Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซียประกาศสั่งห้ามหน่วยงานรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นทำแอปเพิ่ม หลังหน่วยงานต่างๆ ทำแอปแยกกันอิสระจนตอนนี้มีแอปรวมเกิน 27,000 แอป
Widodo ระบุว่าปัญหาของแอปเหล่านี้คือมันไม่ได้ทำงานร่วมกันนัก และแอปจำนวนมากก็ทำงานทับซ้อนกันไปมาก แถมยังใช้งบประมาณแต่ละปีมากถึง 6.2 ล้านล้านรูปีย์ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) และหลังจากนี้การพัฒนาแอปควรเน้นวัดผลที่ความพอใจของประชาชนและความง่ายในการทำธุรกรรม
นโยบายห้ามทำแอปใหม่ออกมาพร้อมกับการตั้ง GovTech INA Digital เป็นหน่วยงานกลางสำหรับการเชื่อมต่อบริการสาธารณะเข้าด้วยกัน โดยจะเริ่มจากบริการทางการศึกษา, สาธารณสุข, การขอใบอนุญาตธุรกิจ, และภาษีก่อน ส่วนบริการอื่นๆ จะค่อยๆ ตามมา
Elon Musk ในฐานะซีอีโอ SpaceX เดินทางไปอินโดนีเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ในประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์สุขภาพชุมชนในเมือง Denpasar ซึ่งเป็นเมืองหลักของบาหลี
ตามแผนงานในช่วงแรก Starlink จะติดตั้งในศูนย์สุขภาพตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งมีอุปสรรคในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่อินเทอร์เน็ตดาวเทียมจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
Musk กล่าวว่าการให้บริการ Starlink นี้จะช่วยชีวิตผู้คนได้อีกมาก นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสเข้าถึงทางการศึกษา ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์ต่อทุกคน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียระบุว่ามีศูนย์สุขภาพมากกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ และกว่า 2,700 แห่งที่ไม่ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ไมโครซอฟท์ประกาศการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI ในประเทศอินโดนีเซีย ในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า ด้วยเงินลงทุน 1,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะสร้างทักษะด้าน AI ให้คนประมาณ 840,000 คน
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ กล่าวว่าการลงทุนครั้งนี้ เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟท์ในอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของประเทศในยุคถัดไป
การลงทุนด้านคลาวด์และ AI นี้ จะทำต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานและศูนย์ข้อมูลของโครงการ Berdayakan Ekonomi Digital Indonesia ที่ ประกาศในปี 2021
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลเดินทางต่อไปเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หลังจาก เดินทางไปเวียดนาม เมื่อต้นสัปดาห์ โดยเขาได้เข้าพบกับ Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซียวันนี้
Cook ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหลังเข้าพบ Widodo บอกว่าประธานาธิบดีได้หารือถึงโอกาส ในการสร้างโรงงานผลิตสินค้าแอปเปิลที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสิ่งที่แอปเปิลจะพิจารณาต่อไป
ปัจจุบันแอปเปิลไม่มีฐานการผลิตสินค้าในอินโดนีเซีย แต่มีการจัดตั้ง Apple Developer Academies ร่วมกับสถาบัน 4 แห่งในประเทศ
ที่มา: Channel News Asia
TikTok ปิดดีล 1.5 พันล้านดอลลาร์ ถือหุ้นใหญ่ใน Tokopedia เพื่อเปิด TikTok Shop ในอินโดนีเซียอีกครั้ง
TikTok และ GoTo บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในอินโดนีเซีย ประกาศตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ โดย TikTok จะลงทุนเป็นเงินประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Tokopedia ที่เป็นของ GoTo ผลจากดีลนี้ทำให้ TikTok ถือหุ้น Tokopedia 75.01% และจะนำ TikTok Shop รวมเป็นส่วนหนึ่งในบริการของ Tokopedia ตามข่าวที่ออกมา ก่อนหน้านี้
