แอปเปิล ประกาศ ในหน้าข้อมูลการบริการแบตเตอรี่ iPhone ว่าเครื่องที่อยู่นอกการรับประกันแล้ว ซึ่งปกติมีค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มเติม จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกจากราคาเดิม 890 บาท โดยมีผลกับ iPhone รุ่นก่อน iPhone 14 ทั้งหมด
ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ที่ Apple Store หรือศูนย์บริการ Apple Authorized Service Provider (AASP) ปัจจุบันเริ่มต้นที่ 1,600 บาท มีรายละเอียดดังนี้
- iPhone SE, iPhone 6, iPhone 7, iPhone 8- 1,600 บาท - ราคาใหม่ 2,490 บาท
- iPhone X, iPhone 11, iPhone 12, iPhone 13- 2,300 บาท - ราคาใหม่ 3,190 บาท
จะเห็นว่าการเตรียมขึ้นราคาอีก 890 บาท เป็นอัตราการขึ้นราคาที่เพิ่มสูงทีเดียว ส่วน iPhone 14 ที่ไม่ได้ปรับราคาขึ้นด้วย มีราคาค่าธรรมเนียมตอนนี้ที่ 3,850 บาท ก็อาจพูดได้ว่าขึ้นราคารอไปก่อนแล้ว
ราคาใหม่นี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2023 เป็นต้นไป ฉะนั้นใครที่แบตเตอรี่แสดงคำเตือนว่าเสื่อมสภาพแล้ว ก็น่าจะรีบจองคิวเพื่อรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในราคาเดิม
ที่มา: 9to5Mac
Comments
ผมก็บอกแล้วว่าราคาแบตฯมันจะแพงขึ้นเพราะรถไฟฟ้าใช้เยอะ แต่คนอื่นๆชอบบอกแบตฯใช้กันเยอะแล้วราคาจะถูกลง
ยังสงสัยอยู่เลยว่าคิดกันไปได้ยังไงว่าแบตฯใช้เยอะแล้วจะถูกลง
เดี๋ยวอีกไม่นาน มือถือยี่ห้ออื่นๆก็ขึ้นราคาแบตฯตามกันไปเพราะเหตุนี้แหละครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
อาจจะเป็นเรื่องวิธีการผลิตแบตด้วยนะครับ ปกติรถยนต์ไฟฟ้ามักจะใช้พวก Li-Ion กัน (ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) กันอยู่แล้ว
และส่วนตัวคิดว่าแบตที่ราคาถูกลงน่าจะยังไม่ได้เห็นในเร็ววันนี้แน่นอน เว้นเสียแต่ว่าแบตเตอรี่ประเภทใหม่ ๆ ออกมาให้ใช้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าจะเข้าใจผิดกันมากกว่าคือต้นทุนการผลิตถูกลง แต่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้กระแสยังไม่มาก ต้นทุนวัตถุดิบยังไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
แต่ต้นทุนการผลิตสูง ถ้าผลิตเป็นจำนวนน้อย ต้นทุนจะสูงมาก
ถ้าสามารถผลิตเยอะๆแล้วขายหมดได้ ด้วย EoS จะทำให้แบตถูกลง
สรุปคือถูกลงในการผลิต แต่ความต้องการของตลาด ทำให้ราคาขายสูงอยู่ดี
มันขึ้นราคา เพราะ ต้นทุนแบต แน่นอนแล้วใช่ไหมครับ
