แม้ที่ผ่านมายังไม่มี iPhone หรือ iPad รุ่นไหนที่สามารถกันน้ำได้ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคต Apple อาจพัฒนาอุปกรณ์ที่กันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยสิทธิบัตรใหม่ที่ Apple เพิ่งยื่นขอจดไปได้เผยให้เห็นแนวคิดการพัฒนาวัสดุอ่อนนุ่มชนิดพิเศษที่จะใช้เพื่อปิดช่องรูต่างๆ ของอุปกรณ์ เพื่อกันน้ำและฝุ่นไม่ให้เข้าไปในรูนั้น โดยมันมีคุณสมบัติพิเศษในการซ่อมแซมตัวเอง
คุณสมบัติพิเศษนี้ จะทำให้มันแตกต่างจากจุกยางอุดรูทั่วไปตรงที่ว่า ผู้ใช้ไม่ต้องคอยแกะมันออกทุกครั้งที่ต้องการจะเสียบหูฟังหรือสาย Lightning เพียงแค่จิ้มหัวสายหูฟัง (หรือหัวสาย Lightning) ทะลุผ่านตัววัสดุตรงเข้าไปในพอร์ต เท่านั้นก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ และเมื่อเสร็จจากการใช้งาน ก็เพียงถอดหัวสายออกจากรูนั้น เจ้าวัสดุอุดรูชนิดพิเศษนี้ก็จะซ่อมแซมตัวเองจนรูปิดสนิททำหน้าที่ป้องกันการรุกล้ำของน้ำและฝุ่นได้ดังเดิม
อย่างไรก็ตาม Apple มิได้ระบุชัดว่าวัสดุพิเศษนี้คืออะไร โดยเรียกมันกว้างๆ ว่าเป็น อิลาสโตเมอร์ ซึ่งหมายถึงพอลิเมอร์ชนิดที่มีความอ่อนนุ่มมาก สามารถยืดตัวได้หลายเท่าเมื่อมีแรงมากระทำแม้อยู่ในสภาวะอุณหภูมิห้องปกติ และหดกลับสู่รูปร่างเดิมได้เมื่อแรงที่มากระทำนั้นหายไป
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากบริษัทอื่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำ อย่างเช่น Xperia Z5 ของ Sony หรือ Galaxy S6 Active ของ Samsung ก็มีการพัฒนาเรื่องช่องพอร์ตต่างๆ ให้กันน้ำได้โดยไม่ต้องพึ่งจุกปิดแต่อย่างใดได้แล้ว ต้องมารอดูกันว่า Apple จะตามทันผู้ผลิตทั้ง 2 รายในเรื่องนี้ได้หรือไม่
ที่มา - The Verge , ข้อมูลสิทธิบัตรจาก FPO
Comments
ล้ำลึกจริงๆเลยนะแอปเปิ้ล
จะทัน iPhone 7 ไหม ไม่น่าทัน แต่มีข่าวลือเรื่องกันน้ำอยู่เบาๆ
ปัญหาคือมันจะซ่อมตัวเองได้กี่ทีกันเชียว
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ส่วนของ Sony มีสิทธิบัตร ระบบกันน้ำที่ถ้าน้ำเข้าจะหมดประกัน©
ก็ถูกต้องแล้วไงครับ
แล้วยี่ห้อไหน ถ้ามีพอร์ทที่ผู้ใช้สามารถเปิดเองได้ น้ำเข้าแล้วไม่หมดประกัน?
