เรื่องวุ่น ๆ ของ TikTok ในอเมริกายังไม่จบ แม้ว่าคำสั่งแบน จะมีผล แต่ก็ มีผลไม่นาน และทันทีที่ Donald Trump รับตำแหน่งประธานาธิบดี เขาก็ ออกคำสั่ง เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายนี้ออกไป 75 วัน ทำให้ TikTok และแอปอื่นสามารถใช้งานได้เหมือนเดิม

แต่นั่นคือการใช้งานหากมีแอป TikTok ในสมาร์ทโฟนอยู่ก่อนแล้ว เพราะถึงตอนนี้ TikTok ยังคงไม่มีให้ดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store ในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง แอปถูกนำออกไป ตั้งแต่ 19 มกราคม ตามคำสั่งในกฎหมาย ผลคือผู้ใช้งานคนไหนที่ชิงลบแอปไปเลย หรือย้ายโทรศัพท์เครื่องใหม่ หรือซื้อเครื่องใหม่ ก็ไม่สามารถดาวน์โหลด TikTok มาใช้งานได้

ประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามคำสั่งจัดตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับเงินคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อออกระเบียบกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ เปิดส่งเสริมการใช้เงินคริปโตที่กว้างขวางมากขึ้น

ประเด็นสำคัญของคำสั่งนี้คือการระบุว่า ไม่ต้องการให้ธนาคารกลางสหรัฐออกสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลหรือ CBDC ของตนเอง เพราะเป็นการแทรกแซงระบบหมุนเวียนของเงินคริปโตจากภาคเอกชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่ง Trump แสดงออกเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนหาเสียง

Business Insider รายงานว่าชายชาวอเมริกันอายุ 19 ปีคนหนึ่งจากรัฐวิสคอนซิน จุดไฟเผาห้องทำงานสภาผู้แทนราษฎร Glenn Grothman เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจที่ TikTok ถูกแบน โดยอาคารสำนักงานได้รับความเสียหายระดับปานกลาง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

Grothman เป็นหนึ่งในคนที่โหวตร่างกฎหมายที่กำหนดให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐอเมริกา ไม่เช่นนั้นแอปจะถูกแบน เพราะมองว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติที่กำลังเพิ่มมากขึ้น

ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของภาคเอกชน โดยการก่อสร้างจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาผ่านบริษัทร่วมทุนซึ่งเรียกชื่อว่า Stargate

บริษัทร่วมทุนนี้มีบริษัทใหญ่เข้าร่วม 3 รายคือ Oracle, SoftBank และ OpenAI ซึ่งซีอีโอของทั้งสามบริษัทคือ Larry Ellison, Masayoshi Son และ Sam Altman ก็เข้าร่วมการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวด้วย มูลค่าการลงทุนรวม 5 แสนล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 4 ปี โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทอื่นเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

Trump บอกว่าการลงทุนนี้ถือเป็นเรื่องฉุกเฉินของอเมริกา โครงสร้างพื้นฐาน AI ต้องถูกสร้างขึ้นมา มีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมากจึงต้องมีการสร้างสิ่งต่าง ๆ มารองรับ คาดว่าจะเพิ่มการจ้างงานได้กว่า 1 แสนตำแหน่ง

หนึ่งในคำสั่งบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เข้ามารับตำแหน่งสมัยที่สองเป็นวันแรก คือการตั้งหน่วย Department of Government Efficiency หรือ DOGE เข้ามาปรับปรุงประสิทธิภาพของภาครัฐ ตามที่เคยประกาศไว้

DOGE จะมีสถานะเป็นหน่วยงาน (agency) ของรัฐบาล แต่มีสถานะเป็นองค์กรชั่วคราว (temporary organization) มีระยะเวลาการทำงาน 18 เดือน สิ้นสุดภารกิจในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026 (วันชาติสหรัฐในปีหน้า)

DOGE จะรับโอนหน่วยบริการดิจิทัลภาครัฐ United States Digital Service ที่มีอยู่แล้ว มาเปลี่ยนชื่อเป็น United States DOGE Service (ตัวย่อเหมือนเดิม USDS แบบนี้ก็ได้เหรอ!) ส่วนโครงสร้างภายในของ DOGE จะเป็นทีมย่อยๆ ทีมละ 4 คน ได้แก่ หัวหน้าทีม วิศวรกร ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล และอัยการ

