Instagram ประกาศปรับปรุงฟีเจอร์ในแอป เพื่อหวังลดปัญหาการถูกข่มขู่กรรโชกทางเพศออนไลน์ในเยาวชน หรือ Sextortion ซึ่ง Instagram ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บอกว่าจำนวนอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
Sextortion คือเหตุการณ์ที่ผู้ไม่หวังดี ข่มขู่หรือแบล็กเมลจะนำภาพทางเพศ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในการคุย DM เรียกร้องเงินหรือบังคับให้ส่งภาพเพิ่มเติม เป็นต้น
Instagram บอกว่าฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมนี้ เป็นการพัฒนาต่อจาก ระบบ Teen Accounts สำหรับผู้ใช้งานอายุไม่เกิน 18 ปี ที่ควบคุมบัญชีที่สามารถติดตามหรือ DM คุยได้ โดยสิ่งที่เพิ่มเติมมาได้แก่
Instagram ประกาศปรับปรุงระบบบัญชีสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มวัยรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี แบบใหม่ เรียกว่า Teen Accountsจากเดิม Instagram ใช้วิธีปรับการตั้งค่าต่าง ๆ หากผู้ใช้งานมีอายุอยู่ในกลุ่ม แต่คราวนี้บัญชีทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนมาเป็นประเภท Teen Accounts ทันที
หลักการของ Teen Accounts คือทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสบายใจมากขึ้น เมื่อวัยรุ่นใช้งานโซเชียลเพื่อติดต่อกับเพื่อน ๆ และได้เห็นคอนเทนต์ที่มีความเหมาะสม สนุก และเป็นพลังงานบวก
Spotify เปิดตัวระบบบัญชีสำหรับผู้ใช้งานอายุน้อยกว่า 13 ปี ในครอบครัวที่สมัคร Premium Family ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถจัดการกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้เองเพิ่มเติม
บัญชีสำหรับผู้ฟังรุ่นเยาว์นี้ ยังสามารถเข้าถึงเพลงและฟีเจอร์ต่าง ๆ แบบการใช้งาน Spotify ที่แตกต่างคือไม่มีการเก็บประวัติการฟังสำหรับ Wrapped ประจำปี โดยพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถกำหนดค่าเพิ่มเติม เช่น ไม่ให้เข้าชมคอนเทนต์วิดีโอ, ฟังเพลงที่มีเนื้อหารุนแรง ไปจนถึงการกำหนดระดับศิลปิน-เพลง ที่สามารถฟังได้ เป็นต้น
Spotify แนะนำครอบครัวที่ไม่ต้องการจัดการฟิลเตอร์คอนเทนต์เอง ยังสามารถเลือกใช้งาน Spotify Kids ซึ่งมีการจัดการเนื้อหาเพลงสำหรับเด็กไว้อยู่แล้ว
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DoJ) ร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแลการค้าของสหรัฐ (FTC) ยื่นฟ้อง TikTok ต่อศาลกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าบริษัทละเมิดกฎหมายการปกป้องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของเด็ก ซึ่งกฎหมายนี้กำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์ ต้องไม่เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้งานเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง รวมทั้งต้องลบข้อมูลทั้งหมดหากถูกร้องขอจากผู้ปกครอง
DoJ ยังอ้างถึงคำสั่งของ FTC ในปี 2019 ที่สั่งปรับเงิน TikTok ในประเด็นเดียวกันนี้ จึงมองว่าเป็นการทำความผิดซ้ำ โดยเอกสารอ้างคำร้องเรียนจากผู้ปกครองจำนวนมากที่พบปัญหานี้
รัฐบาลประเทศสเปนออกร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้สมาร์ทโฟนต้องเปิดฟังก์ชันการควบคุมโดยผู้ปกครอง (Perental Control) สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นเด็กเป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมและดูแลการใช้สมาร์ทโฟนของเด็ก
กฎหมายดังกล่าวต้องเข้าสู่การลงมติรับรองจากรัฐสภาพก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป
