David Reid ศาสตราจารย์ด้าน AI และ Spatial Computing ของมหาวิทยาลัย Liverpool Hope อธิบายถึงเหตุผลที่ใส่ Apple Vision Pro แล้วไม่เวียนหัวเหมือนอุปกรณ์ VR อื่น เนื่องจาก Apple พยายามแก้ไขปัญหาโดยการทำให้ภาพที่เห็นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและปรับระยะโฟกัสสายตา
ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในการใส่แว่น VR คือ อาการเวียนหัว จากความขัดแย้งระหว่างจุดรวมสายตาและการปรับโฟกัส Vergence-Accommodation Conflict (VAC) เมื่อจุดรวมสายตาและจุดโฟกัสไม่ตรงกันระหว่างระยะทางของวัตถุ 3D เสมือนจริงกับระยะโฟกัสที่วัตถุนั้น จะส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตา, ปวดตา และเหนื่อยล้าจากการใช้แว่น VR
Reid อธิบายกับทาง BBC ว่า Apple แก้ไขโดยการทำภาพวัตถุเสมือนให้รู้สึกสมจริงมากขึ้น พยายามลดการเหนื่อยจากการเคลื่อนไหวของภาพให้ได้มากที่สุด โดยเพิ่มความเร็วของภาพให้เหมือนจริงและใช้จอแสดงผลคุณภาพสูง Micro OLED สองจอที่มีพิกเซลมากกว่าภาพ 4K ของทีวี อัตราการรีเฟรชสูงกว่าและชิปแบบ Custom สำหรับ Virtual Reality และ Augmented Reality ที่เรียกว่า R1 ยังบอกอีกว่าชิปนี้สามารถประมวลผลอินพุตจากกล้อง, เซนเซอร์, ไมโครโฟน, สตรีมรูปภาพไปยังจอแสดงผลภายใน 12 มิลลิวินาที
ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้เกิดจากการลงทุนที่มากขึ้นในเทคโนโลยีจอแสดงผล ถือเป็นการยกระดับ Apple Vision Pro ให้แตกต่างจากแบรนด์อื่น
ที่มา: BGR
Comments
พยายามลดการเหนื่อยจากการเคลื่อนไหวของภาพ?
ใคร? ยังบอกอีกว่า
ต้องรอดู content ที่ไม่ได้ทำเองก่อนหรือเปล่านะถึงจะบอกได้ว่า มันไม่เวียนหัว
ยังไม่ทันได้วางขายแต่มีการสรุปแล้วว่าใส่แล้วไม่เวียนหัว????
เขาก็ไม่ห้ามส่งไปให้คนรีวิวนี่คะ
เค้ามีคนที่ได้ลองตัว Prototype หลังงานเปิดตัวครับซึ่งเสียงส่วนใหญ่บอกว่าไม่เวียนหัวเลย
ลองดูรีวิวตามยูทูปก็ได้ครับ พวกที่ไปเทสก็มีมากอยู่เค้าก็ออกมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
ชิปจาก Apple นี่เป็นข้อได้เปรียบที่คนอื่นทำตามได้ยากมาก
Mx ทำเอาคนใช้ Laptop อิจฉากันไปทั่วAx นี่ก็จำได้ว่า Android ไม่สามารถตามได้ในระดับนึง (มั้ยนะ ผมไม่ได้ตามนานละ)
แล้วยัง Wx กับ Rx อีก
แล้วเหมือนทั้งหมดนี้จะผูกขาดไว้ด้วย 🤔
ถ้าใส่ดูหนังดูคอนเทนเล็กๆน้อยๆ แบบ stationary ก็ไม่เมากันง่ายๆอยู่แล้ว ยกเว้นคนที่มีปัญหาเรื่องสายตาจริงๆ
แต่ montion sickness มันก็ยังแก้ยากอยู่ดีนะ ถ้าไปเจอเกมที่ต้อง immersive หนักๆ เวลาตัว avatar ที่เราเล่นเดิน แต่หัวเรายังอยู่ที่เดิม สมองประมวณผลตีกันจนอ้วกได้เลยอยู่ดี
ซึ่ง Apple Vision ไม่ได้พูดถึงตรงนี้เลยว่ามันจะมีเกมให้เล่นแบบ VR ได้เห็นแต่ชูเรื่อง AR ก็ไม่รู้ว่าจะมีเกมแบบนั้นรึเปล่า เพราะ Controller ก็ไม่มี จะเล่นได้ไงยังสงสัยอยู่
Immerse Mode ก็คือ Full VR แล้วนิครับ Controller ก็มือไม่ก็จอยงัยครับ ค่าอื่นที่ต้องมีController เพราะดีเทคมือไม่ได้แหล่ะ
