Microsoft ได้ออกรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ Surface ฉบับล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน โดยเผยว่าเป็นช่วงที่มียอดขาย Surface สูงที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งในการประกาศรอบนี้คือ Microsoft บอกว่าผู้ใช้ “ผิดหวัง” กับแลปท็อประดับโปรของ Apple (ซึ่งก็คือ MacBook Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุด) เป็นเหตุจูงใจให้คนหันมาเปลี่ยนเป็น Surface โดยในเดือนพฤศจิกายน ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Mac มาใช้ Surface มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และโครงการ MacBook trade-in program มียอดสูงขึ้นมาก แต่ Microsoft ก็ไม่ได้เผยตัวเลขที่แท้จริงของยอดขาย Surface รวมถึงจำนวน MacBook ที่ถูกนำมาเข้าโครงการดังกล่าว
ส่วนการวางจำหน่าย Surface Book with Performance Base นั้น Microsoft ประกาศว่าสำหรับประเทศลำดับถัดไปคือคือออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ว ส่วนในช่วงต้นไตรมาสหน้าก็จะวางจำหน่ายในประเทศออสเตรีย, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรเพิ่มเติม
ส่วน Surface Hub หรือกระดานไฮเทคขนาด 84 นิ้ว Microsoft เผยว่าได้ส่งสินค้าให้ผู้ใช้ 2,000 คนแล้ว ซึ่งถือว่าเกินความคาดหมาย และ Microsoft จะพยายามเพิ่มกำลังการผลิตรวมถึงเพิ่มพาร์ทเนอร์หลายแห่งทั่วโลก เพื่อให้วางขาย Surface Hub พร้อมบริการระดับ 5 ดาวให้ผู้ใช้ในวงกว้างขึ้น รวมถึงเปิดตัวโปรแกรม Try-and-Buy เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดลองตัวเครื่องเป็นเวลา 30 วันก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่อง
Microsoft ยังได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Surface Hub ด้วย ดังนี้
- รองรับระบบ Inking ของ Pen ใน Surface Hub บน Word, Excel, PowerPoint
- รองรับการใช้งานปากกาและการสัมผัสทีพร้อมกัน
- บันทึกและเรียกคืนไวท์บอร์ดได้จาก OneDrive
- รองรับอุปกรณ์ต่อภายนอก เช่น BiAmp TesireForte CI, Jabra 810, Logitech Group, Logitech PTZ Pro และ Polycom CX5100
- พรีโหลดแอพ PowerBI, OneDrive และ Photos มาให้ในตัว
ที่มา - Windows
Comments
ยินดี
Macbook ก็ออกมาได้น่าผิดหวังจริงๆ นั่นแหละนะ
แต่สายไอโฟน กับไอแพ็ด ยังแข็งโป๊กอยู่
Mac Pro สีดำตอนนี้ตกรุ่นไปไหนก็ไม่รู้แล้วหนักกว่าอีก
+1 ย้ายจาก rMBP 15'2012 มา Surface Book แต่ใช้แล้วยังไงถึงHardwareเทพแล้ว แต่ OS ยังไว้ใจไม่ได้เท่า mac จริงๆนะ เหลือแค่อย่างเดียว ถ้าเครื่องไม่งอแงใส่นี่มันเวิร์คมากพอใจมาก
ไว้ใจในแง่ไหนครับ
ผมมีประสบการ์ณในความรู้สึกปลอดภัยว่างานจะไม่ดับแล้วหายใน Macครับ หลายๆโปรแกรมที่มีทั้งใน Macและ Windowsเหมือนกันแต่เวลาเกิด error มีปัญหาดับอะไรงี้ Mac มักจะมีเหมือน Fail-safe ของมันที่ทำให้งานผมไม่หาย หรืออย่างน้อยก็ไม่ถอยไปไกลแม้จะลืมเซฟ
คือผมไม่รู้จะอธิบายเชิงเทคนิคยังไง หรืออาจจะเป็นที่ผมตั้งค่าอะไรไม่เป็นเอง แต่ใช้ Macแล้วมันเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก เลยสบายใจกว่าเวลาใช้ในมุมมอง User อย่างผมนะครับ
แล้วก็ Edge หลังๆ มานี่งอแงมากครับ ค้างบ่อย แล้วก็หลังจากตื่นจากโหมด Sleep มีแบบกดอะไรไม่ได้เลยก็มี คือมันเป็นอะไรที่พื้นฐานแต่ใช้งานบ่อย ทำให้รู้สึกเครื่องมันงอแงมากทั้งๆทีมันอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่พอจะหนีไปใช้ Chrome ก็กินแบตมากครับ