ในร่างกฎหมายฉบับนี้ยังมีอีกหลายประเด็นเพื่อควบคุมเนื้อหาดิจิทัล โดยระบุว่าภาพปลอมที่สร้างจาก AI ซึ่งมีเนื้อหาทางเพศและภาพเปลือยของเด็ก จะมีความผิดอาญาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ร่างกฎหมายยังกำหนดเพิ่มอายุขั้นต่ำของเยาวชนที่ใช้โซเชียลมีเดียซึ่งต้องมีการกำกับดูแล เช่น ห้ามคนทั่วไปติดต่อ จากเดิม 14 ปี เพิ่มเป็น 16 ปี
Epic Games ประกาศยอมความกับคณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ใน 2 ประเด็นคือ เกม Fortnite ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของเด็ก และการแอบเนียนหลอกให้ผู้ใช้กดซื้อสิ่งของในเกมโดยไม่รู้ตัว โดยจ่ายค่าปรับรวมเป็นเงิน 520 ล้านดอลลาร์
ประเด็นแรกนั้น สหรัฐมีกฎหมาย Children’s Online Privacy Protection Act (COPPA) คุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเด็กบนโลกออนไลน์ แต่เกม Fortnite กลับเก็บข้อมูลส่วนตัวของเด็กโดยไม่ได้ขอคำยินยอม (consent) จากผู้ปกครองก่อน และเปิดฟีเจอร์แชทด้วยข้อความและเสียงเป็นค่าดีฟอลต์ ทำให้เด็กที่เล่นเกมอาจถูกละเมิดจากการแชทได้ ภายใต้การยอมความนี้ Epic จะจ่ายค่าปรับ 275 ล้านดอลลาร์ และปิดฟีเจอร์แชทเป็นค่าดีฟอลต์
Epic Games เปิดตัวระบบบัญชีแบบใหม่เรียกว่า Cabined Account หรือ บัญชีจำกัด สำหรับผู้เล่นอายุน้อย ที่ยังทำให้ยังสามารถเล่นเกมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มได้แบบจำกัดบางอย่าง และผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานได้
ในช่วงแรกเกมที่รองรับ Cabined Account ได้แก่ Fortnite, Rocket League และ Fall Guys
Epic Games อธิบายการบังคับใช้ Cabined Account โดยผู้ใช้งานทุกคนจะต้องให้ข้อมูลวันเกิด หากผู้เล่นคนใดอายุน้อยกว่า 13 ปี (หรือแล้วแต่ข้อกำหนดประเทศนั้น ๆ) บัญชีจะถูกเปลี่ยนเป็น Cabined และให้ใส่อีเมลของผู้ปกครอง เพื่อให้ตรวจสอบและอนุมัติการใช้งาน
บัญชีแบบ Cabined จะยังเข้าถึงคอนเทนต์และการซื้อในอดีตได้ทั้งหมด แต่ฟีเจอร์หลายอย่างจะถูกควบคุมเช่น แชต หรือการซื้อของในเกม เป็นต้น
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานถึงพ่อคนหนึ่งใช้ชื่อ Mark ถูกกูเกิลแบนบัญชีทั้งหมดหลังเขาถ่ายรูปอวัยวะเพศลูกชายของเขาเพื่อส่งให้แพทย์ตรวจโรค และระบบอุทธรณ์ของกูเกิลไม่ยอมเปิดบัญชีคืนให้แม้เขาจะส่งหลักฐานว่าการถ่ายภาพของเขาไม่ใช่การกระทำความผิดละเมิดทางเพศเด็กก็ตาม
Mark พบว่าอวัยวะเพศของลูกชายของเขามีอาการบวม จึงถ่ายรูปเอาไว้เพื่อดูว่าเป็นปัญหาจริงหรือไม่ จากนั้นภรรยาของ Mark ติดต่อหมอแล้วแชร์ภาพที่ Mark ถ่ายเอาไว้ไปยัง iPhone ของเธอเพื่อส่งต่อให้แพทย์อีกที หลังจากนั้นแพทย์จ่ายยาปฏิชีวนะและอาการของโรคก็ดีขึ้น แต่ระบบของกูเกิลตรวจว่า Mark อัพโหลดภาพทางเพศของเด็กจึงแบนบัญชีพร้อมกับแจ้งความ
Instagram ประกาศจะเริ่มเปิดใช้ Amber Alert ระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เมื่อเกิดรายงานเหตุเด็กหายถูกลักพาตัวในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้ค้นหาเด็กได้เร็วขึ้น ( เพิ่มเติม: Amber Alert ระบบแจ้งเตือนผ่านมือถือเมื่อมีเด็กถูกลักพาตัว )
ในช่วงแรก Amber Alert จะเปิดใช้งานใน 25 ประเทศ ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งยังไม่มีประเทศไทย แต่ Instagram บอกว่าจะขยายประเทศที่รองรับในอนาคต
Instagram บอกว่าผู้ใช้งานจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนนี้บ่อยนัก ระบบจะส่งการเตือนแบบจำกัดและเฉพาะในรัศมีพื้นที่ซึ่งมีการรายงานเหตุ โดยอาศัยข้อมูลเช่น IP และพิกัดหากผู้ใช้งานเปิดไว้ เพื่อดูว่าอยู่ในกลุ่มที่ควรได้รับการแจ้งเตือนหรือไม่