ก็ไม่ได้บอกว่าผิดนะครับ :)
ถ้ามีออกมาจริง สิทธิบัตรนี้ Apple ก็น่าจะต้องลอก Sony นะ
Wow ครั้งแรกของแอปเปิ้ลหลังจ๊อบตายเลยนะเนี่ย
กว่าจะใช้อีกนานมาก คงเป็นการจดแนวคิดไว้ก่อนแต่พอร์ตหลังเครื่องโทรศัพท์ นี่คิดได้ไงต้องคว่ำหน้าจอตอนชาร์จ (Magic mouse2 ต้องหงาย)
ถ้ามาเป็นแท่นชาร์จผมว่าก็ไม่ต้องคว่ำนะ แต่แบบ Magic Mouse นี่ไม่ไหวจริงๆ
คงเป็นการจดแนวคิดไว้ก่อน
ใช้ไปนานๆมันจะหมดไปมั้ยเนี่ยหรือจะมีของจีนทำมาแบบฉีดเติมได้
เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ ถ้านึกภาพไม่ออกก็ "ยางไม่มีแบน" ยี่ห้อหนึ่งเพียงแค่นำยางรถยนต์มาฉาบกาวเอาไว้ เหยียบตะปูเป็นร้อยยังไงก็ไม่เป็นรูโบ๋ให้ลมออก
ทำไมสิทธิบัตรไม่กำหนดว่า ต้องสร้างขึ้นมาก่อนถึงจดได้
ตอนสร้างมันมีสิทธิ์รั่วไหลไงครับ เค้าถึงกำหนดว่าต้องเป็นแนวคิดที่พิสูจน์ว่าทำได้จริงถึงจะยอมให้จด
งั้นก็แย่สิครับ คิดออกแต่ทำไม่ได้ อีกเจ้ากลับทำได้ก่อน แล้วคนคิดได้ไอเดียก่อนจะมีประโยชน์อะไร?
หลังจอบส์จากไป ห่วงเรื่องงานประกอบกับความทนทานมากครับ วัสดุแพง หรูจริง แต่มันไม่ทนเอาซะเลย
ผมว่าตอนนี้ Jobs ไปสถิตย์อยู่กับ Samsung แล้วครับ ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ Samsung คล้ายของแบรนด์เนมไปเลย ไม่เน้นสเป็คสูงมาก แต่เจาะตลาดที่สูงขึ้่น งานประกอบทนทาน ดีไซค์หรูสุดๆ
Cough Cough Low Pressure Explosive Cough Cough
/me เปิดโฆษณา S6 edge ชุด craftsmanship แล้วฟังสำเนียงคำว่า aluminum ไปพร้อมกับหัวเราะเพลิดเพลินตัวโยน
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตอนนี้ Apple ทำอุปกรณ์กันน้ำได้ มันอาจจะว้าวช่วงแรกๆ แต่พักเดียวคนก็จะเลิกเห่อครับ ดูได้จาก Xperia รุ่นหลังๆ จุดเด่นเรื่องกันน้ำกลายเป็นเรื่องเฉยๆมาก ยิ่งโฆษณามาก คนยิ่งเอาไปจุ่มน้ำมาก เครื่องยิ่งพังมากตามๆกันไปด้วย หลังๆก็เลยไม่ค่อยจะเห็นโฆษณาแนวจุ่มน้ำซักเท่าไหร่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Apple ในฐานะผู้นำเทรนโลก ถ้ามี iPad กันน้ำ ก็คงจะมีคนถ่ายรูปเอา iPad ไปอ่านหนังสือในอ่างอาบน้ำแล้วแทคว่า #ชีวิตดี้ดี #กันน้ำ 555
แต่เพื่อนผมใช้คุ้มมากเลยนะ Xperia Z ใช้ถ่ายในสระว่ายน้ำ ถ่ายในทะเล
(ไม่ได้ถ่ายใต้น้ำแต่ใส่สายข้อมือแล้วพกติดตัวลงน้ำเลย)
