ชาวเน็ตหงุดหงิด อยู่ๆ แอคเคาท์ Instagram และ Facebook ของตัวเอง ก็ไปตามแอคเคาท์ของ Trump และ JD Vance เฉย จะลบก็ทำไม่ได้อีก!
ทำไมมันเป็นอย่างนั้น?
หลังจากที่ Donald Trump ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยที่ 2 และทำพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน JD Vance มือขวาของเขาก็ได้เป็นรองประธานาธิบดีด้วย
แต่อยู่ๆ ชาวเน็ตก็ต้องเซอร์ไพรส์เมื่อพบว่าแอคเคาท์โซเชียลมีเดียของตัวเอง อยู่ๆ ก็ไปกดติดตาม Trump และ Vance แบบไม่ได้ตั้งใจ แถมพยายามจะกดเลิกติดตามหลายต่อหลายครั้งก็ทำไม่ได้อีก
Meta ประกาศว่าผู้ใช้งาน WhatsApp สามารถเลือกเพิ่มบัญชีที่ใช้งานอยู่ พ่วงเข้าไปกับระบบจัดการบัญชี Accounts Center ของ Meta เพื่อให้สามารถจัดการบัญชีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้จบที่เดียว
หากผู้ใช้เพิ่มบัญชี WhatsApp เข้าไป นอกจากทำให้การล็อกอินผ่านระบบ Accounts Center ทำได้สะดวกขึ้น ยังสามารถสั่งโพสต์เดียวให้ขึ้นหลายแพลตฟอร์ม (cross-post) เพิ่มมาที่ WhatsApp ได้ด้วย
การเพิ่ม WhatsApp เข้า Accounts Center จะถูกปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น หากต้องการใช้งานต้องเปิดเอง และ WhatsApp ย้ำว่าข้อความและการโทรเสียงใน WhatsApp ยังคงเข้ารหัสแบบ end-to-end เหมือนเดิม แม้จะเพิ่มบัญชีเข้ามาที่ Accounts Center แล้วก็ตาม
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ชี้แจงเพิ่มเติมในประเด็นการรื้อหน้าโปรไฟล์ผู้ใช้งาน เปลี่ยนมาแสดงรูปภาพเล็ก ตามแนว Grid เป็นรูปแนวตั้ง 4:5 แทนที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1:1 แบบเดิมที่ใช้มาตั้งแต่วันแรก ส่งผลให้การแสดงรูปหน้าโปรไฟล์หลายคนผิดเพี้ยนไป ไม่สวยงามอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก
Mosseri ยอมรับว่าฟีดแบ็กที่ได้รับนั้นมีทั้งดีและไม่ดี ความผิดพลาดหนึ่งคือ Instagram ไม่แจ้งผู้ใช้งานล่วงหน้าเป็นระยะเวลามากพอก่อนจะเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นไปแล้ว เขาจึงอธิบายว่าต่อจากรูปแนวตั้ง 4:5 Instagram มีแผน "จะ" ทำอะไรต่อไปอีกบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เตรียมตัว
Meta เปิดตัวแอปตัดต่อวิดีโอบนมือถือชื่อว่า Editsโดย Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram บอกว่าแอปนี้รองรับการใช้งานสำหรับคนที่ถนัดการตัดต่อวิดีโอบนโทรศัพท์ อย่างไรก็ตามแอปนี้ยังไม่มีให้ดาวน์โหลดในตอนนี้เพราะทีมงานกำลังเร่งพัฒนาอยู่ บนความร่วมมือกับเหล่าครีเอเตอร์เพื่อให้ได้เครื่องมือที่ดี โดยจะ ลง iOS ในเดือนหน้า และ Android หลังจากนั้น
ประกาศนี้สามารถเข้าใจได้ทันทีโดยเฉพาะกับคนที่ใช้แอปตัดต่อวิดีโอ CapCut ของ TikTok อยู่แล้ว เนื่องจาก CapCut ก็ถูกแบนในสหรัฐเหมือนกับ TikTok (แต่ตอนนี้แอปเริ่มกลับมาใช้งานได้แล้ว) จึงเป็นโอกาสของ Meta ที่จะสร้างแอปตัดต่อวิดีโอมาทดแทน
