Spotify ประเทศไทย จัดงานประกาศรางวัล Spotify Wrapped Live Thailand 2024 โดยเป็นอันดับเพลงยอดนิยมของผู้ใช้งาน Spotify ในประเทศไทย เพิ่มเติมจาก Spotify Wrapped 2024 ทั่วโลก ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันก่อน
เพลงยอดนิยมของประเทศไทยปี 2024 คือ "Love Me Again" โดย V และศิลปินยอดนิยมของประเทศไทยปี 2024 คือ LISA
เพลงท้องถิ่นภาษาไทยยอดนิยมปี 2024 คือ ซ่อน(ไม่)หา โดย Jeff Satur และศิลปินไทยยอดนิยมคือ Saran ส่วนศิลปินหน้าใหม่ Top RADAR Artist of 2024 คือวง BUS
ผลการจัดอันดับทั้งหมดของ Spotify ประเทศไทย เป็นดังนี้
Spotify ประกาศผล 2024 Spotify Wrapped ซึ่งรวบรวมสถิติข้อมูลการฟังตลอดปีที่ผ่านมาบนแพลตฟอร์ม ทั้งข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคน ไปจนถึงภาพรวมในระดับประเทศ และระดับโลก
Spotify Wrapped ของปีนี้ยังคงนำเสนอแบบสตอรีสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย แต่ในบางประเทศ Spotify ได้เพิ่มเติมลูกเล่นจาก AI เข้ามา ทั้งรายการพอดคาสต์ตอนพิเศษ ที่สรุปข้อมูล Wrapped ของผู้ใช้งานด้วย NotebookLM ของกูเกิล นอกจากนี้ฟีเจอร์ AI DJ และ AI Playlist ก็มีคอนเทนต์ Wrapped ของแต่ละผู้ใช้งานด้วย
Spotify ประกาศเปลี่ยนแปลงการใช้งาน Web API สำหรับนักพัฒนา โดยบอกว่าเพื่อทำให้แพลตฟอร์มมีความปลอดภัยมากขึ้น
ผลกระทบสำคัญจะเกิดกับนักพัฒนาแอป เป็นส่วนการใช้งานข้อมูลบางอย่างผ่าน API ของ Spotify โดยเฉพาะเพื่อนำมาใช้งานเทรนข้อมูล AI เช่น ระบบแนะนำเพลง, ระบบวิเคราะห์รูปแบบเพลง ที่สามารถนำมาพัฒนาเพลย์ลิสต์ขึ้นเองได้ในแอปต่าง ๆ
Spotify บอกว่าผลกระทบนี้มีเฉพาะนักพัฒนาที่ถูกจำกัดการใช้งาน API อยู่แล้ว ส่วนนักพัฒนาที่เข้าถึงแพลตฟอร์มผ่านการเป็นพาร์ตเนอร์พิเศษ จะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
กูเกิลออกส่วนขยายของแอพ Gemini บนมือถือ ที่น่าจะมีคนรอใช้กันมากที่สุดตัวหนึ่งคือ ใช้ควบคุมการเล่นเพลงของ Spotify
Gemini ในฐานะผู้ช่วยส่วนตัว (personal assistant) มีระบบ extension เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับแอพอื่นๆ ก่อนหน้านี้กูเกิลได้ออก ส่วนขยายควบคุมแอพอื่นในมือถือ และ ส่วนขยายควบคุมบ้านสมาร์ทโฮม คราวนี้เป็นคิวของการควบคุมเพลงบน Spotify เริ่มทยอยปล่อยให้ผู้ใช้บางกลุ่มแล้ว
ส่วนขยายควบคุม Spotify ถือเป็นส่วนขยายด้านเพลงตัวที่สองของ Gemini โดยก่อนหน้านี้รองรับ YouTube Music ของกูเกิลเอง
Spotify ประกาศแผนสนับสนุนครีเอเตอร์ในการสร้างคอนเทนต์พอดคาสต์บนแพลตฟอร์มมากขึ้น โดยต้องการผลักดันฟอร์แมตวิดีโอพอดคาสต์ เริ่มจากการเพิ่ม Spotify Partner Program สำหรับครีเอเตอร์ที่เข้าเงื่อนไข สามารถสมัครสร้างคอนเทนต์พอดคาสต์แบบวิดีโอ และรับส่วนแบ่งทั้งจากจำนวนการฟังและโฆษณา เบื้องต้นรองรับในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, แคนาดา และออสเตรเลีย ตั้งแต่มกราคมเป็นต้นไป
