หนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้ เอกสาร ของคณะกรรมการพิจารณาแสตมป์ (The Citizen's Stamp Advisory Committees) ของการไปรษณีย์สหรัฐ ว่าจะคัดเลือกบุคคลสำคัญคนใดหรือเหตุการณ์สำคัญใดบ้างมาเป็นแสตมป์ในปี 2014-2015

ปรากฏว่าชื่อบุคคลสำคัญในแสตมป์ชุดปี 2015 มี "สตีฟ จ็อบส์" อยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีภาพของแสตมป์สตีฟ จ็อบส์ ออกมาให้ดูกัน เพราะสถานะตามเอกสารคือ "ยังอยู่ระหว่างการออกแบบ"

คนดังคนอื่นที่จะได้มีแสตมป์ในปี 2015 คือ Elvis Presley และ Ingrid Bergman เป็นต้น

นักเขียนอิสระชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งได้หยิบยกคำพูดของ Kunitake Ando อดีตประธานของบริษัทโซนี่ ที่กล่าวถึงการพูดคุยระหว่างเขากับ Steve Jobs เมื่อปี 2001 ที่ฮาวายว่า หลังจากที่ Ando และผู้บริหารโซนี่เล่นกอล์ฟเสร็จ Jobs และผู้บริหารฝั่งแอปเปิลก็ได้รอ Ando พร้อมถือ VAIO ที่รัน Mac OS อยู่ในมือ

Ando เล่าว่า ถึง Jobs ได้ยกเลิกธุรกิจคอมพิวเตอร์อื่นที่รันระบบปฏิบัติการ Mac (ต้นฉบับบอก Mac clone business) ไปแล้ว แต่ Jobs ก็ชื่นชมคอมพิวเตอร์ตระกูล VAIO มากจนกระทั่งเขาอยากให้มันรันระบบปฏิบัติการของแอปเปิลเอง (he was willing to make an exception) แต่ช่วงเวลานั้นไม่เหมาะเลยที่ดีลนี้จะเกิดขึ้นได้ เพราะการเจรจาก็ไม่มีอะไรคืบหน้าและยอดขายแล็ปท็อปรัน Windows ก็เพิ่งทะยานขึ้น

ผ่านมาแล้ว กว่า 30 ปีตั้งแต่เปิดตัว Mac รุ่นแรก ช่วงนี้จึงมีทั้งการฉลองจากแอปเปิลทั้งการทำหน้าเว็บใหม่ ไปจนถึงการ แจกฟอนต์เครื่อง Mac ให้ดาวน์โหลด และตอนนี้ก็มีเซอร์ไพรส์จาก TIME ที่ปล่อยวิดีโอเปิดตัวครั้งแรกแก่สาธารณชนให้ได้ดูเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีแล้ว

อีเมลที่ถูกเปิดเผยเนื่องจากการต่อสู้ในชั้นศาลในแคลิฟอร์เนียระบุว่า ผู้ก่อตั้งแอปเปิลอย่าง Steve Jobs และซีอีโอของกูเกิลอย่าง Eric Schmidt สมคบกันในการกดเงินเดือนของพนักงานโดยตกลงกันว่าจะไม่พยายามจ้างพนักงานของอีกฝ่าย รวมไปถึงจะแบ่งปันข้อมูลอัตราค่าแรงและลงโทษผู้ที่ละเมิดข้อตกลง

ข้อตกลงระหว่างยักษ์ใหญ่ในซิลิคอนแวลลีย์ถูกค้นพบครั้งแรกโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งสืบสวนคดีต่อต้านการผูกขาดและต่อมาได้เป็นฐานให้เกิดการฟ้องคดีแบบกลุ่มในนามของพนักงานที่ค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรจะเป็นกว่า 100,000 คน ส่งผลให้ความเสียหายของพนักงานที่กลายเป็นรายได้ขององค์กรสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณสามแสนล้านบาทไทย)

แม้ว่าภาพยนตร์ชีวประวัติ Jobs เวอร์ชันแสดงโดย Ashton Kutcher จะฉายโกยเงินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางฝั่ง Sony ที่ได้นักเขียนบทมือทองอย่าง Aaron Sorkin (ที่คนแถวนี้น่าจะคุ้นชื่อจาก The Social Network) มาเขียนบทภาพยนตร์ให้ โดยมี Steve Wozniak เป็นที่ปรึกษาอีกที ตอนนี้ Sorkin ออกมาบอกว่าเขาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากรับงานไปตั้งแต่กลางปี 2012

