European Union
กฎหมายมาตรฐาน USB-C ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ (28 ธันวาคม 2024) โดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมด ที่ขายในประเทศ EU จะต้องรองรับการชาร์จและเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB-C
อุปกรณ์ที่เข้าเงื่อนไขกฎหมายนี้ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป หูฟัง คอนโซลวิดีโอเกม ลำโพงพกพา E-Reader คีย์บอร์ด เมาส์ และอุปกรณ์พกพาอื่น โดยมีเป้าหมายให้สามารถใช้สายชาร์จประเภทเดียวร่วมกันได้ทั้งหมด เป็นการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Waste เพราะลูกค้าต้องสามารถเลือกไม่รับหัวชาร์จไฟได้ด้วย
ตามที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ออก กฎหมายดิจิทัล DMA เพื่อกำหนดให้ผู้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้ามาเชื่อมต่อระบบได้ ทำให้ไม่เป็นการกีดกันนักพัฒนารายย่อย หนึ่งในบริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้คือแอปเปิล ซึ่งกรณีใหญ่ก็คือการ เปิดให้ลงสโตร์ภายนอก ตั้งแต่ iOS 17.4 และ ปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม นักพัฒนา หรือล่าสุดคือการเปิด NFC ใน iPhone ให้แอปจ่ายเงินเข้าถึงได้ ตามคำสั่งของสหภาพยุโรป หรือ EU รวมทั้งต้องปฏิบัติตามคำร้องขอของนักพัฒนาหากต้องการเข้าถึงส่วนอื่นเพิ่มเติม
มีรายงานว่าแอปเปิลจะหยุดขาย iPhone 14 ทุกรุ่น และ iPhone SE ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปภายในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายบังคับใช้พอร์ต USB-C กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ที่จะมีผลตั้งแต่ 28 ธันวาคม เช่นกัน
สินค้าอื่นที่แอปเปิลขายในยุโรปและยังใช้พอร์ต Lightning ก็จะหยุดขายในภูมิภาคเช่นกัน ซึ่งตอนนี้แอปเปิลมีไลน์สินค้าที่เป็น USB-C มารองรับอยู่แล้ว
ที่น่าสนใจคือแม้แอปเปิลจะเลิกขาย iPhone 14 และ iPhone SE แต่ข่าวลือเรื่อง iPhone SE 4 รุ่นใหม่ที่จะขายปีหน้า ก็มีสเป็กเป็นพอร์ต USB-C ที่ ใช้บอดี้ของ iPhone 14 เท่ากับว่าสินค้าที่เลิกขายก็จะกลับมาในร่างใหม่ และขายในยุโรปได้นั่นเอง
กูเกิลประกาศการเปลี่ยนแปลงวิธีแสดงผลการค้นหา มีผลเฉพาะในภูมิภาคยุโรปโดยบอกว่าเป็นผลจากกฎหมายดิจิทัล DMA ที่กูเกิลได้พยายามปรับให้เป็นไปตามข้อกำหนดในช่วงที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับเว็บเปรียบเทียบราคาสินค้า ได้แก่ โรงแรม สายการบิน และร้านค้าปลีก ซึ่งมีเว็บเปรียบเทียบราคา 3 ราย ร้องเรียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรปว่าทราฟิกเว็บพวกเขาลดลง 30% หลังจากกูเกิลเปลี่ยนวิธีแสดงผลค้นหา ที่กูเกิลบอกว่าทำให้การเปรียบเทียบราคาดูง่ายมากขึ้น เช่น ผลค้นหาโรงแรมถูกแสดงในรูปแบบแผนที่ ที่มีรูปภาพโรงแรม พร้อมราคาจากเว็บที่ถูกที่สุด เป็นต้น
คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปหรือ European Commission (EC) เปิดเผยความคืบหน้าประเด็นการสอบสวน Corning เรื่องมีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันตลาดกระจอหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ เริ่มการสอบสวน ไปเมื่อต้นเดือน โดยทาง Corning ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ ที่ EC ระบุก่อนหน้านี้
