เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา VMware เปิดให้ใช้ Workstation Pro และ Fusion Pro ฟรีถ้าใช้ส่วนตัว ล่าสุด Broadcom ประกาศเปิดให้ใช้งาน VMware Workstation Pro และ Fusion Pro ฟรีในทุกกรณีแล้ว ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ด้วย
แน่นอนว่าซอฟต์แวร์เวอร์ชันที่ใช้งานฟรีไม่มีซัพพอร์ตเชิงพาณิชย์ให้ ส่วนลูกค้าที่เคยจ่ายไลเซนส์ไปแล้วจะยังได้บริการซัพพอร์ตจนกว่าจะหมดสัญญา
ทั้ง VMware Workstation Pro (Windows/Linux) และ Fusion Pro (Mac) ดาวน์โหลดได้แล้วจาก หน้าเว็บ VMware
Microsoft Azure เปิดโครงการ Hyperlight ไลบรารีภาษา Rust สำหรับการรันฟังก์ชั่นขนาดเล็ก แต่แยกออกเป็น hypervisor ของตัวเองเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ที่แม้แอปพลิเคชั่นถูกแฮกตัวแฮกเกอร์ก็ไม่สามารถเจาะโปรเซสอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องเดียวกันได้
Hyperlight ใช้เวลาเริ่มโปรเซสประมาณ 1-2ms อยู่ตรงกลางระหว่างการรัน sandbox ปกติที่ใช้เวลาน้อยกว่า 0.03ms เท่านั้น กับการรัน VM เดิมๆ ที่ใช้เวลาอย่างน้อยๆ 120ms แนวทางการรันแอปพลิเคชั่นบนระบบ virtual machine โดยตรงเช่นนี้มีหลายคนพยายามทำมาก่อนแล้ว เช่น Firecracker ของ AWS
โครงการ Hyperlight โอเพนซอร์สแบบ Apache 2.0 และไมโครซอฟต์ยังส่งโครงการเข้า CNCF ในฐานะโครงการ Sandbox ด้วย
ไมโครซอฟท์มีแอพ Microsoft Remote Desktop ใช้งานบนวินโดวส์มาเป็นเวลายาวนาน อย่างไรก็ตาม นโยบายของไมโครซอฟท์ช่วงหลังเปลี่ยนไป เพราะผลักดัน แอพตัวใหม่ชื่อ Windows App ที่รองรับการใช้งาน virtual desktop บนคลาวด์ ทำให้ไมโครซอฟท์หยุดพัฒนาแอพ Microsoft Remote Desktop ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังเปิดให้ใช้งานได้อยู่
Google Cloud ประกาศซื้อกิจการบริษัท Cameyo ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ virtualization เพื่อรันแอพวินโดวส์บน ChromeOS
ซอฟต์แวร์ของ Cameyo เรียกประเภทว่า virtual application delivery (VAD) ซึ่งเป็นการรันเฉพาะตัวแอพอย่างเดียว ต่างจาก virtual desktop infrastructure (VDI) ที่ต้องรันระบบเดสก์ท็อปทั้งตัวในสภาพแวดล้อมเสมือน แนวทาง VAD จึงมีประสิทธิภาพดีกว่า จัดการง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า
Cameyo จับมือกับกูเกิลออกโซลูชันการรันแอพวินโดวส์บน ChromeOS มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยรองรับฟีเจอร์ของ ChromeOS อย่างระบบไฟล์และ clipboard หลังจากทดสอบกันพอใจแล้ว กูเกิลจึงตัดสินใจซื้อทีม Cameyo เข้ามาอยู่ในทีม ChromeOS Enterprise ในที่สุด
Nutanix พาลูกค้ารายใหญ่ ที่ย้ายจาก VMware มายัง Nutanix AHV มาแสดงความเห็นในงาน Nutanix Next ถึงความสำเร็จในการย้ายระบบ โดยมีสองรายคือบริษัท Computershare ผู้ให้บริการจัดการหุ้น และ Boyd Gaming ธุรกิจโรงแรมและคาสิโนในสหรัฐฯ
