ย้อนกลับไปเมื่อตอนแอปเปิล เปิดตัว iPhone X ข้อวิจารณ์หนึ่งที่มีค่อนข้างมากก็คือราคาที่แพง โดยเฉพาะในมุมฝั่งอเมริกาที่ราคาขึ้นไปถึงเป็นเลขสี่หลัก คือเกือบหนึ่งพันดอลลาร์ ส่วนในไทยราคาก็ทะลุ 4 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตามผลประกอบการของแอปเปิลที่ออกมา สะท้อนว่า iPhone X น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีมากของแอปเปิล ทั้งจากคำพูดของซีอีโอ Tim Cook เอง ไปจนถึงตัวเลข ในผลประกอบการ ที่จำนวนเครื่องขายเพิ่มได้ไม่มาก แต่ยอดขายเฉลี่ยต่อเครื่องเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็ย่อมมาจาก iPhone X นั่นเอง
ราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้นนี้ถูกย้ำอีกครั้งด้วย Galaxy Note 9 ของซัมซุงที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งก็ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ในอเมริกา อย่างไรก็ตามในไทยราคายังไม่ถึง 4 หมื่นแบบ iPhone X โดยขาย เริ่มต้นที่ 33,900 บาท เมื่อรวมกับข่าวว่า iPhone รุ่นถัดไปที่ราคาน่าจะแพงขึ้นกว่านี้อีก (ข่าวลือคือ 1,200 ดอลลาร์) ก็อาจสะท้อนว่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน ดูเหมือนจะไม่รู้จักคำว่าราคาที่ถูกลงแล้วเช่นนั้นหรือไม่?
Jessican Dolcourt แห่ง CNET พยายามหาคำตอบเรื่องนี้ และข่าวร้ายก็คือ ยุคของสมาร์ทโฟนราคาแพงนั้นอาจจะแค่กำลังเริ่มต้น
ไม่ใช่แค่ Apple แต่แพงขึ้นกันทั้งตลาด
โดยเมื่อพิจารณาราคาขายของสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิปบนสุดของแต่ละค่าย พบว่า 3 ปีย้อนหลัง Galaxy ตระกูล S มีการขยับราคาขึ้นถึง 15%, iPhone รุ่นปกติเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่ OnePlus เพิ่มขึ้นกว่า 30% และเป็นเช่นนี้สำหรับทุกแบรนด์สมาร์ทโฟน
CNET ได้สอบถามผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทุกค่ายในเรื่องนี้ แต่มีเพียงบางรายที่ให้คำตอบ เช่น LG บอกว่า มีหลายปัจจัยทั้งราคาชิ้นส่วน, การแข่งขันในตลาด, ส่วนแบ่งที่ต้องจ่ายให้โอเปอเรเตอร์ ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น ส่วน OnePlus บอกว่าแนวโน้มอุตสาหกรรม มีความต้องการชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่ากำลังการผลิต และต้องการคุณภาพชิ้นส่วนที่สูงขึ้นมาก ราคาที่ผู้ผลิตต้องจ่ายจึงสูงขึ้นตาม
นักวิเคราะห์มอง เป็นแผนการตลาด
ดูเหมือนชิ้นส่วนที่ใส่เข้ามา มีต้นทุนที่สูง ก็เลยทำให้ราคาสมาร์ทโฟนต้องแพงขึ้น แต่ Ben Wood นักวิเคราะห์จาก CCS Insight ไม่คิดเช่นนั้น เขาบอกว่าชิ้นส่วนราคาอาจแพงขึ้นแต่ไม่ได้มาก สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือคนอาจจะบ่นกันเยอะว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นนี้แพง แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่บ่น และเดินออกไปซื้อเลย เขาเชื่อว่าแอปเปิลเองก็เข้าใจคนกลุ่มนี้ จึงกล้าขึ้นราคา iPhone เพื่อทำให้ตำแหน่งทางการตลาดดูสูงกว่าคู่แข่งขึ้นไปอีก และคู่แข่งก็เลือกขึ้นราคาตามเพื่อปรับตำแหน่งสินค้าด้วย