ประธานาธิบดี Donald Trump ออกคำสั่งทางบริหารหรือ Executive Order ให้หยุดการบังคับใช้กฎหมายแบน TikTok และแอปในเครือเป็นระยะเวลา 75 วัน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเพิ่มเวลาหาทางออกที่สามารถปกป้องความมั่นคงของประเทศ ไปพร้อมกับการรักษาแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานชาวอเมริกา 170 ล้านคน

Trump แถลงหลังจากลงนามคำสั่งนี้ว่า TikTok มีทางเลือกคือขายกิจการในอเมริกาออกมาหรือปิดบริการไปเลย ซึ่งขั้นตอนนี้อาจต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนด้วย แต่เขามั่นใจว่าจีนจะอนุมัติ ส่วนประเด็นการตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้นฝ่ายละ 50% ที่เคยเสนอก่อนหน้านี้ Trump มั่นใจว่าจะมีคนสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก

Donald Trump ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สองอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ซึ่งในพิธีที่จัดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐ มีซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เข้าร่วมกันพร้อมหน้า

รายชื่อที่มีรายงานได้แก่ Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX, Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta และภรรยา Priscilla Chan, Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon และคู่หมั้น Lauren Sánchez, Tim Cook ซีอีโอ Apple, Sundar Pichai ซีอีโอ Alphabet และ Google โดยทั้งหมดนั่งอยู่ในตำแหน่งหลังโพเดียมที่ Trump ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ นอกจากนี้ Shou Zi Chew ซีอีโอ TikTok และ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ก็เข้าร่วมในพิธีด้วย

กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาให้ความเห็นล่าสุดในประเด็น TikTok ถูกแบนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกฎหมายระบุว่า ByteDance ต้องขาย TikTok ในอเมริกาออกมา บอกว่าบริษัทสามารถตัดสินใจเรื่องการดำเนินงานและการควบรวมกิจการได้เอง ซึ่งต่างไปจากท่าทีก่อนหน้านี้ที่ไม่ต้องการให้เกิดการขายธุรกิจออกมา

ประธานาธิบดี Donald Trump ให้ความเห็น ก่อนหน้านี้ว่า อาจแก้ปัญหา TikTok โดยบริษัทร่วมทุนที่เป็นบริษัทจีนและอเมริกาถือหุ้นรายละ 50%

TikTok ประกาศว่าได้ทำข้อตกลงร่วมกับผู้ให้บริการ TikTok จะเริ่มทยอยกลับมาใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกาตามปกติ บริษัทขอบคุณประธานาธิบดี Trump ที่ให้ความชัดเจนและให้ความมั่นใจกับผู้ให้บริการ ว่าพวกเขาจะไม่มีความผิดที่ให้เข้าถึง TikTok กับคนอเมริกากว่า 170 ล้านคน และทำให้ธุรกิจกว่า 7 ล้านแห่ง กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

ประเด็นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ TikTok ตัดสินใจแสดงข้อความปิดบริการแอปทันทีก่อนเข้าสู่เที่ยงคืนวันที่ 19 มกราคม ตามกฎหมายแบนแอป แต่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ทำเนียบขาวภายใต้ประธานาธิบดี Joe Biden และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ออกมาบอกว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้ให้เป็นการตัดสินใจภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม TikTok จึงบอกว่าบริษัทพร้อมหารือกับผู้ให้บริการส่วนต่าง ๆ เพื่อให้บริการต่อไปได้ แต่ต้องได้รับคำยืนยันที่ชัดเจนก่อน

ถึงแม้ คำสั่งแบน TikTok ล่าสุด เป็นเรื่องที่มีผลกับผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่คนที่ใช้ TikTok ในประเทศอื่นก็อาจสงสัยว่าแล้วพวกเขาจะใช้ TikTok กรณีเดินทางไปอเมริกาได้หรือไม่?