Computershare เป็นบริษัทจัดการหุ้นในออสเตรเลีย Kevin O’Connor CTO ของบริษัทระบุว่าเคยพิจารณา Nutanix เพื่อลดต้นทุนมาก่อนแล้วแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก จนกระทั่งปีที่ผ่านมาพบว่าค่าไลเซนส์ระบบ VM กำลังเพิ่มขึ้น 10-15 เท่าตัวภายใน 12 เดือน จึงเริ่มการย้ายระบบ ทั้งหมด 24,000 VM แล้วพบว่าค่าใช้จ่ายถูกลงกว่าเดิมเสียอีก
Veeam ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลระดับองค์กร ประกาศรองรับ Promox VE อย่างเป็นทางการ หลังเริ่มทดลองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตามเสียงเรียกร้องของผู้ใช้ นับเป็นระบบ virtualization ตัวที่สองที่เพิ่มขึ้นมา ต่อจาก Oracle Linux KVM อย่างไรก็ดีตอนนี้การซัพพอร์ต Promox ยังเป็นแค่ตัวทดสอบ โดยน่าจะเข้าสถานะ GA พร้อมใช้งานจริงภายในไตรมาสสาม
ทาง Veeam ระบุว่าแพลตฟอร์มข้อมูลตนนั้นออกแบบเพื่อให้เข้ากับซอฟต์แวร์ virtualization, ระบบสตอเรจ, หรือคลาวด์ ได้หลายเจ้าอยู่แล้ว เพื่อให้ลูกค้าย้ายระบบไปมาได้ ไม่ว่าจะเพื่อประหยัดงบประมาณหรือต้องการฟีเจอร์ใหม่ก็ตาม
VMware ประกาศเปลี่ยนนโยบายของผลิตภัณฑ์สำหรับเดสก์ท็อปคือ VMware Workstation Pro (พีซี) และ VMware Fusion Pro (แมค) ใหม่ โดยเปิดให้ใช้งานฟรีหากเป็นการใช้ส่วนตัว (personal use)
ก่อนหน้านี้ แนวทางของ VMware แยกเป็น VMware Workstation/Fusion Player ที่รัน VM ได้อย่างเดียว (ใช้งานฟรีแค่ใช้ส่วนตัว) หากต้องการสร้าง VM ด้วยจำเป็นต้องซื้อ Workstation/Fusion Pro เท่านั้น
นโยบายใหม่คือ เลิกทำ Workstation/Fusion Player แล้ว เหลือแต่ Workstation/Fusion Pro อย่างเดียว ที่เปิดให้ลูกค้าทั่วไปใช้ฟรีส่วนตัว แต่การใช้งานเชิงพาณิชย์ยังต้องเสียเงินอยู่ โดยแพ็กเกจแบบเสียเงินปรับเหลือแพ็กเกจเดียวชื่อ Desktop Hypervisor subscription ใช้แอพฝั่งเดสก์ท็อปได้ครบทุกตัว ราคา 120 ดอลลาร์ต่อปี
Anton Gostev Chief Product Officer ของ Veeam ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลระดับองค์กรรายใหญ่เปิดเผยว่าบริษัทกำลังทดสอบการทำงานร่วมกับ Proxmox ซอฟต์แวร์ virtualization ที่ได้รับความนิยมในหมู่ SME อยู่ หลังจาก VMware ที่ครองตลาดระดับองค์กร เลิกขายซอฟต์แวร์แบบขายขาดเหลือเฉพาะแบบสมัครสมาชิกรายปี
แม้จะทดสอบอยู่แต่ Gostev ก็ระบุว่า Proxmox นั้นดูจะเป็นตลาดธุรกิจขนาดเล็ก (SMB) เกินไปสำหรับ Veeam ที่มักเป็นลูกค้าระดับองค์กรที่ต้องการการสำรองข้อมูลที่น่าเชื่อถือสูงๆ
ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ยังไม่เคยขายไลเซนส์ Windows on Arm แบบขายปลีก มีเฉพาะขายให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ OEM เท่านั้น ทำให้การรัน Windows บนฮาร์ดแวร์สาย Arm รุ่นอื่นๆ (เช่น Apple Silicon M1/M2) ทำได้ยาก
ล่าสุด ไมโครซอฟท์อนุมัติให้ Parallels Desktop เป็น "โซลูชันอย่างเป็นทางการ" (authorized solution) ในการรัน Windows 11 on Arm บนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Apple M1/M2 แล้ว
กระบวนการรัน Windows 11 บน Apple Silicon ยังต้องผ่าน virtualization ของ Parallels (เพราะแอปเปิลยังไม่มีทีท่าจะทำ Boot Camp ให้โดยตรงเหมือนยุค x86) แต่ผู้ที่ติดตั้งผ่าน Parallels Desktop จะเข้าถึงอิมเมจ Windows 11 on Arm โดยอัตโนมัติ แม้ยังต้องซื้อไลเซนส์จากไมโครซอฟท์อยู่ดี (รองรับเฉพาะ Windows 11 Pro และ Enterprise)
