วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ในวงการรถยนต์ เพราะ Daimler บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz ได้ระบุว่าไม่มีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่แล้ว
Markus Schäfer สมาชิกบอร์ดบริหาร และผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนารถยนต์ Mercedes-Benz ได้กล่าวกับสื่อเยอรมันว่าขณะนี้พวกเขาไม่มีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่แล้ว และกำลังโฟกัสกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแทน อย่างไรก็ตาม Schäfer ระบุว่าการพัฒนาชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์ในปัจจุบันยังคงอยู่
ภาพการประกอบเครื่องยนต์เบนซินของ Mercedes-Benz ที่โรงงานย่าน Untertuerkheim เมือง Stuttgart ประเทศเยอรมนี | ภาพโดย Daimler
ในระยะหลัง มีเหตุการณ์หลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปฯ ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว กอปรกับการที่กฎหมายสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศก็เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์รถยนต์ต่างกุมขมับว่าต้องทำอย่างไรรถจึงจะปล่อยมลพิษออกมาให้น้อยลง เช่นเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน Euro 6 ก็ต้องเติมสารพิเศษที่ชื่อว่า AdBlue ไปผสมกับไอเสียเพื่อทำปฏิกิริยาลดไนโตรเจนออกไซด์หรือ NOx ก่อนจะปล่อยออกมาทางท่อไอเสีย และเหตุการณ์อื้อฉาวอันโด่งดังคือการที่ Volkswagen ได้ใส่ซอฟต์แวร์โกงผลการทดสอบมลพิษ เข้ามาในรถตัวเอง
หากเป็นผู้ผลิตรถยนต์เจ้าอื่นออกมาประกาศแบบนี้ ก็คงไม่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่ระดับ Daimler ที่ผู้ก่อตั้งคือ Gottlieb Daimler นั้นถือว่าเป็นผู้คิดค้นเครื่องยนต์สันดาปภายในเลยทีเดียว
หลังจากมีข่าวนี้ออกมา Elon Musk ก็ได้ทวีตแสดงความยินดีกับ Daimler ทันที และบัญชีทวิตเตอร์ของ Mercedes-Benz ได้ตอบกลับว่า "เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน"
Here's to a sustainable future. ?
— Mercedes-Benz (@MercedesBenz) September 19, 2019
Very meaningful action by the company that invented the internal combustion engine. People will remember this day. Respect.
— Elon Musk (@elonmusk) September 19, 2019
ที่มา - Electrek
Comments
วันนี้กรุงเทพ PM2.5 กลับมา อยากให้รถยนต์เลิกใช้แก๊ซกับน้ำมัน แล้วหันมาใช้ไฟฟ้าให้หมดครับ
ฝุ่นมันจะไปอยู่ที่โรงงานไฟฟ้าแทน แต่ก็คุมง่ายหน่อยถ้ามีเพราะมีไม่กี่แห่ง ถ้าเป็นรถยนต์สร้าง มันคุมยากกว่า แต่ว่า โรงงานนิวเคลียเมื่อไหร่จะมา ไม่งั้นก็ไม่จบไม่สิ้น ในไทยน่าจะใช้ได้อีกอันคือพลังงานจากคลื่นทะเล แสงอาทิตย์อย่าไปหวังกับมันมาก ฝนตก น้ำท่วม ลูกเห็บตก นี่เน่าแน่นอน
ฝุ่นผงเถ้าถ่านโรงไฟฟ้าอย่างน้อยก็ยังมีคุณค่าเอาไปทำอย่างอื่นต่อได้นะครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ผมก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน แค่ย้ายแหล่งเผาเชื้อเพลิงจากรถไปที่โรงไฟฟ้าแทน แต่อย่างว่าแหละการจัดการฝุ่นควันและมลพิษของโรงไฟฟ้าน่าจะทำได้ดีกว่ารถยนต์อยู่แล้ว ภาพรวมก็น่าจะดีขึ้นนิดนึง แต่... ยังไงก็ไม่พอครับ ถ้าเราไม่สามารถหาแหล่งพลังงานหลักอย่างอื่นมาใช้แทนถ่านหินและปิโตเลียมได้ อันที่จริงตอนนี้โรงงานไฟฟ้านิวเคลีย์นี่น่าจะดีที่สุดละ แต่ยากตรงไม่รู้จะไปสร้างที่ไหน คนต่อต้านกันเยอะ เกิดอุบัติเหตทีก็เป็นเขตอันตรายไปหลายสิบปี
ผมลองวัดค่า pm 2.5 ทุกวันๆ จริงๆ เช้าๆวันอาทิตย์หรือวันที่ กทม ไม่มีรถเท่าไหร่เช่นสงกรานต์หรือปีใหม่ ค่ามันก็ไม่ได้ลดลงเท่าไหร่นะครับ ในทางกลับกัน บางวันรถติดมาก รถเยอะมากค่ามันก็ไม่ได้โดดไปไหน ตอนนี้ผมเลยสันนิษฐานว่า หรือว่าจริงๆ รถยนต์มีผลไม่มากเท่าปัจจัยอย่างอื่น?
