หลังจากที่แอปเปิล เริ่มให้สั่งซื้อ Mac Pro กันแล้ว ก็มีสื่อหลายๆ เจ้าที่ได้รับยืมเครื่อง Mac Pro จากทางแอปเปิลมาเขียนรีวิว โดยหลักๆ ทุกเจ้าจะสรุปประเด็นหลักคล้ายกัน คือ Mac Pro มีขนาดเล็กมาก มีประสิทธิภาพที่สูง มีเสียงที่เบามาก และราคาแพงมาก โดยรุ่นที่สื่อได้รับจากแอปเปิลจะเป็นรุ่น 3GHz Intel Xeon E5 ขนาด 8 คอร์, แรม 64GB, SSD 1TB และ GPU FirePro D700 6GB 2 ตัว ซึ่งมีราคาจำหน่าย $8,099 สูงกว่าราคาเริ่มต้นที่ $2,999 เกินเท่าตัว
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- ในชุดขายปกติมีเพียงเครื่อง Mac Pro และสายไฟเท่านั้น
- ตัวเครื่องเงามาก และมีรอยนิ้วมือง่ายมาก
- ไม่สามารถเปิดเครื่องขณะเปิดฝาได้ และไม่สามารถเปิดฝาขณะเปิดเครื่องได้เพราะติดสายไฟ
- ทั้งเครื่องมีเพียงพัดลมตัวใหญ่ตัวเดียวเท่านั้นที่ส่งเสียง และมีเสียงที่เบามากอย่างเห็นได้ชัด
- แม้ว่าจะเปิดเครื่องเพื่อเข้าถึงแรม, SSD และ GPU ได้ง่าย และมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยตนเอง แต่เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่ถูกดีไซน์มาเฉพาะจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะอัพเกรดระบบเอง นอกเหนือจากใช้ Thunberbolt 2
- Final Cut Pro X เร็วมากเป็นพิเศษ ราวกับว่าถูกพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับ Mac Pro โดยสามารถเล่นสตรีมขนาด 4K พร้อมกัน 4 สตรีม โดยมีการแก้สีทั้ง 4 สตรีมได้แบบเรียลไทม์ โดยมีเฟรมถูกข้ามน้อยมาก
- และแม้ว่าจะใช้งาน Final Cut Pro X หนักแค่ไหน สิ่งที่สังเกตได้คือ CPU มีการทำงานที่น้อยมาก แปลว่าโปรแกรมถูกปรับให้ใช้ GPU อย่างเต็มที่
- ในทางกลับกัน Premiere มีประสิทธิภาพที่แย่กว่ามาก น่าจะเกิดจากการที่โปรแกรมยังไม่ถูกปรับมาเพื่อใช้ประสิทธิภาพของ GPU อย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่ Adobe สามารถปรับปรุงได้ในอนาคต
- ผลการทดสอบหลายๆ อย่างพบว่ามีประสิทธิภาพน้อยกว่า Mac Pro รุ่นปี 2010 ซึ่งก็คาดว่าเป็นที่ซอฟต์แวร์กรณีเดียวกับ Premiere
- ความเร็วในการอ่านจาก SSD อยู่ที่ประมาณ 900 - 920 MB/s ส่วนเขียนอยู่ที่ 750 - 760 MB/s
- แม้ว่าจะเล่นเกมได้ดี แต่ไม่สามารถสู้กับ Windows PC ได้ และจากการทดสอบไม่มีเกมไหนเลยที่ใช้ประโยชน์จาก GPU สองตัว