VMware ประกาศออก vSphere 8 เข้าสถานะ General Availability (GA) พร้อมใช้งานเป็นการทั่วไปแล้ว หลังออกเวอร์ชัน Initial Availability (IA) มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ตาม โมเดลการออกเวอร์ชันแบบใหม่ที่แยกเป็น IA กับ GA
ของใหม่ใน vSphere 8 ได้แก่
VirtualBox ซอฟต์แวร์ virtualization ยอดนิยม ออกเวอร์ชันใหญ่ 7.0 ทิ้งช่วงห่างจาก เวอร์ชัน 6.0 เป็นเวลานานเกือบ 4 ปี ของใหม่ที่สำคัญได้แก่
สัปดาห์ที่ผ่านมา VMware เปิดตัว vSphere+ และ vSAN+ ซึ่งเป็นบริการ virtualization ที่รันบนคลาวด์ของ VMware แต่สามารถใช้บริหารจัดการเครื่องแบบ on premise ในองค์กรของลูกค้าที่รัน vSphere และ vSAN ของเดิมได้ด้วย
VMware ยกข้อดีของ vSphere+ และ vSAN+ ตรงที่แอดมินองค์กรหรือนักพัฒนาแอพ สามารถจัดการเครื่องได้จาก cloud console เพียงที่เดียว (centralized management) โดยที่ไม่ต้องแก้ไขหรือยุ่งอะไรกับตัวเครื่อง on premise เดิมที่มีอยู่แล้ว หรืออธิบายง่ายๆ คือยกเอาส่วนบริหารจัดการที่เดิมอยู่บน on premise ขึ้นไปไว้บนคลาวด์แทน ส่วนตัวงานจริงๆ ยังรันบน on premise
vSphere+ และ vSAN+ มีโมเดลการคิดเงินแบบ subscription แต่ยังไม่เปิดเผยราคา
นักพัฒนาสายแอนดรอยด์ที่ใช้นามแฝง kdrag0n โพสต์ภาพและวิดีโอแสดงให้เห็นว่า เขาสามารถนำ Pixel 6 ที่ติดตั้ง Android 13 DP1 แล้วรัน Windows 11 บน hypervisor ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงเนทีฟ
ใน Android 13 นั้นกูเกิลเปิดสิทธิให้เข้าถึง Kernel-based Virtual Machine (KVM) ได้ แต่ต้องใช้กับหน่วยประมวลผล Tensor ของ Pixel 6 เท่านั้น (ใช้กับ Snapdragon/Exynos ไม่ได้ เพราะเฟิร์มแวร์ไม่ได้เปิดสิทธินี้) เราจึงสามารถนำ Virtual Machine ของระบบปฏิบัติการใดๆ ก็ได้ ทั้งวันโดวส์และลินุกซ์ ไปรันบนเคอร์เนลลินุกซ์ผ่าน KVM อีกที
Canonical ประกาศรองรับ Ubuntu บนชิป Apple M1 ผ่าน Multipass ซึ่งเป็นระบบจัดการ virtualization ของ Canonical เอง
ก่อนหน้านี้ เครื่องแมคที่เป็น Apple M1 ยังไม่รองรับลินุกซ์อย่างเต็มที่นัก และการรันผ่าน virtualization อย่าง VirtualBox/VMware ยังไม่สมบูรณ์มากพอ แนวทางของ Canonical คือสร้าง Multipass ซอฟต์แวร์จัดการ virtualization ที่ใช้ระบบของ OS เอง (KVM บนลินุกซ์, Hyper-V บนวินโดวส์, HyperKit บนแมค) แล้วจัดการเรื่องอิมเมจและการติดตั้งให้อัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งกับการคอนฟิก VM เอง
กูเกิลเปิดตัว Anthos ชุดซอฟต์แวร์จัดการคอนเทนเนอร์บน Kubernetes ข้ามคลาวด์มาตั้งแต่ปี 2019 โดยที่ผ่านมาเน้นเฉพาะงานที่รันในคอนเทนเนอร์เท่านั้น
แต่เมื่อกระแสคอนเทนเนอร์ในโลกใหม่เริ่มมาเชื่อมกับ virtual machine (VM) ของโลกเก่า ทำให้ลูกค้าองค์กรเริ่มต้องจัดการทั้งคอนเทนเนอร์และ VM ไปพร้อมกัน ทำให้กูเกิลขยายความสามารถของ Anthos มาสู่ VM ด้วยเช่นกัน รองรับ VM ที่รันอยู่ใน VMware vSphere ที่เป็นมาตรฐานของตลาดอยู่แล้ว (คู่แข่ง Red Hat OpenShift มีฟีเจอร์นี้มาก่อนแล้ว อิงจากโครงการ KubeVirt เหมือนกัน)
