Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับ Bill Gates เสียชีวิตไปเมื่อปี 2018 แต่ก่อนเสียชีวิต เขาก่อตั้งพิพิธภัณฑ์คอมพิวเตอร์เก่าชื่อ Living Computers: Museum + Labsในปี 2012 ตั้งอยู่ที่เมืองซีแอทเทิล
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมคอมพิวเตอร์ยุคแรกเริ่มที่ Allen เป็นเจ้าของหรือซื้อเก็บสะสมไว้เป็นจำนวนมาก เช่น Digital Equipment Corporation PDP-10 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ Allen และ Gates ใช้เขียนโปรแกรม รวมถึงสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์อื่นๆ เช่น จดหมายของ Albert Einstein ที่เขียนถึงประธานาธิบดีสหรัฐในปี 1939 ว่าเยอรมนีอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์
Vulcan Capital บริษัทด้านการลงทุนของ Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ซึ่งเสียชีวิต แล้ว ประกาศตั้งสำนักงานต่างประเทศแห่งแรกที่สิงคโปร์ โดยเบื้องต้นมีแผนลงทุนในสตาร์ทอัพภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 100 ล้านดอลลาร์ (3,000 ล้านบาท)
Tommy Teo ผู้อำนวยการสำนักงานที่สิงคโปร์เผยว่า กองทุนมีแผนลงทุนทั้ง Seed Stage, ซีรี่ส์ A และซีรี่ส์ B หัวข้อสตาร์ทอัพที่สนใจมีทั้ง เทคโนโลยีการเงิน, เทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ และอินเทอร์เน็ตเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป ส่วนประเทศเป้าหมายการลงทุนได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
ข่าวการเสียชีวิตของพอล อัลเลน (Paul Allen) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ส่งผลให้ผู้บริหารระดับสูงของวงการไอทีออกมาแสดงความเสียใจ แต่คงไม่มีใครสำคัญไปกว่า บิล เกตส์ เพื่อนคู่หูผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทมาด้วยกัน
เกตส์เขียนรำลึกถึงอัลเลนในบล็อกส่วนตัวของเขา โดยเล่าความหลังว่าเขารู้จักอัลเลนตั้งแต่เรียนเกรด 7 ซึ่งอัลเลนแก่กว่าเขาสองปี และเป็นอัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาด้วยกันเสมอ
อัลเลนมองเห็นภาพอนาคตที่คอมพิวเตอร์จะมาเปลี่ยนแปลงโลกตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล และเป็นไอเดียตั้งต้นของไมโครซอฟท์ในเวลาต่อมา
Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อบ่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2018 ตามเวลาในอเมริกา อายุรวม 65 ปี ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
Allen ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับบิล เกตส์ ในปี 1975 บทบาทสำคัญของเขาที่ทำให้ไมโครซอฟท์เติบโตถึงทุกวันนี้ คือการทำดีลซื้อกิจการ Quick and Dirty Operating System ในปี 1980 ทำให้ DOS เป็นระบบปฏิบัติการพื้นฐานของพีซีไอบีเอ็ม
เขาลาออกจากการเป็นพนักงานไมโครซอฟท์ในปี 1983 แต่ยังเป็นกรรมการบอร์ดอยู่จนถึงปี 2000 และก็ยังได้รับคำเชิญให้เป็นที่ปรึกษาบอร์ดอยู่
กำลังจะผ่านไปแล้วกับเดือนแห่งความรัก ผู้ชายหลายคนในที่นี่คงจะมีวิธีพยายามจีบผู้หญิงต่างกันออกไป เรามาดูวิธีที่ Bill Gates ทำกันดีกว่า
Gates ยอมรับกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เคยร่วมกับ Paul Allen ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ร่วม ขณะเรียนอยู่ที่ Lakeside School แฮกระบบลงทะเบียนเพื่อลงทะเบียนให้ Gates ได้เข้าเรียนในวิชาที่มีเขาเป็นผู้ชายแต่เพียงผู้เดียว แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยหรือพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้หญิงในคลาสต่อ
Gates ยอมรับว่า เขาเข้าสังคมได้ดีขึ้นหลังจบการศึกษาจากโรงเรียนดังกล่าว แต่ก็ยังด้อยกว่าค่าเฉลี่ยเรื่องพูดคุยกับผู้หญิงอยู่ดี ส่วน Allen ไม่ได้ประโยชน์อะไรเพราะอายุมากกว่า Gates สองปีและจบการศึกษาไปแล้ว
เนื่องในโอกาสไมโครซอฟท์มีอายุครบ 40 ปี บิล เกตส์ เขียนจดหมายถึงพนักงาน ไปแล้ว ฝั่งของผู้ก่อตั้งอีกคนคือพอล อัลเลน ก็ร่วมฉลองโอกาสนี้ โดยการโพสต์ภาพหน้าปกเอกสารภาษา BASIC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของไมโครซอฟท์ (ก่อนมาทำดอสและวินโดวส์)
ภาพที่พอล อัลเลน โพสต์ระบุเครดิตผู้สร้างคือตัวเขาและเกตส์ พร้อมข้อมูลว่าสร้างขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 1975 โดยเกตส์เขียนส่วนที่เป็นรันไทม์ และอัลเลนเขียนส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่รันไทม์
