หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งทำงานในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ โพสต์รูปภาพตัวเองในชุดบิกินี่ตอนไปเที่ยวทะเลในทวิตเตอร์ กลายเป็นว่าเธอโดนวิจารณ์ว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ
เรื่องของเธอกลายเป็นไวรัลขึ้นมา จนคนในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ทั้งหญิงและชายต่างตอบโต้ด้วยการโพสต์รูปตัวเองในชุดบิกินี่บ้าง เพื่อเป็นการสนับสนุนการแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง แม้ในโปรไฟล์โซเชียลมีเดียจะระบุว่าเป็นคนทำงานในอุตสาหกรรมใดก็ตาม
Coleen S หนึ่งในหญิงสาวที่จุดไวรัลและยังเป็นผู้หญิงข้ามเพศด้วยบอกว่า เมื่อโพสต์รูปออกไปก็ได้รับคอมเม้นท์แย่ๆ มากมาย ในขณะเดียวกันก็มีข้อความให้กำลังใจและสนับสนุนเข้ามาด้วย ทำให้รู้สึกมีความหวังสำหรับอุตสาหกรรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่มีปัญหามากมายเรื่องเพศ
Rik Ferguson รองประธานฝ่ายวิจัยด้านความปลอดภัยของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ Trend Micro ระบุว่า ผู้หญิงที่ทำงานในวงการนี้มักเจอปัญหาถูกล่วงละเมิด และถูกตัดสินต่างๆ นานา ในฐานะเป็นบุคคลหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้ ก็หวังว่าเราจะไม่มีที่ว่างสำหรับการละเมิดและเรื่องไร้สาระเหล่านี้
Photo by Lucas Allmann on StockSnap
ที่มา - VICE
Comments
หาความเชื่อมโยงไม่เจอว่าทำไมงานที่ทำถึงทำให้มีปัญหาในการแต่งตัวนอกเวลางานยังไงได้ ?
มนุษย์เราบางเรื่องนี่ก็ไร้สาระจริงๆ
ผมว่าการบอกว่าไม่ดูเป็นมืออาชีพเพราะใส่บิกินี่ แม้จะดูเป็นตรรกะที่แย่ แต่จะบอกว่าถูกล่วงละเมิด หรือถูกตัดสินก็ดูไม่เข้าที ไม่เข้าเค้านะ ฟังดูก็เป็นแค่การไม่เห็นด้วยทั่วๆ ไป
ผมไม่แน่ใจว่าคนสมัยนี้รับได้แค่คำชมเท่านั้นเหรอ?
หรือผมวิเคราะห์ลึกไม่มากพอ?
ผมว่าคุณเข้าใจผิดไปนิดครับ ข่าวต้องการจะสื่อว่านอกจากคำวิจารณ์ว่าไม่เป็นมืออาชีพแล้วมันมีปัญหาเรื่องเพศเกิดขึ้นมากมายในวงการ ซึ่งการล่วงละเมิดหรือหรือการถูกตัดสินก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย
ไม่ได้บอกว่าการพูดว่าดูไม่มีความเป็นมืออาชีพมันคือการล่วงละเมิดแต่อย่างใดครับ
ปล. แต่ผมมองว่าข้อความดังกล่าวมันคือการตัดสินนะครับ ก็คือตัดสินว่าคนทำอาชีพนี้ไม่ควรใส่ชุดบิกินี่ครับ
จริงๆ ส่วนนึงของความเห็นมันคือการตัดสินนะครับ ตั้งแต่ตัดสินรูปร่างหน้าตา ไปจนถึงชีวิตความเป็นอยู่ หน้าที่การงาน ฯลฯ เช่น ถ้าผมบอกว่าใครสักคนฉลาดจัง หรือสวยจัง หรือพูดเก่งจัง แถมทำงานเก่งด้วย เหมาะสมแล้วที่เป็นผู้จัดการ ... การแสดงความเห็นแบบนี้ก็เป็นการตัดสินเช่นกันใช่มั้ยครับ
ความเห็นเชิงบวก เรียกว่าคำชม ถ้ามากเกินเรียกว่าอวยความเห็นเชิงลบ เรียกว่าคำติ ถ้ามากเกินเรียกว่าด่า/สาดเสียเทเสีย มากสุดคือ hate speech
เมื่อการแสดงความเห็นมันมีทั้งเชิงบวกเชิงลบ และตรรกะของมนุษย์ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอ อย่างกรณีนี้ที่แสดงความเห็นโดยเอาเอาชีวิตส่วนตัวของคนอื่นมาปนกับชีวิตการทำงาน แต่มันก็เป็นแค่การแสดงความเห็นไม่ใช่เหรอครับ?
นั่นจึงเป็นที่มาของผมว่าทำไมถึงรับได้แค่ความเห็นเชิงบวกที่เรียกว่าคำชมเหรอครับ?
