หลังจากเปิดตัวเมื่อคืนนี้ วันนี้ผู้เขียนได้มาสัมผัส Samsung Galaxy S10 และ S10+ เป็นครั้งแรก โดยภาพรวมของทั้งสองรุ่นถือว่าแตกต่างจากทุกรุ่นที่ผ่านมา ตั้งแต่หน้าจอที่มากับดีไซน์ Infinity-O มีรูกล้องหน้าที่มุมด้านขวาของจอ และจำนวนกล้องใน S10 ที่มีทั้งหมด 4 ตัว
ส่วน S10+ มีทั้งกล้องรวมกันทั้งหมด 5 ตัว และเป็นสองรุ่นที่มีระบบสแกนลายนิ้วในจอแบบ Ultrasonic ที่ซัมซุงเคลมว่าดีกว่าสแกนลายนิ้วมือในจอของโทรศัพท์มือถือหลายรุ่น
ด้านหน้าของ S10 และ S10+ เป็นกระจก Gorilla Glass 6 ส่วนด้านหลังเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ตัวเครื่องทั้งสองรุ่นบางกว่า S9+ (ความบาง 8.5 มิลลิเมตร) ซึ่ง S10 กับ S10+ บาง 7.8 มิลลิเมตร
หน้าจอ S10 มีขนาด 6.2 นิ้ว ไม่ใหญ่ น้ำหนักเบา ซึ่งส่วนตัวของผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นขนาดที่ถนัดต่อการถือด้วยมือเดียว ส่วน S10+ หน้าจอมีขนาด 6.4 นิ้ว เท่ากับ Galaxy Note 9 ไม่หนักหรือหรือเป็นอุปสรรคในเวลาหยิบถือสักเท่าใด
ความละเอียดการแสดงผลของ S10 และ S10+ กำหนดไว้ที่ FHD+ 2280 x 1080 พิกเซล เป็นค่า default แต่สามารถปรับลดลงมาเป็น HD+ 1520 x 720 พิกเซล หรือเพิ่มสูงสุดได้ที่ WQHD+ 3040 x 1440 พิกเซล
นอกจากการเปลี่ยงแปลงของดีไซน์หน้าจอแล้ว กล้องหลังของทั้งสองรุ่นยังมีถึง 3 ตัว แยกออกเป็น
- เลนส์ Tele ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซูมได้ 2 เท่า กันสั่น OIS- เลนส์ปกติความละเอียด 12 ล้านพิกเซล OIS
- เลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide) ให้มุมมองกว้าง 123 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
กล้องหลังจะมี AI ช่วบถ่ายภาพ สามารถแยกแยะประเภทของวัตถุกับสภาพแสงได้ถึง 30 แบบ เพิ่มขึ้นจาก Note 9 ที่มีเพียง 20 แบบ
กล้องหน้า S10 มีเพียงตัวเดียว ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ส่วน S10+ เป็นกล้องหน้าคู่ แบ่งเความละเอียด 10 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์ระยะชัดตื้น (Depth Lens)
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ S10 และ S10+ มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือในจอแบบ Ultrasonic มีคุณสมบัติที่ดีกว่าสแกนลายนิ้วในจอของโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นซึ่งเป็นแบบออพติคอล เมื่อนิ้วเปียกน้ำหรือนิ้วเลอะจะทำให้สแกนยากหรือไม่ติด แต่ Ultrasonic ที่ซัมซุงใช้จะเป็นระบบคลื่นเสียง สแกนแบบ 3D ตรวจจับได้ทุกลายเส้นของนิ้วมือ ป้องกันการปลอมแปลงลายนิ้วมือ ซึ่งข้อจำกัดของสแกนลายนิ้วมือในจอแบบใหม่นี้จะไม่สามารถติดฟิลม์กระจกได้ ใช้ได้เฉพาะฟิลม์ปกติเท่านั้น
ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือ PowerShare ชาร์จไร้สายให้กับมือถือ, นาฬิกา และหูฟังไร้สายได้ มากับ Fast Wireless charging 2.0
สำหรับ Galaxy S10 รุ่นที่เข้าไทย จะมาครบทั้ง S10e, S10, S10+ มีขาย 3 สี ได้แก่ สีขาว (Prism White), สีดำ (Prism Black), สีเขียว (Prism Green) และ S10+ รุ่นเซรามิก มีสีขาวและสีดำ ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท
Comments
Wallpaper ดูจงใจมาก ให้มองกลมกลืนกับกล้อง
ก็ตามแบบ iphone แหละครับ ขอบดาวโค้งหลบติ่ง
ไอโฟนหนักกว่า โดนฟ้องเลยทีเดียว ดาวเคราะห์พาดเฉียดติ่งเลย
ความจริงคือรูปจาก ฟองสบู่ นะครับ
https://youtu.be/xL8piHkl3X8
ไม่เอาจอติ่ง แต่ได้หยดน้ำมุมขวามาแทน
ฟิล์ม < เขียนแบบนี้ครับ
เปลี่ยงแปลง => เปลี่ยนแปลง
แบ่งเความ ?
ฟิลม์ => ฟิล์ม
ออพติคอล >> ออพติคัล, ออปติคัล
เดี๋ยวนี้บอกตรงๆว่า ไม่ว่ามือถือรุ่นไหนเปิดตัว ก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร สงสัยจะอิ่มตัว
กล้อง 123 ปลาฉลามขึ้นบก
แอบสงสัยชอบชิด รูกล้องเล็กๆ แบบนี้ พวก sensor วัดแสง iris scanner จับระยะ มันยังมีอยู่หรือเปล่าเนี่ย
iris scanner ไม่อยู่แล้วครับ
ส่วนตัวใช้S8+ ใช้iris ค่อนข้างบ่อยโดยเฉพาะตอนเผลอกดปิดเครื่อง เพราะไม่ต้องเอื้อมนิ้วไปด้านหลังเครื่องอีกไม่รู้ว่าสเกนนิ้วมือด้านหน้าจะแทนได้ดีไหม
ถ้าขอบล่างบางแบบไอโฟนจะสวยมากเลยครับ
ครับ
Chin comparison - Galaxy S10+ x iPhone XS Max