Drew Houston ซีอีโอของ Dropbox ออกมาเผยว่า Steve Jobs เคยคิดเรื่องที่จะซื้อ Dropbox เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Apple แต่เนื่องจากทำไม่ได้ จึงคิดที่จะสร้างบริการของตัวเองมาฆ่า Dropbox แทน

Houston เล่าว่า Jobs เชิญเขาไปพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าในตอนแรกเขาเองไม่แน่ใจว่า Jobs กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ภายหลังการพูดคุยทำให้เขาเข้าใจว่า Jobs ไม่สู้จะพอใจนักที่ Apple ไม่สามารถซื้อกิจการ Dropbox ได้ ซึ่งนั่นทำให้ Jobs วางแผนที่จะสร้างบริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆของตัวเองเพื่อมาฆ่า Dropbox โดยตรงแทน จนกลายมาเป็น iCloud ในที่สุด

Dogfight หนังสือเล่มใหม่ของ Fred Vogelstein ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความแตกหักระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลในช่วงที่แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนครั้งในปี 2007 โดย ณ เวลาที่แอปเปิลได้เปิดตัวไอโฟน Andy Rubin ผู้ก่อตั้ง Android ต้องเปลี่ยนแผนครั้งใหญ่ทันที

โดยในหนังสือบอกว่า นาย Rubin ต้องยกเลิกแผนที่จะเปิดตัวมือถือ Android ตัวแรกที่เขาจะเปิดตัวภายในปีนั้นทันที เพราะสิ่งที่เขาทำออกมานั้นเหมือนกับของที่มาจากยุค 90 เมื่อเปรียบเทียบกับไอโฟน ที่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะออกมาได้ดีขนาดนั้น

บ้านเลขที่ 2066 ถนน Crist Drive ในเมือง Los Altos ซึ่งเป็นบ้านที่สตีฟ จ็อบส์ ริเริ่มกิจการบริษัทแอปเปิลและประกอบคอมพิวเตอร์เครื่อง Apple I แรกๆ กันในโรงรถ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการด้านประวัติศาสตร์ของ Los Altos ให้เป็น "สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์" เรียบร้อยแล้ว

กระบวนการผลักดันให้บ้านหลังนี้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์นั้นดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว ส่วนการได้ขึ้นทะเบียนจะช่วยให้การอนุรักษ์บ้านหลังนี้รัดกุมมากขึ้น เพราะการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการเสมอ

ปัจจุบันบ้านหลังนี้เป็นของ Patricia Jobs น้องสาวของสตีฟ จ็อบส์ นั่นเองครับ ใครอยากเห็นหน้าตาบ้านก็ดูได้จาก Street View ตามแผนที่ด้านล่าง

เมื่อวานนี้ Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้ ทวีตแจ้งข่าวให้ทราบว่า สภาเมือง Cupertino ได้ผ่านการอนุมัติสถานที่สำหรับก่อสร้างสำนักงานแห่งใหม่ของแอปเปิล ด้วยมติเอกฉันท์ (ภาพท้ายข่าว)

John Sculley อดีตซีอีโอของแอปเปิลในปี 1983-1993 ( ผู้ไม่ได้ไล่ Steve Jobs ออก) กล่าวชื่นชมการทำงานของ Tim Cook ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอครบรอบ 2 ปี หลังจากมีหลายเสียงวิจารณ์การทำงานของ Tim Cook

หลังจากการเปิดตัวสินค้าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีหลายเสียงวิจารณ์การทำงานของ Tim Cook ว่าไม่มี นวัตกรรมใหม่หรืออะไรที่ทำให้ตื่นเต้นเท่ายุคของ Steve Jobs แต่ John Sculley ได้กล่าวชม Tim Cook ว่า "Tim Cook ทำงานได้ยอดเยี่ยม เขาไม่พยายามเป็น Steve Jobs มีเพียงคนเดียวที่จะเป็น Steve Jobs ได้ นั่นคือตัวของ Steve เอง"

หนังสือพิมพ์ The New York Times มีสกู๊ปพิเศษเบื้องหลังการพัฒนาและเปิดตัว iPhone รุ่นแรกเมื่อปี 2007 ว่าทีมงานของแอปเปิลต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะออกมาเป็นสินค้าพลิกโฉมวงการมือถือได้สำเร็จ