คนเรามักจะมีความสุขจากความเห็นเชิงบวก แต่เรามักจะไม่มีความสุขจากความเห็นเชิงลบครับ
คำถามของคุณ ผมมองว่ามันก็เหมือนกับถามว่าทำไมการช่วยผู้อื่นถึงทำได้ แต่ถ้าการทำร้ายผู้อื่นถึงทำไม่ได้นั่นแหละครับ
abusive behaviours มันต่างกับการแสดงความเห็นมากเลยนะครับ และ abusive behaviours ที่ผมพูดถึงมันรวมทั้งกาย ทั้งคำพูด ทั้งการนิ่งเฉย ทั้งการดูดาย ฯลฯ
จริงๆ ก็น่าคิดว่าการแสดงความเห็นเชิงลบแบบนี้ มันเป็น abusive behaviours รึเปล่านะครับ
คนพูดไม่รู้สึกอะไรแต่คนฟังรู้สึกไม่ดี เรื่องทำนองนี้มันเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆเพราะคนเราขีดเส้นเรื่องนี้ไว้ไม่เท่ากันครับ เพราะงั้นส่วนตัวผมคิดว่ามันเปล่าประโยชน์ที่จะหาเส้นแบ่งของพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่งว่าเป็น abusive หรือไม่
แม้แต่กฏหมายเอง ถึงจะพยายามแบ่งไว้ แต่สุดท้ายมันก็อยู่กับคู่กรณีอยู่ดี ว่าฝ่ายที่กระทำและฝ่ายที่ถูกกระทำเขาคิดเห็นอย่างไร
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าถ้ามีคนเจ็บ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามครับ
"ถ้าผมบอกว่าใครสักคนฉลาดจัง หรือสวยจัง หรือพูดเก่งจัง แถมทำงานเก่งด้วย เหมาะสมแล้วที่เป็นผู้จัดการ ... การแสดงความเห็นแบบนี้ก็เป็นการตัดสินเช่นกันใช่มั้ยครับ"
ใช่ครับ บางคนมองว่าชื่นชมเป็นเรื่องดี แต่บางคนเค้าไม่ชอบให้ชื่นชมเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องก็มีครับ เช่นชมว่าหน้าตาดีมีสง่าเหมาะกับเป็นผู้บริหาร บางคนก็ไม่ชอบเพราะเค้าขึ้นตำแหน่งมาได้เพราะฝีมือหน้าที่การงาน คือเราปฏิเสธไม่ได้ว่าอะไรที่มันเป็นเชิงบวกคนก็ชอบมากกว่าเชิงลบอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชอบอะไรเหมือนๆกันทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับได้เฉพาะความเห็นเชิงบวก คนเรามันมีมากมายหลากหลาย อย่าพึ่งเอาสิ่งที่เราเห็นมาตัดสินว่าทุกคนจะคิดแบบนั้นเลย ยิ่งสังคมไทยที่ติดอวยกันเป็นนิสัยแบบไร้ความจริงใจยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องพวกนี้มันไร้สาระ
อย่างเนื้อหาในข่าว หลักๆมันคือการที่เค้าโดนคนคอมเมนต์ติว่าไม่เหมาะสมกับการโพสต์รูปบิกินี่ในพื้นที่ส่วนตัว และเราก็เห็นว่าวงการนี้มีข่าวเรื่องทัศนคติแย่ๆแบบนี้เยอะมาก อาจจะเพราะเป็นวงการที่ผู้ชายยังถือตัวเป็นใหญ่อยู่ด้วยมั้งครับ
เอาง่ายๆ คือ ถ้าพูดแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรก็ไม่ต้องพูดก็ได้ครับ
คงต้องถือตามนั้นจริงๆ ครับ
ก็ตรรกะประมาณ นายก และ ผู้บริหาร ศูนย์**** ไปเปิดปราสาททราย(Sandbox) หนะหละหาความเชื่อมโยงไม่ได้ว่า "ไปทำไมหว่า?"
1 คนทำจะดูแปลกแยก
100 คนทำดูกลมกลืน
10,000 คนทำดูเป็นเรื่องปกติ
คนทำไม่ได้มีน้อยหรอกครับ แค่แบบบางคนรับไม่ได้เอง
อย่างผมก็รู้จักหลายคนที่ชอบโพสต์รูปในชุดบิกินี่ของตัวเอง (หุ่นดีด้วยนะ (แน่ล่ะถ้าหุ่นไม่ดีใครจะกล้าอวด (ฮา))) ก็สายไอทีอย่างพวกเรานี่ล่ะครับ
มันเป็นเรื่องความภูมิใจในตัวเอง (self-esteem มั้ง) น่ะครับ แบบมีดีก็ต้องอวดหน่อย อีกอย่างถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้ดูตอนอายุเยอะๆ นี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ
ถ้ามองในมุมความภูมิใจในตัวเอง ก็คงไม่ต่างจากผู้ชายเล่นกรามถอดเสื้อ หรือใส่เสื้อฟิตๆ โชว์หุ่นกรามของตัวเองเท่าไหร่ หรือแม้แต่ผู้หญิงที่ชอบการแต่งตัว แล้วถ่ายรูปโชว์ เพียงแต่บางวงการ บางสังคม หรือบางคน อาจจะไม่คุ้นเคยกับการที่ผู้หญิงใส่บิกินี่ก็ได้มั้ง ทั้ง ๆ ที่มันก็ชุดว่ายน้ำ
ติดที่ wfh มาหลายเดือนแล้ว ทำให้ตัวบวม ตัวแตกไม่งั้นได้โพสมั่ง 55