รายการพอดคาสต์แบบวิดีโอกลายเป็นฟอร์แมตที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่ง แพลตฟอร์มยอดนิยมก็คือ YouTube จึงเป็นที่มาว่าทำไม Spotify จึงผลักดันคอนเทนต์แบบวิดีโอด้วยเช่นกัน
Spotify รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2024 จำนวนผู้ใช้งานรวม (MAUs) เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 640 ล้านบัญชี โดยเป็นบัญชีที่เสียเงิน 252 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 12% ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 19% เป็น 3,988 ล้านยูโร มีกำไรสุทธิ 300 ล้านยูโร
Daniel Ek ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Spotify กล่าวว่าบริษัทไม่เคยอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน ซึ่งต้องขอบคุณการดำเนินงานที่ผ่านมาของทีม ตอนนี้บริษัทมาอยู่ในจุดที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งก็ขยับใกล้เข้ามามากขึ้น ด้วยนวัตกรรมและการส่งมอบคุณค่าให้ผู้ใช้งานที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม
TikTok ประกาศเพิ่มปุ่ม "Share to TikTok" ให้แพลตฟอร์มฟังเพลงสตรีมมิ่ง เพื่อให้ผู้ใช้งาน Apple Music และ Spotify สามารถแชร์เพลงมาลง TikTok ได้ทันที เหมือนกับการแชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่นเช่น Instagram ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
ปุ่ม Share to TikTok จะแสดงผลในปุ่มแชร์ของหน้าเพลงนั้น ๆ ที่ผู้ใช้งานเปิดอยู่ โดยสามารถเลือกโพสต์ลง TikTok ได้ทั้งแบบโพสต์ลงหน้าฟีด หรือโพสต์เป็นสตอรี เลือกแชร์ได้ทั้งหน้าปกอัลบั้ม, ปกเพลงนั้น หรือเป็นเพลย์ลิสต์ นอกจากนี้ยังรองรับการส่งเป็น DM หาเพื่อนใน TikTok ได้ด้วย
Spotify เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เรียกชื่อว่า Offline Backupเพื่อแก้ปัญหาหากผู้ใช้งานต้องการฟังเพลง แต่ไม่ได้ดาวน์โหลดเพลงมาไว้ก่อน และตอนนั้นไม่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้ตามปกติ เช่น อยู่บนเครื่องบิน
Offline Backup ทำงานโดย Spotify จะดาวน์โหลดเพลงที่เพิ่งฟังล่าสุดไว้ในคิวคล้ายกับแคช แล้วสร้างเป็นเพลย์ลิสต์เฉพาะผู้ใช้งานไว้ ทำให้เมื่ออยู่ในสถานการณ์ออฟไลน์ ก็ยังสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่องแม้ไม่ได้ดาวน์โหลดเพลงไว้
การใช้งานฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้งานต้องเปิดการฟังโหมดออฟไลน์ด้วยโดยไปที่ Settings > Data Saving > Offline หรือ Storage แล้วเปิด Offline Listening ฟีเจอร์นี้รองรับทั้ง iOS กับ Android สำหรับผู้ใช้งานทั่วโลกที่สมัคร Premium