ตอน Xperia Acro S ผมก็ใช้คุ้มครับ เล่นสงกรานต์ 2 ปี ลงสระว่ายน้ำอีกหลายหน แต่พอเปลี่ยนมาใช้ Xperia Z2 แล้ว เคยเอาลงสระน้ำ ปรากฎว่า ฝ้าขึ้นที่เลนส์กล้อง ต้องหมกซิลิก้าเจลอยู่คืนนึง หลังจากนั้นไม่กล้าอีกเลยครับ แต่เอาโดนน้ำนิดหน่อยนี่ไม่เป็นไร
ผมว่าตอนรุ่น Acro S จุกมันปิดสนิทกว่าตัวหลังๆเยอะครับ อย่างตัว Z2 ของผมนี่ ฝาปิดเด้งเองตลอด เซ็งจุง T-T
ผมเอา Z1 ไปถ่ายปลาใต้น้ำเลยแหละ (แถวๆ ชายหาด ไม่ได้ดำลึก) แช่น้ำไว้ถ่ายยังไงเครื่องก็ไม่ร้อน
แต่หลังแบตเสื่อม เอาไปแงะเปลี่ยนแบต (นอกศูนย์) หลังจากนั้นฝุ่นยังเข้าเลย เพราะฝาหลังไม่มีกาวซีลแล้ว ก็เป็นอันใช้ต่อได้แต่อดลงน้ำไป
จากที่เคยใช้มา Z1 แพ้คลื่นครับ ดำไปเลยไม่เป็นไรเท่าไหร่ แต่โดนคลื่นกระแทกแรงๆบนผิวน้ำนี่ซีลกันไม่อยู่เลย มีไอน้ำในมือถือตลอด
6s กันน้ำได้แต่ไม่พูดคงกลัวเหมือนกัน
จะใช้ได้นานแค่ไหนละนั่น
มันมีรอบการใช้งาน เท่าที่เคยเห็น มันจะซ่อมตัวเองได้ จนกว่าสารที่ใส่ไว้หมด ก็จะต้องเอาไปเปลี่ยน คิดว่าเขาคงคิดแล้วว่าคนเราคงไม่พลาดบ่อยครั้ง ถ้า 2-3 ครั้งมันน่าจะซ่อมได้ แต่ถ้าเกินจากนั้นก็น่าจะเกินประกันการใช้งาน ผมว่ามันน่าจะมีการเขียนใน Agreement ถ้ามีการ Implement เทคโนโลยีนี้จริงๆ
พอ apple คิดค้นอะไรดีๆ ขาประจำไม่โผล่เลยแฮะ
พอเถอะครับ เดี๋ยวก็ยาวอีก
ไม่ยาวหรอกครับ เพราะเวลาเป็นเรื่องดีๆ มักไม่ค่อยมา
อันนี้ไม่เหมือนประเด็นของผมหรือครับคุณ errin ความเห็นไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว พอดีเห็นคุณชอบจับผิดเลยเตือน
ไม่นึกว่าจะแค้นขนาดนี้นะครับ ถึงขนาดว่าผมจับผิดเลยทีเดียว lol
ผมก็เตือนแล้วไงครับว่าให้พอได้แล้ว ที่บอกให้พอเนี่ยก็หมายถึงให้คุณ john หยุด ไม่ได้บอกว่าให้แอนตี้หยุด จะให้ผมทำตัวเป็นบ่างช่างยุเรียกคุณ mk มาดูทุกกระทู้เลยหรือครับ
แล้วถ้าดูตามเนื้อความ ความเห็นของคุณครั้งนั้นมันตรงกับคำเตือนของคุณ lew มากกว่าความเห็นนี้เยอะครับ แยกแยะหน่อยครับ
บอกตรงๆก็ได้เผื่อคุณจะสบายใจขึ้น ผมก็ไม่ได้ชอบความเห็นของคุณ john มากกว่าของคุณไปสักเท่าไรหรอกครับ
ไม่รู้ใครตอบใคร สรุปผมงงระบบรีพลายอีกแล้ว
ผมก็ใช้คำที่มันมีความหมายตรงกับการกระทำนะครับ คือไม่ได้ตอบความเห็นแต่ใช้วิธีจับผิดเพื่อจัดการกับความเห็นของคนที่ไม่ถูกใจ ไม่แน่ใจว่าต้องใช้คำไหนจึงจะดูเหมาะสมครับ ซึ่งผมก็ต้องย้ำอีกครั้งว่าคราวที่แล้วผมผิดจริง ๆ ครับ