ประเด็นที่ EC ระบุเกี่ยวกับ Corning ได้แก่ การทำสัญญากับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้สั่งซื้อคราวละจำนวนมาก การห้ามรับข้อเสนอส่วนลดคล้ายกันจากคู่แข่ง รวมทั้งข้อตกลงแบบเดียวกันกับซัพพลายเออร์วัตถุดิบกระจก
ศึกรอบใหม่ระหว่างสหภาพยุโรปหรือ EU กับแอปเปิลได้เริ่มอีกครั้ง โดยคราวนี้คณะกรรมาธิการแห่งยุโรปหรือ EC ได้แจ้งแอปเปิลว่าบริษัท อาจละเมิดกฎของ EU เรื่องการต่อต้านการบล็อกทางภูมิศาสตร์ (Geo-blocking) ของบริการออนไลน์ของแอปเปิลได้แก่ App Store, Apple Music, Apple TV+ ฯลฯ
Meta ประกาศการเปลี่ยนแปลง มีผลเฉพาะผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU ของ Facebook และ Instagram ซึ่งปัจจุบันผู้ใช้งานมีตัวเลือก สมัครแพ็คเกจไม่มีโฆษณาในราคา 9.99 ยูโรต่อเดือน แต่หน่วยงานกำกับดูแลของ EU บอกว่าละเมิดกฎหมาย คุ้มครองผู้บริโภค
Meta บอกว่าแนวทางจากนี้จะเป็นสองทางเลือกเหมือนเดิมคือ จ่ายเงินแลกกับไม่มีโฆษณา แต่จะลดราคาลง 40% เหลือ 5.99 ยูโรต่อเดือนสำหรับการสมัครผ่านเว็บต่อหนึ่งบริการ โดยเพิ่มอีก 4 ยูโรหากไม่ต้องการแสดงโฆษณาทั้ง Facebook และ Instagram ซึ่ง Meta บอกว่าเป็นราคาที่ถูกที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มคู่แข่ง
คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปหรือ European Commission (EC) ประกาศเริ่มการสอบสวน Corning ว่าอาจมีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันในตลาดกระจกหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
EC อ้างข้อมูลประกอบการสอบสวนว่า Corning มีข้อกำหนดกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ให้เปิดคำสั่งซื้อกระจกแบบ Alkali-Aluminosilicate ที่บริษัทผลิต คราวละทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่มี โดยบริษัทจะให้ส่วนลดเพิ่มเติม นอกจากนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องให้ข้อมูลกับ Corning หากได้รับข้อเสนอจากผู้ผลิตกระจกหน้าจอรายอื่นด้วย และห้ามรับข้อเสนอเหล่านั้นเว้นแต่ Corning ไม่สามารถทำราคาสู้ได้
นอกจากนี้ EC ยังบอกว่า Corning ทำข้อตกลงคล้ายกับฝั่งซัพพลายเออร์วัตถุดิบกระจก ให้รับคำสั่งซื้อทั้งหมดจากบริษัทโดยมีผลตอบแทนเพิ่ม
Bloomberg รายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรป เตรียมออกคำสั่งปรับเงินแอปเปิล เนื่องจากทำผิดกฎหมายดิจิทัล DMA เรื่องการออกระเบียบทำให้นักพัฒนาแอปไม่มีอิสระ ในการนำเสนอทางเลือกจ่ายเงินที่ราคาถูกกว่านอก App Store ซึ่งทางคณะกรรมาธิการ เคยออกคำเตือน ไปก่อนหน้านี้
ในช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลได้ปรับปรุงเงื่อนไขหลายอย่าง สำหรับแอปในภูมิภาคยุโรปเพื่อให้เป็นไปตาม DMA อย่างไรก็ตามการจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลในแอปเป็นหนึ่งในประเด็นที่แอปเปิลถูกทักท้วงมา ซึ่งรายงานบอกว่าคณะกรรมาธิการยุโรปอาจออกคำสั่งปรับเงินภายในเดือนนี้
ตามกฎหมาย DMA แอปเปิลอาจถูกปรับสูงสุด 5% ของรายได้เฉลี่ยแอปเปิลทั่วโลกในช่วงที่ทำผิด ซึ่งอาจสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์