Spotify เปิดตัวระบบบัญชีสำหรับผู้ใช้งานอายุน้อยกว่า 13 ปี ในครอบครัวที่สมัคร Premium Family ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถจัดการกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้เองเพิ่มเติม
บัญชีสำหรับผู้ฟังรุ่นเยาว์นี้ ยังสามารถเข้าถึงเพลงและฟีเจอร์ต่าง ๆ แบบการใช้งาน Spotify ที่แตกต่างคือไม่มีการเก็บประวัติการฟังสำหรับ Wrapped ประจำปี โดยพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถกำหนดค่าเพิ่มเติม เช่น ไม่ให้เข้าชมคอนเทนต์วิดีโอ, ฟังเพลงที่มีเนื้อหารุนแรง ไปจนถึงการกำหนดระดับศิลปิน-เพลง ที่สามารถฟังได้ เป็นต้น
Spotify แนะนำครอบครัวที่ไม่ต้องการจัดการฟิลเตอร์คอนเทนต์เอง ยังสามารถเลือกใช้งาน Spotify Kids ซึ่งมีการจัดการเนื้อหาเพลงสำหรับเด็กไว้อยู่แล้ว
Spotify ประกาศขยายฟีเจอร์ Daylist ให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเพิ่มเติมการใช้งานในภาษาท้องถิ่น เช่น อาหรับ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สเปน ฯลฯ แต่ยังไม่มีภาษาไทย
Daylist เป็นระบบสร้างเพลย์ลิสต์ที่มีการเปลี่ยนเพลงในรายการตลอดทั้งวัน โดยดูจากลักษณะอารมณ์ของเพลงที่ผู้ใช้งานฟังในช่วงนั้น ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในไทยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ พร้อมกับอีก 65 ประเทศ ในเวลานั้น
Spotify บอกว่าระบบ Daylist นี้ ได้รับการตอบรับที่ดี ผู้ใช้งาน 70% มีการกลับมาเปิดเพลย์ลิสต์นี้ฟังซ้ำอย่างน้อยทุกสัปดาห์ รวมแล้วเป็นผู้ใช้งานหลายล้านคน โดยเพลย์ลิสต์นี้อยู่ในหน้า Made for You
หากใครที่เคยทันยุค MSN Messenger ที่จะมีฟีเจอร์แชร์เพลงที่กำลังฟังจาก Windows Media Player ล่าสุดฟีลนั้นอาจจะกำลังกลับมา เมื่อมีคนพบว่า Instagram อาจกำลังทดสอบฟีเจอร์แชร์เพลงอย่างต่อเนื่องจาก Spotify และแสดงผลใน Notes ของโปรไฟล์ในหน้า DM
Alessandro Paluzzi นักพัฒนาจากอิตาลีเปิดเผยว่า Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าว โดยเป็นภาพเหมือนหน้าต่างเลือกเพลงของ Instagram พร้อมป๊อปอัพด้านล่าง ว่าสามารถแชร์เพลงอย่างต่อเนื่องจาก Spotify ได้ และผู้ใช้สามารถเลือกปิดการแชร์ได้ตลอดเวลา
ที่มา - @alex193a
Spotify ประกาศความคืบหน้า ในประเด็นที่คณะกรรมาธิการยุโรป สั่งปรับเงิน แอปเปิล 1,800 ล้านยูโร เรื่องการกีดกันในตลาดแอปฟังเพลงสตรีมมิ่ง ทำให้ Spotify ได้ส่งแอป iOS ซึ่งให้ข้อมูลแพ็คเกจราคาที่ถูกกว่าถ้าซื้อนอกแอป สำหรับผู้ใช้งานในประเทศสหภาพยุโรป แต่ Spotify ออกมาแฉ ว่าแอปเปิลได้ดึงเวลาอนุมัติแอปเวอร์ชันนี้ ทำให้ Spotify ร้องเรียนไปที่คณะกรรมาธิการยุโรปอีกครั้ง