มหากาพย์เอกสารภายในที่ Frances Haugen ผู้แจ้งเบาะแสแฉ Facebook เผยว่า จากการที่ผู้ใช้งานวัยรุ่นน้อยลง Facebook จึงพยายามสร้างโปรดักต์ใหม่ จับตลาดเด็กช่วงอายุ 6-9 ขวบด้วย
ที่ผ่านมา Instagram อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อการปกป้องเยาวชนให้สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียได้อย่างปลอดภัย และมาตรการล่าสุดคือ Instagram เตรียมบังคับระบุวันเกิดเพื่อให้สามารถใช้งาน Instagram ต่อไปได้ โดย Instagram ระบุว่า นี่เป็นฟังก์ชันสำคัญเพื่อการปกป้องเยาวชน
ไมโครซอฟท์กำลังทดสอบการใช้งาน เบราวเซอร์ Edge สำหรับเด็กอายุ 5-12 ปี หรือ Kids Mode กำลังเปิดทดสอบในกลุ่มผู้ทดสอบ Edge Insiders ในช่อง Dev และ Canary
Kids Mode มาพร้อม Bing SafeSearch ป้องกันการติดตามจากการ track โฆษณาต่างๆ เด็กๆ ไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้งาน เท่ากับว่าสามารถเข้าใช้งานในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่ไม่ใช่ของตนได้ และหากเข้าเว็บที่ปลอดภัยแก่เด็ก แต่ถูกปิดกั้นไว้ไม่ให้เข้า ก็สามารถสร้างคำร้องเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ได้ สำหรับผู้ปกครอง สามารถสร้างรายการเว็บไซต์ที่ปลอดภัยบน Kids Mode ได้
ไมโครซอฟท์ ออกเครื่องมือใหม่ภายใต้ชื่อ Project Artemis ที่ใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับพฤติกรรมของผู้ไม่หวังดีที่พยายามหาประโยชน์จากเยาวชนในทางที่ผิด เช่น หลอกให้ส่งรูปไม่เหมาะสม
ตัวโปรเจกต์ใช้เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรแล้วของไมโครซอฟท์ นำการสนทนาแบบแชทมาจัดอันดับเรตติ้งว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเข้าข่ายคุกคามเด็กในระดับใด ซึ่งในแต่ละบริษัทที่เข้าร่วมโปรเจกต์จะมีมาตรฐานกำกับของตัวเองว่าข้อความแบบนี้เข้าข่ายระดับไหน ควรส่งให้คนตรวจสอบหรือไม่
Facebook ประกาศโอเพนซอร์สเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับรูปภาพและวิดีโอ ที่มีการละเมิดเด็ก เพื่อให้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ นำไปใช้งาน หรือหากหน่วยงานมีเครื่องมือแบบนี้อยู่แล้ว ก็สามารถนำเทคโนโลยีของ Facebook ไปต่อยอดเพิ่มเติมได้ โดยเทคโนโลยีที่ใช้มีชื่อเรียกว่า PDQ สำหรับตรวจจับรูปภาพ และ TMK+PDQF สำหรับตรวจจับวิดีโอ
ทั้งนี้ Facebook บอกว่าเป็นครั้งแรกที่บริษัทโอเพนซอร์สที่เกี่ยวข้องกับการจับคู่ภาพและวิดีโอ ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก PhotoDNA ของไมโครซอฟท์ และเป็นการเลือกโอเพนซอร์สตามกูเกิลที่เปิด Content Safety API ไปเมื่อปีที่แล้ว
Netflix ประกาศเพิ่มคอนเทนต์ชุดใหม่ เพื่อเด็กเล็กก่อนเข้าเรียนโดยเฉพาะ มี 7 เรื่อง ยังไม่มีไทม์ไลน์การฉายชัดเจน แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงปี 2019-2020 นี้
Google ร่วมกับ Net Safety Collaborative เปิดตัวบทเรียนที่ให้ความรู้ด้านการรู้เท่าทันสื่อออนไลน์ (media literacy) ซึ่งเป็นบทเรียนภายใต้ Be Internet Awesome ที่ให้ความรู้ด้านความปลอดภัยในโลกออนไลน์
บทเรียนของ Google นี้ มีกิจกรรมหลายอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งรูปแบบการสอนจะเป็นกิจกรรมให้รู้จักและทำความเข้าใจในแต่ละหัวข้อ เช่น
กลุ่มสนับสนุนสิทธิเด็กในสหรัฐฯ ได้ทำการยื่นร้องต่อ FTC ระบุว่า Echo Dot Kids ลำโพงอัจฉริยะจาก Amazon มีการบันทึกและเก็บข้อมูลของเด็กเล็กโดยผิดกฎหมาย