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22000.194 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ การติดตั้ง Windows 11 ใน virtual machine จะเช็คสเปกเหมือนกับการติดตั้งบนฮาร์ดแวร์จริงทุกประการ นั่นแปลว่า VM ต้องรองรับ TPM ด้วยเช่นกัน (ผ่านฟีเจอร์ vTPM)
ไมโครซอฟท์บอกว่า Windows 11 สามารถทำงานได้บน VMware และ Oracle VirtualBox ตราบเท่าที่ VM ผ่านสเปกขั้นต่ำของ Windows 11 ส่วนกรณีการรันบน Hyper-V ของไมโครซอฟท์เอง จะต้องสร้าง VM ที่เป็น Generation 2 ก่อน
Parallels ( ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Corel ) เปิดตัว Parallels Desktop 17 for Mac โดยมีฟีเจอร์ใหม่สำคัญคือรองรับระบบปฏิบัติการใหม่ macOS 12 Monterey และพร้อมรับ Windows 11 ในอนาคต
Parallels ระบว่าตอนนี้รองรับ Windows 11 Insider รุ่นทดสอบแล้ว โดยวิธีใช้งานยังต้องใช้วิธีสร้างอิมเมจ Windows 10 Insider ก่อนแล้วค่อยอัพเกรดเป็น Windows 11 Insider แต่ในอนาคตเมื่อ Windows 11 ออกตัวจริงก็จะปรับปรุงให้รองรับ Windows 11 โดยตรง
จิ๊กซอว์สำคัญของการใช้งาน Apple M1 สำหรับนักพัฒนา นอกจาก Docker ที่เริ่มรองรับเต็มรูปแบบแล้ว ยังมี VMware Fusion ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์ไว้ใช้งานในเครื่องตัวเองได้ สัปดาห์ที่ผ่านมา Michael Roy โปรดักแมเนเจอร์ของ VMware ก็ออกมาระบุว่าจะเริ่มส่ง Fusion "ถึงมือผู้ใช้" ในอีกไม่กี่เดือน
Michael ยังระบุว่าประสิทธิภาพของ VMware บน Apple M1 นั้นดีมาก (blowing our minds) แต่ก็ยังมีงานต้องทำอยู่อีก โดยเขาจะเขียนบล็อกรายงานความคืบหน้าอีกครั้งในสัปดาห์นี้
Parallels Desktop ซอฟต์แวร์ Virtualization ยอดนิยมบนแมค ออกเวอร์ชัน 16.5 นับเป็นรุ่นแรกที่รองรับทั้งแมคที่ใช้ชิป Apple M1 และ Intel ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องแมคที่ใช้ชิป Apple M1 สามารถใช้งาน Windows 10 on ARM และ Linux เวอร์ชัน ARM64 รวมถึงโปรแกรมและเกมแบบ 32 บิตบน Windows ได้อย่างสมบูรณ์
ผลการทดสอบบนเครื่องที่ใช้ชิป Apple M1 พบว่าการใช้พลังงานลดลงสูงสุด 250% เมื่อเทียบกับ MacBook Air 2020 ประสิทธิภาพกราฟิค (DirectX 11) ดีขึ้น 60% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้ Radeon Pro 555X และประสิทธิภาพการรัน VM Windows ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้ซีพียู Intel Core i9
NVIDIA เปิดตัวชุดซอฟต์แวร์ AI Enterprise ที่ปรับแต่งมารันบน VMware vSphere โดยระบุว่าได้ประสิทธิภาพด้อยกว่าการรันบนฮาร์ดแวร์จริง (bare metal) ไม่มากนัก
AI Enterprise เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของซอฟต์แวร์ฝั่ง AI และ data science ของ NVIDIA ตั้งแต่ระดับล่างคือ CUDA, CUDA-X, GPU Operator, TensorRT , RAPIDS รวมถึงเฟรมเวิร์คโอเพนซอร์สยอดนิยมอย่าง TensorFlow, PyTorch