นั่งวัดแบบนั้นไม่ได้เจอของจริงครับ ถ้าอยากเจอว่าควันรถรถยนต์มันร้ายขนาดไหนต้องลองนั่งมอไซต์วิ่งเล่นในกรุงเทพครับ ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีอะไรไปนั่งสูดเอาก็รู้เลยครับ ผมขี่มอไซต์ทำงานทุกวัน ยิ่งต้องไปขับตามกระบะแต่ง หรือหลังรถเมล์สิบล้อนี้บางทีก็อยากระเบิดรถข้างหน้าทิ้งให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ผมก็ขี่ไปทำงานุทกวัน เบื่อพวกกระบะ
แล้วผมปั่นจักรยาน ?
?
อ่านว่ากอบกับการครับ แปลว่าประกอบกับการ
เช่น กอปรด้วย (ประกอบด้วย)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ลูกค้าที่ยังอยากใช้สันดาปต่อไปจะโดนแจกแพสินะ
"วางเจดิจบจบ"เครื่องพังก็วาง UZ สิครับ ?
ไม่พัฒนารุ่นใหม่ต่อเฉยๆ นะครับ ของเก่ายังดูแลกันอยู่.
มันจะเป็นว่า รุ่นขายโลกที่3 ที่เปิดตัวใหม่อาจได้เครื่อง เก่าอะสิ เพราะ โลกที่3 ยังไม่มีที่เติมไฟฟ้าเท่าไหร่
สำหรับตลาดที่ยังไม่พร้อมสำหรับรถไฟฟ้า ก็คงเป็นแนวทางนั้นครับ อาศัยเครื่องเดิมมาปรับปรุงแต่สำหรับประเทศไทย MB เอาของใหม่เข้าเร็วนะครับ เร็วเกินไปจนต้องเลิกขายเพราะยังไม่พร้อมด้วยซ้ำ เช่น รถเจนนี้ (w205, W213) ก่อนจะไมเนอร์เชนจ์ก็ขายแต่ไฮบริดจ์เสียบปลั๊กเท่านั้น (ตอนนี้ยอมเอาดีเซลกลับมาขายแล้ว)
ดีเซลตัวใหม่ๆ เพิ่งพัฒนาเสร็จไปไม่กี่ปี ยังไม่ต้องกลัวว่าไม่มีใช้ครับ
อย่าง OM654 มันเพิ่งมาได้ไม่กี่ปีเอง เดี๋ยวขายประเทศพัฒนาแล้วไม่ได้ ก็มาลากขายที่ประเทศกำลังพัฒนาแทน
oxygen2.me , panithi's blo g
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
น่าจะเป็นขายในประเทศที่หยุดพัฒนามากกว่า กำลังพัฒนา
เห็นข่าวตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเยอรมันมีนโยบายหรือกฎหมายที่จะให้เลิกใช้รถยนต์แบบสันดาปในปี 20XX ตอนนั้นผมมองว่าเพ้อเจ้อ ไม่น่าทำได้จริง มาวันนี้เริ่มแล้วหนึ่ง อีกหน่อยหลายๆ ค่ายเยอรมันคงตามกันไป
อนึ่ง ชาวเยอรมันชอบปั่นจักรยาน
และชอบใส่ Crop top ด้วยครับ...
คืออะไรครับ ไม่เก็ท อิอิ
ถ้าเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นพัฒนาสำเร็จก็จะมีพลังงานสะอาดที่ให้ความร้อนเท่าดวงอาทิตย์
เป็นสัญญาณที่ดี
หลังจากนี้ น่าจะมีการพัฒนา แบตเตอรี่และโซล่าเซลล์ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากๆ
อนาคตที่ยังไม่ถึงคือการใช้เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นย่อส่วนใส่ลงในรถยนต์เพื่อใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนแต่คงจะตายแล้วเกิดอีกหลายชาติกว่าจะได้ใช้
ดีใจด้วยน้าาา