แอปเปิลอธิบายประเด็นนี้ในหน้า Support ว่าแอป TikTok และแอปในเครือ ByteDance จะไม่สามารถเข้าถึงได้หากเป็นคนที่พำนักในสหรัฐอเมริกา โดยไม่สามารถลบดาวน์โหลดใหม่, กู้คืนเมื่อย้ายอุปกรณ์ รวมถึงซื้อ In-App ได้ด้วย

TikTok ปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาแล้ว ตาม กฎหมายคำสั่งแบนแอปที่ลงนามโดยประธานาธิบดี Joe Biden หากไม่ขายกิจการออกมาจาก ByteDance โดยผู้ใช้งานในอเมริกาเริ่มได้รับข้อความแจ้งไม่สามารถใช้งานแอปได้ ตั้งแต่เวลา 10:30น. ตามเวลาในไทย หรือเข้าสู่วันที่ 19 มกราคม ตามเวลาในสหรัฐ

ข้อความที่แสดงในแอปบอกว่า

TikTok ไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้ เนื่องจากกฎหมายคำสั่งแบน TikTok แต่พวกเรายังโชคดีที่ประธานาธิบดี Trump แสดงออกว่าจะหาทางแก้ไขปัญหานี้เมื่อเริ่มเข้ารับตำแหน่ง โปรดติดตามกันต่อไป!

ว่าที่ประธานาธิบดี Donald Trump ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ Kristen Welker นักข่าวของ NBC News ในประเด็นกฎหมายแบน TikTok ซึ่งจะมีผลในวันที่ 19 มกราคม ว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะใช้อำนาจของประธานาธิบดี ผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมายนี้ออกไป 90 วัน หลังจากเข้ารับตำแหน่ง

Trump บอกว่านี่เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้เพราะมีความเหมาะสมต่อสถานการณ์เวลานี้ แต่เขาต้องขอตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อน เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งหากตัดสินใจว่าจะออกคำสั่งผ่อนผัน ก็จะทำในวันจันทร์นี้เลย

ตามที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสิน ว่า TikTok จะถูกแบนในสหรัฐอเมริกาวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่ง TikTok บอกว่า พร้อมปิดให้บริการตามคำสั่ง แต่ยังหวังว่า Donald Trump ซึ่งจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคม จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้โดยเร็วที่สุด

Trump ให้สัมภาษณ์กับ CNN บอกว่าตอนนี้อำนาจการตัดสินใจจะมาอยู่ที่เขา แต่เมื่อถามว่าแล้วเขาจะกลับคำสั่งแบนนี้หรือไม่ Trump บอกว่าให้รอดู

Shou Zi Chew ซีอีโอ TikTok โพสต์วิดีโอ แถลงหลังจากศาลสูงสุดสหรัฐฯ ยืนยันคำสั่งแบน TikTok วันที่ 19 มกราคมนี้ ยกเว้น ByteDance ขายกิจการออกมาซึ่ง ByteDance ปฏิเสธแนวทางนี้แล้ว

Chew บอกว่าพวกเขาที่ TikTok ขอบคุณประธานาธิบดี Trump ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อหาทางออกให้ TikTok ใช้งานได้ต่อไปในสหรัฐอเมริกา เขายังบอกว่า Trump คือคนที่เข้าใจแพลตฟอร์มนี้อย่างแท้จริง เขาใช้ TikTok เชื่อมต่อผู้คนทั่วโลก และมียอดวิวคอนเทนต์รวมแล้วกว่า 6 หมื่นล้านครั้ง

แถลงการณ์ของ Chew น่าจะบอกใบ้ว่า TikTok เตรียมยื่นอุทธรณ์กับประธานาธิบดี Donald Trump อีกครั้ง เพื่อหาแนวทางให้ TikTok กลับมาใช้งานในอเมริกาได้อีกครั้ง

TikTok เตรียมโดนแบนจากสหรัฐฯ แน่ ๆ หลังศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินให้ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ในจีนและเป็นเจ้าของ TikTok โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันอาทิตย์ มิเช่นนั้นจะโดนแบน

แต่ ByteDance ปฏิเสธที่จะขาย TikTok ออกไป หมายความว่าเหล่า Users กว่า 170 ล้านแอคเคาท์จะถูกตัดสิทธิในการเข้าถึงแอป ไม่สามารถเล่น TikTok ได้อีก

The Verge อ้างอีเมลภายในที่ TikTok ส่งให้พนักงานในสหรัฐ บอกว่าบริษัทยังคงวางแผนในขั้นถัดไป ก่อนศาลจะออกคำตัดสินซึ่งคาดว่าเร็วที่สุดคือวันพุธที่ 15 มกราคม