ผมไช้ google dirve & photo คอมพังก็กู้งานสำคัญใด้ครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าแล้วแต่ User อะครับ ผมใช้พวกงาน 3d / graphic ด้วยบางครั้ง บางโปรแกรม,ไฟล์ มันไม่ได้อยู่บน Cloud ทั้งหมดอะครับ แต่หลังๆก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้วใช้ตอนเรียนซะเยอะครับ เลยเลือกที่จะกลับมาใช้ Windows ด้วย(ราคา Macด้วย) แต่จากประสบการ์ณคนใช้ Mac กับ Windows โอกาสชีวิตพังแตกต่างกันชัดเจนครับ 5555 ส่วน google drive ก็ใช้ทำงานเอกสารประจำครับ สะดวกดีไม่กังวล แต่ก็มีแอบโดดไปใช้ iCloud บ้างครับจัด Layout สะดวกดี
สรุปคือ Mac มันใช้ง่ายกว่า Windows มันใช้ยากกว่าและมีปัญหาจุกจิกมากกว่า เพราะเวลามีปัญหาที บางจุด User ต้องแก้เอง ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบเซ็ตค่าหรือไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ และชอบใช้อย่างเดียว Mac มันก็เหมาะกว่าจริง ๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร Windows มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานละ ขนาด Windows 10 ตอนที่วางขาย กว่ามันจะเสถียรจนมั่นใจพอจะใช้ทำงานได้ก็ต้องรออีกหลายเดือน ถ้าใครซีเรียสเรื่องความเสถียรมาก ๆ บางทีต้องรอรุ่นใหม่ออกก่อนด้วยซ้ำ
บางจุดมันแย่กว่า คนใช้จริงเข้ามาบรรยายความรู้สึก ก็ไม่เห็นต้องไปเหน็บเค้าเลยนี่ครับ
ผมใช้ทั้ง W10 และแมคผมว่าออกแรกๆก็บัคกระจุยเหมือนกันครับ อาการแอพดับไปเฉยๆ ก็มีพอกัน แล้วเดี๋ยวนี้ก็กู้งานกลับมาได้เหมือกันสาย adobe ก็ทำได้แล้ว ผมว่าความเสถียรที่คุณพูดมันก็ทำได้เหมือนกันนะ ปัญหาบลูสกรีน แมคก็มีเกนย์สกรีน mac มี terminal W10 ก็มี bash ผมว่ามันเหลือแค่หน้าตาแอพของแต่ละเจ้าที่มาตัดสินใจกันจริงๆ ความเคยชินมันเปลี่ยนไม่ยาก
ปล. วินโดวส์มีฮาร์ดแวร์เป็นล้านยังเสถียรนน้อยกว่าแมคที่ทำเองทุกอย่าง ก็น่าพอใจแล้วละสำหรับผม surface pro ช่วงแรกสิบัคนู้นบัคนี้ทั้งที่ third party นิแทบไม่มีบัคแอบงงอยู่
ถามว่าแก้ได้ไหม ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็แก้ได้แหละ แต่บางทีปัญหามันก็ทำให้เสียเวลาชีวิตไปหน่อยนะครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังคงใช้ windows อยู่เนื่องด้วยเหตุเรื่องอื่นๆ
ผมเข้าใจที่ @Jul.1 จะสื่อนะ ถึงจะไม่เคยใช้ Mac ก็เถอะ แม้จะไม่บ่อยครั้ง แต่ก็เคยเจอโมเมนต์ WTF อยู่ ไม่ใช่งานคอขาดบาดตาย แต่อารมณ์มันได้
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมเข้าใจนะ สำหรับ Windows แล้ว บางครั้งก็ยังหวั่น สำหรับงานสำคัญก็จะประมาณนี้
ก่อนจะ Hibernate ต้อง save งานไว้ก่อน (Hibernate ทำไม 55)ก่อนจะ Sleep คิดแล้วคิดอีก เดี๋ยวไปลุ้นตอนปลุกว่าจะตื่นมั๊ย
ก่อนจะ Run อะไรหนักๆพร้อม Excel นี่ต้อง save excel ไว้ก่อน (Excel นี่ตัวดีเลย เดี้ยงไฟล์เดียวพาเพื่อนไปตายด้วย)
แต่ปรกติผม save เป็นระยะอยู่แล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาความเสียหายเลยไม่มากไม่ค่อยมีผลต่อการใช้งาน แต่มีผลทางจิตวิทยา
เปิด file history
ผมนี้ละคนนึงที่ย้าย และผมนี้ประทับใจกับ Surface Pro 4 มากครับ จอกระพริบส่งเครมไปนี้รอบที่ 5 ใน 8 เดือน
ซัพพอร์ตตอบว่าเป็นความผิดของลูกค้าที่ประสาทการมองเห็นไว้ไปจนเห็นการกระพริบ เห้ออออ ผมแบบเซงมากกับคำตอบ
มันไม่ใช่ผมเป็นคนเดียวหน่ะสิ https://answers.microsoft.com/en-us/surface/forum/surfpro4-surfperf/faint-flickering-on-certain-parts-of-surface-pro-4/cbad4371-dead-4048-8163-4d013cc99a38
แล้วได้เคลมไหมครับ?