TikTok Shop หยุดให้บริการในอินโดนีเซียเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว หลังจาก ทางการอินโดนีเซียสั่งแบน ห้ามโซเชียลมีเดียมีธุรกรรมซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม ซึ่งกระทบกับ TikTok มากที่สุด
มีรายงานว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ได้ทำข้อตกลงเพื่อลงทุนในส่วนธุรกิจของกลุ่มบริษัท GoTo ในอินโดนีเซีย และเตรียมร่วมมือพัฒนาบริการช้อปปิ้งภายในแอป Tokopedia โดยจะมีรายละเอียดเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
คาดว่าข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก TikTik Shop ถูกแบนในอินโดนีเซีย ตั้งแต่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตาม ข้อกำหนดของทางการ ที่ห้ามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ให้บริการซื้อขายสินค้า ซึ่งกระทบกับ TikTok โดยตรง
ถึงแม้ ByteDance และ GoTo จะทำข้อตกลงร่วมมือกันแล้ว ก็ต้องรอขั้นตอนอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในอินโดนีเซียต่อไป ทั้งนี้ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของ TikTok Shop ที่เพิ่งให้บริการไม่นาน เพิ่มขึ้นเป็น 5% ในอินโดนีเซีย
Zulkifli Hasan รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า หน่วยงานกำลังหารือเพื่อเพิ่มข้อกำหนดควบคุมอีคอมเมิร์ซในประเทศ โดยห้ามมีการทำธุรกรรมซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งโซเชียลมีเดียจะทำได้เฉพาะการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ห้ามมีธุรกรรมเกิดขึ้นในนั้น
เขาให้เหตุผลว่าโซเชียลมีเดียมีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน จึงต้องการให้แยกส่วนกับอีคอมเมิร์ซ เพื่อป้องกันไม่ให้อัลกอริทึมนำข้อมูลมาใช้ในทางธุรกิจสำหรับการซื้อขายสินค้า
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าประกาศดังกล่าวออกมาก็เพื่อควบคุม TikTok ซึ่งตอนนี้รุกมาขยายบริการอีคอมเมิร์ซในประเทศ โดยอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญที่บริษัทเคย ประกาศ ก่อนหน้านี้
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซียประกาศมอบวีซ่าพิเศษตามโครงการ Indonesia Golden Visa ของรัฐบาล ให้แก่ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI เพื่อให้เข้ามาพัฒนาวงการปัญญาประดิษฐ์แก่อินโดนีเซีย
โครงการพิเศษนี้เป็นการมอบวีซ่าให้บุคคลสำคัญระดับโลกที่เชื่อรัฐบาลเชื่อว่ามีคุณประโยชน์ต่ออินโดนีเซีย โดยตัว Sam Altman เองเคยไปเยือนอินโดนีเซียเมื่อปี 2019
ผู้ถือวีซ่านี้ได้รับสิทธิพิเศษเข้าช่องตรวจแยกต่างหาก, ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มระยะเวลาพำนักในอินโดนีเซียตามปกติ, สามารถพำนักระยะยาวกว่าปกติได้ โดยวีซ่ามีทั้งแบบอายุ 5 ปีและ 10 ปี ตัว Altman ได้รับแบบ 10 ปี
GoTo บริษัทเทคโนโลยีของอินโดนีเซียที่เกิดจากการ ควบกิจการของ Gojek และ Tokopedia ได้ประกาศว่า Andre Soelistyo จะลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ GoTo โดยมี Patrick Walujo หนึ่งในกรรมการบริษัทเข้ารับตำแหน่งแทน โดยไม่ได้ให้เหตุผลถึงการเปลี่ยนตัวผู้นำบริษัท
การแต่งตั้ง CEO ใหม่นี้ยังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น โดยจะได้รับการยืนยันในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีในวันที่ 30 มิถุนายน 2023 ขณะที่ Soelistyo จะไปนั่งเก้าอี้รองประธานกรรมการบริษัทแทน
Walujo เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ Managing Partner ของ Northstar Group (บริษัทจัดการกองทุนของสิงคโปร์) และเป็นนักลงทุนรายแรกๆ ใน Gojek
- Read more about ซีอีโอ GoTo ประกาศลงจากตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
- Log in or register to post comments
eFishery สตาร์ทอัพระบบจัดการฟาร์มเลี้ยงปลา-กุ้งจากอินโดนีเซีย เพิ่มทุนซีรี่ส์ D มีสถานะยูนิคอร์นแล้ว
มีรายงานว่า eFishery สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์น้ำจากอินโดนีเซีย ได้รับเงินเพิ่มทุนในซีรี่ส์ D อีก 108 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มเป็น 1,260 ล้านดอลลาร์ จึงเป็นสตาร์ทอัพรายล่าสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสถานะยูนิคอร์น (มูลค่ากิจการมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์)