ถูกลงเพราะมีการผลิตเป็นจำนวนมากขึ้นเลยเหมาแร่ลิเทียมจำนวนมากๆ ราคาต่อหน่วยต้นทึนเลยถูกลง แต่มันมีความต้องการการใช้งานมากเกินไป ราคาเลยขึ้น ว่าแล้วสักวันต้องเป็นแบบนี้ เพราะแบตไม่มีการพัฒนาการหรือมีพัฒนาการที่ช้ามาก ส่วนอื่นๆของ อิเล็กทรอนิกส์นี่ไปไกลแล้ว
ขึ้นเยอะมาก เกือบ 50% เลย
มีใครมีร้านที่น่าเชื่อถือ แนะนำให้เปลี่ยนไหมครับ
ถ้ายังคงเรื่องกันน้ำไว้ได้ด้วยจะดีมากๆ
ร้านที่ผมใช้อยู่เค้าบอกเลยว่ากันน้ำหาย T^T
ร้านนอกไม่มีร้านไหนกล้ารับประกันเรื่องนี้หรอกครับเดี๋ยวเข้าตัวเปล่าๆ
มันไม่มีอะไหล่ส่วนที่เป็นชั้นกาวกันน้ำครับ เปิดฝาเครื่องปกติต้องเปลี่ยนทุกครั้ง แผ่นนึงก็ 5$ แล้ว บ้านเราเค้าข้ามเรื่องนี้ไปเลย.... เคยบวกๆ ราคาที่ ifixit ดูแล้วราคา (ที่ยังไม่ตีบวก) ของ apple มันก็มีเหตุผลอยู่
แล้วแต่พี่เลย ตอนไอโฟนก็ทีนึงแล้วไทยขึ้นราคา 3-4 พัน USA ราคาเท่าเดิมบอกค่าเงินบาทอ่อน ตอนนี้ค่าเงินบาทแข็งโป๊กกะกินนิ่มๆเลย อย่างว่าเรื่องแบบนี้สาวกไทยเค้าไม่แคร์กันหรอกยังไงก็ซื้อ
อันนี้ us ก็ขึ้น
มันขึ้นทุกประเทศนะครับไม่ใช่แค่ที่ไทยอย่างเดียว
มันขึ้นทั่วโลกครับ ไปอ่านข่าวมาตั้งแต่ก่อนเอามาแปลลงที่นี่และไปไล่เช็คราคามาแล้ว มีแจ้งเตือนแบบนี้หมดในหน้า Apple Support ทั่วโลกครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เค้าไม่ได้ปรับทันทีครับ บางปีที่ราคา usd เท่าเดิมแต่ราคาเป็นบาทลดก็มีครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ตอนที่ประกาศราคา iphone 14 แพงขึ้นเพราะค่าเงิน ไม่ใช่แพงแค่เรานะครับ จริง ๆ เป็นเพราะดอลล่าร์มันแข็งมากเพราะนโยบายการเงินของอเมริกา พอเราไปเทียบกับดอลล่าร์ก็เลยดูอ่อน ยุโรปกับญี่ปุ่นอ่อนกว่าเราอีก ของเราราคาขึ้นประมาณ 10% ที่ญี่ปุ่นขึ้นประมาณ 20% ที่ยุโรปขึ้นประมาณ 30%
ตอนปีที่ถูกๆ เช่น iPhone 11 นั่นดอลละ 30-31 เองมั้งครับ
ตอนเปิดตัว iPhone 14 ดอลละ 38-39
ขึ้นถึง 60-70% เลยเนี่ย ตายๆ
ดีปีที่แล้วเปลี่ยนไปก่อนละ แต่ก็หมดเร็วอยู่ดี ไม่เหมือนตอนซื้อใหม่ๆ เลย
สงสัยยังกำไรไม่พอ ขอเพิ่มอีกละกันคนใช้ก็ซวยไป
ขึ้นแบบเยอะมาก
มีค่าแรงตอนเปลี่ยนครั้งละ 500 ด้วยนะ ราคาเน็ตจริงๆ ไม่ใช่ราคานี้
น่าจะที่ตัวแทนที่เสียนะ apple store จริงๆไม่เสีย
Apple Store ไม่เสียนะครับ เพิ่งไปเปลี่ยนที่สาขา central world ตอนเดือนที่แล้ว จ่าย 1,600 ถ้วนไม่มีบวกเพิ่ม
ราคาเปลี่ยนแบตจะ 1 ใน 4 ของ หนึ่งหมื่นบาท หรือ 50% ของ หนึ่งหมื่นบาทแล้ว ตายๆ