คณะกรรมาธิการมัลติมีเดียและการสื่อสารแห่งชาติมาเลเซีย หรือ MCMC (The Malaysian Communications and Multimedia Commission) ได้ออกมาประกาศว่า อาจจะมีบทลงโทษแก่บรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตไวแมกซ์ หากไม่สามารถเปิดให้บริการได้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 25% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า บทลงโทษอาจจะเป็นการปรับหรือเรียกคืนใบอนุญาต ทั้งนี้เป็นความต้องการของหน่วยงานกำกับดูแลฯ ที่ไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้าในการให้บริการไวแมกซ์ของประเทศ
ทั้งนี้ MCMC ได้เริ่มให้ใบอนุญาตบริการไวแมกซ์ไนย่านความถี่ 2.3 GHz ไปแล้ว 4 รายเมื่อเดือนมีนาคม 2550 แก่บริษัท Pack one (P1), Y-MAX และ Asiaspace สำหรับพื้นที่บริการในแหลมมลายู และบริษัท Redtone สำหรับพื้นที่ตะวันออกของมาเลเซีย
จริงๆแล้วมีการกำหนดเส้นตายที่จะต้องเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายปี 2550 แล้ว แต่จนถึงสิงหาคม 2551 ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ
ในส่วนรับผิดชอบของบริษัท P1 นั้น เปิดเผยว่าจะดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ MCMC กำหนดไว้ภายในสิ้นปี 2551 อย่างแน่นอน และเตรียมขยายเป็น 35% และ 46% ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตสำหรับปี 2552 และปี 2553 ตามลำดับอีกด้วย ส่วน Redtone ยืนยันว่าจะทำได้ตามกำหนด แต่สำหรับ Asiaspace และ Y-MAX ยังคลุมเครือและอาจจะไม่สามารถเปิดบริการได้ทัน
Redtone ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้รับการจัดสรรบล็อกคลื่น (spectrum block) เพียง 25 MHz เท่านั้นในขณะที่รายอื่นๆได้รับ 30 MHz ซึ่งในเรื่องนี้บริษัทได้ร้องขอต่อ MCMC เพื่อขอรับการจัดสรรบล็อกคลื่น 30 MHz ด้วยเพื่อให้บริการในพื้นที่ตะวันออกของมาเลเซียเนื่องจากมีประสิทธิภาพดีกว่า
ที่มา - WiMAX Vision
Comments
บ้านเราบริษัทที่มีพฤติกรรมเอาใบอนุญาตไปดองนี่ก็เยอะครับ
พนักงานขยันประท้วงมากกว่าเพิ่มคู่สาย
LewCPE
lewcpe.com , @wasonliw
อิอิ
โดน
+1000000 T-T
ต้องใช้ไม้เรียว
เปลี่ยนไวแมกส์เป็น 3G แล้วก็เปลี่ยนจากมาเลย์เป็นไทย คงจะน่ายินดีขึ้นเยอะ
เฮ้อ.....เหนื่อยใจครับ