ผู้ลงทุนรายหลักในรอบซีรี่ส์ D นำโดยกองทุน 42XFund จาก UAE ร่วมด้วยกองทุน Vision Fund 2 ของ SoftBank และมีผู้เคยลงทุนก่อนหน้านี้คือ SoftBank, Sequoia Capital ส่วนธุรกิจอินเดีย และกองทุน Temasek ของสิงคโปร์
ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy S ของซัมซุง เป็นที่นิยมของผู้ชมการแสดงคอนเสิร์ต เนื่องจากฟีเจอร์ซูมได้ในระยะไกล แต่ยังได้รูปภาพที่คุณภาพดีไม่แตก อย่าง Galaxy S23 Ultra สามารถซูมได้ถึง 100x แม้ในพื้นที่แสงน้อย ความสามารถในการซูมภาพถ่ายนี้ ส่งผลให้เกิดธุรกิจเช่าโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ถ่ายรูปในคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ โดยสามารถดูได้ในทวิตเตอร์ได้เช่น #เช่าS23Ultra หรือ #เช่าโทรศัพท์
อินโดนีเซียเตรียมออกกฎหมายเพื่อผลักดันให้มีการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าว่าจะให้มีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 2 ล้านคันภายในปี 2025
Budi Karya Sumadi รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอินโดนีเซียเป็นผู้ออกมาแถลงถึงนโยบายนี้ โดยเน้นย้ำว่าปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่จะส่งผลให้นโยบายนี้ประสบความสำเร็จได้ ทั้งเรื่องการสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, การเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จไฟและสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ และการสร้างความมั่นใจในมาตรฐานของคุณภาพมอเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
แม้ว่า Netflix และ Disney+ จะเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงภาพยนตร์แบบเสียเงินที่ได้รับความนิยมในเอเชีย แต่ในประเทศอินโดนีเซีย แอปพลิเคชันสัญชาติอินโดนีเซียอย่าง Vidio ยังคงได้รับความนิยมมากกว่า
บริษัทวิจัย Media Partners Asia เปิดเผยว่าแอปพลิเคชัน Vidio เป็นแอปสตรีมมิงแบบพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซียในแง่การชั่วโมงรับชม แม้ว่า Disney+ จะมีจำนวนสมาชิกมากกว่าแต่ส่วนใหญ่มาจากการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทโทรคมนาคม
บริษัท Sea Ltd. ยังปลดคนต่อ ล่าสุด Bloomberg รายงานว่า Sea แจ้งพนักงาน Shopee ในอินโดนีเซีย โดยปลดพนักงานออก 3% เพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท (Sea ยืนยันข่าวการปลด แต่ไม่ยืนยันจำนวน)
เมื่อต้นเดือนนี้ Sea เพิ่งปลดพนักงานในละตินอเมริกา 4 ประเทศ และปิดสำนักงานในอาร์เจนตินา ส่วน Forrest Li ซีอีโอของบริษัท แจ้งพนักงานว่าจะลดค่าใช้จ่ายของบริษัทลงในหลายด้าน ตัวเขาเองและผู้บริหารระดับสูงจะไม่รับเงินเดือนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
Sea เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2022 บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้น 29% แต่ก็ขาดทุนเพิ่มด้วยเช่นกัน
หน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการค้าของอินโดนีเซีย (KPPU) เปิดเผยว่ากำลังสอบสวน Google เรื่องการผูกขาดทางการค้าผ่านระบบชำระเงินของ Google Play
เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียพบว่า ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันบน Google Play ามจะต้องใช้บริการการชำระเงินของ Google ซึ่งเสียค่าธรรมเนียมบริการ 15-30% (มากกว่าระบบจ่ายเงินอื่น ๆ ในประเทศที่คิด 5%) รวมถึงผู้พัฒนาแอปไม่มีทางเลือกเพราะหากปฏิเสธจะถูก Google นำแอปออกจาก Google Play หรือไม่ให้อัปเดตแอปพลิเคชัน
GoTo Gojek Tokopedia บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของอินโดนีเซีย ประกาศซื้อกิจการ Kripto Maksima Koin แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของอินโดนีเซียเอง ด้วยมูลค่า 1.25 แสนล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 310 ล้านบาท