- ในภาพรวมทุกสำนักเห็นตรงกันว่า ณ ปัจจุบันนอกจาก Final Cut Pro X ยังไม่มีแอพไหนอีกเลยที่ใช้ประโยชน์จาก Mac Pro ได้อย่างเต็มที่ ณ ปัจจุบัน Mac Pro จึงเหมาะเฉพาะกับผู้ใช้ Final Cut Pro X ที่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อแลกกับเวลาเรนเดอร์
Comments
แหม่ แพงขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ตัดวีดีโอ 4k ก็ไม่น่าซื้อ
สวยมาก :)
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
รอคนโคลนเครื่อง :)
ผมว่ารุ่นนี้ได้แรงบัลดาลใจมาจาก Raspberry Pi :) (มุกนะครับ)
ราคาแพง แต่สวยดีครับ
เล็กมากจริงๆ
ทั้งเครื่องมีเพียงพัดลมตัวใหญ่ตัวเดียวเท่านั้นที่ส่งเสียง และมี "เสียง" ที่เบามากอย่าง "เห็น" ได้ชัด
เป็น
ทั้งเครื่องมีเพียงพัดลมตัวใหญ่ตัวเดียวเท่านั้นที่ส่งเสียง และมีเสียงที่เบามากอย่าง ชัดเจน
ดีกว่ามั้ย
"มีเสียงที่เบามากอย่าง ชัดเจน"
ผมชอบประโยคเดิมมากกว่านะ...^_^
ออกแบบมาให้ชื่นชมเพียงอย่างเดียว บังไม่อาจซื้อ รอมือสอง
mac mini ต่อไป อิอิ ไม่ได้ทำงานตัดต่อ
Mac mini + SSD + ram 8GB ก็ฟินแล้วครับ อิอิ
แค่นั่งทำเว็บ จัดไป แรม 16 อิอิ
แต่ของผมเริ่มอืดๆ แล้ว T___T แง
ขนาด imac ram 24GB ยังไม่พอสำหรับ After Effect เลยครับ = =
ดีมากทุกข้อ ยกเว้นแพงมาก
สติ๊กเกอร์แอปเปิลสีดำนะครับ แปะแล้วดูอำมาตย์กว่าสีขาว
อืมม ... เป็นเครื่องมือถือเฉพาะ ทาง ของโปรแกรม Final Cut Pro X สินะ
เรื่องอื่นไม่รู้เพราะยังไม่เคยลอง แต่เห็นด้วยที่บอกว่า "แพงมาก"
ไร้ประโยชร์ด้านเล่นเกมโดนเฉพาะ
นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมเป๋าตังค์ที่แบนราบ
VGA นี่ไม่ธรรมดานะ List price ของ Dual AMD FirePro W9000 ที่เทียบเท่ารุ่น top ของ mac proD700 3999$ *2 เพราะเป็น dual
ผมว่าอันนี้คือนวัตกรรมที่สุดของปีนี้ละ มันคือ Form Factor ที่ลงตัวมากแบบไม่น่าเชื่อว่าจะคิดได้
ขนาดที่เล็กลงนี่มีผลต่อการเอามาใช้หลายๆ ตัว แต่มัน Stack กันไม่ได้นะครับ เพราะอาจจะระบายความร้อนไม่ได้
ทำกล่อง หรือวางบนชั้น หรืออะไรไปสิครับ ไม่เห็นจะยากมีตังขนาดซื้อ Mac Pro หลายๆ ตัวได้ ทำไมแค่นี้จะทำไม่ได้
เสปค ผมว่างั้นๆ โดยรวม ออกจะแพง
Design ผมว่ามัน O_o !!! .... ถ้าค่ายอื่นทำผมว่า ตกกระป๋องแน่ๆ
ผมอึ้งตรงที่ "สามารถเล่นสตรีมขนาด 4K พร้อมกัน 4 สตรีม โดยมีการแก้สีทั้ง 4 สตรีมได้แบบเรียลไทม์ " แหละ!! อะไรจะเทพขนาดนั้น!