5 ตุลาคม 2554 วันที่ Steve Jobs จากไปด้วย โรคมะเร็งตับอ่อน เขาคือบุคคลสำคัญต่อแอปเปิลและต่อเทคโนโลยียุคใหม่ Tim Cook ซีอีโอคนปัจจุบันของแอปเปิลได้ส่งจดหมายถึงพนักงานทุกคน และกล่าวรำลึกถึง Steve Jobs ในเนื้อความจดหมาย

John Sculley อดีตซีอีโอของแอปเปิล (ที่หลายคนจดจำได้ว่าเขาเป็นคนที่ไล่ Steve Jobs ออกจากบริษัทแอปเปิล) ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Forbes ถึงเบื้องหลังการที่ Steve Jobs ถูกไล่ออกจากบริษัทแอปเปิลว่า Sculley ไม่ได้เป็นคนสั่งให้ไล่ Steve Jobs ออกจากบริษัทแอปเปิล แต่เขาคิดว่ากรรมการบริษัทต่างหากที่เป็นคนไล่ เพราะว่ากรรมการบริษัทแต่ละคนก็อยู่บริษัทมาก่อนที่ Sculley เข้ามา และน่าจะเข้าใจในตัว Jobs ดี

รายงานจาก AdAge บอกว่าแอปเปิลต้องการเพิ่มขนาดทีมงานโฆษณา การตลาด และครีเอทีฟภายในบริษัท หลังจากก่อนหน้านี้ที่มีการกำหนดไม่ให้ขนาดของทีมนี้มีจำนวนพนักงานเกิน 300 คน โดยแอปเปิลต้องการเพิ่มจำนวนพนักงานในส่วนนี้ให้มากถึง 500-600 คน

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าเป็นการเลิกทำตามแนวคิดของสตีฟ จ็อบส์ โดยจ็อบส์เองเป็นคนที่กำหนดไว้ในตอนแรกว่าจำนวนพนักงานของทีมนี้ต้องไม่มากจนเกินไป แม้ว่าแอปเปิลจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่จำนวนพนักงานในส่วนนี้กลับไม่โตตามบริษัท ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะว่าจ็อบส์ต้องการให้แอปเปิลเป็นบริษัทที่ใช้สินค้านำการตลาด ไม่ใช่การตลาดนำสินค้า

จากกรณี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องแอปเปิลกับสำนักพิมพ์ทั้ง 7 ข้อหาสมคบกันกำหนดราคา e-book และ กระทรวงยุติธรรมยื่นข้อเสนอเพื่อแก้ไขความเสียหายจากการผูกขาดอีบุ๊กของแอปเปิล

กระทรวงยุติธรรมได้ยื่นข้อเสนอฉบับปรับแก้จากข่าวล่าสุดก่อนหน้านี้ โดยเพิ่มเนื้อหาด้านนโยบาย in-app purchase ที่แอปเปิลเปลี่ยนเมื่อปี 2011 บังคับให้แอพต้องขายเนื้อหาดิจิทัล (ทุกชนิด ไม่ใช่เฉพาะอีบุ๊ก) ผ่าน iTunes Store เท่านั้น

หนึ่งในหลักฐานที่กระทรวงยุติธรรมนำมายืนยันว่าแอปเปิลจงใจกีดกันคู่แข่ง ก็คืออีเมลของสตีฟ จ็อบส์ ที่ส่งถึงผู้บริหารของแอปเปิล Phil Schiller, Eddy Cue, Joswiak Greg

ภาพยนตร์เรื่อง Jobs ที่แสดงโดย Ashton Kutcher เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาแล้ว คนที่ให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคงไม่มีใครเกิน Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลนั่นเองครับ

Wozniak เขียนความเห็นของเขาลงเว็บ Gizmodo ว่าหนังสนุกในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ดีถึงขั้นบอกต่อให้คนอื่นไปดู ส่วนเนื้อหาหรือการนำเสนอของหนังก็มีส่วนที่เพี้ยนไปจากความเป็นจริง ทั้งตัวคาแรกเตอร์ของสตีฟ จ็อบส์ และบุคคลอื่นๆ ในเรื่อง โดยเฉพาะตัวของจ็อบส์ที่หนังนำเสนอว่ามีทักษะยอดเยี่ยมตั้งแต่ยุคแรกๆ ซึ่งในความเป็นจริงเขาค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาในภายหลัง

Larry Ellison ซีอีโอและผู้ก่อตั้งออราเคิล แถมยังเป็นเพื่อนรักของสตีฟ จ็อบส์ และคอยช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ให้สัมภาษณ์กับสถานีทีวี CBS ของสหรัฐถึงทิศทางของแอปเปิลในยุคหลังสตีฟ จ็อบส์ ว่าจะเป็นอย่างไร

Ellison บอกว่าเรารู้คำตอบนี้กันดีอยู่แล้ว และเราเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนแล้วหนึ่งครั้ง เขาบอกว่าเราเคยเห็นแอปเปิลที่มีจ็อบส์ (ทำนิ้วชี้ขึ้น) แอปเปิลที่ไม่มีจ็อบส์ (ทำนิ้วชี้ลง) แอปเปิลที่จ็อบส์กลับมาอีกครั้ง (ทำนิ้วชี้ขึ้น) และแอปเปิลที่ไม่มีจ็อบส์อีกครั้ง (ทำนิ้วชี้ลง)

บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ Ellison จะเผยแพร่ผ่าน CBS ในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ยังมีแต่คลิปทีเซอร์ที่ตัดออกมาบางส่วนครับ

Ken Segall ผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญโฆษณาชื่อดังของแอปเปิลอย่าง "Think Different" เขียนบล็อกถึงมุมมองของแอปเปิลต่อตลาดมืออาชีพที่เปลี่ยนไป โดยในบล็อกดังกล่าวได้อ้างถึงคำพูดของสตีฟ จ๊อบส์ที่ครั้งหนึ่งเกือบตัดสินใจเลิกทำผลิตภัณฑ์จับกลุ่มมืออาชีพ หรือซีรีส์ Pro ทั้งหลายนั่นเอง

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่แอปเปิลกำลังกลับมาในตลาดพีซี โดยมี iMac เป็นตัวชูโรง อุปกรณ์พวก Pro ทั้งหลายที่แม้จะทำเงินได้มากกว่าต่อชิ้น ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตลาดผู้ใช้ทั่วไปที่กำลังขาขึ้นอยู่ได้

ทางผู้สร้างภาพยนตร์ Jobs ชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ที่แสดงโดย Ashton Kutcher ปล่อยเทรลเลอร์ตัวเต็มความยาว 2 นาที 20 วินาทีออกมาแล้ว

ในเทรลเลอร์ก็เล่าเรื่องของสตีฟ จ็อบส์ ตั้งแต่วัยหนุ่ม พบกับสตีฟ วอซเนียก ก่อตั้งแอปเปิลและไล่เหตุการณ์มาเรื่อยๆ จนถึงการกลับมายังแอปเปิลครั้งที่สอง

หนังจะฉายที่อเมริกาวันที่ 16 สิงหาคมนี้

ที่มา - MacRumors

สมาคมประวัติศาสตร์ซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley Historical Association) ได้เผยแพร่วิดีโอสัมภาษณ์สตีฟ จ็อบส์ ในปี 1994 สมัยที่เขายังทำงานอยู่กับ NeXT (ก่อนจะย้ายกลับมาแอปเปิลอีกครั้งช่วงปี 1997) ซึ่งเป็นวิดีโอที่ไม่ถูกเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน

วิดีโอสัมภาษณ์นี้มีความยาว 20 นาที ซึ่งทางสมาคมรวมอยู่ในสารคดีชื่อ Steve Jobs: Visionary Entrepreneur ขายเป็นแผ่นดีวีดีราคา 25 ดอลลาร์ หรือแบบดาวน์โหลดราคา 15 ดอลลาร์ แต่ทางสมาคมก็ใจดีตัดคลิปบางส่วนมาให้ดูกันทั่วไปด้วย

ในคลิปนี้ จ็อบส์พูดถึงงานของเขาที่ NeXT ว่าเป็นการต่อยอดนวัตกรรมจากสมัย Apple I, Apple II และ Macintosh ให้ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป

สำนักพิมพ์ Simon & Schuster เจ้าของสิทธิ์ในการตีพิมพ์หนังสือชีวประวัติสตีฟ จ็อบส์ ที่เขียนโดย Walter Isaacson ประกาศตีพิมพ์ฉบับปรับปรุงใหม่ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ และจะเปลี่ยนรูปหน้าปกใหม่เป็นรูปจ็อบส์ในวัยหนุ่มแทน