ต่อเนื่องจากที่แอปเปิล ประกาศเปลี่ยนกฎการพัฒนาแอป สำหรับนักพัฒนาในภูมิภาคยุโรป เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ที่คณะกรรมการธิการยุโรปทักท้วงและบอกอาจมีความผิดก่อนหน้านี้ ซึ่งกฎการพัฒนาแอปใหม่ก็มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมใหม่สองอย่างคือ Initial Acquisition Fee และ Store Services Fee ถึงแม้แอปเปิลบอกว่าโดยรวมแล้วนักพัฒนาจะจ่ายเงินน้อยลง แต่ขาประจำคู่ปรับกับแอปเปิลสองรายก็ไม่เห็นด้วย
Spotify กลับมาเปิดให้ผู้ใช้งานแบบฟรี สามารถ ดูเนื้อเพลงที่กำลังฟังอยู่ ได้เหมือนเดิมแล้ว หลังจากบริษัท เคยพิจารณา ล็อกฟีเจอร์นี้ให้เฉพาะลูกค้าจ่ายเงินพรีเมียม แล้วเริ่มทดสอบในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจำกัดให้ดูได้ฟรี 3 เพลงต่อเดือน
ตอนนี้ผู้ใช้งานฟรีของ Spotify ก็สามารถเข้าถึงเนื้อเพลงได้ฟรีแบบไม่มีข้อจำกัดเหมือนเดิมแล้ว
ตัวแทนของ Spotify บอกว่าบริษัทมีการทดสอบและประเมินผลอยู่ตลอด ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ อาจมีการทดสอบในเทียร์ผู้ใช้งาน กลุ่มประเทศ และบนอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอด สำหรับฟีเจอร์แสดงเนื้อเพลงนี้จะเปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนทั่วโลกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
Daniel Ek ซีอีโอ Spotify ให้ข้อมูลในช่วงแถลง ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เกี่ยวกับแพ็คเกจสมาชิก ที่ได้ระบบเสียงคุณภาพสูง HiFi ยืนยันว่ามีออกมาแน่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินงาน
เขาบอกว่าแพ็คเกจนี้จะตั้งราคาสูงกว่าแพ็คเกจพรีเมียมปัจจุบันประมาณ 5 ดอลลาร์ สำหรับในอเมริกา สิ่งที่มีคือเพลงระบบเสียงคุณภาพสูงแน่นอน แต่มีฟีเจอร์อื่นอีกซึ่งยังไม่เปิดเผยในตอนนี้
Spotify รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2 ปี 2024 เริ่มที่ตัวเลขผู้ใช้งาน โดยมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มเป็น 626 ล้านบัญชี เป็นลูกค้าที่จ่ายค่าสมาชิกรายเดือน 246 ล้านบัญชี
ตัวเลขทางการเงินเป็นดังนี้ รายได้รวม 3,807 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็นรายได้จากค่าสมาชิก 3,351 ล้านยูโร และเป็นรายได้จากโฆษณา 456 ล้านยูโร อัตรากำไรขั้นต้น 29.2% และสุทธิมีกำไร 274 ล้านยูโร
Spotify บอกว่าจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากทุกภูมิภาคในโลก ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูง เป็นผลจากส่วนเพลงและพอดคาสต์ที่มีกำไรมากขึ้น
Spotify ประกาศเพิ่มเครื่องมือใหม่สำหรับครีเอเตอร์รายการพอดคาสต์ โดยสามารถเปิดระบบให้คนฟังแสดงความคิดเห็น หรือคอมเมนต์ ได้แล้ว ซึ่งสามารถดูแลจัดการได้ผ่านแอปมือถือ Spotify for Podcasters
ก่อนหน้านี้ Spotify มีเครื่องมือให้ผู้ผลิตรายการสามารถเชื่อมต่อกับคนฟังได้ผ่านระบบ Q&A หรือระบบโพลล์สำรวจความเห็น ซึ่งระบบคอมเมนต์ที่เพิ่มมาจะทำให้ครีเอเตอร์ได้รับความคิดเห็น และใกล้ชิดกับคนฟังมากขึ้น
