HP แถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ (และรวมทั้งปีงบประมาณ 2011) ผลคือผลประกอบการประจำไตรมาสออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด รายรับรวม 32.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนผลประกอบการตลอดปี รายรับรวม 127.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน กำไรตลอดปี 9.7 พันล้านดอลลาร์
จุดที่น่าสนใจกว่าคือ HP เผยรายละเอียดทางการเงินสำหรับกิจการของ Palm ที่ซื้อมาด้วยเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์ โดย HP เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 2 ส่วนสำหรับการ "ฆ่า Palm" คือ
- 885 ล้านดอลลาร์ สำหรับทรัพย์สินของ Palm ที่ไม่เกิดประโยชน์อีกต่อไปแล้ว (ฝ่ายฮาร์ดแวร์ webOS)
- 755 ล้านดอลลาร์ สำหรับยกเลิกสัญญาต่างๆ กับซัพพลายเออร์ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์
สรุปรวมได้ 1.7 พันล้านดอลลาร์โดยประมาณ (ไม่รวมเงินค่าซื้อ Palm ในปี 2010) ส่วนอนาคตของ webOS ยังต้องรอกันต่อไป
ที่มา - AllThingsD , Business Insider
Comments
อยากให้ มีคนมา อุ้ม web OS นะครับ น่าจะยั่งมีอนาคตอยู่แล้วคนคนนนั้นผมก็อยากให้เป็น sony เพราะการไม่มี os ที่เป็นของตัวเองเป็น จุดอ่อนของ sony มาตลอด
นั่นสิครับ ผมก็ว่าเหมือนกันว่า webOS ก็มีเส้นทางที่จะยังไปได้อยู่ ควรหาคนมาอุ้ม และพัฒนาครับ
เห็นด้วยอย่างมากๆ เลยฮะ webOS นั้นยอดเยี่ยม ดูยังมีอนาคตมากๆ ควรจะได้ใครซื้อไปพัฒนาต่อ และบริษัทที่น่าจะเหมาะที่สุดคงเป็น Sony Corporation เนี๊ยแหละ
Sony เห็นตัวอย่าง Hp แล้วคงไม่กล้าละมังครับ
ส่วน webOS ถ้าตอนนี้มีคนเอามาพัฒนาต่อก็ไม่รู้จะยังทัน android กับ WindowsPhone หรือเปล่านะครับ
ถ้าราคามันไม่แพงมากก็น่าซื้อ แล้วเปลี่ยนมาใช้ html 5 ทีนี้แอบก็จะมีเยอะพอสมควรหรือทำให้ dev ทั้งหลายทำงานกันง่ายขึ้นด้วย
ส่วนซื้อไปแล้วตายซ้ำอีกหรือเปล่าอันนี้ก็ ยากจะคาดเดา...
มันดีอ่ะครับด้านนวัตกรรม เรื่อง UI, L&F ในการออกแบบการใช้งาน แต่ว่าแค่นั้นยังเสร็จไปไม่ถึงครึ่งเลยครับเดี๋ยวนี้มันต้องการเป็น ecosystem อันนี้ละปัญหาใหญ่ที่ต้องรอการลงทุน
และต่อให้มันคุณพัฒนาได้เจ๋งจริงๆ ปัญหาใหญ่คือทำไงให้มันเกิด ทำอย่างไรให้มันมี killer features สำหรับลูกค้าที่จะยอมซื้อไปใช้งาน หรือให้เป็น talk of the town ตอนเปิดตัว ให้เมื่อคุณหยิบไปใช้มันที่ไหนก็ตาม ต้องมีคนมามองอย่างชื่นชมและสนใจ และว้าวสำหรับนักพัฒนาหน้าใหม่ (รวมถึงขาใหญ่ทั้งหลายที่เป็นเจ้าของแอพดังๆอยู่แล้ว) ที่จะยอมศึกษาแพลตฟอร์มและเฟรมเวิร์กเพิ่มขึ้นนอกจาก iOS, Android, WP เพื่อพัฒนา killer app บนระบบที่ว่า แล้วฝั่งนักพัฒนาก็ต้องคำนวณว่ามันจะได้เงินคุ้มค่าการเสียเวลารึเปล่า รึไปนั่งพัฒนาขัดเกลาแอพฯที่ทำบนสามแพลตฟอร์มที่ขายอยู่แล้วให้เจ๋งขึ้นไปอีกดีกว่า อย่างไรก็ฐานลูกค้าสามระบบเดิมก็เยอะจนไม่ต้องลุ้นแล้ว อันสุดท้ายนี้ล่ะปัญหาใหญ่มาก
คุณนึกออกรึเปล่าว่า ต่อให้เครื่องคุณเจ๋ง จอซุบเปอร์คมชัด กล้องชัดถ่ายที่เห็นรูขุมขน แต่ทว่า คนอื่นเค้ายิงนก,ฆ่าซอมบี้,เก็บผัก,โพสข้อความ,ถ่ายรูป,แต่งรูปและอัพขึ้น social network กันโครมๆ คุณก็ยังได้แต่นั่งมองตาละห้อยกันอีกหกเดือนเพื่อจะให้แอพเหล่านีั้น ทยอยโผล่มาให้ใช้งานได้บนเครื่องคุณ (หรืออาจจะเป็นฝันลมๆแล้งตลอดไป) เครื่องหน้าคุณจะซื้อเครื่องนี้อีกรึเปล่า?!?