ในคำร้องระบุว่า Amazon ได้ทำการเก็บข้อมูลคำสนทนากับเด็กอย่างผิดกฎหมายแม้ว่าผู้ปกครองจะพยายามลบแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นจริง Amazon จะมีความผิดตามกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวออนไลน์หรือ Children’s Online Privacy Protection Act (COPPA)
Amazon ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าทั้ง FreeTime on Alexa และ Echo Dot Kids นั้นมีการปฏิบัติตามกฎหมาย COPPA อยู่แล้ว
ที่มา - The Verge
TikTok แอปแชร์วิดีโอของ Bytedance จากประเทศจีนถูกทางการอินเดียสั่งแบน หลังพบว่าแอปแชร์วิดีโอเซลฟี่นี้มีคอนเทนต์ผิดกฎหมายปรากฏบนแพลตฟอร์ม
กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศได้ออกคำสั่งให้ทั้ง Apple และ Google ลบแอป TikTok ออกจาก App Store และ Google Play หลังจากที่ทางการสอบสวนพบว่าตัวแอปนั้นมีภาพลามกและคอนเทนต์ผิดกฎหมายอื่น ๆ ซึ่งคำสั่งนี้มาจากศาล High Court ใน Madras
คำสั่งนี้จะมีผลเฉพาะผู้ดาวน์โหลดแอปรายใหม่เท่านั้น และมีผลเฉพาะ App Store กับ Google Play ถ้าใครดาวน์โหลดนอกสโตร์ก็ไม่ได้รับผลกระทบ และผู้ดาวน์โหลดแอปไปแล้วก็ยังใช้งานได้ตามปกติ แต่ก็ทำให้ TikTok เสียผู้ใช้หน้าใหม่ในอินเดียไปได้ไม่น้อย
จากประเด็น FTC สั่งปรับ TikTok 5.7 ล้านดอลลาร์ ข้อหาไม่เคารพข้อมูลส่วนตัวของเด็ก และเรียกร้องให้ TikTok นำคลิปวิดีโอที่โพสต์โดยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีออก ล่าสุด TikTok จำกัดห้ามไม่ให้ผู้ใช้ใหม่ที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี ในการโพสต์คลิป สร้างโปรไฟล์ คอมเมนท์ หรือส่งข้อความใดๆ ได้ แต่ยังสามารถดูคลิปของคนอื่นได้ตามปกติ
การจำกัดดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันนี้ และมีรายงานด้วยว่า ผู้ใช้หลายคนที่อายุต่ำกว่า 13 ปีพบว่าโปรไฟล์ตัวเองหายไปโดยไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ
FTC คณะกรรมการค้าแห่งสหรัฐฯ สั่งปรับ TikTok หรือที่รู้จักกันในสหรัฐฯว่า Musical.ly เป็นจำนวนเงิน 5.7 ล้านดอลลาร์ ด้วยข้อหาว่าบริษัทไม่เคารพข้อมูลความเป็นส่วตัวของเด็ก โดย TikTok ไม่เพียงแต่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 13 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น แต่ยังทำให้โปรไฟล์ของเด็กๆ ให้เป็นสาธารณะอีกด้วย
FTC ยังเรียกร้องให้ TikTok เคารพกฎกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของเด็กบนออนไลน์ หรือ COPPA ในอนาคต และให้นำคลิปวิดีโอที่โพสต์โดยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีออก
กูเกิลและเฟซบุ๊กถูกวิจารณ์มานานเรื่องเนื้อหาละเมิดเด็ก และรูปเด็กถูกละเมิด ซึ่งอัลกอริทึมก็ไม่สามารถคัดกรองและจัดการได้ทั้งหมด ทำให้ต้องใช้คนเข้ามาช่วยคัดกรอง แต่การทำหน้าที่นี้ก็ทำให้เสียสุขภาพจิตมาก ล่าสุด กูเกิลทำ Content Safety API ให้องค์กรพาร์ทเนอร์และ NGO นำไปคัดกรองรูปเด็กถูกละเมิดโดยใช้พลัง AI ลดการใช้พลังงานคน
กูเกิลระบุว่า ปกติการตรวจจับเนื้อหารุปภาพละเมิดเด็กจะใช้วิธีจับคู่ภาพที่เคยระบุไว้ว่าเป็นภาพผิดกฎหมาย ซึ่ง Content Safety API จะช่วยให้สามารถติดตามผุ้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถบ่งชี้รูปภาพใหม่ที่ไม่เคยมีอยู่ในประวัติหรือยืนยันว่าเป็นภาพละเมิดเด็กมาก่อน
การใช้งานโปรแกรม Photoshop, Illustrator หรือ Lightroom บน Adobe Creative Cloud อาจต้องจ่ายค่าใช้งานเป็นจำนวนเงิน 10 - 83 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ล่าสุด Adobe ให้ใช้งานในราคาพิเศษ 5 ดอลลาร์ต่อ 1 ในไลเซนส์เท่านั้น เป็นโปรโมชั่นสำหรับเด็ก K-12 หรือตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงระดับเกรด 12 โดยเฉพาะ