TikTok บอกว่าบริษัทจะยังคงดำเนินงานต่อไปในตอนนี้ตามปกติ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแอปก็ตาม ย้ำว่ากฎหมายนี้มีผลเฉพาะส่วนการใช้งานแอปของคนอเมริกา แต่ไม่มีผลกับการทำงานของพนักงานของ TikTok

ทั้งนี้หาก TikTok ถูกแบนในวันที่ 19 มกราคมจริง โอกาสที่แอปจะกลับมาให้บริการก็ยังมีสูง เพราะ Donald Trump จะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และ ท่าทีของเขาไม่ต้องการให้แบน TikTok รวมทั้งมีข่าวว่า Shou Zi Chew ซีอีโอ TikTok ได้เข้าพบกับ Trump ก่อนหน้านี้ด้วย

ประธานาธิบดี Joe Biden ออกคำสั่งห้ามขายและนำเข้ายานพาหนะที่มีการเชื่อมต่อออนไลน์จากประเทศจีนและรัสเซียในสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

คำสั่งนี้จะมีผลทั้งส่วนฮาร์ดแวร์ที่มีระบบเชื่อมต่อส่วนต่าง ๆ และซอฟต์แวร์ระบบขับขี่ โดยส่วนของซอฟต์แวร์เริ่มมีผลบังคับใช้กับรุ่นปี 2027 เป็นต้นไป และฮาร์ดแวร์เชื่อมต่อมีผลในปี 2030 คำสั่งนี้ยังมีผลรวมไปถึงรถยนต์ที่ผลิตในอเมริกา ซึ่งมีบริษัทจากจีนหรือรัสเซียเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของด้วย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐบอกว่าคำสั่งนี้มีผลกับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถบรรทุก โดยให้ข้อยกเว้นสำหรับรถบางประเภท เช่น รถเมล์ไฟฟ้า จึงทำให้ BYD ซึ่งมีโรงงานประกอบในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว

ประธานาธิบดี Joe Biden ออกกฎเกณฑ์ชั่วคราวฉบับสุดท้ายชื่อกฎหมาย AI Diffusion เพื่อให้กระบวนการสั่งซื้อและใช้งานชิปสำหรับ AI โดยเฉพาะส่วนที่เป็นการส่งออกนอกสหรัฐอเมริกา มีความราบรื่นมากขึ้น และจำกัดควบคุมการใช้งานเพื่อความมั่นคง

กฎหมายแบนแอป TikTok ในอเมริกาจะ มีผลวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่งวิธีการที่จะทำให้ TikTok ยังสามารถใช้งานได้ต่อไปที่นั่นคือ ByteDance ต้องขายธุรกิจ TikTok ส่วนในอเมริกาออกมา ให้ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีน จึงทำให้มีรายงานข่าวเป็นระยะว่า กลุ่มทุนในสหรัฐ ติดต่อแสดงความสนใจ

รายงานล่าสุดของ Bloomberg อ้างแหล่งข่าวบอกว่าทางการจีนได้เข้ามาช่วยพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ โดยหนึ่งในนั้นคือขาย TikTok ให้กับ Elon Musk บนเงื่อนไขการทำธุรกิจที่ยังไม่ได้สรุปรายละเอียด อย่างไรก็ตามทั้ง Musk และตัวแทนของทางการจีนปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวนี้

มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในอเมริกา ซึ่ง TikTok ยังคง คำสั่งจะถูกแบนในวันที่ 19 มกราคมนี้ โดยแอปยอดนิยมคือ Xiaohongshu แอปโซเชียลจากจีน ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ใน App Store ของอเมริกาตอนนี้ ส่วนอันดับ 2 คือ Lemon8 ที่มี ByteDance เจ้าของ TikTok เป็นเจ้าของเช่นกัน ตามรายงานก่อนหน้านี้

