้ก้ได้ ข้อสุดท้ายสำคัญเพราะเป็นตัวที่ทำให้ฟ้องกันเลย เพราะกฏหมายลิขสิทธิ์มีไว้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์หาประโยชน์จากงานของตัวเองซึ่งก้มีระยะเวลาจำกัด อาจจะแค่ 50 ปี ถ้าหมดอายุใครจะปู้ยี่ปู้ยำงานยังไงก้เอาผิดเค้าไม่ได้ เพราะช่วงเวลาที่หาประโชน์ได้ดันไม่ทำ..
ความจริงมี 2 ข้อหลักที่ทำให้เกิดปัญหาและการเอาผิดคือ วัตถุประสงค์ที่เอาไปใช้ กับผลกระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิ์
อย่างที่บอกว่าศาลจะเอาองค์ประกอบทั้ง 4 มาประกอบกันเพื่อสรุปว่าผิดรึเปล่า จึงบอกไม่ได้ว่า embed แล้วจะผิด หรือไม่ผิด ต้องดูเป็นกรณีไป ถ้าไม่ได้ทำขายหากำไรก้ไม่ผิด ถ้าบังเอิญมีรายได้แต่เจ้าของไม่กระทบเค้าก้ไม่มาฟ้อง ผมเลยอยากจะบอกว่า embed ไปเลย อย่างที่เคยทำแหละ กฏหมายทุกฉบับดูที่เจตนา มันถึงมีการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รึการ์ดสติไม่สมประกอบ คราวนี้ก้ต้องกลับมาถามตัวเองว่าคุณ embed เพื่ออะไร..
"อยากจะบอกว่า embed ไปเลย" ตรงนี้ไม่เห็นด้วยนะครับ
embed ไปเลยสุดท้ายโดนฟ้องแพ้ขึ้นมาใครรับผิดชอบล่ะครับ
เขาก็อธิบายคุณค่อนข้างชัดเจนว่า case by case นะครับ
ในบางเคสต่อให้ embed ก็ผิดนะครับ
จริงๆหลักของมันคือ Fair use ครับมีมานานมากแล้ว
ข้ออ้างที่ว่า ไม่ได้แสวงหากำไรใช้ไม่ได้นะครับ นอกจากจะไม่แสวงหากำไรแล้วจะต้องไม่กระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิเกินสมควรด้วย
ถ้าเป็นผมก็บอกเหมือนเดิมครับอย่าเสี่ยง
ถ้าเลือกที่จะทำก็ต้องแบกรับความเสี่ยงกันเอาเอง
กฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ได้แค่เพียง "เปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์หาประโยชน์จากงานของตัวเอง" แต่ยังให้สิทธิเจ้าของลิขสิทธิ์จัดการดูแลการที่คนอื่นมาทำอะไรกับผลงานของตนเองด้วยครับ
ลิขสิทธิ์กับหลักการแชร์บน internet ผมพูดตามตรงเลยนะมันขัดแย้งกันเองด้วยซ้ำ
ผมเองเคยโดนละเมิดลิขสิทธิ์บทความจากสำนักพิมพ์ในไทยมาแล้วครับสมัยที่ยังละอ่อนไม่มีความรู้ด้านนี้
ผมก้ไม่ได้ฟันธงว่ามันไม่ผิดนะ แค่ถ้าพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆด้วยแล้วไม่เข้าข่ายก้ embed ไปเลย ส่วน fair use ก้ยังต้องตีความเพิ่มอยู่ดีอย่างถ้าผมทำเว็บวิจารณ์หนัง รึให้ข้อมูลหนัง ถ้าไม่เอา trailer หนังมาแปะ เว็บผมมันก้ไม่สมบูรณ์ ไม่น่าสนใจคนเข้าใช้งานน้อย แบบนี้ใครรับผิดชอบล่ะครับ คนทำเว็บเกิน 50% ต่อให้ไม่ใช่ e-commerce ผมว่าหาก้รายได้จากเว็บทั้งนั้น ติด adsense มั่ง ขาย banner มั่ง
อย่างที่คุณบอกว่านอกจากจะไม่แสวงหากำไรแล้วจะต้องไม่กระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิเกินสมควรด้วยอันนี้ก้ถูกต้องครับ และเป็น 2 ใน 4 องค์ประกอบที่ใช้พิจารณา เหมือนที่ผมเขียนไว้เหมือนกันว่าความจริงมี 2 ข้อหลักที่ทำให้เกิดปัญหาและการเอาผิดคือ วัตถุประสงค์ที่เอาไปใช้ กับผลกระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิ์
ผมว่ามาถกเถียงเรื่องผิดไม่ผิด มันไม่จบหรอกครับ เพราะเราไม่ใช่คนตัดสิน เราควรมาเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยในเชิงสร้างสรรค์เป็น embed ยังไงให้ไม่เข้าข่ายละเมิดดีกว่า เพื่อให้คนอื่นมั่นใจว่าตัวเองจะ embed ได้อย่างไม่มีปัญหา
ขอแสดงความเสียใจที่ผลงานโดนละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ..
