Threads ประกาศอัปเดตความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Fediverse หลังจากทดสอบในสถานะเบต้าแบบจำกัดบางประเทศ เมื่อเดือนมีนาคม

โดยผู้ใช้งาน Threads สามารถเห็นการโต้ตอบจากแพลตฟอร์มอื่นบน Threads ได้โดยตรง ทั้งการ Like และข้อความ Reply อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่สามารถ Reply ให้ข้ามไปแพลตฟอร์มอื่นใน Fediverse ได้ แต่ Threads จะเพิ่มความสามารถนี้ในอนาคต

Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ยัง บอกว่า การเชื่อมต่อ Fediverse นี้ ได้ขยายเพิ่มเติมไปอีกมากกว่า 100 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย

Kathy Hochul ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ลงนามรับรองกฎหมายด้านโซเชียลมีเดียกับเยาวชน 2 ฉบับ หลังจาก สภาของรัฐนิวยอร์กโหวตผ่านกฎหมาย เมื่อต้นเดือนนี้

Butterfliesโซเชียลเนตเวิร์กใหม่ที่ระบุว่าเป็นการนำโลกของ AI มาสู่ผู้ใช้งาน ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ หลังจากทดสอบในสถานะเบต้ามา 5 เดือน สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง Android และ iOS

Butterflies ก่อตั้งโดย Vu Tran อดีตผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมที่ Snap ซึ่งไอเดียเริ่มต้นของเขามาจากการพบว่า ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ด้าน AI ที่มีผู้ใช้งานทั่วไปให้ความสนใจ มากไปกว่าแชทบอต Generative AI ซึ่งเน้นตัวหนังสือ คุยผ่านกล่องข้อความ จึงมองหาแนวทางใหม่ที่สามารถนำโลกของงานสร้างสรรค์ ปฏิสัมพันธ์ของผู้คน และ AI มาเชื่อมต่อกัน

BeReal แอปโซเชียลที่มีลูกเล่นให้ ผู้ใช้งานแชร์ภาพของตนกับเพื่อน ๆ โดยไม่ต้องตกแต่งภาพ ประกาศขายกิจการให้กับ Voodoo บริษัทผู้พัฒนาแอปและเกมของฝรั่งเศส ด้วยมูลค่าดีล 500 ล้านยูโร

BeReal ก่อตั้งในปี 2020 ก่อนแอปเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่ปี 2022 ด้วยลูกเล่นสุ่มเวลาโพสต์ภาพ แต่กระแสนี้ก็มาและไปในเวลาไม่นาน จากผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคนเมื่อปี 2023 ตัวเลขเหลือไม่กี่ล้านคน แม้พยายามออกฟีเจอร์มาดึงดูดผู้ใช้งานก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าอดีต

เมื่อเดือนมีนาคมมีรายงานว่า BeReal ประสบปัญหาการเพิ่มทุนรอบใหม่ และมีนักลงทุนบางรายเสนอให้ขายกิจการไปเลย จึงมาจบที่ดีลกับ Voodoo นี้

สภาของรัฐนิวยอร์กผ่านกฎหมายฉบับใหม่ Stop Addictive Feeds Exploitation (SAFE) for Kids Act กำหนดให้บริษัทโซเชียลมีเดียต้องจำกัดอัลกอริทึมแนะนำเนื้อหาของ feed ที่ทำให้ผู้ใช้ "เสพติด" สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และห้ามส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้เหล่านี้ระหว่าง 0.00-6.00 น. โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง

กฎหมายฉบับนี้ยังให้อำนาจกับสำนักงานอัยการของรัฐนิวยอร์ก เอาผิดกับบริษัทได้ด้วยโทษปรับสูงสุด 5,000 ดอลลาร์ต่อการทำผิดหนึ่งครั้ง

ขั้นถัดไปคือผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก Kathy Hochul ต้องลงนามเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งเธอออกมาประกาศชัดเจนว่า นิวยอร์กจะเป็นรัฐต้นแบบในการปกป้องเด็กๆ จากโซเชียลที่ทำให้เสพติด จนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพจิตตามมา

