จากกรณี ซัมซุงจะไม่ออกค่าตั๋วเครื่องบินขากลับจากงาน IFA ให้บล็อกเกอร์ถ้าไม่ยอมโปรโมทสินค้าให้ จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทางต้นเรื่องคือซัมซุงอินเดียออกมาแถลงการณ์แล้วครับ (ซึ่งก็ยังมีประเด็นขัดแย้งอยู่ดี)
อย่างแรกคือซัมซุงได้ส่งอีเมลขอโทษไปยัง Clinton Jeff บล็อกเกอร์ที่ประสบเหตุดังกล่าว โดยในอีเมลก็ยอมรับว่าซัมซุงพาเขาไปสู่สถานกาณ์ที่ยากลำบาก และขอแก้ไขปัญหานี้
“I would like to reach out to you and deeply apologize to you for your experience in Berlin at IFA. We put you through undue hardship and we are trying to rectify the situation.”
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของบริษัทต่อสาธารณะกลับมีโทนออกไปในทางตรงข้าม โดยระบุว่าโครงการ Samsung Mob!lers ที่บล็อกเกอร์ทั้งสองคนเข้าร่วม เป็นโครงการที่ออกแบบมาสำหรับชุมชนผู้ใช้มือถือซัมซุงได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงานของซัมซุงทั่วโลก และเป็นโครงการตามความสมัครใจ (voluntary) ของผู้เข้าร่วม
ซัมซุงอินเดียบอกว่าเรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดระหว่างผู้ประสานงานโครงการ Samsung Mob!lers และตัวบล็อกเกอร์ เพราะซัมซุงไม่ได้ให้ข้อมูลแก่เขาละเอียดพอ
Samsung Mob!lers is a voluntary community of active Samsung mobile device users, who are offered the opportunity to participate in our marketing events across the world. At these events, all activities they undertake are on a voluntary basis. No activities are forced upon them.
We regret there was a misunderstanding between the Samsung Mob!lers coordinators and the relevant blogger, as we understand he was not sufficiently briefed on the nature of Samsung Mob!lers’ activities at IFA 2012. We have been attempting to get in touch with him.
We respect the independence of bloggers to publish their own stories.
ปัญหามีอยู่ว่าในตอนที่บล็อกเกอร์ทั้งสองคนได้รับข้อเสนอจากซัมซุงอินเดีย พวกเขาก็แจ้งทางบริษัทไปชัดเจนว่าต้องการเข้าร่วมในฐานะผู้สื่อข่าว ไม่ใช่ตัวแทน (promoter) ของซัมซุง
เว็บไซต์ BGR India โดยผู้เขียนคือ Rajat Agrawal ซึ่งระบุว่าตัวเองรู้จักและเป็นเพื่อนกับ Clinton Jeff ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากตอบตกลงแล้ว บล็อกเกอร์ทั้งสองคนได้รับอีเมลยืนยันการเข้าร่วมจากซัมซุงอินเดียว่าเข้าร่วมในฐานะ promoter (ซึ่งอาจเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารของซัมซุงอินเดีย) แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่เข้าใจความหมายว่าตกลงต้องไปทำอะไรกันแน่ที่งาน IFA
ที่มา - The Next Web , BGR India
Comments
เฮ้อ เสียภาพลักษณ์พอสมควรเลยแฮะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
หรอครับ ทำไมล่ะ
ในเมื่อเป็นการเข้าใจผิด เป็นโครงการหา promoter ไม่ใช่ผู้สื่อข่าว
เพราะมันอาจจะไม่ได้เข้าใจผิด และการกระทำของ Ss มันน่าเกลียดมาก
มันก็ชัดเจนนะครับ ว่าอีเมลแจ้งแล้ว รับทราบแล้วว่าต้องไปในฐานะโปรโมเตอร์ แล้วเมื่อไปถึงแล้วโวยวายไม่ยอมเป็นโปรโมเตอร์ อาจจะเถียงกันธรรมดา เค้าก็คงขู่ว่าให้เงินมาแล้วไหนจะค่าเครื่องบินค่ากินอยู่ ทำไมไม่ทำให้งานเค้าแหละ
มันก็ชัดเจนแล้วนะครับว่าทั้งสองคนแจ้งชัดเจนไปแล้ว่าต้องการเข้าร่วมในฐานะผู้สื่อข่าว ไม่ใช่ตัวแทน (promoter) ของซัมซุง แต่ซัมซุงอินเดียก็ตีมึนส่งมาเป็น Promoter ซึ่งในเคสนี้ผมก็ไม่รู้ธรรมเนียมปฎิบัติหรอกนะครับว่าอะไรมันเป็นยังไง ยื่นข้อเสนอไปแล้วแล้วก็ได้ตอบรับกลับมา รายละเอียดมีหรือไม่มียังไงตรงนี้ผมไม่ทราบ แต่คิดว่าคงไม่มีถึงได้เป็นปัญหา
พอกันทั้งคู่ไม่ว่า samsung จะมึนส่งมาเป็น promoter หรือผิดพลาด แต่ Jeff เห็นแล้วก็มึนไม่ถามทั้งที่เห็นอยู่ว่า
เขาแจ้งมาเป็น Promoter
ใช่ๆ เขารับสมัคร Promoter ไม่ใช้ ผู้สื่อข่าว Emai ที่แจ้งมาเป็น Promoter ยังจะมึนไปอีกอีกอย่างถ้าไปในฐานะผู้สื่อข่าวเขาจะออกค่าตั๋วค่ากินค่าอยู่ให้ด้วยหรอ?
