สํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ได้ประกาศออก LINE Chatbot ซึ่งจะช่วยรวบรวมและค้นหาพิกัดร้านขายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ หรือสินค้าจำเป็นเพื่อป้องกันไวรัส เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการหาซื้ออุปกรณ์ป้องกันไวรัส COVID-19
บริการแชทบอทของ DGA ข้างต้น ประกอบด้วย LINE Chatbot 2 ตัว ซึ่งทำหน้าที่ต่างกันไปกล่าวคือ
- DGA Chatbotสำหรับประชาชนทั่วไปที่หาซื้อสินค้าจำเป็นเพื่อป้องกันไวรัส แชทบอทสามารถแสดงพิกัดร้านค้า รวมถึงข้อมูลจำนวนสินค้าป้องกันไวรัสที่ร้านค้ามีอยู่
- SmartShop ChatBotสำหรับร้านค้าที่ต้องการลงทะเบียน และกรอกข้อมูลสินค้าป้องกันไวรัสที่วางจำหน่าย
ภาพตัวอย่างการใช้งาน DGA Chatbot
เท่าที่ผมลองด้วยตัวเอง ข้อมูลร้านค้าบนบริการแชทบอทดังกล่าวยังมีเพียงไม่กี่แห่ง ซึ่งก็พอเข้าใจได้เมื่อมองว่าตัวแชทบอทเองเพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงหนึ่งวัน
นอกจากนี้ จากการพูดคุยกับทีมพัฒนาที่ผู้เขียนรู้จัก เป้าหมายที่แท้จริงของบริการแชทบอท จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการช่วยแสดงพิกัดและข้อมูลจำนวนสินค้าที่ได้จากการกรอกโดยร้านค้าเท่านั้น
ทีมพัฒนายังตั้งใจจะเชื่อมข้อมูลกับผู้ให้บริการที่มีความพร้อมเพื่ออัพเดตข้อมูลสินค้าบนบริการแชทบอทแบบเรียลไทม์อีกด้วย ซึ่งก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนที่ถือข้อมูลสินค้าจำเป็นเพื่อพัฒนาบริการต่อไป
ท่านใดสนใจสามารถแอดไลน์เพื่อเข้าใช้งานได้ที่ลิงก์ http://line.me/ti/p/@dgachatbot และขอเชิญชวนร้านค้าร่วมลงทะเบียนผ่านการแอดไลน์ที่ลิงก์ http://line.me/ti/p/@smartshop ครับ
ที่มา - เฟซบุ๊ก DGA Thailand
Comments
ตกลงเราหาเธอไม่เจอหรือว่าเธอขาดตลาดกันแน่
ของแบบนี้... ควรเปิดตัวแอพที่ระบุพิกัดคนติดเชื้อทั่วประเทศอบบระบุบนแผนที่มากกว่า ส่วนหน้ากากอนามัย กับเจลล้างมือ ถ้าไม่มี ก.พาณิชย์ห่วยๆ ของมันไม่ควรขาดตลาดแบบนี่ ไหนว่ามี 200 ล้านชิ้นไง
สรุปบริการใหม่นี้ไม่ดีเหรอครับ หรือทำอะไรก็หาเรื่องติได้ไต้หวันยังมีแผนที่แบบนี้ละชมกันจัง พอไทยทำบ้างโดนด่าอีก เวรกรรม
ถ้าจำไม่ผิดทางการไม่เคยพูดคำว่า 200 ล้าน เคยแต่บอกประเทศเราไม่มีกำลังผลิตขนาดนั้น และตั้งข้อสงสัยในตัวเลขนี้ว่าไม่น่าเป็นจริง 200 ล้านมันมาจากคนคนนั้นอ้างว่ามี