Carolina Milanesi นักวิเคราะห์จาก Creative Strategies มองว่าสมาร์ทโฟนสามารถตั้งราคาแพงขึ้นไปมากกว่านี้ได้อีก เหตุผลสนับสนุนหนึ่งคือสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ราคาอาจจะแพงขึ้น แต่ถ้าคนซื้อยังรู้สึกว่าสามารถใช้ได้คุ้ม เขาก็พร้อมจ่ายอยู่ดี
นักวิเคราะห์ Ben Wood ยังบอกว่าอันที่จริงผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องขอบคุณแอปเปิล เพราะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน มีพื้นที่ทำอัตรากำไรได้สูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง หากโทรศัพท์มีฟีเจอร์ลูกเล่นที่น่าสนใจมากพอ
สมาร์ทโฟนกลุ่ม กลาง-ล่าง ไม่กระทบ
ข่าวดีก็คือราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ นั้น คงเกิดเฉพาะระดับบนเท่านั้น เพราะในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงล่าง แนวโน้มราคาแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดูได้จากราคาของผู้ผลิตที่โดดเด่นในตลาดนี้อย่าง Xiaomi, Nokia และ Oppo
เหตุผลสำคัญก็คือลูกค้าในกลุ่มนี้ มีความอ่อนไหวต่อราคาสูง (Price Sensitive) สมาร์ทโฟนที่เน้นขายกลุ่มนี้จึงต้องพยายามคุมราคา และใส่สเป็กที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ฉะนั้นสัญญาณราคามือถือที่แพง จึงไม่เกิดกับกลุ่มนี้ และถือเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดของตลาด
อาจสรุปได้ว่า หากคุณรู้สึกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นบนมีราคาแพงเหลือเกิน การมองมาที่สมาร์ทโฟนระดับกลางที่จ่ายเงินน้อยลง แต่สเป็กและฟีเจอร์อาจตัดทอนไปบ้างในระดับที่ยอมรับได้ คงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายคน
ที่มา: CNET
Comments
Start 2000-5000usd คนก็ซื้อ loyalty สูงยังไงคนก็พร้อมจ่าย แต่หวังกินนานๆก็คงไต่เป็นบันไดไปเรื่อยๆนั่นล่ะ
จึงต้องพยายามทำ คุมราคา
ดีแล้วแพงๆ ขายได้น้อย แต่ยังกำไรสูง ขายถูกๆ ก็ต้องผลิตเยอะขึ้น เดี๋ยวแรมราคาไม่ลงซักที
ไม่เคยซื้อราคาเต็มซักที รอราคาโอเปอเรเตอร์ลดตลอด บางทีก็รอครึ่งปีค่อยซื้ออย่าง iPhone X ตอนนี้ก็ราคาลงมาเยอะพอสมควรแล้ว
อ่านปุ๊บ ผมไปเปิดดู ราคายังเท่าตอนผมซื้อเดือนกุมภานะ 39k 64GB พวกลดถูกๆ ยังไงก็ไม่คุ้มโปรที่บังคับใช้(ปรกติผมใช้เดือน 250
ปกติผมใช้โปรรายเดือนค่อนข้างแพงนะครับ 1,499 บาท/เดือน อย่าง Note 9 ถ้าใช้โปรผมก็ลดไป 15,XXX บาท...