ครีเอเตอร์สามารถควบคุมจัดการคอมเมนต์ได้ ตั้งแต่การเลือกแสดงคอมเมนต์เฉพาะตอน หรือทั้งรายการ หรือสามารถปิดไม่ให้คอมเมนต์เลยก็ได้ถ้าต้องการ
ที่มา: Spotify
- Read more about Spotify เพิ่มระบบคอมเมนต์สำหรับรายการ Podcast
- 3 comments
- Log in or register to post comments
ข้อมูลนี้เริ่มต้นจากนักแกะแอป Chris Messina พบข้อมูลในโค้ดของแอป Spotify ระบุถึงฟีเจอร์ระบบเตือนภัยฉุกเฉินในประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Spotify ซึ่งอาจใช้สำหรับการแจ้งเตือนหากเกิดเหตุสำคัญที่ประชาชนต้องรับรู้โดยเร็วที่สุด
ข้อมูลที่ระบุในแอป Spotify เกี่ยวการแจ้งเตือนฉุกเฉิน ระบุว่ารวมถึงประกาศต่อสาธารณะ, อุบัติเหตุ, เหตุการณ์สำคัญ, บริการพื้นฐานที่สำคัญไม่สามารถใช้งานได้ เป็นต้น พร้อมแนบลิงก์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสวีเดน
Spotify ยืนยันการทดสอบฟีเจอร์นี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรจึงพัฒนาคุณสมบัติดังกล่าวเข้ามาในแอปฟังเพลง ในสวีเดนเองก็ไม่มีกฎหมายให้ผู้พัฒนาแอปต้องเพิ่มความสามารถประเภทนี้เข้ามาในแอป
Spotify ออกแพ็คเกจสมัครสมาชิกแบบใหม่ สำหรับผู้ใช้ในอเมริกาเรียกว่าแผนแบบ Basic โดยได้ทุกอย่างเหมือนแพ็คเกจมาตรฐาน Premium ( ที่เพิ่งขึ้นราคา ) แต่ตัดหนังสือเสียงหรือ Audiobook ออกไป แล้วลดราคาลง 1 ดอลลาร์ อยู่ที่ 10.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
Spotify บอกว่าการสมัครแพ็คเกจ Basic นั้น ผู้ใช้งานต้องเข้าเงื่อนไขก่อนจึงจะสมัครได้ โดยไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติม แต่คาดว่าจะให้เฉพาะลูกค้า Premium แผนปัจจุบัน เลือกปรับลดราคาสมาชิกได้ก่อน
วนกลับมาอีกครั้งสำหรับข่าวลือเรื่องบริการฟังเพลงความละเอียดสูง Spotify HiFi โดยมีรายงานล่าสุดว่าแพ็คเกจ HiFi ได้เคาะรูปแบบออกมาแล้ว โดยใช้วิธีจ่ายเงินเพิ่มเติมจากแพ็คเกจที่ใช้อยู่ปัจจุบัน สำหรับในสหรัฐอเมริกาจะคิดราคาเพิ่มอีก 5 ดอลลาร์ต่อเดือน ทำให้ลูกค้าไม่ต้องย้ายแพ็คเกจใหม่
นอกจากได้ความสามารถฟังเพลงที่ความละเอียดสูงแล้ว Spotify ยังเพิ่มเครื่องมือใหม่ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ เช่น เครื่องมือช่วยสร้างเพลย์ลิสต์ และอื่น ๆ
Nebula แพลทฟอร์มวิดีโอออนไลน์จากกลุ่ม YouTuber ที่ผู้ใช้งานต้องจ่ายเงินเพื่อรับชมวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาแทรกในคลิป ประกาศความร่วมมือกับ Spotify บริการสตรีมมิ่งเพลงชื่อดัง เพื่อนำเนื้อหาบางส่วนจากใน Nebula ให้รับชมได้ภายในแอพ Spotify
ก่อนหน้านี้ Nebula พยายามเน้นการทำเนื้อหา Exclusive ของตัวเองจาก content creator ที่ประสบความสำเร็จใน YouTube อยู่แล้ว และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวฝ่ายข่าวและสตูดิโอภาพยนตร์ Nebula Motion Pictures