เครื่องหลักแสน ก็ยังต้องซื้อเมาส์กับคีย์บอร์ดเพิ่มเองนะฮร้าฟฟ
Server หลานแสนก็มีแต่เครื่องเปล่าๆ นะครับ ฮ่าๆ
อย่าลืมซื้อจอ (อีกหลายหมื่น) ด้วยนะครับ
ไม่รู้ว่ากำลังตัดต่อวิดีโออยู่กินแชนวิชไป แล้วจะเผลอทิ้งห่อหรือถุงแซนวิชใส่เจ้า mac pro ข้างๆป่าว
ไม ใน twit บอกว่า หนักล่ะเนี่ย - -a
ผมเข้าใจว่าพาดหัวข่าวหมายถึง "เสียง"เบามาก ครับ ไม่ใช่ "น้ำหนัก"
ผมก็เข้าใจว่ามันเบา = =""
จ่อหัวได้เหมือนหนังสือพิมพ์มาก
ตรงตามที่ต้องการเลยครับ ... เพราะตัดงาน Final Cut Pro 1080 (จาก Magic Lantern RAW ครับ แปลงไฟล์กันทีแทบตายเลยครับ) .... แถมแก้สีหนัก ใช้ Harddisk หนักครับ .... ดังนั้นนี่เป็นเครื่องที่ต้องการเลยครับ เพราะใช้มันตามที่มันบอกให้ใช้จริงๆครับ ตัว Hardware ออกแบบมาให้ใช้งานที่ต้องใช้จริงๆเลยครับ (แต่หวังว่าจะเล่น Minecraft ได้นะครับ ถ้าเปิด Minecraft/Hammerwatch ไม่ติด ต่อให้มีเงินในมือสองสามพันล้านก็คงไม่ซื้อครับ ฮาๆๆๆๆๆๆๆ)
ตอนนี้รอ CF Card Reader ที่มันต่อ Thunderbolt แล้วทำความเร็วมากกว่า USB3 ให้ได้เท่านั้นเองครับ คอขวดการทำงานมันจะตกตอนโหลดการ์ด CF ครับ ไฟล์ CinemaDNG ถ่าย 1.85 Ratio จาก Sensor ของ 5D Mark III นั้นมันประมาณ 79 Mb/frame ดังนั้นการ์ด 32 Gb ใบนึงจะถ่ายได้ประมาณ 4 นาทีครับ .... ใช้ Card Reader ของ Sandisk จะใช้เวลา 4-6 นาทีในการ Copy ไฟล์หนึ่งครั้งครับ ดังนั้นต้องมีการ์ดต่อกล้อง 5 ใบ (64Gb) ถึงจะโหลด (พร้อมกัน 2 Card ผ่าน USB Controller 2 ตัวแยกกัน) ได้พอทันกับเวลาถ่าย และถ่ายได้นานโดยไม่หงุดหงิดว่าการ์ดตัดก่อนครับ และคนโหลดการ์ดจะไม่เหนื่อยโหลดจนกระทั่งไม่ทันได้ไปนั่งทำ Primary Grading ตัด Rough Cut หรือจะไปจัดการ Metadata สำหรับการตัดครับ
ยิ่ง Final Cut 10.1 มันเปลี่ยน Project มารวบเป็น Library มาในตัวเลย ตั้ง Project มาก็ยัดใน Library นั้นๆได้เลย สะดวกดีครับ
แต่ต้องหา Case กันกระแทกดีๆให้ Mac Pro แล้วออกแบบ Cart ทำงานที่เหมาะสมหน่อยครับ ....พวก DIT เค้าจะออกแบบกันได้ดีครับ
ตัวอย่าง
http://nofilmschool.com/2013/10/defining-dit-tools-job/
http://nofilmschool.com/2013/10/defining-dit-biggest-misconception-dits/
ปล.ทีนี้ก็เหลือแค่จอแก้สี ราคา 3-5 แสนบาทก็ทำหนังทุนต่ำได้เองโดยไม่ต้องผ่าน Lab แล้วครับ .... ส่ง Lab แค่ทำ DCP หรือ Digital Cinema Package ฉายโรง เท่านั้นละครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ทำ case หรือกระเป๋าหิ้วคงลำบาก เอาเป็นพวก film wrap รอบผิวเครื่องก่อนดีมะครับ :P
Wrap แล้วก็กลิ้งๆไปเลยใช่มั้ยครับ :P
ทำแบบกระเป๋ากระติกน้ำก็ได้ครับ หน้าตามันก็กระติกน้ำอยู่
หรือไม่ก็ทำแบบกล่องไฟเบอร์สำหรับกลองชุด อะไรทำนองนี้