ใครเป็นเซียนภาษา BASIC มาก่อนก็ไม่ควรพลาดภาพประวัติศาสตร์นี้ครับ
ภัยคุกคามของไวรัสอีโบลา ส่งผลให้คนดังระดับโลกจำนวนมากเริ่มหันมาสนใจปัญหานี้ เราเห็นข่าว Mark Zuckerberg และภรรยา บริจาคเงิน 25 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานด้านสาธารณสุขไปแล้ว
คนดังโลกไอทีอีกคนที่ร่วมบริจาคเงินในช่วงนี้คือ Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ที่ช่วงหลังหันไปทำงานด้านการกุศล เขาประกาศว่าจะบริจาคเงินอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่ต่อสู้กับอีโบลาอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังตั้งเว็บ TackleEbola.com ขึ้นมาระดมทุนเงินบริจาคเป็นรายโครงการ (โมเดล crowdfunding) อีกด้วย
Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับบิล เกตส์ (และยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทอีกเยอะ) ให้มุมมองผ่านผู้จัดการการลงทุนส่วนตัวของเขาว่า ไมโครซอฟท์ควรแยกออกเป็น 2 บริษัทคือบริษัทด้านองค์กร และบริษัทด้านคอนซูเมอร์
ตัวแทนของ Allen ระบุว่า Allen คิดว่าไมโครซอฟท์ควรแยกส่วนธุรกิจค้นหา (Bing) และเกม (Xbox) ออกมาเป็นบริษัทใหม่ เพราะถึงแม้ว่าสองหน่วยธุรกิจนี้ยังไปได้ดี แต่รายได้หลักของไมโครซอฟท์ก็ยังมาจากการขายซอฟต์แวร์และบริการให้ตลาดองค์กร ทำให้ Bing/Xbox ดูไม่ค่อยเข้าพวกกับยุทธศาสตร์หลักขององค์กรมากนัก
ที่มา - Forbes
ภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งของวงการคอมพิวเตอร์คือ ภาพของบิล เกตส์ และพอล อัลเลน สองผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ที่ยืนอยู่กับเครื่องพีซียุคแรกๆ ในปี 1981
เวลาผ่านมา 32 ปี ในปี 2013 ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ทั้งสองคนกลับมาถ่ายภาพซีนเดิมซ้ำอีกครั้งที่พิพิธภัณฑ์ Living Computer Museum ในซีแอทเทิล ซึ่งก่อตั้งโดยตัวของพอล อัลเลนเอง
เครื่องพีซีในภาพเวอร์ชันใหม่ถูกคัดเลือกให้เหมือนกับในภาพต้นฉบับ สิ่งที่เปลี่ยนไปมีแค่บุคคลที่แก่ไปกว่าเดิม (และหนวดเคราของอัลเลนหายไป) ดูภาพทั้งสองเวอร์ชันได้ท้ายข่าวครับ
ช่วงหลังๆ เราเห็นผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลอย่าง Steve Wozniak ออกมาโชว์ตัวตามสื่อต่างๆ ไม่น้อย คราวนี้เป็นคิวของ "ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์อีกคน" อย่าง Paul Allen บ้างครับ
Paul Allen ทดลองใช้งาน Windows 8 ทั้งบนเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต (Samsung 700T) และเขียนความเห็นลงเว็บไซต์ส่วนตัวของเขา
Allen บอกว่าในภาพรวมแล้ว Windows 8 ทำออกมาดีมาก อินเทอร์เฟซที่ใช้งานได้ทั้งพีซีและแท็บเล็ตเป็นเรื่องน่าประทับใจ การตอบสนองบนแท็บเล็ตรวดเร็ว และประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า Windows 7
แต่เขาก็วิจารณ์ข้อด้อยของ Windows 8 ในประเด็นย่อยต่างๆ ดังนี้
พอล อัลเลน (Paul Allen) คู่หูผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับบิล เกตส์ได้ให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับรายการ 60 Minutes ถึงเรื่องการก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์และการทำงานภายในบริษัท โดยอัลเลนได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับบิล เกตส์นั้นเหมือนกับต้องตกนรก ("being in hell")
นอกจากนั้นพอล อัลเลนยังได้พูดถึงเกตส์ในแง่ลบอีกหลายอย่างเช่น การไม่ยอมแบ่งรายได้ในการก่อตั้งบริษัทกัน 50-50 แต่เกตส์กลับต้องการมากกว่านั้นจนได้ 60% และเปลี่ยนเป็น 64% ในท้ายที่สุด หรือในช่วงที่อัลเลนป่วยเป็นโรคมะเร็งนั้น ทั้งเกตส์และบัลเมอร์พยายามกดดันให้เขาขายหุ้นทั้งหมดออกไปด้วย
- Read more about "ทำงานกับบิลเกตส์ เหมือนกับตกนรก" พอล อัลเลน
- 42 comments
- Log in or register to post comments
Paul Allen เศรษฐีอันดับ 37 ของโลก และคู่หูผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับบิล เกตส์ (เพิ่งมีข่าว Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ จะบริจาคทรัพย์สินเกือบทั้งหมดเป็นการกุศล ) เดินหน้าฟ้องบริษัทไฮเทคหลายแห่งในข้อหา "ละเมิดสิทธิบัตร"
บริษัทที่ถูกฟ้องได้แก่ Google, Facebook, eBay, Apple, Yahoo, AOL, Netflix, Office Depot, OfficeMax, Staples รวมถึง YouTube (สังเกตว่าไม่มีไมโครซอฟท์)
- Read more about Paul Allen ไล่ฟ้องสิทธิบัตรบริษัทไฮเทคเป็นจำนวนมาก
- 17 comments
- Log in or register to post comments