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
น่าจะได้เคลมนะครับ เห็นว่าเคลมไปหลายรอบแล้ว
ได้ครับ เรื่อยๆด้วยครับ ใช้เวลา 4-10 วัน ในการเคลมแต่ละครั้ง ขึ้นกับความเร็วของบริษัทขนส่ง
แต่เคลมแล้วใช่ว่าจะหายนะครับ บางตัวเคลมมาเปิดแล้วกระพริบหนักมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะรอบ 2 โดนไป 3 เครื่อง ไม่ได้ใช้เครื่องไปเลยเดือนนึง
แต่หมดประกันแล้วก็ตัวใครตัวมัน ซื้อเพิ่มไม่ได้ด้วยครับ
กระพริบนี้ดำสนิทไปเลยหรือมืดลงไปเฉยๆครับ ลองปรับแสงคงที่น่าจะช่วยได้หรือเปล่า...
ไม่ได้ครับ
-ปรับค่าแสงคงที่ไม่ช่วยอะไรครับ
-ต้องใช้แสงเกิน 70% ถึงจะลดการกระพริบลงไปได้ แต่ใช้งานในชีวิตจริงไม่ได้
-ลองเอาวัสดุทึบแสงปิด light sensor ก็ไม่ได้ช่วยครับ
-ลงใหม่ ทั้งแบบใช้ Image กับแบบ Normal ก็ได้ผลไม่ต่างกัน
-ทำตามใน Support Forum ของ Microsoft ก็แก้ได้แบบไม่จริง เดี๋ยวก็เป็นอีก
รุ่นนี้ ใช้ไปซักพักจะมีอาการแบบ GPU Heat Cycle จอลาย ต้อง Hard Resetเป็นอาการปวดใจ ที่แก้ไม่จบ เครมเอาเครื่องใหม่มาก็เป็นเครื่อง Refurbished ที่ไม่ได้แก้อาการพวกนี้มาเลย บางเครื่องผมเจอบุบเจอบิ่นมาก็มี
จากที่ดูรีวิว Surface Studio มาผมคิดว่าช่องใส่ SD Card ควรอยู่ด้านหน้าหรือไม่ก็ทำจอให้หนาอีกนิด ยัดช่องใส่ SD Card สองช่องกับลำโพง
แล้วก็ควรมีช่อง USB Type C สุดท้ายน่าจะทำให้ฐานใหญ่กว่านี้อีกนิดแล้วใส่ Desktop CPU แทนจะดีกว่า
MS คงไม่คิดว่าจะมีใครซื้อมาเสพสื่อ (Entertainment) หรือคงไม่มายด์เท่าไหร่ ทำให้ตำแหน่งลำโพงปัจจุบัน เมื่อพับหน้าจอลงระดับหนึ่งจนถึงต่ำสุด เสียงลำโพงจะเปลี่ยนไป
รอดู Gen2 ครับ เชื่อว่ามันต้องมีแน่ๆ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เข้าใจว่า Surface Studio ออกมาจับตลาด Creative (ตลาดเดียวกับ Cintiq) ครับ คิดว่าถ้าจับตลาดโปร ลำโพงควรจะดีไปเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่ก็ตัดทิ้งไปเลยดีกว่า