แอปเปิลอัปเดตข้อมูลการเปิดให้ใช้งานความสามารถปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU ซึ่งยังไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้ ขณะที่ประเทศอื่น สามารถใช้งานได้แล้ว โดยตั้งค่าเครื่องเป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกา เพราะแอปเปิล ต้องตรวจสอบประเด็นกฎหมายของดิจิทัล DMA ก่อน
ล่าสุดแอปเปิลบอกว่า Apple Intelligence จะใช้งานในประเทศกลุ่ม EU ได้ในเดือนเมษายนนี้ พร้อมกับอัปเดตซอฟต์แวร์ที่รองรับภาษาอื่นมากขึ้นในตอนนั้น ซึ่งรวมทั้งภาษาฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี
แอปเปิลอัปเดตเอกสารสำหรับนักพัฒนาเกี่ยวกับ iOS 18.2 ที่ออกเวอร์ชันเบต้าเมื่อต้นสัปดาห์ โดย เพิ่ม API ให้เบราว์เซอร์ 3rd Party สามารถเพิ่มไอคอนเว็บแอปในหน้า Home (PWA - Progressive Web App) ที่ไปเรียกเบราว์เซอร์นั้นได้แล้ว
คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ออกคำตัดสินว่า X ไม่เข้าเกณฑ์แพลตฟอร์มที่ต้องกำกับดูแลเพิ่มเติม ภายใต้ กฎหมายดิจิทัล DMA ที่มีเป้าหมายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะ
เกณฑ์ของกฎหมาย DMA จะมีผลกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่เรียกว่า gatekeeper มีผู้ใช้งานในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปจำนวนมาก หรือมีผลกับลูกค้าธุรกิจ โดยแพลตฟอร์มโซเชียลปัจจุบันที่เข้าเกณฑ์นั้นมี Facebook, Instagram และ TikTok รวมอยู่ด้วย
ตามที่แอปเปิลเปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ รุ่นที่ 7 เมื่อคืนนี้ อาจมีคนสงสัยล่วงหน้าว่าคราวนี้แอปเปิลจะเอาอะไรออกไปจากในกล่องสินค้าอีก เพราะช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลก็ขยันนำของแถมในกล่องออกอย่างจริงจัง ตั้งแต่ ที่ชาร์จ-หูฟัง ใน iPhone 12, AirPods 4 ก็ไม่ให้สายชาร์จเลย หรือล่าสุด สติกเกอร์แอปเปิลใน iPhone ก็ไม่แถมมาแล้ว
สำหรับลูกค้าในไทยนั้น iPad mini ยังได้ที่ชาร์จและสายชาร์จมาในกล่องตามปกติ แต่คนยุโรปจะไม่ได้แบบนั้น
กูเกิลยื่นคำร้องกล่าวหาไมโครซอฟท์ ต่อหน่วยงานกำกับดูแลป้องกันการผูกขาดตลาดแห่งสหภาพยุโรป ในประเด็นการแข่งขันของบริการประมวลผลบนคลาวด์ โดยระบุว่าไมโครซอฟท์ใช้อำนาจที่มีในตลาดซอฟต์แวร์องค์กร ผลักดันให้ลูกค้าใช้งาน Azure และใช้วิธีการที่ทำให้ลูกค้าต้องอยู่กับบริการนี้ต่อไป (Lock-In)
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เจรจายุติการร้องเรียนในลักษณะเดียวกัน กับผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรป จึงเชื่อว่าคำร้องเรียนของกูเกิลต่อสหภาพยุโรปก็จะไม่มีผลเช่นกัน
ปัจจุบันบริการคลาวด์ของกูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดรวมเป็นอันดับ 3 รองจาก AWS ของ Amazon และ Azure ของไมโครซอฟท์
แอปเปิลประกาศการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้งาน เฉพาะประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ EU จะสามารถดาวน์โหลดแอปใน iPadOS ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad ผ่านสโตร์ 3rd Party ได้แล้ว เหมือนกับที่ดาวน์โหลดแอปจากสโตร์อื่นได้ ใน iOS ก่อนหน้านี้