Instagram ประกาศการเปลี่ยนแปลงเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าที่ ออกมา รัว ต่อเนื่อง ขนาดนี้ เกี่ยวกับที่ อีกแพลตฟอร์มกำลังจะใช้งานไม่ได้ในอเมริกา หรือไม่ โดย Reels รองรับวิดีโอความยาวสูงสุดเพิ่มเป็น 3 นาที จากเดิมให้สูงสุดที่ 90 วินาที
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram อธิบาย ที่มาการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ผู้ใช้งานแสดงความเห็นกันมากว่า 90 วินาทีของคลิป Reels นั้นสั้นไปหน่อย ก็เลยเพิ่มให้ตามคำขอ
ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผู้ใช้งาน Instagram ทยอยพบว่าการแสดงรูปในหน้าโปรไฟล์ มีการตีเส้นรูปภาพย่อยหรือ Grid เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งอัตราส่วน 4:5 จากเดิมที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 1:1 ซึ่งคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เริ่มต้น Instagram โดย Instagram เคยบอกก่อนหน้านี้ ว่าได้เริ่มทดสอบกับผู้ใช้งานจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าจะมีผลทั้งหมดหรือไม่และเมื่อใด
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ตอบคำถามในสตอรีหลังผู้ใช้งานบางรายโวยต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเขาเข้าใจว่าหลายคนชินกับการแสดง Grid เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ตอนนี้คอนเทนต์ที่อัปโหลดบน Instagram ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอ ส่วนใหญ่เป็นแนวตั้ง การครอปแบบ 1:1 จึงทำให้ลดทอนการแสดงผล
Instagram Reels อัปเดตหัวข้อย่อยในหน้าฟีดของ Reels เพื่อแสดงวิดีโอกลุ่ม With Friends โดยเป็น "วิดีโอที่เพื่อนของเราไปกด Like หรือคอมเมนต์ หรือแปะ Note" พร้อมแสดงชื่อเพื่อนคนนั้นด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้น่าจะกระตุ้นความสนใจเรื่องราวรอบตัวของผู้ใช้งานได้อย่างดี แต่ก่อนจะตกใจไปมากกว่านี้ ฟีเจอร์นี้จะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาก่อน ส่วนทั่วโลกจะตามมาในภายหลัง
ผู้ใช้งาน Instagram ที่เล่นฟิลเตอร์สตอรีเป็นประจำอาจจะทราบอยู่แล้ว แต่เป็นการ แจ้งอีกครั้ง ว่าฟิลเตอร์เอฟเฟกต์ AR ที่้สร้างโดยนักพัฒนาภายนอก (3rd Party) จะถูกลบออกทั้งหมด มีผลในวันที่ 14 มกราคมนี้ โดยไม่ใช่ว่าฟิลเตอร์จะหายไปทั้งหมด แต่ฟิลเตอร์ที่เหลือให้ใช้งานคือฟิลเตอร์พื้นฐานของ Meta เองเท่านั้น
การตัดสินใจลบฟิลเตอร์เอฟเฟกต์ AR นี้ เป็นผลจากประกาศปิดบริการ Spark AR แพลตฟอร์มที่ให้นักพัฒนาภายนอกสร้างเอฟเฟกต์ AR ให้ใช้งานกับแอปต่าง ๆ ในเครือ Meta โดยให้เหตุผลว่าบริษัทต้องการ จัดลำดับความสำคัญของโครงการ และบริการต่าง ๆ ใหม่
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram และ Threads ประกาศ ว่าจะเริ่มกลับมาแสดงโพสต์ที่เกี่ยวกับการเมืองบนแพลตฟอร์มเหมือนเดิม หลังจากต้นปีที่แล้วทั้ง Instagram และ Threads ไม่แนะนำและไม่แสดงโพสต์การเมือง จากบัญชีที่ไม่ได้ติดตาม