แปลว่าไม่เคยลองเกม VR ใช่ไหมครับ คนส่วนใหญ่จะเกิดอาการมึนเวลาตัวเราไม่ได้เคลื่อนที่แต่โลกมันเคลื่อนที่เกม VR ส่วนใหญ่เลยใช้วิธีเทเลพอทเอาซึ่งถ้าเราดูคนอื่นเล่นจะโคตรมึน แต่ตัวคนเล่นแทบไม่รู้สึกอะไรเลย ให้ใช้มือหรือจอยก็มีค่าเท่ากันครับ แล้วก็ Controller ทั่วไปมันก็ไม่เหมือน Controller VR มันไม่มี Tracking อีกอย่างคือ meta quest 2 กับ 3 ที่กำลังจะออกแล้วก็ตัว pro ดีเทคมือได้หมดครับ
ผมมีเควส 2 เล่นแล้วไม่เคยมึน ดูหนัง 3d ในโรงหนังก็ไม่มึน สายตาผมก็ทั้งสั้นทั้งเอียง ไม่เข้าใจคนที่มึนเหมือนกัน แต่ผมมึนกับเกมแนว fps เก่าๆ
ผมมีเกมที่เล่นแล้วมึน (Motion sickness) คือเกมที่ตัวละครมันเดินได้ (ไม่ใช่วาป) แล้วเรากดเดินแต่เราจริง ๆ นั่งหรือยืนอยู่ ถ้าเล่นไปสัก 1 ชม จะเริ่มมึน ๆ ครับ นอกนั้นไม่มีอาการมึนครับ เล่นได้ปกติ เกมแนว FPS ผมก็เล่นได้ ไม่มึนครับ
จริงๆค่ายอื่นๆอย่าง Pico 4 หรือ Quest 2 ก็ track มือได้นะครับ เพียงแต่อาจจะไม่ได้ตอบสนองรวดเร็วหรือแม่นเป๊ะขนาดนั้น (ซึ่งก็ตามราคาค่าตัวมันนั่นแหละ) แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานควบคุมทั่วไปและใช้เล่นเกมบางเกมได้
แต่หลายๆเกมการควบคุมมันละเอียดมากกว่าจะใช้แค่มืออย่างเดียวครับ เพราะงั้นต่อให้ track มือได้ controller ก็ยังจำเป็นสำหรับหลายๆเกมอยู่ดี จะมีแค่บางเกมที่การควบคุมไม่เยอะหรือเน้นการเคลื่อนไหวของมือเป็นหลักที่ใช้ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่เกมที่ Immersive เยอะๆอย่างที่ความเห็นแรกกล่าวครับ
Full VR ก็จริง แต่ไม่เกี่ยวกับ Motion sickness ครับ คือ ถ้ามันไม่ใช่เกมที่ตัวละครเดิน แล้วเรานั่งอยู่ (การเคลื่อนไหวในเกมกับความเป็นจริงไม่สัมพันธ์กัน)
ถ้าเป็นเกมแบบนั่งเล่น (เกมนั่งในยาน เกมขับรถ) หรือเกมมุมมองบุคคลที่ 3 แบบ Moss การที่เราไม่มึนมันไม่แปลกครับ ถึงแม้จะ Full VR พวกเกมที่จะมีปัญหาหนัก ๆ เลยก็จะเป็นเกมพวกที่ถือปืนเดินยิง ๆ แหละครับ อันนี้ Apple ไม่น่าแก้ได้ เกมพวกนี้หลาย ๆ เกม เลยใช้การวาปแทนเพื่อลด Motion sickness
แล้วที่ผมบอกไม่มี Controller แล้วจะเล่นยังไง คือแบ่บ ใจคอจะยิงลมจริงเหรอครับ >< ขอจับ Controller หน่อยเถอะ เวลาเหนี่ยวไกปืน เลยคิดว่าเกมพวกนี้อาจจะไม่มี หรืออาจจะไม่เป็นที่นิยมสำหรับ Apple Vision
แต่เกมที่ Apple ทำได้ไม่มี Motion sickness ก็น่าจะเป็นพวกเกม AR แหละครับ อันนี้ไม่น่าเกิดอาการเพราะเราเดินจริง แล้วภาพที่เราเห็น กับการเคลื่อนไหวของเรามันสัมพันธ์กันจริง ๆ
สาเหตุคือ "เมื่อจุดรวมสายตาและจุดโฟกัสไม่ตรงกันระหว่างระยะทางของวัตถุ 3D เสมือนจริงกับระยะโฟกัสที่วัตถุนั้น จะส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตา, ปวดตา และเหนื่อยล้าจากการใช้แว่น VR"
แต่การแก้ปัญหาไม่ได้เกี่ยวกับ "ระหว่างระยะทางของวัตถุ 3D เสมือนจริงกับระยะโฟกัส" เลยนะหรือสาเหตุจริงๆ มันคือทำภาพไม่เนียนไม่ได้เกี่ยวกับระยะทาง
สุดยอดจริงๆครับ ไม่แปลกที่ราคาสูง