http://nofilmschool.com/2013/10/defining-dit-tools-job/ ผมใช้ Softcase บุครับ พอถึง Location ก็จะยกออกมา Setup แบบในลิงค์นี้ครับ ... ส่วนใหญ่การทำงานออกจะเป็นประมาณนี้ครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
แบบนี้ภาพยนต์เรื่องหน้าของพี่ดำ ใช้ 5D mk III ถ่ายทำ และ MacPro ตัดต่อแน่นอน
ถ้าใช้ compressed CinemaDNG ของ ML ตัดเลยนี่สงสัย SSD ในตัวจะไม่พอนะครับ -_-\
สงสัยต้องต่อ SSD แยกเพิ่มหลายตัวเลย
หนังเรื่องนึง ใช้ Pegasus 10TB สองตัวก็พอไหวครับ ต้องคำนวน Shooting Ratio ในช่วงถ่ายทำสองสามวันแรกก็พอจะมองออกครับว่าหนังทั้งเรื่องน่าจะใช้ประมาณไหนครับ แต่คงไม่น่าเกิน 30TB ครับ .... ตอนทำละครพันท้ายนรสิงห์ ถ่าย 24 ตอน ใช้ 80-100 TB ที่ 4K ครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ตอนนี้ใช้ Macbook Pro Retina 15" Generation แรก Spec จัดเต็ม รู้สึกว่ายังทำงานได้ดีครับ ... ถ้ามีเงินเป็นถุงเป็นถังก็คงลงทุนครับ ... แต่บิดาผมสั่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ แต่ไม่ทันกับละคร พันท้ายนรสิงห์เพราะกว่าจะมา (อีกสองสามอาทิตย์) ก็น่าจะตัดตอนสุดท้ายเกือบเสร็จ (หรือเสร็จแล้ว) พอดีครับ คงจะเหลือทำ CG ไม่กี่ช็อตครับ ฮาๆๆๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ใช้เสร็จเก็บเข้าตู้เซฟ
ซื้อมาใช้เล่นเฟสบุก อ่านเว็บ ขำๆ น่าจะดี
อยากทำแบบนี้นะครับ แต่บ้านผมไม่ได้ขุดน้ำมันขายอ่ะ ;w; #โดนถีบรัวๆ
Dream high, work hard.
เริ่มจากปลูก สาหร่าย ก่อนได้นะครับ #เตรียมโดนถีบอีกคน
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
มีเราโชคดีคนเดียวมั้งเนี่ย ที่บ้านขุดมันขาย
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
น้ำมันครับ มิใช่"มัน"
น้ำมันมันก็มันๆ เหมือนกับมันนั่นแหละครับ ถึงมันจะมันคนละมันมันก็ยังอุตส่าห์มีคำว่ามันเหมือนๆ กัน
Dream high, work hard.
(@_@)a ตอนแรกก็งงนะ พองงเท่านั้นแหละ งงงงเลย
เม้นแรกฮา เม้นที่สองก็ฮา แต่ พอมาเม้นที่สามก็ฮาเลยครับ... : )
เหมือน apple ออกแบบ mac pro มาเพื่อแก้ปัญหาของคนทำหนัง ทำงานเฉพาะทางได้ตรงจุดมากๆ เลย (นั่งเล่น facebook บน Macbook air เงียบๆ ต่อไป)
ตรงมากๆครับ เป็นสิ่งที่ตรงกับ Workflow การทำงานผมที่สุดเลยครับ อันนี้วิเคราะห์จากประสบการณ์การทำงานตรงครับ Apple เข้าใจหัวอกคนทำหนังแบบจริงๆจังๆเป็นอาชีพหลักมากๆครับ แล้วเดี๋ยวนี้ตำแหน่งอย่าง DIT มีความสำคัญมากขึ้นมากในการถ่ายหนัง Mac Pro ตัวนี้ออกแบบมาสำหรับตรงจุดนี้มากๆครับ อีกทั้ง On Set Editor อีกครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
คุ้นๆว่า Premiere รองรับ Dual GPU อยู่แล้วหนิครับ...
แต่สงสัยระบบ OpenCL จะไม่สะใจพอ(หรือตอนเทสพี่แกลืมเปิดหว่า...)
ปัญหาคือการ์ดจอ AMD รัน Ray-Traced 3D ของ AE ไม่ได้นี่สินา(ใช้ Element 3D กันเถอะ)