รูปจ็อบส์ในวัยหนุ่มนี้ถูกถ่ายไว้เมื่อปี 1984 โดย Norman Seeff ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในชีวิตของจ็อบส์ในแอปเปิล เห็นได้จากผลงาน โฆษณาชุดก้องโลก ก็เกิดขึ้นในปีนี้เช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจก็คือเมื่อเทียบกับรูปปกเดิมที่ถ่ายในปี 2006 โดย Albert Watson นั้น จ็อบส์ไม่ได้มีแววตาที่เปลี่ยนไปเลย สายตาของเขายังคงแข็งกร้าวอยู่เช่นเดิมแม้รูปที่ถ่ายนั้นจะห่างกันถึง 22 ปีก็ตาม (ชมภาพท้ายเบรคครับ)

JOBS ภาพยนตร์ชีวประวัติสตีฟ จ็อบส์ (เดิมสะกดชื่อ jOBS) ที่ได้ดาราดัง Ashton Kutcher แสดงเป็นสตีฟ จ็อบส์ ( ข่าวเก่า ) ได้วันฉายแล้ว หลังจากที่ต้องเลื่อนฉายมานานถึง 4 เดือน

JOBS จะเข้าฉายทั่วสหรัฐในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เทรลเลอร์ดูได้ท้ายข่าว รายละเอียดติดตามได้จาก เว็บไซต์หนัง

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าไอคอนบน iOS 7 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงแบบยกแผงเลยก็ว่าได้ แต่ก็มี บางไอคอนที่ไม่ได้เปลี่ยนไปแค่ดีไซน์เท่านั้น มันยังแฝงถึงนัยยะบางอย่างด้วย

ล่าสุดมีคนตาดีไปพบว่าไอคอน "Add to Reading List" บน Safari นั้นมีรูปทรงของแว่นตาเปลี่ยนไป โดยแทนที่จะใช้รูปแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมแบบเดิม กลับเป็นแว่นตาทรงกลมซึ่งบังเอิญไปคล้ายกับแว่นตาสุดโปรดของผู้ล่วงลับอย่าง "สตีฟ จ็อบส์"

ไม่ว่าจะเป็นการจงใจหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญเลยนั่นคือมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเฝ้าหวนรำลึกถึงบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่าง "สตีฟ จ็อบส์" แน่นอนครับ

Laurene Powell Jobs ภรรยาของสตีฟ จ็อบส์ ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังการเสียชีวิตของจ็อบส์ ประเด็นหลักที่เธอให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องการปฏิรูปกฎหมายด้านคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ (DREAM Act) ที่กีดกันคนต่างด้าวที่มีความสามารถให้เรียนหรือทำงานในประเทศ

การออกมาให้สัมภาษณ์ของ Laurene เป็นการโปรโมทภาพยนตร์สารคดีชื่อ "The Dream Is Now" โดยผู้กำกับ Davis Guggenheim ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการปฏิรูปกฎหมายคนต่างด้าว (Mark Zuckerberg เพิ่งผลักดันแคมเปญชื่อ FWD.us ขับเคลื่อนประเด็นเดียวกัน)

สำนักพิมพ์ Kodansha กำลังจะผลิตการ์ตูนชุด สตีฟ จ็อบส์ โดยเนื้อหาจะอ้างอิงจากหนังสือ "Steve Jobs" เล่มล่าสุด ที่เขียนโดย Walter Isaacson (เป็นหนังสือเกี่ยวกับสตีฟเล่มเดียวที่เขาให้ความร่วมมือในการเขียนอย่างเป็นทางการ) เวอร์ชันการ์ตูนญี่ปุ่นจะวาดโดย Mari Yamazaki นักวาดการ์ตูนผู้หญิง ซึ่งเคยมีผลงานมาแล้วอย่าง Thermae Romae (เนื้อเรื่องเกี่ยวกับวิศวกรโรงอาบน้ำชายในยุคโรมัน ที่ถูกหลุมใต้น้ำดูดข้ามเวลามายังโรงอาบน้ำญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน เขาเลยใช้ชีวิตแล้วนำความรู้เกี่ยวกับการสร้างโรงอาบน้ำของปัจจุบันกลับไปใช้ในโรมันจนกลายเป็นที่โด่งดังของยุคนั้น ภายหลังเนื้อหาการ์ตูนถูกซื้อสิทธิ์ไปทำเป็นภาพยนตร์) การ์ตูนชุด สตีฟ จ็อบส์ จะถูกตีพิมพ์เป็นตอนๆ ลงใน K