ชัดเจนยังไงครับ เคยติดต่อธุรกิจไหมครับ
หนังสือตอบรับเป็นอีเมล ถือเป็นเอกสารที่ชัดเจน ถ้าไม่อยากทำก็ปฏิเสธไปสิ จะไปปฏิเสธที่เยอรมันทำไม
เหมือนกับการไปติดต่อบริษัทขออะไำรซักอย่าง แล้วบริษัทตอบรับมาว่าให้อีกอย่าง ถ้าไม่เอาก็อย่าไปรับสิ ไม่ใช่รับข้อเสนอมาแล้วไม่ทำตามข้อเสนอ
จริงๆไม่อยากเถียงแทนซัมซุง ไม่ได้รักซัมซุงอะไร แต่เห็นแฟนบอยออกมาโจมตีมากๆเลยรำคาญ
แล้วกรณีนี้ซัมซุงชัดเจนไหมครับ ผมและคุณไม่มีใครรู้ถึงรายละเอียดในเอกสารสักอย่าง ผมอาจจะไม่ได้อยู่ในโลกที่สมบูรณ์แบบแบบคุณที่แค่ข้อความหนึ่งข้อความ สามารถตีความหมายออกมาได้ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อข้อความนั้นได้อย่างครบถ้วน
โดยหลักการแล้วถ้าจะทำเป็นหนังสือธุรกิจจริงๆ ก็ควรมีการระบุหน้าที่ชัดเจน ซึ่งถ้าชัดเจนก็คงไม่เกิดเรื่อง แล้วเท่าที่อ่านมาจากตัวอย่างอื่นๆ เกี่ยวกับการเชิญไปงานแบบนี้ ผมก็มองว่ามันก็มีวัฒนธรรมที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเค้าซึ่งมันเป็นไปในทางกึ่งๆ ไม่เป็นทางการ กรณีนี้มันเกิดการกระทำที่ผิดจากความคาดหวังของทั้งสองฝ่ายก็แค่นั้น จะมามองว่าคนนั้นผิดคนนี้ผิดผมว่าไม่ใช่ สมควรต้องรับผิดกันไปคนละส่วน
+1 กระแสแฟนบอยแรงมากจริง ๆ ผมถึงไม่โพสต่อ แต่เห็นมีพวกแล้ว ก็ขอสักนิด (แน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดระหว่าง 2 ฝั่ง ถ้าถามว่าใครผิด สื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็ผิดทั้งคู่ครับ) พอได้ตั๋วกลับจาก nokia แล้ว ก็น่าจะทำให้เรื่องจบเพียงเท่านั้น แต่ฝรั่งดันเกิดเกรียน (คือตัวเองก็มีส่วนผิดที่สื่อสารไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมรับความผิดนั้น แต่ดันเกิดความแค้น) จึงมาระบายความแค้น บน blog ของตัวเอง (นี่คือการไร้จรรยาบรรณของสื่อชัดเจน ถือตัวว่าเป็นสื่อ สามารถทำลายชื่อเสียงของใคร ที่ไหนเมื่อไรก็ได้) หลายคนคงสงสารฝรั่งคนนี้ แต่ผมกลับเห็นว่าพฤติกรรมของเขาน่ากลัว และคงไม่ให้ความเชื่อถือสื่อแบบนี้อีกต่อไป นี่ผมยังไม่ได้เข้าไปแตะ กรณี ทำไมต้อง nokia (ปล. ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรกับ samsung เหมือนกัน แต่เบื่อสื่อประเภทนี้มาก เมืองไทยก็มีเยอะ ถึงบอกว่าไม่ต่างอะไรกับ ข่าวการทำลายชื่อเสียงดารา)
แฟนบอยแรงมาก +1
จริงๆต่อให้ทางบล็อกเกอร์เป็นฝ่ายผิด อย่างน้อยก็น่าจะส่งเค้ากลับหน่อยนะครับ จะยกเลิกค่าโรงแรมคืนต่อๆไปก็ได้แต่ในเมื่อพามาก็ควรจะพากลับ แล้วงานต่อๆไปจะแบนตาบล็อกเกอร์คนนี้อะไรก็ว่าไป
ข่าวเก่ามีบอกอยู่แล้วครับว่า ซัมซุงจะยอมพากลับในวันที่ 1 แต่นาย Jeff อยากอยู่ต่อแล้วก็ได้ Sponsor รายอื่นเข้ามาช่วย