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวของ Meta ที่บอกว่าบริษัทจะนำโพสต์ที่เป็นสาธารณะทั้งบน Facebook และ Instagram มาใช้เทรนโมเดล AI (แต่ใน ยุโรปสามารถ opt-out ได้ ) ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนไม่พอใจและมองหาทางเลือกใหม่ คำตอบหนึ่งคือ Caraแพลตฟอร์มโซเชียลโพสต์รูปภาพ ซึ่งมีจำนวนสมาชิกใหม่กว่า 5 แสนคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

Cara ไม่ใช่แอปใหม่ เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่มกราคมปีที่แล้ว เพียงแต่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักจนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้ที่เคยอยู่หลักหมื่น เพิ่มขึ้นมาเป็นหลายแสน กระแสนี้แม้แต่ผู้ก่อตั้ง Jingna Zhang ซึ่งเป็นช่างภาพและศิลปินด้วยยังบอกว่าไม่คาดคิดมาก่อน

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Copilot เวอร์ชันแอปสำหรับใช้งานบน Telegram ซึ่งเป็นแชทบอตถาม-ตอบในหัวข้อต่าง ๆ โดยเปิดให้ใช้งานได้ฟรีทั้งผ่าน Telegram บนเว็บและสมาร์ทโฟน โครงการดังกล่าวไมโครซอฟท์บอกว่ายังอยู่ในสถานะเบต้า

ในการเปิดใช้งาน Copilot บน Telegram ผู้ใช้งานต้องให้เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนกับ Telegram ด้วย ในตอนนี้สามารถตอบเป็นข้อความได้เท่านั้น ยังไม่สามารถสร้างรูปภาพได้

ลองใช้งาน Copilot บน Telegram ได้ที่นี่

ที่มา: 9to5Mac

Alessandro Paluzzi นักแกะแอปสายย้อนกลับทางวิศวกรรมคนเดิม ได้พบฟีเจอร์ใหม่ใน Instagram มีชื่อว่า Peekซึ่งอธิบายการทำงานว่า เป็นการถ่ายภาพแบบช็อตเดียว ส่งทันที ไม่มีการแก้ไขหรือใส่ฟิลเตอร์ ฝั่งผู้รับเปิดดูรูปครั้งเดียวและรูปก็ถูกลบไปทันที

Meta ยืนยันการทดสอบฟีเจอร์นี้ โดยบอกว่ายังเป็นต้นแบบที่ทดสอบภายในเท่านั้น ยังไม่ได้เผยแพร่กับผู้ใช้งานภายนอก

Meta เปิดตัว Threads เวอร์ชันใช้งานผ่านเว็บบนเดสก์ท็อป โดยแบ่งฟีดใช้งานเป็นคอลัมน์ย่อยตามประเภทหรือหัวข้อที่กำหนด หรือพูดง่าย ๆ ก็คือหน้าตาใช้งานเหมือนกับ TweetDeck นั่นเอง

ในรูปที่ แชร์โดย Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ผู้ใช้งานสามารถกำหนดหัวข้อแต่ละคอลัมน์ ทั้งหน้าฟีดหลัก For You และ Topic ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานกำหนด ทำให้เห็นโพสต์ต่าง ๆ ที่เข้ามาได้ในหน้าเดียว

Meta ประกาศเลิกทำ Workplace (ชื่อเดิมคือ Facebook at Work แล้วเปลี่ยนเป็น Workplace by Facebook ) โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับองค์กร โดยจะปิดบริการอย่างถาวรในปี 2026

Meta ส่งอีเมลแจ้งลูกค้า Workplace บอกว่าจะให้บริการตามปกติจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2025 หลังจากนั้นจะปรับสถานะเป็น read-only และไม่คิดค่าบริการ เพื่อให้ลูกค้าดาวน์โหลดข้อมูลเก่าออกมาได้จนถึง 31 พฤษภาคม 2026 ซึ่งจะลบทุกอย่างออกจากระบบ

เว็บข่าวโอเพนซอร์ส It's FOSS เล่าประสบการณ์ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คแบบกระจายศูนย์อย่าง Mastodon ว่าสถาปัตยกรรมแบบกระจายศูนย์ อาจกลายเป็นช่องว่างให้เกิดการยิง DDoS โดยไม่ตั้งใจ