ดูอย่าง RIM เอาก็ได้ Playbook นั่นก็รายหนึ่ง, หรือแม้แต่ WP ก็ยังใช้เวลานานกว่าปีกว่าๆจะเริ่มมีแอพฯมากพอเชิดหน้าชูตาได้
ผมว่า webOS ลุ่นๆตกรถไฟไปแล้วครับ ถ้าตอนนั้น webOS เปิดกว้างกับนักพัฒนาภายนอกเร็วกว่านี้, ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ทำงานลงตัวกันมากกว่าเดิม, รวมถึงขายให้หลายรุ่นกว่าเดิม จะหลายผู้ผลิตก็ไม่ว่า อะไรๆก็อาจจะเปลี่ยนไป
โห ขนาดโปรเจ็กต์ใหญ่เจ๊ง ยังมีกำไรตั้งเยอะ
HP ในตลาด server/blade ยังแข็งแกร่งมากครับ คนเคยใช้อะไรก็มักไม่ยอมเสี่ยงเปลี่ยนซะด้วย พวก software สำหรับองค์กรด้วย แพงๆ ทั้งน๊าน นอนเก็บค่า maintenance ก็สบายแระ
แต่ service นี่สิ ทุกระดับประทับใจจริงๆ :O
โซนี่คงต้องไม่กล้าอยู่แล้วเพราะรู้ดีอยู่ว่าตัวเองมีปัญหาภายในองค์กรเองไม่ต่างจาก HP มากมายเลย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นบริษัทที่เพียบพร้อมในเกือบทุก ๆ ด้านแท้ ๆ
@TonsTweetings
ต่อให้ไม่มีปัญหา โซนี่คงไม่เอา web os อยู่ดีนั้นแหละ เพราะว่าคงจะไม่มีใครกล้ามาแตะต้องเรื่องสิทธ์บัตร ทำให้แรงจูงใจที่จะชื้อ os ที่ขายไม่ออกมีน้อย
กลับกัน hp ขายเมื่อไร่ apple google microsoft น่าจะแย่งกันชื้อ จนทำให้ราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น (แต่ hp ก็น่าจะยังขาดทุนอยู่)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โซนี่ปัญหาภายในองค์กรเยอะ และไม่เป็นบริษัทที่ไม่กล้า (ในการซื้อของต่อจากชาวบ้าน) ค่อนข้างหยิ่ง (เลือกที่จะทำเองเสียมากกว่า) เชื่อมั่นในตนเอง (ราคาสูง และคิดว่าขายได้)
ผมคิดว่าเจ้าที่ซื้อไปแล้วผลักดันจนเกิดได้ น่าจะเป็น Amazon แต่เงินทุนหนาพอจะไปแย่งกับใครเขารึเปล่านี่อีกเรื่อง แต่ขอให้มีคนซื้อไปแล้วกัน เพราะเดาว่าไม่ว่าใครซื้อไปก็คง Support ภาษาไทยเป็นรายการสุดท้ายของการพัฒนาแน่ๆ (แต่แค่ยัดฟอนต์ก็อ่านออกแล้ว เหลือเรื่องเขียนได้)
อยากให้ htc ซื้อไปทำต่อ เพราะ htc ทำ hardware ได้ดีอยู่แล้ว ถ้ามีทางเลือกด้าน software เพิ่มขึ้น น่าจะมีผลดีอยู่บ้าง