ที่บอกว่าลำโพงดี ๆ เป็นไปไม่ได้นี่ ตัวอย่างนึงคือเรื่องการวางตำแหน่งน่ะครับ การวางตำแหน่งลำโพงให้ถูกต้องนี่มีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อยู่อย่างระยะห่างระหว่างคนนั่งกับลำโพง
เท่าที่อ่านรีวิวต่างประเทศตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าออกมายั่วสายศิลปินจริงๆ แถมกะชน Wacom Cintiq ตรงๆ ด้วยครับ
MS บอกเองเลยครับว่าออกมากะชน Cintiq ถ้าสังเกต ราคาตัว Studio Core i5 นี่พอ ๆ กับ Cintiq ที่ขนาดหน้าจอเดียวกันเลยครับ
คนที่รีวิวมาแล้วบอกว่า โดยรวม ๆ Cintiq ยังทำได้ดีกว่า แต่ว่าต้องซื้อคอมแยก (ซึ่งก็เป็นข้อดีเหมือนกัน) ในทางกลับกัน Surface ทำได้ดีตรงราคา คือราคาถูกกว่าแต่ได้ทั้งระบบเลย แล้วก็หน้าจอความละเอียดสูงกว่า
ผมเองก็รอดูว่า Wacom จะออก Cintiq ตัวท็อปรุ่นใหม่ออกมาเมื่อไหร่ เพราะว่าเพิ่งเปลี่ยนดีไซน์ไปเอง (แต่ตัว Cintiq ตัวล่างมีปากกาตัวใหม่แล้ว) ไม่แน่ว่าอาจจะออกรีโมทที่ทำได้เหมือนกับ Surface Dial ด้วย ซึ่งรีโมท Wacom ปัจจุบันก็มีที่หมุนและสามารถเอาไปติดบนจอได้ แต่ก็ไม่ได้มีปฎิสัมพันธ์อะไรกับตัวจอ
ทั้งนี้ผมก็ดูอย่างเดียวเพราะไม่มีตังค์ซื้อครับ 555
คนใช้ FCPX ยังไม่ย้ายหรือเก็บใช้ทั้งสองแบบ แต่ถ้าสาย pro adobe เพียวๆอาจจะย้ายไป แต่ก็ต้องดูระยะยาวว่าจะกลับไปตายรังหรือเปล่า แต่แมครุ่นใหม่นี่ไม่ไหวจริงๆบั๊กเยอะ
คนใช้ FCPX ยังไม่ย้ายหรือเก็บใช้ทั้งสองแบบ แต่ถ้าสาย pro adobe เพียวๆอาจจะย้ายไป แต่ก็ต้องดูระยะยาวว่าจะกลับไปตายรังหรือเปล่า แต่แมครุ่นใหม่นี่ไม่ไหวจริงๆบั๊กเยอะ
ที่ยังอยู่กับ MAC ก็เพราะ XDCAM กับ ProRes นี่แหละครับ
เป็นผมจะไป Blade Stealth หรือ Blade 2016 แทน
Hardware sf กินขาด ทั้ง studio, pro เปิดตัวทีทำแมคดูโบราณไปเลย
Software UI windows ยังดูขาดๆ เกินๆ รื้อซักทีเหอะ บางอย่างตั้งแต่สมัย 98
คือคือ ?
สัมผัสที ?
SP3 ตอนนี้ปัญหาหลัก ๆ ที่เจอคือ ... บางครั้งเครื่องมันหยุดรับอินพุททุกอย่าง (ปุ่มพาวเวอร์ ปุ่มโวลุ่ม ทัชสกรีน ทัชแพด คีย์บอร์ด เมาส์ ฯลฯ) แต่เครื่องยังทำงานอยู่ ...