It's FOSS บอกว่าหลังจากเข้ามาเปิดบัญชี Mastodon มีผู้ติดตามอยู่ราว 1.5 หมื่นราย แต่ทางเว็บไซต์พบปัญหาว่าเกิดปัญหาเว็บล่ม 504 Gateway Timeout อยู่เรื่อยๆ และหลังจากสอบสวนแล้วพบว่าอาการจะเกิดเมื่อมีคนแชร์ลิงก์ข่าวของ It's FOSS ลงในเครือข่าย Mastodon

หลังจากที่หน่วยงานด้านคุ้มครองข้อมูลของยุโรป European Data Protection Supervisor (EDPS) ประกาศสร้างโซเชียลของตัวเอง ชื่อ EU Voice และ EU Video เมื่อสองปีก่อน

ล่าสุดทาง EDPS ได้ออกมาประกาศปิดโซเชียลของตัวเองทั้ง EU Voice และ EU Video ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ด้วยเหตุผลว่าครบกำหนดเวลาของโครงการ 1 ปี และขยายเพิ่มอีก 1 ปี

ทาง EDPS ได้บอกว่าโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จในการเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวและเน้นผู้ใช้งานเป็นหลัก สำหรับ EU Voice มีบัญชีองค์กร 40 บัญชี รวมถึงคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปและสมาชิกรัฐสภายุโรป และ EU Video มีจำนวน 6 บัญชี

Mastodon แพลตฟอร์มโซเชียลทางเลือกแบบกระจายศูนย์ สร้างเซิร์ฟเวอร์เองได้ ประกาศจดทะเบียนบริษัทแบบไม่แสวงหากำไรในสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สามารถใช้เงินที่รับบริจาคลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายได้

แนวทางของ Mastodon นั้นออกแบบเป็นโครงการที่ไม่แสวงหากำไรตั้งแต่แรก เพื่อให้แพลตฟอร์มรักษาผลประโยชน์ผู้ใช้งานสูงสุด ไม่ใช่เพื่อผู้ถือหุ้น (หรือมหาเศรษฐีบางคน แบบที่ Eugen Rochko ผู้ก่อตั้งเคยบอก ) ที่ผ่านมา Mastodon จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทไม่แสวงหากำไรในเยอรมนี แต่ล่าสุดสรรพากรของเยอรมนีได้เพิกถอนใบอนุญาตดำเนินงานรูปแบบดังกล่าวแล้ว แม้อุทธรณ์ไปก็ไม่เป็นผล จึงทำให้ต้องมาจดทะเบียนบริษัทแบบดังกล่าวในอเมริกาแทน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีแอปโซเชียลเน็ตเวิร์คใหม่ ที่เปิดตัวจากการยกเครื่องเวอร์ชันเก่าในปีที่แล้วชื่อว่า "Airchat"นิยามตนเองว่าเป็นโซเชียลเสียงสไตล์วอล์คกี้ทอล์คกี้ หรือวิทยุสื่อสาร ถึงแม้ไอเดียนี้ฟังดูอาจไม่ใหม่ และทำให้นึกถึง Clubhouse แต่รูปแบบการสมัครแบบต้องได้คำเชิญ (Invite-only) เพิ่มความยากอีกนิด ก็ทำให้บุคคลสายเทคโนโลยีในอเมริกา ต่างพากันมาลองใช้งานจนเป็นกระแส

ปัจจุบัน TikTok สามารถอัปโหลดโพสต์ที่มีเฉพาะรูปภาพได้ อย่างไรก็ตามมีรายงานมาระยะหนึ่งแล้วว่า TikTok อาจออกแอปแยกที่โฟกัสเฉพาะคอนเทนต์ภาพนิ่งอย่างเดียว ซึ่งเป็นการชนกับฟังก์ชันกับพื้นฐานของ Instagram

ล่าสุดมีผู้ใช้งานพบข้อความเตือนเมื่ออัปโหลดรูปภาพ บอกว่า TikTok จะมีแอปใหม่สำหรับการโพสต์รูปภาพโดยเฉพาะชื่อว่า TikTok Notesออกมาเร็ว ๆ นี้ เมื่อผู้ใช้งานโพสต์ภาพใน TikTok แอปหลัก คอนเทนต์นี้ก็จะไปโพสต์ที่ TikTok Notes ด้วย แต่สามารถตั้งปิดการแชร์ได้

ตัวแทนของ TikTok ยืนยันว่าบริษัทอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาแอปนี้ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ใช้งานและความคิดสร้างสรรค์บน TikTok ในรูปแบบภาพนิ่งกับข้อความ แต่ยังไม่มีกำหนดว่าจะออกมาเมื่อใด