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ยอมพากลับแต่มีข้อแม้ครับ
เพราะมันดูเหมือนการแก้ตัวน่ะสิครับ
สื่อสารผิดเข้าใจได้ แต่ข้อเสนอเรื่องตั๋วเครื่องบินนี้โหดมาก
การสื่อสารผิดพลาด เพราะไม่พูดคุย หวังใช้แค่ email?
ติดต่องาน(กับลูกค้า) ผมเลือกจะใช้อีเมลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้นะครับ จะได้ตั้งสติทัน ไม่ตอบรับอะไรง่าย ๆ แล้วลำบากภายหลัง XD
Jusci - Google Plus - Twitter
ทำงานต้องใช้เมลคุยเป็นหลักครับ ถ้าใช้คุยปากเปล่าเป็นหลักเกิดปัญหาวุ่นวายที่เถียงไม่จบแน่
แกนั่นแหละผิด ชั้นบอกให้รับลูกค้า
เอ้าพี่ ตอนนั้นบอกให้ผมไปรับเจ้านายไม่ใช่เหรอ
พอไม่มีหลักฐานการคุยก็มีเรื่องปวดหัวเยอะ แบบบริษัทไทยหลายๆ ที่
อีเมลคือเอกสารสำคัญอย่างนึงนะครับ ที่ใช้เป็นเอกสารอ้างอิงได้ แต่ไม่อ่านยืนยันตกลงไป ผมเป็นทางซัมซุง ไม่รู้ใครเป็นคนเจรจาแต่สิ่งที่เป็นทางการคือเมลตอบรับ บริษัทไม่ได้ทำงานกันแค่คนเดียวนะครับ คนรับข้อมูลเค้าอาจจะคิดว่าสองคนนั้นเปลี่ยนใจเป็น Promoter แล้วก็ได้เพราะยืนยันเมลกลับมา มันต้องมีสิ่งที่ยืนยันได้อ้างอิง อ้างแค่ว่าคุยปากเปล่ากันแล้วธุรกิจเค้าไม่ดีลกันปากเปล่าหรอกครับส่อแววพลิกลิ้นง่ายมาก
พาไปไม่พากลับนี้มันไม่คิดถึงว่าเค้าจะลำบากขนาดไหนเลยเหรอ ต่อให้สื่อสารกันถูกแต่บล็อกเกอร์ไม่อยากทำตามก็ควรพากลับมา อันนี้มันขาดมนุษยธรรมอย่างแรง
พาไปแล้วไม่พากลับ ผมคนนึงละ ที่จะร้องไห้ หมดหนทางเลยละ -*- แล้ว ค่าเครื่องบินก็ไม่ได้ถูกๆ ค่ารร.ที่พักอีก TT
แก้ตัวยังไง แต่พาไปไม่พากลับนี่ มันไม่ใช่นะ
ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็ควรจะหาทางออกร่วมกันตั้งแต่เกิดปัญหาแล้ว ไม่ใช่ว่าสื่อสารผิดพลาดไปแต่ไม่แคร์ ปล่อยลอยแพตามยถากรรม
สื่อสารผิดรับได้ แต่พาไปทิ้งนี้ไม่ไหวน่ะ T^T
คราวหลังก็ Skype คุยกันซะนะ 555+
Educational Technician
นั่นดิครับ โหดเกิ๊น ไหนๆ คุยกันไม่รู้เรื่องจองตั๋วเลื่อน flight ให้กลับบ้านอย่างด่วนน่าจะดีกว่า ถ้าเขาเลือกไม่กลับก็ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองนี่ก็อีกเรื่อง
The end of the story. Bad guy = Samsung , Good guy = Nokia
ภาษาอังกิดสำเนียงอินเดีย มันฟังยากจริง ๆ นะ :)
ต้องมาฟังภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดีย ผมว่าอีเมลล์คุยกันง่ายกว่านะครับ
ตามข่าว เค้าว่าพากลับนะ แต่ไม่ให้อยู่ต่อ ก็ไม่ไหวอยู่ดี กระบวนการเลือกคนที่จะพาไปไม่ได้เรื่องนะ
กลายเป็นแก้ตัวซะงั้น
คนดีแก้ไข คน..ไรแก้ตัว
คนอะไรแก้ตัว
Dream high, work hard.