ประกาศของแอปเปิลนี้ไม่ใช่เรื่องเกิดคาดหมาย เพราะคณะกรรมาธิการยุโรป ลงมติเมื่อเดือนเมษายน ให้ iPadOS เข้าข่ายเป็น Gatekeeper ที่เป็นตัวกลางซึ่งมีอิทธิพลต่อผู้ใช้งาน แม้จำนวนผู้ใช้งานจะยังไม่สูงถึงเกณฑ์ แต่กลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจมีจำนวนที่สูงกว่าเกณฑ์มากจึงเข้าข่าย และต้องปฏิบัติแบบเดียวกับที่ iOS เจอก่อนหน้านี้
ศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหภาพฯ ออกคำตัดสินในคดีที่กูเกิลถูกกรรมการธิการสหภาพยุโรปสั่งปรับเงิน 2.4 พันล้านยูโร เรื่องการแสดงผลเปรียบเทียบราคาสินค้า Google Shopping ที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยตัดสินยืนตามศาลทั่วไปซึ่งเป็นศาลอุทธรณ์
คณะกรรมการธิการสหภาพยุโรปได้ สั่งปรับกูเกิล 2.4 พันล้านยูโร เมื่อปี 2017 ประเด็นที่ Google Shopping แสดงผลเปรียบเทียบราคาสินค้าโดยผลค้นหาของกูเกิลมีการแสดงผลที่ดีกว่าเว็บไซต์อื่น ทำให้ทราฟิกเว็บไซต์อื่นลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งกูเกิลได้ปรับแนวทางแสดงผลค้นหาหลังจากนั้น รวมทั้ง อุทธรณ์ คำตัดสินนี้
ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปออกคำตัดสิน ยืนยันคำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2016 ที่บอกว่า แอปเปิลเลี่ยงภาษีในไอร์แลนด์ ช่วงปี 1991-2014 คิดเป็นมูลค่า 1.3 หมื่นล้านยูโร ซึ่งนี่เป็นคำตัดสินสูงสุดแล้ว ไอร์แลนด์จึงต้องเรียกภาษีที่ไม่ได้จ่ายคืนจากแอปเปิล
ย้อนไปในปี 2020 หลังจาก แอปเปิลแย้งในชั้นอุทธรณ์ ว่าข้อกล่าวเลี่ยงภาษีนั้นเกินจริง ทำให้ศาลทั่วไปยุโรป กลับคำตัดสิน บอกว่าไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนพอว่าไอร์แลนด์ได้ให้สิทธิประโยชน์พิเศษทางภาษีกับแอปเปิล แอปเปิลจึงไม่ต้องจ่ายภาษีส่วนนี้ แต่ก็มีการอุทธรณ์ถึงชั้นสูงสุด
แอปเปิลประกาศเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการใช้งานใน iOS และ iPadOS เพิ่มเติม มีผล เฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานในสหภาพยุโรปเท่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายดิจิทัล DMA ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มมีผลตั้งแต่ iOS 18 และ iPadOS 18 เป็นต้นไป
การเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือการเลือกเบราว์เซอร์เริ่มต้น (Default) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถแก้ไขได้ตลอด แต่หน้าต่างแนะนำให้เลือกจะปรากฏเพียงครั้งเดียวเมื่อเปิด Safari ครั้งแรก ในอัปเดตใหม่นี้ ถ้าเดิมผู้ใช้เลือก Safari เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น หลังอัปเดต iOS 18 ก็จะถูกถามอีกครั้ง ตัวเลือกนี้จะไม่ซิงก์ข้ามอุปกรณ์ หมายความว่าหน้าต่างคำถามก็จะแสดงอีกครั้งเมื่อย้ายไป iPhone, iPad เครื่องใหม่ด้วย
Spotify ประกาศความคืบหน้า ในประเด็นที่คณะกรรมาธิการยุโรป สั่งปรับเงิน แอปเปิล 1,800 ล้านยูโร เรื่องการกีดกันในตลาดแอปฟังเพลงสตรีมมิ่ง ทำให้ Spotify ได้ส่งแอป iOS ซึ่งให้ข้อมูลแพ็คเกจราคาที่ถูกกว่าถ้าซื้อนอกแอป สำหรับผู้ใช้งานในประเทศสหภาพยุโรป แต่ Spotify ออกมาแฉ ว่าแอปเปิลได้ดึงเวลาอนุมัติแอปเวอร์ชันนี้ ทำให้ Spotify ร้องเรียนไปที่คณะกรรมาธิการยุโรปอีกครั้ง