ไม่ได้ใช้SF...แต่มายินดีด้วย
เป็นไปตามคาด อยากให้ Microsoft จริงจังกับตลาดตรงนี้ให้มากๆ คงมาตรฐานนี้และพัฒนาให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด Creative เอามาให้ได้เยอะๆ จะได้กระทุ้งทางฝั่ง Apple หนักๆ ให้รู้สึกตัวเสียที
กลายเป็น Apple เลิกผลิต Mac หันมาทุ่มกับ iPhone อย่างเดียว :P
จริงๆ ผมเองก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกันครับว่า Apple กำลังเลือกที่จะทิ้งตลาดตรงนี้ไป แต่ไม่ว่ายังไงถ้ามีตัวเลือกที่ทัดเทียมอย่าง Surface ก้าวขึ้นมาแทนที่ จากสภาพการณ์ในปัจจุบันผมคิดว่า user เหล่านี้ก็น่าจะสามารถตัดสินใจย้ายมาสู่ระบบใหม่ได้ไม่ยากเหมือนสมัยก่อน
อยากได้มั่ง =.=
ສະບາຍດີ :)
เรื่องจริงเรื่องหนึ่งสำหรับ แมคบุ้คคือ
- แอปเปิล ไม่ต้องการให้แมคบุ้คไปแย่งชิงตลาดกับ ไอแพดโปร เลยตั้งราคา แมคบุ้ครุ่นหลัง ที่เบา ๆ แพงมาก ทั้งที่สเปค ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากเลย- แอปเปิลไม่สนใจทำ ทัชสกรีน สำหรับแมคบุ้ค เพราะไม่ต้องการให้เหมือนกับ ไอแพด ซึ่งทั้งสองรุ่น มี มาร์จิ้นดีมาก และแทบไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้
- แอปเปิล ต้องการโปรโมต ไอโอเอส มากกว่า แมค โอเอส เพราะ ไอโอเอส คือระบบปิดสมบูรณ์แบบ คือ ลงแอพเองไม่ได้ ต้องผ่าน แอพสโตร์เท่านั้น เวลาขายแอพ ต้องจ่ายให้ แอปเปิลด้วย 30% แต่ แมคโอเอส หรือวินโดว์ ไม่ได้อะไรเลย
ตลาด ของแมค เริ่มด้วย ผู้ใช้ทั่วไป ที่ไม่ค่อยมีความรู้มากนัก ในเรื่อง คอมพิวเตอร์ โดยดูจาก ความเห็นในแง่ดีจากเนตเป็นหลัก หรือเฉพาะพวก แฟนเหนียวแน่นที่ยอมเชียร์ทุกอย่างไม่ว่า แอปเปิลจะทำอะไรก็ตาม และเริ่มขยายเข้าสู่ตลาด องค์กร และผู้ใช้ในที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้แมค แทน วินโดว์มากขึ้นแต่ขณะนี้ โดยเฉพาะ กลุ่มหลัง surface ได้ยอดไปเยอะ เพราะ ทำสินค้าได้ดีขึ้น ตอบโจทย์ ได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ง่าย ๆเลย กลุ่มการเงิน กับ กลุ่มที่ต้องใช้ word ยังไงก็หนี วินโดว์ไม่พ้น มีปากกา มีทัชสกรีน มียูเอสบี น้ำหนักเบา และ วิน 10 นานวันเข้า ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เสถียรขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว จากการอัพเดตครั้งหลัง ๆ และ ซีอีโอไมโครซอพท์ยังบอกว่า จะไม่ทำหลาย ๆ เวอร์ชั่นแล้ว ยิ่งทำให้ การพัฒนา จะทำได้โดยเฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น
ในโลกแห่งความเป็นจริงผมว่ามันตรงกันข้ามกับที่คุณว่ามานะครับ ตรงที่ Microsoft ได้ยึดตลาดผู้ใช้ทั่วไปได้มานานหลายทศวรรษแล้วยิ่งเมื่อคุณพูดถึงกลุ่มคนที่ใช้ Word นั่นก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำในเรื่องนี้ ส่วนแมคนี่ยึดตลาดเฉพาะกลุ่มมานานแล้ว เพิ่งมีหลังๆ ยุค post iPhone ที่เริ่มมีการใช้งานแพร่หลายในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ต้องออกตัวไว้ก่อนว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวผมของนะครับ
ถูกต้องครับ วินโดว์ยึดกลุ่มผู้ใชัทั่วไปมานานแล้วแต่เป็น ซอพท์แวร์ ส่วนเรื่อง ฮาร์ดแวร์จะเป็นเจ้าอื่น
แต่เมื่อมี ไอแพด สถานะการก็เปลี่ยนไป ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีความรู้เรื่อง คอมพิวเตอร์ หันกลับไปใช้ ไอแพดกันหมด เห็นได้จาก ยอดจำหน่ายโน้ตบุค ตกกันระเนระนาด มาหลายปีแล้ว รวมไปถึงแมคด้วยในปีหลัง ๆ
หลังยุคไปแพด หรือไอโฟน ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปที่มีกำลังซื้อสูง ได้รู้จักแมคมากขึ้น ทำให้ยอดขาย แมคสูงมากขึ้นไปด้วย ในยุคหลัง
ผมหมายถึง กลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง และกลุ่มที่สนใจใน คอมพิวเตอร์ เริ่มจะสนใจใน ตัวSurfacr มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้า แทบจะไม่มีฮาร์แวร์ของบริษัทไหน โดดเด่น ชนแม็คบุ้คแอร์ได้เลย จนมีกลุ่มลงวินโดว์ในบูตแคมพ์เกิดมา (กลุ่มที่อยากลองแม็ค แต่ต้องใช้วินโดว์และอยากใช้ของมีระดับด้วย)
และกลุ่มนี้แหละ จะโอนเปลี่ยน จากแมค ไปหา Surface และในอนาคต ผมก็เชื่อว่า Surface ยอดขายจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะด้วย ตัวมันเอง ไม่มีข้อจำกัด ในการพัฒนา ทั้งในเรื่อง ฮาร์ดแวร์ กัย ซอพท์แวร์ ซีพียู ที่ใส่เข้ามาเต็มที่ และไมโครซอทพ์เป็นคนพัฒนาเองทั้งฮาร์ดแวร์และซอพท์แวร์ ซึ่งจะเน้นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงเป็นหลัก (กลุ่มเดียวกับลูกค้าแอปเปิล) และจะไม่มีข้อเสียเปรียบเรื่องเงินทุนวิจัยอีกต่อไป
ขณะที่แมคบุ้ค ที่ถูกตัดตอนการพัฒนา ไม่ให้ไปไหน เพราะ ถูกจำกัดเรื่อง หน้าจอสัมผัส เรื่องปากกา ที่ไม่มีมาให้ เพราะ แอปเปิล ไม่ต้องการให้ไปแข่งหรือแย่งยอดขายจากกับ ไอแพด โปร หรือไอแพด ซึ่งในเซ้กเม้นท์นี้ แอปเปิล ไม่มีคู่แข่งมาก
โดยเฉพาะรุ่นแมคบุ้ค น้ำหนักเบา พี่ท่านเล่นใส่ ซีพียูต่ำ ๆ ไม่มีทั้ง ช่องยูเอสบี ไม่มีไรเลยแถมตั้งราคาแพงเพื่อให้หนี ไอแพด อีกต่างหาก ตัวนี้ แหละ ที่ Surface จะเอาไปกินก่อน
กลุ่มผู้ใช้ Surface ในเมืองไทย ยังน้อยอยู่ จำกัดอยู่กับกลุ่ม ที่มีกำลังซื้อ และสนใจเรื่อง คอมพิวเตอร์ที่รู้ว่าจะซื้อคอม ไปเพื่ออะไร
ขนาด ผมถือ Surface ไปเรียน คอร์ส การเล่นหุ้น มีคนร่วมห้องบางคนมาทักว่า .... เห้ย คอมพิวเตอร์ยี่ห้อ อะไรวะ เล็กดีจริง ถอดคีย์บอร์ด และ เอาปากกามาเขียน ใน oneNote เพื่อ จดโน้ตที่ อาจารย์สอนในห้องได้ด้วย มันคือแมคบุ้ครุ่นใหม่หรือป่าว..... งงไปเลยมั้ยละ
พี่ท่านคนนี้ใช้ โน้ตบุ้คอยู่ และไม่รู้ว่า Surface เป็นของ ไม่โครซอพ์ครับ
นี่คือหนึ่งเหตุผล ที่ตลาด ผู้ใช้ทั่วไป Surface ยังมีการบ้านอีกเยอะ แม้ว่าจะตอบโจทย์ ได้ดี แต่การเข้าถึง กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปในบ้านเรา (ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่กว่า กลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความรู้เรื่องคอมพ์ พอตัว) ยังต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ไม่เหมือนในอเมริกา ยุโรบ ที่ Surface ขายดิบขายดี
ไม่นับ กลุ่มที่ต่อต้านไมโครซอพท์ ทีมักพูดถึงในแง่ร้าย กันเกินจริงในเนต ที่เห็นอยู่ทั่วไป ซึ่งไมโครซอทพ์ ต้องต่อสู้ และกลุ่มนี้ ก็มีผลต่อ กลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ที่ ไม่มีเวลามาศึกษาเรื่องคอมพิวเตอร์มากนัก
MS ไม่ได้ทำตลาดในไทยจริงจังครับ
ยินดีด้วย