Spotify ประกาศขึ้นราคาค่าบริการรายเดือน เฉพาะกับ ผู้ใช้งานในอเมริกาและเป็นการขึ้นราคาทุกแพ็คเกจ มีผลทันทีสำหรับการสมัครใหม่ และมีผลกับสมาชิกปัจจุบันในรอบบิลเดือนถัดไป
Spotify ให้เหตุผลของการขึ้นราคาในอเมริกาครั้งนี้ว่าเพื่อให้บริษัทยังสามารถลงทุนต่อเนื่อง พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งการขึ้นราคานี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
โดยแพ็คเกจ Individual ขึ้นราคาจาก 11 ดอลลาร์ เป็น 12 ดอลลาร์, Duo จาก 15 ดอลลาร์ เป็น 17 ดอลลาร์, Family จาก 16 ดอลลาร์ เป็น 20 ดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาสูงกว่าของไทยพอสมควร (Family ของไทย 219 บาทต่อเดือน)
ก่อนหน้านี้ Spotify ประกาศเตรียม ปิดการทำงานของฮาร์ดแวร์อุปกรณ์เสริมในรถยนต์ Car Thing มีผลปลายปีนี้ (คนละอย่างกับ CarPlay หรือ Android Auto ที่ยังใช้งานได้ตามปกติ) ซึ่งสินค้าเพิ่งขายมาเมื่อปี 2022 โดยบอกว่าไม่มีแผนให้คืนสินค้า พร้อมกับแนะนำให้ลูกค้านำไปกำจัดเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์
แน่นอนว่าลูกค้าที่ซื้อ Car Thing ราคา 90 ดอลลาร์ไป คงไม่ใช่ทุกคนที่ยอมรับได้
โดยมีลูกค้าที่ซื้อ Car Thing ได้ยื่นฟ้องแบบกลุ่มต่อศาลใต้ของนิวยอร์กไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ด้วยสาเหตุว่าการขายสินค้าที่ต่อมาปิดการทำงานโดยไม่สามารถคืนเงินได้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
Spotify ประกาศปิดการทำงานของ Car Thing อุปกรณ์เสริมในรถยนต์เพื่อใช้ควบคุมการฟังเพลง มีผลตั้งแต่ 9 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป โดยจะไม่สามารถใช้งานได้อีก ซึ่ง Spotify แนะนำให้นำไป Factory Reset แล้วกำจัดเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป ไม่มีโปรแกรมรับซื้อคืนหรือคืนเงินให้ลูกค้า
Car Thing เป็นการทดสอบเข้าสู่ธุรกิจฮาร์ดแวร์ของ Spotify โดยเริ่มเปิดตัวเป็นสินค้าต้นแบบ ตั้งแต่ปี 2019 เริ่มขายให้ลูกค้าทั่วไป เมื่อต้นปี 2022 จากนั้นไม่กี่เดือนก็ ประกาศหยุดผลิตสินค้า การประกาศหยุดสนับสนุนและปิดการทำงานเมื่อเวลาผ่านมา 2 ปี จึงดูไม่ใช่เรื่องเกินคาดนัก
Spotify กล่าวว่าบริษัทได้ส่งแอปเวอร์ชันใหม่ เพื่อนำขึ้น App Store สำหรับคนใช้ iOS ในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเพิ่มการให้ข้อมูลแพ็คเกจราคา และข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการแทรกลิงก์ไปยังเว็บของ Spotify ถือเป็นขั้นต่ำที่สุดตามแนวทางคำตัดสิน คดีที่คณะกรรมการยุโรป (European Commission - EC) สั่งปรับแอปเปิล เรื่องผูกขาด App Store
ก่อนหน้านี้ Spotify เคย ร้องเรียน ไปยัง EC ว่าแอปเวอร์ชันที่แทรกลิงก์รายละเอียดแพ็คเกจ และวิธีจ่ายเงินผ่านเว็บ Spotify โดยตรง ถูกแอปเปิลดึงเวลาไม่อนุมัติให้ขึ้น App Store