ราคานี้จะจำกัดที่ 500 ไลเซนส์ต่อโรงเรียน หรือ 2,500 ไลเซนส์ต่อเขต นั่นหมายความว่า เด็กๆ จะสามารถล็อกอินเข้าระบบในอุปกรณ์ใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนเท่านั้น เด็กๆ สามารถทำโปรเจกต์นอกโรงเรียนได้ด้วย โปรโมชั่นนี้เริ่มใช้ได้ต้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
Adobe ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า Creative Cloud สำหรับ เด็กๆ K-12 สอดคล้องกับกฎหมายตุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กหรือ COPPA และสามารถตั้งค่าได้ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว นักเรียนและครูสามารถใช้รหัสที่มีอยู่ในการเข้าถึง Creative Cloud ได้เลย
การใช้งานโปรแกรม Photoshop, Illustrator หรือ Lightroom บน Adobe Creative Cloud อาจต้องจ่ายค่าใช้งานเป็นจำนวนเงิน 10 - 83 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ล่าสุด Adobe ให้ใช้งานในราคาพิเศษ 5 ดอลลาร์ต่อ 1 ในไลเซนส์เท่านั้น เป็นโปรโมชั่นสำหรับเด็ก K-12 หรือตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงระดับเกรด 12 โดยเฉพาะ
ราคานี้จะจำกัดที่ 500 ไลเซนส์ต่อโรงเรียน หรือ 2,500 ไลเซนส์ต่อเขต นั่นหมายความว่า เด็กๆ จะสามารถล็อกอินเข้าระบบในอุปกรณ์ใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนเท่านั้น เด็กๆ สามารถทำโปรเจกต์นอกโรงเรียนได้ด้วย โปรโมชั่นนี้เริ่มใช้ได้ต้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
Adobe ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า Creative Cloud สำหรับ เด็กๆ K-12 สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กหรือ COPPA และสามารถตั้งค่าได้ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว นักเรียนและครูสามารถใช้รหัสที่มีอยู่ในการเข้าถึง Creative Cloud ได้เลย
กลุ่มผู้บริโภค ผู้สนับสนุนสิทธิเด็ก และผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวกว่า 23 กลุ่มได้รวมตัวกันเพื่อยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการด้านการค้าแห่งสหพันธรัฐหรือ FTC ขอให้สอบสวนกรณีที่ YouTube ละเมิดกฎหมายปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็กหรือ COPPA ซึ่งจะต้องให้เว็บไซต์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีต้องขออนุญาตจากผู้ปกครองก่อนที่จะเก็บข้อมูลเด็ก
วิดีโอเนื้อหาทฤษฎีสมคบคิดบน YouTube เป็นปัญหาใหญ่ระดับหนึ่ง แต่คงไม่ดีแน่ถ้าวิดีโอเหล่านี้ไปปรากฏบน YouTube Kids ด้วย ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้ว โดยพบว่ามีวิดีโอของ David Icke ผู้ที่เชื่อว่ามีสัตว์สายพันธุ์ต่างดาวควบคุมโลกอยู่อย่างลับๆ เขายังเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รวมทั้งทฤษฎีที่ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหาร จอห์น เอฟ เคเนดี้ คือรัฐบาล
เว็บไซต์ Business Insider เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้ นอกเหนือจากวิดีโอของ Icke แล้ว ยังมีวิดีโอยานอวกาศลงจอดที่ดวงจันทร์ ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นของปลอม ที่สำคัญ วิดีโอทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ ยังปรากฏในแถบเมนูวิดีโอที่เกี่ยวข้องกันด้วย ซึ่งมันง่ายมากที่เด็กๆ จะกดดู
Business Insider แจ้งไปยัง YouTube แล้ว ซึ่ง YouTube ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการปัญหาดังกล่าว