พอดีผมเห็นคุณ John เค้ามีความเห็นที่ไม่เกี่ยวกับข่าวผมก็ไม่สนใจอะไรแต่พอเห็นคุณ errin มาตอบแล้วไม่เหมือนเดิม ออกแนวเตือนพวกเดียวกัน ก็เลยรู้สึกว่าคุณ errin เป็นคนประเภทจ้องจับผิดคนที่ตนไม่ชอบแค่นั้นหรือเปล่าครับ
คำว่าสาวกนี้กระทบกระเทือนจิตใจผู้คนมากกว่าขาประจำมันก็จริงครับ ถ้าเปลี่ยนคำจากขาประจำเป็นสาวกคุณ errin จะแยกแยะเป็นอีกอย่างใช่มั้ยครับ
ผมค่อนข้างจะเฉย ๆ นะครับ ไม่ได้รู้สึกว่าความเห็นคุณ John ผิดอะไร เพียงแต่ตอนคุณ lew เค้าปลดล็อกแปดความเห็นแล้วขอไม่ให้เปิดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว ซึ่งผมก็ลงชื่อรับทราบและเห็นด้วย ซึ่งตอนนั้นที่คุณ errin เตือนผมก็ยอมรับทันทีผิดจริง ๆ เพราะตอนนั้นลืม แต่พอมาตอนนี้คุณ errin กลับไม่เตือนแสดงว่าคุณ John ไม่ทำผิดตามข้อตกลงหรือเปล่าครับ
ไม่ได้ว่าผมใช่มั้ย เพราะผมงงระบบรีพลายมากๆ
คือความเห็นของคุณ john dick เป็นการเปิดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับข่าวครับ ซึ่งผมเคยทำมาก่อนแล้วคุณ errin ก็ใช้ข้อตกลงนี้มาเล่นงานผม ซึ่งตอนนั้นฝ่ายที่ไม่ชอบพวก anti-apple ก็มาแสดงความเห็นกันเยอะ บางคนถึงกับคิดว่าผมน่าจะโดนแบนกันเลยทีเดียวครับ
ที่ขาประจำจริงๆ คือเมนท์ถามหาแบบนี้นี่แหละครับ เห็นเกือบทุกข่าวว่า ทำไมไม่มา, มารอคนที่เคยด่า, inb4..
ตอนตอบก็ไม่งงนะ แต่พอไล่อ่านงงระบบรีพลายจริงๆ
สังเกต
เอาครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
โชว์เป็นตัวเลข!!!!!! โอ้แม่เจ้า แสดงผลเป็นชื่อจะง่ายกว่ามั้ย
ปล.ขอบคุณครับที่ช่วยบอกข้อสังเกต เล่นมาเป็นเดือน พึ่งจะรู้
ผมว่ามันก็เข้าใจไม่ยากนะครับ กรอบเล็ก ก็คือ reply กรอบที่ใหญ่ขึ้นไป (ลองกด 'toggle' ดูครับ)ปล.ถ้ายัง งง จะเอาชัวร์ ก็ดูตัวเลขตามที่คุณ Elysium บอกครับ
ขอบคุณครับ เริ่มจะจับทางได้ละ
แฟนๆ อยากใหช่วยเยียวยาสายชาร์จให้ฟื้นกลับมาจากอาการเปื่อยยุ่ยด้วยเหมือนกัน
ลั่นเลย55555
ประสบการณ์ตรงนะครับ
1.ถอดสายออกจาก adapter ทุกครั้งที่ชาร์ตเสร็จ2.ถ้าจะเล่นมือถือตอนชาร์ต ห้ามให้สายหักงอ (ไม่เล่นตอนชาร์ตได้จะดีมาก)
3.ใส่สปริงปากกาตรงขั้วครับ (DIY)
ใช้สายชาร์ตมาตั้งแต่ 5s เปิดตัว ขั้วยังไม่มีปัญหาครับ
ดีนะที่ Jobs ไม่เคยออกตัวแรงเรื่องกันน้ำ น่ายินดีที่คนใช้ iPhone จะได้อุปกรณ์ที่มีความยอดเยี่ยมทางวิศวกรรม แต่ไม่ใช่ของใช้ประจำวัน (หรือเปล่า) อีกแล้ว