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลต่อเนื่องจากที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศปรับการแสดงเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ให้รองรับเสรีภาพการแสดงออกความเห็นมากขึ้น ทำให้โพสต์ที่เกี่ยวกับการเมืองไม่ถูกจำกัดการมองเห็นเหมือนในอดีต
Meta และซีอีโอ Mark Zuckerberg ประกาศการเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข่าว (Fact-Checking) จากที่ใช้แหล่งข้อมูลจากองค์กรภายนอก 3rd Party มาเป็นระบบให้ชุมชนช่วยกันรายงานและตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกต้องหรือ Community Notes แบบเดียวกับ X ซึ่งจะ มีผลในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก
Meta บอกว่า Community Notes มีแผนเตรียมขยายไปยังผู้ใช้งานประเทศอื่นด้วย เมื่อเครื่องมือนี้มีการปรับปรุงมากขึ้น โดยปัจจุบันการตรวจสอบ Fact-Checking ของ Meta ใช้ข้อมูลผ่านเครือข่าย International Fact-Checking Network และ European Fact-Checking Standards Network สำหรับผู้ใช้งานในยุโรป มีผลทั้งบน Facebook, Instagram และ Threads
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram นำเสนอตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่บน Instagram ให้ผู้ใช้งานแต่งเติมลูกเล่นวิดีโอที่อัปโหลดได้ด้วย Generative AI ของ Meta
เครื่องมือใหม่นี้มีชื่อเรียกว่า Movie Gen AI ซึ่ง Instagram บอกว่าสามารถเปลี่ยนแปลงวิดีโอได้ในทุกรายละเอียดผ่าน Prompt ข้อความสิ่งที่ต้องการ และให้ผลลัพธ์ที่ทำออกมาสมจริงมากที่สุดบนความละเอียด 1080p ทำให้รองรับความต้องการและจินตนาการของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มได้
Mosseri อัปโหลดวิดีโอที่ใช้ลูกเล่นของ Movie Gen AI เพื่อให้เห็นความสามารถในการทำงาน (และไม่พลาด มีซีนหมูเด้งด้วย) สถานะของ Movie Gen AI ตอนนี้ยังเป็นงานวิจัย คาดว่าจะเปิดให้ทุกคนใช้งานได้ภายในปีหน้า
Instagram ปล่อยฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสตอรี่สรุปปี 2024 จากภาพที่ได้แชร์มาตลอดทั้งปี โดยสามารถปรับขนาด จัดเรียงภาพใหม่ และเพิ่มรูปภาพได้
นอกจากนี้ Instagram ยังเพิ่มฟีเจอร์ Add Yours ที่มาในธีมปีใหม่ และเอฟเฟกต์ข้อความปีใหม่และนับถอยหลัง ธีมแชทช่วงเทศกาล และเอฟเฟกต์พิเศษเมื่อพิมพ์ข้อความที่เกี่ยวกับการสวัสดีปีใหม่
มีรายงานปัญหา Facebook, Instagram และแพลตฟอร์มอื่นของ Meta ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อคืนนี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 1 นาฬิกา ข้อมูลล่าสุด ใน Downdetector มีคนพบปัญหาน้อยลง
Meta โพสต์ข้อความใน X เมื่อเวลา 1:48น. ยืนยันปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าแอปไม่ได้ โดยขอโทษผู้ใช้งาน และกำลังเร่งแก้ไขให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด
เทรนด์ X ของประเทศไทยในช่วงดึกจึงมาครบทั้ง #ไอจีล่ม และ #เฟสล่ม
อัปเดต: Meta รายงาน เมื่อเวลา 5:26น. ว่าตอนนี้ระบบกลับมาเป็นปกติ 99% แล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบสุดท้าย
Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เรียกว่า Trial Reelsเพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์ที่ต้องการทดลองทำคอนเทนต์แนวใหม่ แตกต่างไปจากเดิม สามารถวัดผลตอบรับเบื้องต้นก่อนได้
ปัญหาที่มาของฟีเจอร์นี้ Instagram บอกว่าครีเอเตอร์หลายคนมีความกังวล หากต้องทำคอนเทนต์ที่แตกต่างไปจากที่เคยทำ เพราะผู้ติดตามอาจไม่คุ้นเคย หรือผลตอบรับอาจแย่ลง Trial Reels จึงเข้ามารองรับ โดยครีเอเตอร์สามารถกำหนดค่า Reels ที่ต้องการทดลอง ให้ถูกมองเห็นได้เฉพาะ "คนที่ไม่ได้ติดตาม" ก่อน จากนั้น Instagram จะสรุปผลตอบรับทั้งจำนวนการมองเห็น ไลก์ คอมเมนต์ ใน 24 ชั่วโมงแรก ครีเอเตอร์ก็พิจารณาได้ว่าจะเผยแพร่ Reels นี้กับผู้ติดตาม หรือจะทำอย่างไรต่อไป
Meta ได้แจ้งนักพัฒนาแอปที่ใช้งาน API เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเมื่อ เดือนกันยายน โดยปิดการทำงานของ Basic Display API มีผลตั้งแต่ 4 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา ซึ่ง API นี้สามารถดึงข้อมูลในหน้าโปรไฟล์ และโพสต์สาธารณะมาแสดงได้
ถึงแม้ Meta จะแจ้งนักพัฒนาล่วงหน้า 90 วัน และให้คำแนะนำสำหรับให้ย้ายไปใช้ Instagram API สำหรับบัญชีธุรกิจ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีช่องทางรองรับสำหรับบัญชีผู้ใช้งานทั่วไป จึงส่งผลกระทบต่อแอปที่มีฟีเจอร์ดึงข้อมูลจาก Instagram มาแสดงเสริม เช่นแอปเดทติ้ง Tinder หรือ Hinge ไม่สามารถแสดงข้อมูล Instagram ได้อีกต่อไป
Instagram ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ของ Broadcast ช่องทางสื่อสารแบบทางเดียวสำหรับครีเอเตอร์ไปยังผู้ติดตาม เพื่อให้ครีเอเตอร์เข้าใจและสื่อสารกับผู้ติดตามได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
- Replies - ผู้ติดตามสามารถตอบข้อความจาก Broadcast ได้ โดยครีเอเตอร์ต้องเปิดการทำงานฟังก์ชันนี้เอง
- Prompts - ส่งข้อความเปิดประเด็นแนวคำถามคำตอบ ให้ผู้ติดตามส่งความเห็นภายใน 24 ชั่วโมง
- Insights - เพิ่มตัววัดผลสถิติของข้อความ Broadcast ให้เข้าใจพฤติกรรมผู้ติดตามดีขึ้น
ที่มา: Instagram
Meta ประกาศปรับปรุงเงื่อนไขผู้ลงโฆษณาในออสเตรเลียบนแพลตฟอร์มทั้ง Facebook และ Instagram โดยหากต้องการลงโฆษณาที่เป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงิน ต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนเท่านั้น
เงื่อนไขระบุว่านอกจากผู้ลงโฆษณาต้องยืนยันตัวตนแล้ว ยังต้องแสดงหมายเลขใบอนุญาตในการให้บริการทางการเงินของหน่วยงานรัฐด้วย จึงจะสามารถลงโฆษณาที่เป็นบริการทางการเงินได้ เมื่อโฆษณาได้รับการอนุมัติให้แสดง แพลตฟอร์มจะขึ้นข้อมูลด้วยว่าโฆษณานี้ถูกซื้อโดยใคร (Paid for By...)