Xiaohongshu (小红书) หรือชื่อภาษาอังกฤษ REDnote ( App Store , Google Play ) เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลวิดีโอแนวตั้งขนาดสั้น เปิดตัวปี 2013 เพื่อแข่งขันกับ TikTok ในจีนในแนวทางที่ต่างออกไป เพราะการเรียงโพสต์ให้กดดูคล้าย Pinterest ผสม Instagram จำนวนผู้ใช้งานรวมมีมากกว่า 300 ล้านบัญชี และ 79% เป็นผู้หญิง บริษัทผู้พัฒนาได้รับเงินจากนักลงทุนในจีนรวมแล้ว 917 ล้านดอลลาร์ มูลค่ากิจการประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังไม่ไอพีโอเข้าตลาดหุ้น

มีรายงานหลังศาลสูงสุดสหรัฐได้ รับฟังคำโต้แย้งด้วยวาจา ตามที่ TikTok ได้ ยื่นอุทธรณ์ ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายสั่งแบนแอปในอเมริกาเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายนี้ระบุให้ ByteDance ต้องขายกิจการ TikTok ในอเมริกาออกมา หรือมิฉะนั้นแอปจะถูกแบนในประเทศ มีผลวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่ง TikTok แย้งว่าคำสั่งนี้ขัดกับหลักเสรีภาพในการแสดงออกในรัฐธรรมนูญสหรัฐ

Meng Wanzhou ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Huawei ออกมาชื่นชมบริษัทในช่วงปีใหม่ หลังเจอกับความท้าทายจากการถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การพัฒนาชิป AI ไปจนถึงการนำระบบปฏิบัติการ HarmonyOS มาใช้เพิ่มมากขึ้น

Meng ชื่นชมทีม hybrid engineer ที่สร้างความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น การกระจายความร้อน การจ่ายไฟ การส่งข้อมูลความเร็วสูง และความน่าเชื่อถือของชิป ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลายฝ่าย ซึ่งนำไปสู่การออกแบบชิปแบนด์วิธสูงที่ใช้สำหรับฝึกโมเดล AI

กฎหมายแบน TikTok ในสหรัฐอเมริกาจะ มีผลวันที่ 19 มกราคมนี้ หากไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงใดออกมา ทำให้มีความเคลื่อนไหวหลายอย่าง ล่าสุด Frank McCourt มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน ในฐานะประธานโครงการไม่แสวงหากำไร Project Liberty ที่มีเป้าหมายปกป้องสิทธิเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต ประกาศยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ TikTok ในอเมริกาจาก ByteDance

ผู้ยื่นคำเสนอซื้อคือกลุ่มทุนที่มีทั้ง Project Liberty และเครือข่ายพันธมิตรซึ่งมีนักธุรกิจคนดัง Kevin O’Leary รวมอยู่ด้วย กลุ่มทุนนี้เรียกรวมกันว่า "The People’s Bid for TikTok" เพื่อปรับโครงสร้างแพลตฟอร์ม TikTok ให้มีเทคโนโลยีเป็นของอเมริกา และปกป้องเสียงของผู้ใช้งานในประเทศกว่า 170 ล้านคน

Turo แอพแชร์รถให้เช่าแบบ P2P ที่รถถูกนำไปใช้ใน การก่อการร้ายสหรัฐรับปีใหม่ 2025 สองแห่งไล่เลี่ยกัน ออกแถลงการณ์ว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของหน่วยงานภาครัฐอย่างเต็มที่

Turo ให้ข้อมูลว่าผู้เช่าทั้งสองกรณีไม่มีประวัติอาชญากรรม และยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างผู้เช่าทั้งสอง

รัฐฟลอริดา, รัฐเทนเนสซี และรัฐเซาท์แคโรไลนา เป็น 3 รัฐในอเมริกาล่าสุด ที่ Pornhub ตัดสินใจบล็อกการเข้าถึงในพื้นที่ดังกล่าว มีผลตั้งแต่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากที่กฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้งานเว็บไซต์มีผลบังคับใช้ ซึ่ง Pornhub มีแนวทางคัดค้านกฎหมายดังกล่าวมาโดยตลอด และเลือกปิดการเข้าถึงไปเลยแทน

Pornhub เคยให้เหตุผลที่คัดค้านกฎหมายนี้ว่าวิธีการยืนยันอายุผู้ใช้งาน ที่แต่ละรัฐกำหนดด้วยเอกสารของรัฐนั้น เป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพ เสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่ง Pornhub ผลักดันแนวทางยืนยันอายุที่ระดับอุปกรณ์มากกว่า