GoTo เป็นบริษัทที่รวมสองบริษัทใหญ่ของอินโดนีเซียในเวลานั้นคือ Tokopedia ที่เป็นอีคอมเมิร์ซ และ Gojek แอปเรียกรถโดยสาร โดย ไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซียเมื่อต้นปี
ปัจจุบันอินโดนีเซียบริษัทจดทะเบียนให้บริการซื้อขายคริปโต 25 ราย ซึ่ง Kripto Maksima เป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้หน่วยงานกำกับดูแลของอินโดนีเซียลงมาควบคุมแพลตฟอร์มคริปโตมากขึ้น และงดออกใบอนุญาตใหม่ในตอนนี้
ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศเชื่อมต่อระบบ QRIS เข้ากับ Thai QR และ NETS QR เปิดทางให้ผู้ใช้สามชาติสามารถจ่ายเงินตามร้านค้าด้วยการสแกนเหมือนกับการจ่ายเงินในประเทศทุกวันนี้
การเชื่อมต่อระหว่างไทยและอินโดนีเซียนั้น เริ่มทดสอบมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 ตอนนี้จะเข้าสู้ช่วงอิมพลีเมนต์จริงโดยมีผู้ให้บริการถึง 76 รายจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมโครงการ ทำให้สามารถโอนจ่ายเงินค่าบริการต่างๆ ผ่าน QR ได้ทันที และทั้งสองชาติจะร่วมมือกันเพื่อการโอนเงินข้ามประเทศที่รวดเร็วขึ้นเพิ่มความสะดวกให้กับการทำธุรกิจและแรงงานข้ามชาติต่อไป
- Read more about อินโดนีเซียเชื่อมระบบจ่ายเงิน QR กับไทยและสิงคโปร์
- 13 comments
- Log in or register to post comments
ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียได้บล็อกบริการออนไลน์หลายตัว เนื่องจากไม่ได้มา จดทะเบียนผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ ตามข้อกำหนดที่ออกมาในปี 2020 ของประเทศ แต่ล่าสุดทางการได้ปลดบล็อก PayPal, Steam และ Yahoo แล้ว
โดยตัวแทนของ PayPal กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นคำขอจดทะเบียนผู้ให้บริการ ตามข้อกำหนดของรัฐบาลท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งช่วงที่บริการถูกบล็อกบริษัทได้ขอโทษลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
จนถึงตอนนี้บริการออนไลน์ของบริษัทใหญ่ ที่ยังถูกบล็อกคือ Epic Games และ Origin นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าบริษัทใหญ่อย่าง Meta, Amazon และกูเกิล ก็มายื่นขอจดทะเบียนแบบโค้งสุดท้าย เพียง 1 วัน ก่อนข้อกำหนดมีผลบังคับใช้ ทำให้บริการของบริษัทไม่ถูกบล็อก
รัฐบาลอินโดนีเซีย นำโดยกระทรวงสื่อสารและสารสนเทศ (Communications and Information Ministry หรือ Kominfo) บล็อกบริการออนไลน์ยอดนิยม 8 รายการ ได้แก่ Yahoo, PayPal, Xandr และบริการเกมออนไลน์ยอดนิยมคือ Steam, Epic Games, Origin, Dota, Counter-Strike เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ electronic services providers (ESPs) ตามกฎกระทรวงปี 2020 ของอินโดนีเซีย
Semuel Abrijani Pangerapan ผู้อำนวยการฝ่ายจดทะเบียนผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ ออกมายืนยันข่าวการแบนนี้ โดยให้ข้อมูลว่ามีผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์จากอินโดนีเซีย 8,000 ราย และต่างประเทศ 200 รายมาจดทะเบียนเรียบร้อยตามกำหนด
GoTo Group บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของอินโดนีเซีย ได้นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว โดยขายหุ้นไอพีโอได้เงิน 15.8 ล้านล้านรูเปียห์ หรือคิดเป็น 1,100 ล้านดอลลาร์ หรือ 37,000 ล้านบาท มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ราว 28,000 ล้านดอลลาร์
GoTo ระบุว่าไอพีโอครั้งนี้ ถือเป็นไอพีโอขนาดใหญ่ที่สุดของปีลำดับที่ 3 ในทวีปเอเชีย และอันดับ 5 ของโลก มีผู้ร่วมลงทุนในไอพีโอมากกว่า 3 แสนคน มากที่สุดเป็นสถิติของตลาดหุ้นอินโดนีเซีย
GoTo เกิดจากการรวมกันของสองธุรกิจใหญ่ในประเทศคือ Tokopedia แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และ Gojek ผู้ให้บริการรถโดยสารและ O2O บริษัทบอกว่าจะนำเงินระดมทุนนี้ไปใช้ขยายธุรกิจทั้งในอินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และลงทุนในโอกาสธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กรมสรรพากรของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่าอินโดนีเซียมีแผนจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากธุรกรรมสินทรัพย์คริปโต และจะคิดภาษีจากกำไรการขาย (Capital Gain) ที่อัตราร้อยละ 0.1 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป
ปัจจุบันอินโดนีเซียกำหนดให้สินทรัพย์คริปโต มีสถานะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) จึงสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ แต่ไม่สามารถใช้ในการชำระหนี้ได้ และเนื่องจากเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ จึงทำให้ธุรกรรมซื้อขายต้องถูกคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มนั่นเอง
ข้อมูลระบุว่าตลาดการซื้อขายคริปโตในอินโดนีเซียก็เติบโตสูงในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกันในหลายประเทศ โดยมูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวจากปี 2020
GoTo บริษัทที่มาจากการรวมกิจการของสองบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในอินโดนีเซีย Gojek และ Tokopedia ประกาศเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย โดยขายหุ้นเพิ่มทุนอย่างน้อย 15.2 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท เป็นไอพีโอขนาดใหญ่รายการหนึ่งของประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย
เมื่อปลายปีที่แล้ว GoTo ประกาศ รับเงิน จากนักลงทุนรอบสุดท้ายรวม 1.3 พันล้านดอลลาร์
GoTo แบ่งโครงสร้างบริษัทปัจจุบันเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจออนดีมานด์ Gojek, อีคอมเมิร์ซ Tokopedia และฟินเทค GoTo Financial ซึ่ง GoTo ก็อธิบายความยิ่งใหญ่ของธุรกิจว่ามีมูลค่าคิดเป็น 2% ของ GDP ประเทศอินโดนีเซียในปี 2020 และบริการก็เข้าถึงประชากร 2 ใน 3 ของประเทศ
Otoritas Jasa Keuangan (OJK) หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินอินโดนีเซีย สั่งห้ามสถาบันการเงินยุ่งเกี่ยวกับเงินคริปโต ทั้งการใช้งาน, ทำตลาด, ให้บริการซื้อขายเงินคริปโต
คำสั่งนี้ออกมาไล่หลังการออกใบอนุญาตค้าเงินคริปโตในอินโดนีเซียไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยมีเงินคริปโต 229 สกุลได้รับอนุญาตให้ซื้อขายในอินโดนีเซีย การกำกับดูแลการซื้อขายเงินคริปโตของอินโดนีเซียนั้นกลายเป็นอำนาจของสำนักงานกำกับการซื้อขายฟิวเจอร์ของกระทรวงพาณิชย์ แสดงให้เห็นว่าอินโดนีเซียมองเงินคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ใช่เงินอย่างสิ้นเชิง
- Read more about อินโดนีเซียสั่งสถาบันการเงินห้ามยุ่งเกี่ยวกับเงินคริปโต
- Log in or register to post comments
Amazon Web Services (AWS) ประกาศเปิดเขต Asia Pacific (Jakarta) ใช้ตัวย่อว่า ap-southeast-3โดยถือเป็นเขต (Region) ที่สามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (1 คือสิงคโปร์, 2 คือซิดนีย์) และเขตที่ 10 ในเอเชีย
การเปิดบริการของ AWS ทำให้อินโดนีเซียมีผู้ใช้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลกครบ 3 รายแล้ว รายแรกคือ Google Cloud เปิดตัวช่วงกลางปี 2020 ตามด้วย Microsoft Azure ประกาศว่าจะเปิด (แต่ยังไม่เริ่มเปิด) ส่วน AWS ถึงแม้จะมาเป็นรายที่สาม ก็เปิดเลยทันทีก่อน Azure
ที่มา - AWS Blog
สภาผู้นำศาสนาแห่งชาติหรือ The National Ulema Council ของประเทศอินโดนีเซีย ออกมาระบุว่าคริปโตเคอเรนซีเป็นสิ่งฮะรอม (haram) หรือขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม (Sharia) เนื่องจากมีความไม่แน่นอน เข้าข่ายการพนัน และอาจก่อความเสียหาย หลังมีการพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา
แต่สภายังระบุว่าหากคริปโตเคอเรนซีถูกจัดการให้เป็นสินค้าหรือสินทรัพย์ที่ถูกหลักชารีอะห์ และมีผลประโยชน์อย่างชัดเจน ก็อาจถูกปรับให้มีการซื้อขายได้ ต่างจากท่าทีของรัฐบาลอินโดนีเซียที่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีได้ แม้ยังไม่ยอมรับเป็นค่าเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย