ข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งในปี 2017 คือ การแพร่ระบาดของมัลแวร์เข้ารหัสข้อมูล WannaCry/WannaCrypt ที่อาศัย ช่องโหว่ EternalBlue ของโพรโทคอล SMB ที่หลุดออกมาจาก NSA เป็นตัวแพร่กระจาย
ปีนี้ EternalBlue กลับมาอีกครั้งในร่างใหม่ตามสมัยนิยม นั่นคือเจาะระบบเพื่อนำคอมพิวเตอร์ที่โดนเจาะมาขุดเหรียญคริปโตนั่นเอง
บริษัทความปลอดภัย Proofpoint เปิดเผยข้อมูลของ "Smominru" บ็อตเน็ตขนาดใหญ่ที่เกิดจากการแฮ็กคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่ไม่ยอมติดตั้งแพตช์อุดช่องโหว่ EternalBlue จนสะสมพลังประมวลผลมหาศาล จากการประเมินคาดว่ามีเครื่องถูกเจาะไปประมาณ 526,000 เครื่อง ส่วนใหญ่เป็น Windows Server และตั้งอยู่ในรัสเซียมากที่สุด ตามด้วยอินเดียและไต้หวัน
Smominru เลือกใช้คอมพิวเตอร์ในเครือข่ายขุดเหรียญ Monero ได้ในอัตราวันละ 24 เหรียญ ปัจจุบันมันขุดเหรียญไปทั้งหมดแล้วประมาณ 8,900 เหรียญ ตีเป็นเงินจริงได้ที่ 2.8-3.6 ล้านดอลลาร์
งานนี้น่าจะมีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากของภาคธุรกิจต่างๆ ที่อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพที่ควรจะเป็น เพราะถูกเจาะและนำพลังประมวลผลไปใช้ขุดเหรียญนั่นเอง
ที่มา - Proofpoint
ภาพจาก Shutterstock
Comments
ไม่มาเข้ารหัสไฟล์ ก็ OK อยู่น่ะ #ผิดๆ
double pulsar นี่ก็ยังมีอัตราการเจาะได้สูงอยู่นะครับ ในไทยเครื่องที่เจ้าของไม่สนใจ แล้วไม่อัพเดทอะไรเลย (อาจจะเพราะกลัวเรื่องลิขสิทธิ์) เทียบกันได้ครึ่งต่อครึ่งเลย แถมเครื่องพวกนี้มักจะไม่ลงทุนกับ Anti-Virus ก็จะใช้ Bloatware หรือ Crabware (บางทีก็เจอ rougue AV)
Crapware ป่าวครับ? ไม่งั้นจะกลายเป็นปูเลยทีเดียว :-)
อ้อ ใช่ครับ