Meta ประกาศโครงการจ่ายเงินสนับสนุนให้กับครีเอเตอร์ โดยคราวนี้เป็น Threads โซเชียลตัวอักษรที่หวังแข่งขันกับ Twitter X โดยมีชื่อโครงการว่า "Threads Bonus program"

อย่างไรก็ตามโครงการนี้ไม่ใช่ใครจะสมัครก็ได้ Meta ระบุว่า เฉพาะครีเอเตอร์ที่ได้รับคำเชิญเท่านั้น โดยการจ่ายเงินโบนัสนี้จะขึ้นกับประสิทธิภาพของโพสต์ใน Threads และจำนวนโพสต์ที่ลงใน Threads เงื่อนไขเพิ่มเติมคือ ต้องไม่ละเมิดเนื้อหา, ไม่ใช่คอนเทนต์ที่แบรนด์สินค้าสนับสนุน, ไม่ใช่โพสต์ภาพ-วิดีโอ ที่ไม่มีแคปชัน, จำนวนวิวน้อยกว่า 2,500 เป็นต้น

Meta ไม่ได้บอกว่าจำนวนเงินที่จะจ่ายเป็นเท่าใด แต่บอกว่าอาจแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละครีเอเตอร์

Sensor Tower รายงานยอดผู้ใช้งาน Twitter/X ในสหรัฐช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2024 พบว่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18% เหลือผู้ใช้ต่อวัน (daily active users) ราว 27 ล้านคน

ภาพรวมของการใช้งานโซเชียลในสหรัฐช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา (นับจากกุมภาพันธ์ 2023 ถึงกุมภาพันธ์ 2024) ลดลงทุกตัว แต่ Twitter ตกหนักที่สุดคือ 27% ส่วน TikTok ลดลงราว 9.5%, Instagram ลดลง 4.4%, Snapchat ลดลง 1.7%, Facebook ลดลง 0.6%

ถ้าดูสถิติการใช้งานของผู้ใช้ทั่วโลก Twitter/X มีผู้ใช้ต่อวันราว 174 ล้านคน ลดลง 15% ซึ่งถือว่าลดลงแทบทุกเดือนหลัง Twitter ขายกิจการให้ Elon Musk

Threads ประกาศรองรับการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Fediverse แล้ว โดยตอนนี้ยังมีสถานะเบต้า และทดสอบเฉพาะในอเมริกา, แคนาดา และญี่ปุ่น ทำให้ผู้ใช้งาน Threads สามารถโพสต์หรือดูข้อมูลการ Like แบบข้ามแพลตฟอร์ม ที่อยู่ใน Fediverse ได้ เช่น Mastodon

ก่อนหน้านี้ Meta ได้ พรีวิวฟีเจอร์นี้ ไป ซึ่งมีเงื่อนไขเพิ่มเติมในการเชื่อมต่อนั่นคือบัญชีต้องเป็นสาธารณะ และตอนนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น ดูข้อความตอบกลับ (Reply) หรือดูผู้ติดตามข้ามแพลตฟอร์ม ไม่ได้ ตลอดจนหากลบโพสต์ใน Threads ก็อาจไม่ถูกลบในแพลตฟอร์มอื่น

แน่นอนว่าซีอีโอ Mark Zuckerberg ก็ร่วมทดสอบการโพสต์ข้ามแพลตฟอร์ม ด้วย

Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta สาธิตการทำงานของส่วนเชื่อมต่อโพสต์ใน Fediverse เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของ Threads ที่ประกาศว่าจะมีตั้งแต่ตอนเปิดตัว ทำให้หนึ่งโพสต์บน Threads สามารถเข้าถึงผู้อ่านได้กว้างและข้ามไปยังแพลตฟอร์มอื่นมากขึ้น

การสาธิตนี้นำเสนอโดย Peter Cottle จาก Meta ในการสัมมนาออนไลน์ FediForum โดยผู้ใช้งานต้องเปิดการแชร์ไปยัง Fediverse ใน Settings ซึ่งจะมีข้อความอธิบายว่า Fediverse คืออะไร และผลกระทบที่เกิดขึ้นซึ่งผู้ใช้งานต้องรับทราบก่อน