การประชาสัมพันธ์ของรัฐห่วยแตกพอๆ กัน อะไรที่ต้องชีแจงให้เข้าใจ คนจะได้ไม่แตกตื่น ไม่พอบางครั้งยังประชาสัมพันธ์มาตีกันเองระหว่างกระทรวงอีก มันเลยทำให้รัฐยิ่งดูแย่//คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด
ตอนนี้ทำอะไรก็โดนด่าอยู่ดีครับ ทำใจ คนไทยก็แบบนี้แหละ
ย้อนหลังไปเพียงแค่หนึ่งเดือน (2 กุมภาพันธ์ 2563) จากข่าวที่ปรากฏต่อสื่อ มีภาพนายจุรินทร์ ตรวจเยี่ยมโรงงาน ยิ้มหรา บอกว่าประชาชนสบายใจได้ โรงงานมีสต็อก 200 ล้านชิ้น (ข่าว workpoint เผยแพร่ผ่านข่าว line และข่าวในเพจอีจัน) และมีกำลังผลิต 100 ล้านชิ้นต่อเดือน (ข่าว สยามรัฐ)
ถ้าผมบอกว่าผมมี 1 พันล้านชิ้น คุณก็จะเชื่อที่ผมบอกทันทีเลยหรือเปล่าล่ะครับไทย ผลิต ได้วันละล้านกว่าชิ้น ประชากรซัดไป 70 ล้าน ตีลังกาคิดยังไง ก็ไม่มีทางได้ถึงกันหมด
จริงครับ ตัวเลขก็มีเทียบตรรกระง่ายๆคนที่บอกมีขาย 200ล้านชิ้น คนเชื่อไปได้ไงว่ามีจริง กำลังผลิตทั้งประเทศโดยไม่ใช้ซักชิ้น ผลิต 100 วันยังไม่ถึงเลย
ล่าสุดผลิตได้วันละ 2 ล้านชิ้น ส่งให้โรงพยาบาล 1.2 ล้านชิ้น เหลือ 8 แสนชิ้น ใช้คนละชิ้นยังไม่พอเลย คนไทยมี 70 ล้านคน สมมติใช้แค่ 10% ประมาณ 7 ล้านคน จนสถานการณ์จบ หน้ากากยังผลิตไม่พอเลย เขาถึงรณรงค์ให้ใช้หน้ากากผ้า เพราะมันไม่มีวันพอ
+1 พูดตามตรงว่าตกใจมากที่เห็นความเห็นเป็นเหตุเป็นผลขนาดนี้ใน Blognone ช่วงหลังๆนี่หายากมากๆ
คนหาซื้อไม่ได้เข้าใจได้ครับแต่รพ. มีหนังสือมาชี้แจงว่าขาดนู่นขาดนี่อยู่ตลอดคือคำตอบว่าหมอไม่ได้ใช้เยอะเท่าคนทั้งประเทศยังหาของให้ไม่ได้เลย ทั้งที่หมอเขาก็ใช้อยู่เป็นปกติ ไม่ได้มากขึ้นมากนัก แต่กระทรวงพาณิชย์ที่บริหารจัดการอยู่คนเดียวหาให้ไม่ได้แต่อนุญาตให้บริษัทที่มี BOI ส่งออกได้เป็นตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งที่อยู่ในภาวะที่ไม่ควรส่งออกทั้งสิ้น แล้ววันนี้ก็ไข่ไก่ขาดตลาดครับไม่รู้ใครส่งออกไปไหนอีก ผมไปตลาดที่ใหญ่มากๆมีร้านขาย 5-6 ร้านหมดเลยเกิดมาไม่เคยเจอสถานการ์แบบนี้ครับ ตอนคุณอภิสิทธิ์ขายไข่ไก่ชั่งกิโลยังมีของเลย
ปล.ไอคนที่โม้ว่ามีสองร้อยล้านชิ้นมีจริงไหมไม่รู้แต่ที่แน่มันโชว์ว่าส่งออกได้ทีละ 1 ล้าน แต่ก็ไม่มีการสอบสวนต่อปิดบังให้เงียบหายไป ก็น่าเจ็บใจนะครับเสกไอซ์เป็นแป้งได้ เสกหน้ากากให้หายไปได้
https://m.youtube.com/watch?v=-TiZ5ZeX13sไปฟังคนตามหาคนอมกน้ากากกันบ้าง