LAZADA ครับ official retail ราคาถูกมาก
แพกเกจ 250 นี่ โปรลับแน่นอน499 เหลือ 250
เมื่อตลาดมันตันแล้วการขยับราคาขึ้นก็ดูจะเป็นการชดเชยที่ยังพอเป็นไปได้
โถถถถถ สมัยแอปเปิลด่าแพง ถึงคราวแอนดรอยด์ชมว่าสมเหตุผล
ผมไม่มีเห็นใครชมว่าสมเหตุสมผลครับ ของแพงมันก็ยังแพงยกเว้นคน 1% ในประเทศที่เห็นว่ามันก็แค่ทำงานสิบนาทีก็ได้สิบเครื่องแล้วละครับ ถึงจะชมได้ลงคอ
แพงทั้งคู่แหล่ะครับ ตอนนี้แพงจนรู้สึกว่าเสียดายที่จะจ่ายให้ iPhone X แล้ว ถ้าโมเดลหน้ามาแพงกว่า iPhone X ผมคงต้องถอยแล้ว
ส่วน Android ยังมี 1+ กับ Mi ที่ราคาสมเหตุผลอยู่
แอปเปิลกำไรต่อเครื่องสูงมากๆ โดนว่าก็ไม่แปลกครับ
อย่างน้อย XZ2 Premium ก็ยั่งไม่ทะลุ 30000
แต่มันก็เกือบๆแล้วครับ
แต่เอาจริงสินค้าแบรนด์แอปเปิลมันก็ราคาแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วมั้ยอะครับ
ถูก มีไอโฟน ไอแพด นี่แหละที่ ตั้งราคาแบบคนทั่วไปจับต้องได้
มี MacBook Air กับ Mac mini อีกอันตัวถูกสุดนะ ถ้าปรับแต่งเอาสเป็คดีๆ นี่แพงเกิ้น ไหนจะจอ คีย์บอร์ดอีก
เรามันตลาดล่างสำหรับบางยี่ห้อ ... แต่สบายใจและสบายกระเป๋า แถมตัวเลือกเยอะดี
อยากตีปากนักวิเคราะห์จริงๆ
ขนาด sony ออกราคาต่ำกว่า ss, huawei คนยังบ่นว่าแพงเลย
ถือ Sony แล้วดูแพงกว่า ถือ Samsung ด้วยนะครับ
ดีไซน์เค้ามันดูแพงจริง แม้ลูกเล่นจะสู้ชาวบ้านเค้าไม่ได้เลยก็เถอะ 555
‘ขึ้นราคา iPhone เพื่อทำให้ตำแหน่งทางการตลาดดูสูงกว่าคู่แข่งขึ้นไปอีก และคู่แข่งก็เลือกขึ้นราคาตามเพื่อปรับตำแหน่งสินค้าด้วย’
เนี่ย! ชัดเจนที่สุด
iPhone X พอไหวครับ แต่ถ้ารุ่นต่อ ๆ ไปยังแพงขึ้นไปอีก อาจต้องพิจารณาละครับ เพราะรู้สึกว่า iPhone X นี่ก็แตะขอบบนของความคุ้มทุนของผมละ
สำหรับผมไอโฟนก็ยังเป็นตัวเลือกที่โอเคอยู่ครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้เลือกเป็นตัวตกรุ่น หรือรอโปรที่จะออกมาจากค่ายมือถือเสียมากกว่า เพราะตั้งแต่เข้าสู่ยุค 64 bits การเป็นเครื่องล่าสุดก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับผมแล้ว
เห็นด้วยครับ แต่อีกปัจจัยที่ผมใช้พิจารณาเลือกมือถือคือกล้องครับ (จริง ๆ เป็นหลักเลยแหละ จึงจบที่ X) แต่ถ้าแพงกว่านี้ คงเอาที่ตกรุ่นซักรุ่นก็ได้
แพงขนาดนั้น ไม่ได้กินตังค์ผมแน่นอน
เดียว bubble ก็ระเบิดแบบตอน nokia อีกละ
ถ้า Xiaomi Mi... หรือ Mix... แตะระดับ 20,000 ก็หันไปเล่น Android One แทน
ต่อให้แอปเปิ้ลขึ้นราคาไอโฟนเครื่องละแสน สาวกก็ซื้ออยู่ดี อย่างมากแค่บ่น 2-3 วัน จากนั้นก็อดใจไม่ไหวต้องควักตังค์ซื้อ ถถถ จ่ายสดไม่ไหวก็ผ่อน
เชิญ
แม้แต่ตลาดบนก็แข่งขันกันด้านราคาสินะ.. แข่งกันขึ้น! ?