ควรไปอ่าน user agreement ใน you tube ก่อนครับ ว่าการ upload เข้าไปใน you tube ได้เขียน agreement ของเรื่อง embed ไว้ว่าอย่างไรบ้าง
ถ้าความผิดเกิดที่ไทยก็คงต้องว่ากันตามกฎหมายไทยครับ แต่ Youtube ที่ server อยู่นอกแบบนี้ ตรงนี้ผมไม่ทราบเหมือนกัน
"ความเข้าใจผิดที่ 9: งานที่มีลิขสิทธิ์จะได้รับคุ้มครองลิขสิทธิ์ไปหมดทุกประเทศในโลก" - http://prachatai.org/journal/2013/01/44561
Agreement ของ Youtube (ที่ร่างตาม US DMCA) ก็ของ Youtube ครับ คนละเรื่องกับกฏหมายไทย อันนั้น Youtube เอาไว้ protect ตัวเอง ไม่ให้โดนฟ้องมากกว่าครับ
แอบสงสัยนิดหน่อยครับ
การนำ URL ของ Image, Video ที่เป็น hot link, หรือแม้แต่ใส่ ifame ของ web page ใดๆ มาแปะใน Web ของเรา โดยไม่ได้ขออนญาตก่อน ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ใช่หรือไม่? เพราะไม่ได้ทำผ่าน Embeded Widget ของต้นทาง Content นั้นๆ
การ capture ข้อความ post ต่างๆ, หรือ comment ไปส่งต่อ, ไปรายงานข่าว, ไปเขียนดราม่า โดยไม่ได้ขออนญาตก่อน อันนี่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่?
ความเห็นส่วนตัวนะคับ ข้อ1 นี่ความเสี่ยงสูงที่จะผิดนะคับ ยิ่งถ้าบอกว่า ไม่ขออนุญาตก่อน แต่ถ้าเป็นส่วนที่เค้าอนุญาตให้ทำอยู่แล้วเช่น ราคาน้ำมัน ราคาทอง พวกนี้น่าจะไม่เป็นไร เพราะมีข้อมูลอ้างอิงระบุอยู่ว่าเอามาจากไหนส่วนข้อ 2 นี่ ต้องเข้าใจก่อนว่างานที่มีลิขสิทธิ์ต้องมีความสร้างสรรค์และมีความพยายามในการสร้างเพียงพอ ถ้าเป็นบทความบทวิจารณ์ที่ต้องใช้ประสบการณ์ ความรู้ การขัดเกลาภาษามาใช้ ถือว่ามีลิขสิทธิ์ แต่ถ้าแค่เป็นการพูดคุย การแสดงความคิดเห็นทั่วๆไป ยังไม่ถือว่ามีลิขสิทธิ์พอ เพราะใครๆก้ทำได้ คราวนี้ก้มาดู case by case เลยคับ เช่นรายงานข่าวแม้ไม่ได้ขออนุญาตแต่มีการระบุถึงเจ้าของอันนี้เข้าข่ายข้อยกเว้น (fair use) ฉบับเดิมอยุ่แล้วคับ.. ส่วนเขียนดราม่านี่ อาจจะไม่ได้ผิดกฏหมายลิขสิทธิ์ แต่ผิดเรื่องหมิ่นประมาทแทน case by case เลยคับ..