LinkedIn กำลังทดสอบและยืนยันเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่นั่นคือ เกมภายในแอป ซึ่งอาจดูแปลกสักหน่อยที่แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับเครือข่ายคนทำงาน-หางาน จะมีเกมอยู่ในนั้น โดยเกมที่ทดสอบตอนนี้ได้แก่เกม Queens, Inference และ Crossclimb ทั้งหมดเป็นเกมแนวพัซเซิล สามารถเล่นและจัดอันดับคะแนนกันได้ในคนทำงานองค์กรเดียวกัน หรือระหว่างองค์กร

ตัวแทนของ LinkedIn อธิบายว่าฟีเจอร์นี้ยังเป็นการทดสอบ ไม่มีกำหนดเปิดให้ใช้งานทั่วไป โดยแนวทางของเกมนั้นเพื่อเพิ่มความสนุก ความสนิทสนม และเพิ่มเรื่องราวพูดคุยสนทนาระหว่างกัน

BeReal แอปโซเชียลแนวคิดใหม่ ที่เป็นกระแสมาแรงเมื่อปีที่ผ่านมา จากการโพสต์ภาพแบบ 2 กล้องหน้า-หลังในเวลาเดียวกัน และสุ่มเวลาให้ลงโพสต์เพื่อให้รูปที่เป็นของจริงในเวลานั้นไม่ตกแต่งใส่ฟิลเตอร์ จนฟีเจอร์นี้ถูกทั้ง TikTok และ Instagram นำมาใช้ตาม

ล่าสุดมีรายงานจาก Business Insider ว่าความนิยมในแอปนั้นลดลงมากจาก 70 ล้านคน ปัจจุบันมีประมาณ 25 ล้านคน จึงส่งผลต่อการรับเงินลงทุนรอบใหม่จากนักลงทุน โดยตอนนี้บริษัทมีเงินสดจากนักลงทุนเหลืออีกประมาณ 10 เดือน บริษัทต้องการระดมทุนซีรีส์ C แต่นักลงทุนหลายคนเสนอให้ขายกิจการไปเลยดีกว่า

Discord ประกาศว่านักพัฒนาบนแพลตฟอร์ม สามารถสร้างเกมที่เล่นได้เลยผ่านแอป Discord โดยใช้ Embedded App SDK ตัวใหม่ ตั้งแต่ 18 มีนาคม เป็นต้นไป

Discord บอกว่าต้องการให้นักพัฒนาสามารถสร้าง แชร์ และเผยแพร่ผลงานได้ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ส่วน Activities ของผู้ใช้งานมีความเคลื่อนมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ Discord ยังกลับมาทำโครงการ Discord App Pitches เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเสนอต้นแบบไอเดียของแอปที่น่าสนใจ และขอรับเงินสนับสนุนจาก Discord สูงสุด 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือสร้างเกมใหม่บน Embedded App SDK นี้ด้วย

ที่มา: Discord

Mozilla Corporation ประกาศเปลี่ยนตัวซีอีโอ โดย Mitchell Baker ซีอีโอที่รับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2020 จะกลับไปเป็นประธานบอร์ดอีกครั้ง (เธอเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Mozilla และเป็นซีอีโอมารอบหนึ่งในปี 2003-2008) และไปทำงานด้านนโยบาย การเป็นตัวแทนองค์กรบนเวทีสัมมนา การพบปะกับภาคส่วนต่างๆ ให้มากขึ้น

Bluesky บริการโซเชียลแบบกระจายศูนย์ที่แยกตัวออกมาจาก Twitter เปิดให้คนทั่วไปสมัครบัญชีได้แล้ว ไม่จำกัดว่าต้องมีคำเชิญอีกต่อไป

การใช้งานสามารถเข้าไปยัง หน้าเว็บแอพ Bluesky แล้วสมัครโดยใช้อีเมลและยืนยันรหัส OTP ผ่าน SMS โดยจะได้บัญชีผู้ใช้เป็น username.bsky.socialส่วนไคลเอนต์มีทั้งผ่านเว็บแอพ, iOS , Android

Meta ประกาศแนวทางขึ้นป้ายกำกับ (label) บอกว่าภาพที่โพสต์ในระบบ Facebook, Instagram, Threads สร้างด้วย AI เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ป้ายกำกับนี้จะเริ่มใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า (coming months)