กฎใหม่นี้ออกมาหลังจาก Meta ในออสเตรเลียพบปัญหาโฆษณาหลอกลวงชักชวนให้ลงทุน ซึ่ง Meta ได้ปิดไปแล้วกว่า 8,000 บัญชีที่เกี่ยวข้อง
Instagram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับผู้ใช้งานทั้งหมด 3 อย่าง เกี่ยวกับระบบแชท DM มีรายละเอียดดังนี้
ฟีเจอร์แรกคือ Location Sharingโดยสามารถแชร์พิกัดแบบเรียลไทม์ให้กับเพื่อนใน DM ได้ โดยข้อมูลจะคงอยู่สูงสุด 1 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถแชร์พิกัดได้ทั้ง DM แบบ 1:1 หรือแบบกลุ่ม ไม่สามารถแชร์พิกัดนี้ออกไปนอกแชทได้ และการทำงานจะปิดเป็นค่าเริ่มต้น Instagram บอกว่าฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการนัดเจอกัน หรือการนัดที่ต้องการระบุเวลาเดินทางมาถึง เป็นต้น
- Read more about (ซ้ำ) Instagram เพิ่มระบบแชร์พิกัด Live Location
- Log in or register to post comments
Instagram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับผู้ใช้งานทั้งหมด 3 อย่าง เกี่ยวกับระบบแชท DM มีรายละเอียดดังนี้
ฟีเจอร์แรกคือ Location Sharingโดยสามารถแชร์พิกัดแบบเรียลไทม์ให้กับเพื่อนใน DM ได้ โดยข้อมูลจะคงอยู่สูงสุด 1 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถแชร์พิกัดได้ทั้ง DM แบบ 1:1 หรือแบบกลุ่ม ไม่สามารถแชร์พิกัดนี้ออกไปนอกแชทได้ และการทำงานจะปิดเป็นค่าเริ่มต้น Instagram บอกว่าฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการนัดเจอกัน หรือการนัดที่ต้องการระบุเวลาเดินทางมาถึง เป็นต้น
Instagram ประกาศเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้งานสามารถล้างค่าหรือรีเซตเนื้อหาแนะนำ ที่ Instagram คัดเลือกมาแสดงโดยดูจากประวัติใช้งานในอดีต การล้างค่านี้มีผลกับการเลือกเนื้อหาแนะนำทั้งใน Explore, Reels และหน้าฟีดหลัก
ในการล้างค่าให้ผู้ใช้งานไปที่ Content Preference เลือก Reset suggested content จะเป็นการรีเซตเนื้อหาแนะนำทั้งหมด ระบบจะเริ่มเรียนรู้ใหม่และทยอยแนะนำเนื้อหาอิงตามประวัติใช้งานอีกครั้ง
การทำงานของฟีเจอร์นี้คล้ายกับ Refresh ที่ล้างค่าฟีด For You ใน TikTok ซึ่งมีออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ใครที่คุมโทนหน้าโปรไฟล์ Instagram อาจจะต้องเตรียมปรับอะไรกันอีกหน่อย โดยผู้ใช้งานบางคนได้รับการแจ้งเตือนว่าแถบสตอรีที่ตั้งค่าเป็นไฮไลท์ในหน้าโปรไฟล์ หรือ Story highlights จะถูกนำออกไป โดยย้ายไปเป็นหัวข้อหนึ่งในแถบไอคอนรูปหัวใจในวงกลม ที่รวมไฮไลท์ในแบบตารางรูปภาพของโปรไฟล์แทน
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่บอกว่าเป็นการทดสอบกับผู้ใช้งานบางส่วนเท่านั้น ยังไม่มีผลกับผู้ใช้งานทั้งหมด โดยบอกว่าเป็นการลองหาวิธีให้คอนเทนต์ในหน้าโปรไฟล์ถูกแสดงขึ้นมามากที่สุด จึงเลือกการสร้างแท็บแยกขึ้นมา แทนการใส่แถวที่ด้านบนทำให้คอนเทนต์หลักถูกดันลงไป