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Alexander Graf ได้ ทวีต ความสำเร็จในการรัน Windows ARM64 รุ่น Insider Preview บนชิป Apple Silicon M1 ผ่าน QEMU Virtualizer ที่ผ่านการ patch โดยเป็นการรันผ่าน Hypervision.framework ของแอปเปิล
ผลทดสอบสามารถรัน Windows ARM64 รวมถึงแอปพลิเคชัน x86 บน Windows ได้ดี แต่ไม่เร็วเท่าการรันแอปพลิเคชัน x86 บน macOS ผ่าน Rosetta 2 แม้ขั้นตอนต่าง ๆ จะสามารถทำซ้ำได้ แต่สถานะปัจจุบันยังถือว่าไม่เสถียรและเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
บริษัท Parallels เปิดตัว Parallels Desktop for Chromebook Enterprise เพื่อให้รันวินโดวส์แบบ virtualization ได้บนระบบปฏิบัติการ Chrome OS ตามความร่วมมือกับกูเกิลที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
Parallels ระบุว่านี่เป็นซอฟต์แวร์ตัวแรกในโลกที่ทำให้รันวินโดวส์ได้จาก Chromebook โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งอาจยังต้องการแอพบางตัวของวินโดวส์ (เช่น Microsoft Office หรือแอพเฉพาะทางขององค์กรเอง) ทำให้ยังติดขัด ไม่สามารถย้ายไปใช้ Chrome OS ได้
VMware เปิดตัว Project Monterey เป็นการย้ายบริการของตัว ESXi จากซีพียูหลักออกไปสู่การ์ดเน็ตเวิร์ค หรือ DPU เปิดทางให้ตัวซีพียูสามารถรันแอปพลิเคชั่นได้เต็มประสิทธิภาพ โดยบริการแบบนี้เรามักเห็นในบริการคลาวด์ที่เรียกเป็นเซิร์ฟเวอร์แบบ bare metal ที่ตัวแอปพลิเคชั่นจะได้ประสิทธิภาพเต็ม
การย้าย ESXi ออกจากซีพียูหลัก ทำให้ VMware สามารถย้ายโหลดอื่นๆ เช่น NSX สำหรับเน็ตเวิร์ค และ VSAN สำหรับสตอเรจ รวมถึงการจัดการเครื่องออกไปจากซีพียู ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบปฎิบัติการทั้งวินโดวส์และลินุกซ์ลงบนเครื่องแบบ bare metal หรือจะแบ่งเครื่องเป็น virtual machine เหมือนเดิมก็สามารถติดตั้ง ESXi ลงไปในซีพียูหลักได้
VMware อัพเดตซอฟต์แวร์ virtualization สำหรับเดสก์ทอป เวอร์ชั่นพีซีเป็น VMware Workstation 16 และเวอร์ชั่นแมคเป็น VMware Fusion 12 โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือการรองรับคอนเทนเนอร์และ Kubernetes
การรองรับ Kubernetes อาศัย kind ที่เป็นดิสโทร Kubernetes สำหรับการทดสอบแอปบนเครื่องใดๆ ที่มี Docker รันอยู่ ส่วนคำสั่งในการรันคอนเทนเนอร์ก็ใช้ vctl ระบบรันคอนเทนเนอร์ที่ใช้แทน Docker ได้โดยตรง ทำให้ kind สามารถเชื่อมต่อเข้าไปยัง vctl แล้วให้บริการ Kubernetes ได้
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะรองรับ ได้แก่ DirectX 11, OpenGL 4.1, หน้าจอแบบ Dark Mode, และเชื่อมต่อรีโมตเข้าไปยัง vSphere 7 ที่เพิ่งออกมาปีนี้
VMware Workstation และ VMware Fusion รุ่น Player ราคา 149 ดอลลาร์ รุ่น Pro ราคา 199 ดอลลาร์
- Read more about VMware รองรับ Kubernetes บน Workstation 16 และ Fusion 12
- Log in or register to post comments
จากข่าวเมื่อเดือนมิถุนายน ว่า กูเกิลจับมือ Parallels พัฒนาแนวทางรันแอพ Windows บน Chrome OS ทีมงานของกูเกิลเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์กับ The Verge ดังนี้