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับ
เรื่องนี้น่าจะอ้างอิงข้อตกลง(บังคับ)ของยูทูป
อย่างที่ผมพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่ามันเสี่ยงครับ
เลยออกมาแก้เกี้ยวใช้คำว่าอาจ เพราะถ้าเป็นคดีในศาลจากประสบการณ์ส่วนตัวผมยังเชื่อว่ามีโอกาสแพ้คดี 60% เลย
เพราะภาระการนำสืบของฝ่ายเราเยอะกว่าโจทก์
1. เราต้องอธิบายว่า embed คืออะไรทำงานยังไงต้องไปหาพยานผู้เชี่ยวชาญมาสู้
2. ต่อให้ embed แล้วมันยังมีรายละเอียดยิบย่อยของ fair use อีก เช่น ไปรวม embed ชาวบ้านในใส่ในเว็บตนเองที่มีการสมัครสมาชิกและเสียตังค่าเข้าชมนี่ก็ไม่เข้าข่าย Fair use ต่อให้เป็นการ embed มาก็ตาม
ตามการกฎหมาย embed ถือว่าเป็นการทำซ้ำเสมอเพราะหลักการทำงานของ internet มันคือการทำซ้ำในตัวอยู่แล้ว
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าทำซ้ำโดยใคร
ผมมองว่าถ้าผู้อัพคลิปอัพบน Youtube เราไป embed มาผู้ที่ทำซ้ำคือ Youtube ไม่ใช่เรา
เมื่อเราเอาไปอัพบน youtube ถือว่าเราอนุญาตให้ youtube ทำซ้ำได้โดยปริยายอยู่แล้วตรงไม่ผิดฐานทำซ้ำ
มามองเรื่องเผยแพร่ต่อสาธารณะชนต่อ
อัพบน Youtube มิได้หมายความว่าปล่อยเป็น public เสมอไปนะครับมันมีข้อยกเว้น เช่นถ้าในคลิปมีข้อความบางอย่างที่สงวนหวงกันสิทธิบางส่วนไว้ เช่นให้มีวัตถุประสงค์ให้ embed ได้บางเว็บและใน youtube Channel เท่านั้น เราเอาไป embed บนบล็อคเราก็ไม่ได้นะครับ เพราะ youtube มันอนุญาตแค่ embed ได้หรือไม่ได้แค่นั้นมันไม่เจาะจงเว็บไซต์ขนาดนั้น
ออกมาพูด != ตราเป็นกฎหมาย
อีกอย่างนึงถ้าสังเกตดีจะเห็นว่าเขาใช้คำว่า "ถ้าเจ้าของคลิปวิดีโอบนยูทูบเผยแพร่คลิปวิดีโอนั้นในลักษณะ Public"
ซึ่งต้องเป็น public จริงๆนะครับ ไม่ใช่มีเงื่อนไขอื่นประกอบ
ข้อตกลงการใช้งานระหว่าง Youtube กับผู้อัพวีดิโอไม่ผูกพันบุคคลภายนอก อย่างพวกเรานะครับ
ดังนั้นผู้อัพจะใส่เงื่อนไขอะไรมาในคลิปเขาก็มีสิทธิที่จะทำ
และถ้ามีข้อความที่สงวนลิขสิทธิ์บางส่วนไว้ อาทิ ห้ามนำไป embed เว้นแต่จะได้รับอนุญาต แค่นี้ก็ foul สำหรับผู้ใช้อย่างเราๆท่านๆแล้วครับ เจ้าของลิขสิทธิ์ห้ามได้ขนาดระบุว่าห้ามนำไปลง embed ในเว็บที่เขาระบุก็ยังได้
เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์จะระบุเงื่อนไขเพิ่มไว้ได้อยู่แล้วกฎหมายมันเปิดช่องให้เขาทำได้