อีกหน่อยคงแพงกว่า Alienware
Note 9 512 กิ๊ก ราคายังไม่ทะลุ 40000 ถ้าไอโฟนซิ (iPhone XI) ออก ราคาจะไปเท่าไหร่
ยังกะราคาบ้านคอนโด ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ - -a
นักวิเคราะห์เผย เมื่อเทียบกับกระติกน้ำใน 20 ปีก่อน ราคายังขึ้นได้อีกมาก (โดยเฉพาะเมื่อนำอัตราเงินเฟ้อมาคำนวนแล้ว)
พอละ ไม่ไหวๆ เคยมอง X แต่คิดๆ ดู ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาไม่เห็นมันจะน่าสนใจ สมค่าตัวเลย ผมว่า smartphone ทุกวันนี้ก็เหมือน notebook นั่นแหละ คนส่วนมากก็ใช้ฟีเจอร์มันแค่ 20-30% แค่นั้น Mac ที่ผมใช้อายุ 7 ปีแล้วยังทำงานได้ดีทุกอย่าง iPhone6+ นี่ก็ 3 ปีละ ถ้าไม่นับเรื่องขัดใจที่หน้าจอมันชอบค้างๆ ทัชไม่ตอบสนอง (เห็นว่าเป็นฟีเจอร์ประจำรุ่น) ก็ไม่รู้สึกว่าต้องอัพเกรดอะไร
เอ.. หรือเรามันจะเข้าสู่วัยที่ “อะไรก็ได้” ละมั้ง
แต่ที่แน่ๆ ราคา = นวัตกรรม ใช้กับผมไม่ได้หรอก
มันมีคนที่ต้องการของที่ดีกว่าที่มีอยู่ในตลาดเหมือนกันนะครับ โดยเรื่องเงินไม่เกี่ยง ขอแค่มันทำงานได้อย่างที่เค้าต้องการ
ประเด็นคือ พวกตัวกลาง ๆ ที่ราคาเท่ากับรุ่นเรือธงสมัยก่อน ถ้าดูสเปคดี ๆ นี่มันก็อัพสเปคแรงกว่า เรือธงปีที่แล้วอีกนะบางทีเพียงแต่มันชื่อรุ่นไม่ใช่เรือธงไง
ของ Samsung นี่ใช้รุ่นเดิมเป็นเรือธงต่อไป แล้วแตกไลน์ รุ่นกลาง ๆ เพิ่มมาแทน
ส่วน Apple ก็เพิ่ม iPhone X มาเป็นเรือธงตัวใหม่
ล่าสุดผมไปดูพวกมือถือต่ำกว่า 10,000 บาทนี่ สเปคก็จัดเต็มเกินการใช้งานผมไปละ เพียงแต่รู้สึกว่าอยากใช้เพื่อเป็นเครื่องประดับด้วยก็เลยคิดว่ารอ พวกเรือธงหน่อยดีกว่า
เครื่องประดับนี่ 1 แสนก็ไม่แพงครับ ถ้ามันสวย ใช้แล้วภูมิใจ อย่างกระเป๋าใส่ของได้เหมือนกัน ทำไมราคาต่างกัน อย่างเพชรอะไรพวกนี้ มันก็ใส่นิ้วได้เหมือนกันทำไมราคาต่าง เพราะมันมีรายละเอียดปลีกย่อยที่บางคนไม่ได้สนใจแต่คนที่สนใจก็มีไม่น้อยนะครับ
ไม่ได้เงินจากผมแน่ ๆ ละหนึ่งยุคนี้ต้องราคาสมเหตุสมผลกับนวัตกรรมใหม่ ๆ มากกว่า