เหมือนโดนปล่อยเกาะเลย > <
ทำไมรู้สึกว่าช่วงนี้ samsung ขาลงจัง
เลว แบน เลิกใช้ บอกต่อ
ไม่ชอบการตลาดแซมซังเลยจริงๆ -*-
เจอการตลาด sony mobile th แล้วจะรู้สึกแย่กว่านี้ ในประเทศไทยด้วย
ออกมาแถลงการณ์ => ออกแถลงการณ์ / ออกมาแถลง
ผมเสนอให้คุณ panurat2000 เป็น spell checker ครับ
และสร้าง badge พิเศษ spell checker ให้ด้วยครับ
(คัดลอกมาจากข้อความคอมเมนต์ของคุณ rattananen)
มีแล้วครับตัว C มาจาก Corrector :D
ไม่ได้ใช้ซัมซุง แต่อ่านแล้วผมกลับเข้าข้างซัมซุงนะ มันเหมือนการต่อรองกัน
Jeff ไม่ยอมเป็น promoter แต่ซัมซุงตอบมาว่าจะยอมออกค่าตั๋วให้ถ้าเป็น promoterแล้ว Jeff ดันตกลงไป พอไปถึงบอกว่าไม่ทำ มันผิดเห็นๆ แค่เค้าเป็น promoter ตามที่ตกลงกันไว้ก็จบ
แต่นี่ไม่ยอมเอง "ไม่ใช่ว่าโดนปล่อยเกาะแบบไม่มีทางเลือก"
เข้าใจนะว่ามันอาจเข้าใจผิดได้ แต่ในมุมมองของคนจ่ายเงิน ถ้าจ่ายแล้วไม่ต้องทำงานเขาเสียเงินขาไปฟรีไปแล้วนะ ยังต้องจ่ายขากลับอีก ถ้ายอมไปไว้มีแบบนี้มาอีกเพียบ
arthurasdf +1
สำหรับ blogger คนนี้ Samsung เป็นของตาย ตั๋วเครื่องบินก็ได้มาแล้ว ที่พักก็ได้มาหมดแล้ว
Samsung เป็นคนออกเงิน ทั้งค่าเครื่องบินค่าที่พักให้ นาย Clinton Jeff
ตามหลักแล้ว นาย Clinton Jeff ควรประจำอยู่ที่บู๊ต Samsung เป็นหลัก แต่ก็ดูบู๊ตอื่นได้
คิดว่าสาเหตุของเรื่องนี้น่าจะเกิดจากการ รอรับเงินมาหลายทางมากกว่า
(เพราะคนคนนี้มีชื่อเสียงอยู่พอสมควร)อาจจะถึงขั้นลืม บู๊ต Samsung ไปเลย (เพราะได้มาทุกอย่างครบแล้ว)
เผลอๆ Nokia ให้ตังค์เมื่อไหร่ เดินไปประจบ บู๊ต Sony ต่ออีก
ผิดกันทั้งคู่นะผมว่า..
คนนึงก็ (อาจจะ) อยากไปดูงาน (ฟรี)
ส่วนอีกคน จ่ายตังค่าตํ๋ว+โรงแรม ให้แล้วก็อยากจะให้คนที่ได้รับไป ช่วยมีมารยาท promote สินค้าให้เป็นเรื่องเป็นราวหน่อย (เพราะค่าใช้จ่ายที่ออกให้ก็ไม่ใช่น้อยๆ จะมาเดินไปเดินมาในงานเหมือนไม่แคร์กันเลยนี้ก็ยังไงอยู่นะ)
การส่งตัว นายคนนี้และเพื่อน ให้กลับมาก่อน น่าจะเป็นวิธ๊ที่ดีที่สุดครับ...
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.