ต่อเนื่องจากที่แอปเปิล ประกาศเปลี่ยนกฎการพัฒนาแอป สำหรับนักพัฒนาในภูมิภาคยุโรป เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ที่คณะกรรมการธิการยุโรปทักท้วงและบอกอาจมีความผิดก่อนหน้านี้ ซึ่งกฎการพัฒนาแอปใหม่ก็มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมใหม่สองอย่างคือ Initial Acquisition Fee และ Store Services Fee ถึงแม้แอปเปิลบอกว่าโดยรวมแล้วนักพัฒนาจะจ่ายเงินน้อยลง แต่ขาประจำคู่ปรับกับแอปเปิลสองรายก็ไม่เห็นด้วย
แอปเปิลแจ้งนักพัฒนาในภูมิภาคยุโรป เรื่องการเปลี่ยนกฎการพัฒนาแอป หลังจากคณะกรรมการธิการยุโรป กล่าวโทษ ว่าแอปเปิลอาจละเมิดกฎหมาย DMA เนื่องจากไม่ได้ให้อิสระแก่นักพัฒนามากพอ ตามแนวทางของกฎหมายนี้ โดยประเด็นสำคัญคือการแทรกลิงก์ในแอป เพื่อออกไปยังเว็บภายนอก สำหรับการจ่ายเงินและให้ข้อเสนอที่ราคาถูกกว่าการจ่ายผ่านระบบ In-App ที่แอปเปิลจำกัดเงื่อนไขไว้ก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกว่า Apple Intelligence ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะมีให้ใช้งานใน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia รองรับ เฉพาะภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ ก่อน และจะเพิ่มภาษาอื่น ๆ ต่อจากนั้น โดยประเทศใน ยุโรปไม่น่าได้ใช้งาน ภายในปีนี้ เพราะแอปเปิลต้องตรวจสอบประเด็นกฎหมายดิจิทัล DMA ของสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตามข้อมูลในอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ที่ตอนนี้อยู่ในสถานะเบต้าสำหรับนักพัฒนา พบว่า macOS Sequoia อาจเปิดให้ใช้งาน Apple Intelligence ได้เลย โดยไม่มีประเด็นเรื่องกฎหมายของ EU
หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค (CPC) ในคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกแถลงการณ์เตือน Meta ว่ารูปแบบการให้บริการ "จ่ายเงินหรือยอมรับเงื่อนไข" (Pay or Consent) ที่ใช้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) อาจละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
โดย Meta มีเวลาถึงวันที่ 1 กันยายน 2024 ในการยื่นข้อเสนอเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการดังกล่าว มิฉะนั้นอาจมีโทษปรับเงินสูงสุด 4% ของรายได้บริษัทในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป
จากเหตุการณ์ที่ CrowdStrike ซอฟต์แวร์ความปลอดภัย อัปเดตโปรแกรมจนทำให้ Windows จอฟ้า สร้าง ผลกระทบในระดับโลก ประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาก็คือ Windows เป็นระบบเปิดมากเกินไป ทำให้ซอฟต์แวร์สามารถเข้าถึงได้ระดับเคอร์เนล ถ้าใช้ ระบบปิด แบบ บาง ระบบ ปฏิบัติการ ก็คงไม่เกิดปัญหาแบบนี้แล้ว
Meta เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนออกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Llama ที่รองรับข้อมูลผสมผสาน (Multimodal) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ประเด็นสำคัญนั้น Meta บอกว่าโมเดล Llama ตัวใหม่นี้จะไม่เผยแพร่ให้กับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU
โดยเหตุผลที่ Meta ตัดสินใจเช่นนั้นเป็นเพราะ Meta มองว่าทิศทางของหน่วยงานกำกับดูแลของ EU มีลักษณะที่คาดเดาได้ยาก จึงเลือกไม่เผยแพร่โมเดลไปเลยดีกว่า