Instagram เริ่มแจ้งผู้ใช้งานที่กดติดตามแฮชแท็ก (Hashtag) เพื่อให้ฟีดมีคอนเทนต์ที่ติดแฮชแท็กหัวข้อที่สนใจแสดงขึ้นมา ว่าฟีเจอร์นี้จะถูกยกเลิกในวันที่ 13 ธันวาคมนี้
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถกดติดตามแฮชแท็กได้อีก รวมทั้งที่เคยติดตามก็จะถูกยกเลิกทั้งหมด ใครที่ชินกับการใช้งานฟีเจอร์นี้ก็อาจต้องปรับวิธีใช้งานกันไป
Instagram มีแนวโน้มลดการให้ความสำคัญการแสดงโพสต์ล่าสุดอ้างอิงตามแฮชแท็กมาแล้วระยะหนึ่ง เมื่อปี 2022 Instagram ก็เลิกแสดงโพสต์ล่าสุดตามแท็ก เหลือแค่ Top กับ Reels ที่เป็นการคัดคอนเทนต์ด้วยอัลกอริทึมตามแท็กนั้น ๆ แทน
Meta ประกาศการเปลี่ยนแปลง มีผลเฉพาะผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU ของ Facebook และ Instagram ซึ่งปัจจุบันผู้ใช้งานมีตัวเลือก สมัครแพ็คเกจไม่มีโฆษณาในราคา 9.99 ยูโรต่อเดือน แต่หน่วยงานกำกับดูแลของ EU บอกว่าละเมิดกฎหมาย คุ้มครองผู้บริโภค
Meta บอกว่าแนวทางจากนี้จะเป็นสองทางเลือกเหมือนเดิมคือ จ่ายเงินแลกกับไม่มีโฆษณา แต่จะลดราคาลง 40% เหลือ 5.99 ยูโรต่อเดือนสำหรับการสมัครผ่านเว็บต่อหนึ่งบริการ โดยเพิ่มอีก 4 ยูโรหากไม่ต้องการแสดงโฆษณาทั้ง Facebook และ Instagram ซึ่ง Meta บอกว่าเป็นราคาที่ถูกที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มคู่แข่ง
Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ออกมาแก้ต่างความเชื่อที่ว่า Instagram กดการเข้าถึง (Reach) ของโพสต์ที่ติดแท็กว่าเป็นเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน (sponsored content) เพื่อบังคับให้แบรนด์ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ Reach เพิ่มขึ้น
เขาอธิบายว่า ถึงจะติดแท็กดังกล่าว Instagram ก็ไม่ได้ลดการแสดงผลโพสต์ลง ครีเอเตอร์สามารถติดแท็กได้โดยไม่ต้องกลัวว่าการเข้าถึงจะต่ำลง การติดแท็กมีไว้เพื่อให้ Instagram รู้ว่าคอนเทนต์ไหนได้รับการสนับสนุน และเพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมายในหลายประเทศ
Social Media Today มองว่า สาเหตุที่ทำให้โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุนมีคนเข้าถึงน้อยกว่า เพราะว่าในความเป็นจริงแล้วผู้ใช้จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่มีสปอนเซอร์น้อยกว่าโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ผู้ใช้งาน Instagram อาจเคยสงสัยว่าทำไมวิดีโอที่เพิ่งอัปโหลดไม่นาน คุณภาพความละเอียดถึงไม่คมชัดนัก หรือบางกรณีวิดีโอที่โพสต์นานแล้วคุณภาพดูไม่ดีเท่าอดีต แต่บางคลิปของบางคนจึงดูคมชัดมาก
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ตอบคำถามนี้ในสตอรีของเขาว่า โดยทั่วไปแล้ว Instagram จะพยายามแสดงผลวิดีโอที่คุณภาพสูงสุดเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าวิดีโอนั้นไม่มีการรับชมมาระยะหนึ่ง วิดีโอเหล่านี้จะถูกปรับลดคุณภาพลง ซึ่งหากมีคนกลับมาดูซ้ำเยอะ ๆ ก็จะเรนเดอร์ให้มีความละเอียดดีขึ้นอีกครั้ง