Svelte เฟรมเวิร์ค frontend ที่มาแรงในช่วงหลัง ออกเวอร์ชั่น 5 ที่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลายอย่างตามที่ ประกาศไว้ตั้งแต่ระหว่างพัฒนา รายละเอียดความเปลี่ยนแปลงได้แก่
Svelte เฟรมเวิร์คพัฒนา front-end ยอดนิยมออกเวอร์ชั่น 4 โดยกระบวนการเขียนโปรแกรมและ API ต่างๆ ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก แต่เป็นการปูทางสู่ Svelte 5 ที่เตรียมจะเขียนคอมไพล์เลอร์และรันไทม์ใหม่พร้อมกัน
แม้จะเปลี่ยนอินเทอร์เฟซไม่เยอะ แต่ก็มีการปรับปรุงขนาดไฟล์ลงมาก ตัวแพ็กเกจ Svelte เองมีขนาดลดลง 75% เหลือ 2.8MB จากเดิม 10.6MB จำนวน dependency ลดลงเหลือ 16 รายการจากเดิม 61 รายการทำให้ขั้นตอนดาวน์โหลดแพ็กเกจสั้นลงมาก
แพ็กเกจและแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่พัฒนาบน Svelte 3 ควรทำงานได้บน Svelte 4 ทันที แต่ขึ้นกับ dependency อื่นๆ เช่น เวอร์ชั่นนี้ต้องใช้ Node.js 16 ขึ้นไป
ที่มา - Svelte
Amazon ประกาศปิดเว็บ Alexa.com (ไม่เกี่ยวข้องกับบริการสั่งงานด้วยเสียง Alexa ที่เป็นของ Amazon เหมือนกัน) ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2022
Alexa Internet หรือที่รู้จักกันในชื่อ Alexa.com เป็นเว็บไซต์ที่ใช้จัดอันดับเว็บไซต์ยอดนิยมในอินเทอร์เน็ต และเป็นที่นิยมในการวัดทราฟฟิกของเว็บ คีย์เวิร์ดที่ใช้เข้าถึงสำหรับคนที่อยากทำ SEO
ตัวบริการเปิดมาตั้งแต่ปี 1996 และขายให้ Amazon ในปี 1999 นับถึงปัจจุบันคือเปิดกิจการมาแล้ว 25 ปี ทีม Alexa.com ไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ปิดตัวลง บอกแค่ว่าขอบคุณผู้ใช้งานทุกคนตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
คนอินเทอร์เน็ตยุคเก่า ๆ อาจเคยได้ยินโปรแกรมช่วยจัดการดาวน์โหลดไฟล์ เพราะยุคนั้นความเร็วไม่ได้แรงมากนัก หลักการทำงานคือหั่นไฟล์ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อช่วยกันดาวน์โหลด เสร็จแล้วค่อยนำมาประกอบกัน ทำให้ดาวน์โหลดไฟล์เสร็จเร็วกว่าปกติ
ปัจจุบันโปรแกรมแบบนี้ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แม้อินเทอร์เน็ตยุคนี้เร็วแรงจนแทบไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมนี้อีกแล้ว แถมยังเป็นโปรแกรมที่ถูกแคร็กเป็นอันดับต้น ๆ ด้วย นั่นคือ Internet Download Manager หรือ IDM นั่นเอง เป็นโปรแกรมสัญชาติอเมริกันที่เปิดตัวเมื่อปี 2544 ถ้านับมาถึงปีนี้ร่วม 20 ปีเลยทีเดียว
สำนักข่าว BBC รายงานว่า Tim Berners-Lee ผู้ให้กำเนิดเวิล์ดไวด์เว็บเตรียมเปิดประมูลซอร์สโค้ดแรกของเวิล์ดไวด์เว็บเป็น NFT โดยเขาและภรรยาจะนำรายได้จากการประมูลไปบริจาคให้องค์กรการกุศล
การประมูลจะจัดขึ้นโดย Sotheby's เริ่มต้นที่ 1,000 ดอลลาร์ในวันที่ 23 มิถุนายนเวลาบ่ายสองโมงตามเขตเวลา EST ซึ่งตรงกับเวลาตีหนึ่งของวันที่ 24 มิถุนายนตามเวลาประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่จะนำออกประมูลมีซอร์สโค้ดราว 1 หมื่นบรรทัด (รวม HTML, HTTP และ URI), คำอธิบายเว็บเพจชุดแรก, visualization ของโค้ด และจดหมายจาก Berners-Lee ที่อธิบายความสำคัญ และดิจิทัลโปสเตอร์เขียนด้วย Python โดยเขาเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกเซ็นด้วยลายเซ็นดิจิทัลโดย Berners-Lee
Tucows เว็บไซต์วัวสองตัว ตำนานแห่งการดาวน์โหลดฟรีแวร์-แชร์แวร์ของอินเทอร์เน็คยุค 90s ประกาศปิดหน้าเว็บส่วนดาวน์โหลด หลังให้บริการมานาน 28 ปี (นับจากปี 1993)
ปัจจุบัน Tucows กลายมาเป็นบริษัทแม่ของธุรกิจด้านโดเมนเนม (เป็นอันดับสองรองจาก GoDaddy) มีเว็บไซต์เกี่ยวกับโดเมนเนมหลายแห่ง เช่น Hover, OpenSRS, Enom, epag.de, ascio.com และขยายไปทำธุรกิจไฟเบอร์ในสหรัฐชื่อว่า Ting ด้วย ตัวบริษัทแม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq โดยใช้ชื่อย่อว่า TCX
Tim Berners-Lee ผู้คิดค้นระบบเวิล์ดไวด์เว็บได้เปิดตัว Contract for the Webที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขอินเทอร์เน็ต และป้องกันโลกจากการเข้าสู่ยุค digital dystopia ให้ทุกภาคส่วนรับทราบและตระหนักถึงหน้าที่ของตนเองต่อเว็บและร่วมกันรักษา เพื่อให้เว็บเป็นของมนุษยชาติที่ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ไม่ใช่ของกลุ่มคนหรือองค์กรจำนวนหนึ่ง
วันนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ถือเป็นวันที่ระบบเว็บ (หรือ World Wide Web) ระบบเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตผ่านตัวเชื่อม (hyperlinks) ถือกำเนิดขึ้นโดย Tim Berners-Lee และกลายมาเป็นพื้นฐานสำคัญของอินเทอร์เน็ตในทุกวันนี้ ในโอกาสนี้ ตัวเขาได้ออกมาเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง โดยระบุว่ายังมีความหวังว่ามนุษย์ จะสามารถทำให้เครือข่ายเว็บและอินเทอร์เน็ตดีกว่าที่เป็นอยู่ได้ แม้จะเจอปัญหาต่างๆ มากมายก็ตาม
Tim Berners-Lee ผู้พัฒนาระบบเว็บและก่อตั้ง Web Foundation ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตในยุคปัจจุบันผ่านทาง The Guardian โดยมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างโดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับข่าวปลอมและการให้ข้อมูลที่บิดเบือน
ทุกวันนี้ปัญหาการกระจายของข้อมูลที่ถูกบิดเบือนและการโฆษณาในช่องทางออนไลน์นั้นได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะว่าระบบโฆษณาของแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Facebook, Google นั้นเกิดขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนอยู่แล้ว Berners-Lee ให้ความเห็นว่าปัจจุบันผู้คนถูกทำให้บิดเบือนโดยความสามารถของ AI ที่ถูกเทรนมาว่าจะล่อผู้ใช้อย่างไร
Microsoft ประกาศเริ่มใช้งานอัลกอริทึม Brotli ซึ่งเป็นอัลกอริทึมการบีบเว็บที่สามารถบีบได้มาก และขยายได้เร็วที่ Google นำเสนอไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว บนเบราว์เซอร์ Microsoft Edge และพร้อมจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานใน Windows 10 Creator Update ต้นปีหน้า ส่วนผู้ใช้ Windows Insider Program สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ในแบบพรีวิวได้แล้ว
ในพรีวิวของ Brotli บน MIcrosoft Edge นั้น จะรองรับทั้งการการเชื่อมต่อแบบ HTTP และ HTTPS แต่ในอนาคต Microsoft จะเริ่มประกาศว่า Brotli จะสนับสนุนเฉพาะ HTTPS เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถใช้กับ HTTP ได้เหมือน Chrome (คือจะไม่แจ้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ว่ารองรับ แต่ถ้าส่งมาก็ประมวลผลได้)
เมื่อยุคสมัยของการสร้างเว็บไซต์เปลี่ยนไปเป็นการเขียนโค้ดเสียส่วนใหญ่ ความจำเป็นในการใช้โปรแกรมที่มีความสามารถสูงอย่าง Adobe Dreamweaver ก็เริ่มเสื่อมถอยลง (อ่านข่าว "หมดสมัยของ Dreamweaver?" ประกอบ) Adobe ที่เห็นว่าแนวทาง WYSIWYG เริ่มใช้ไม่ได้แล้ว จึงมีการปรับตัวครั้งใหญ่ในงาน Adobe MAX 2016 ที่ผ่านมา
การปรับตัวที่ว่าคือการออก Dreamweaver CC 2017 ที่ปรับแนวทางจากเดิมที่ใช้ WYSIWYG มาเป็นการเขียน "โค้ด" เต็มตัว ลดเครื่องมือที่ไม่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก เหลือไว้เฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นจริงๆ พร้อมกับหน้าตาของโปรแกรมที่เหมือน Text Editor โดยทั่วไป
Font Icon ที่ได้รับความนิยมในวงการทำเว็บไซต์อย่าง Font Awesome เปิดตัวเวอร์ชัน 5 แล้ว ในเวอร์ชันนี้ได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ของไอคอนใน Font Awesome 4 ใหม่ทั้งหมด, รองรับการใช้ขนาดพื้นฐาน 16px เช่นเดียวกับขนาดในของ Bootstrap 4, ออกแบบบนระบบ grid แบบใหม่, อ่านง่ายขึ้นถึงแม้จะใช้ฟอนต์ขนาดเล็ก, ออกแบบภาพให้สอดคล้องกันมากขึ้นและแก้ปัญหาไอคอนที่ล้นบรรทัดเพื่อให้เท่ากันทุกตัว
สำหรับ Font Awesome 5 ยังเปิดให้ใช้งานฟรีแบบ open source เช่นเดิม และได้เปิดตัว Font Awesome 5 Pro เพิ่มเติม ซึ่งผู้ใช้ที่ใช้งานแบบ Pro จะได้รับไอคอนเพิ่มเติมมากกว่า 1000 ไอคอน, มีหมวดหมู่ให้ใช้มากขึ้น, สามารถเรียกใช้งานนอก class, ใช้งานด้วย SVG ผ่านแท็ก และเข้าถึง private repo ของ Font Awesome
สามารถสมัครใช้งานแบบ Pro โดยกด back โปรเจคของ Font Awesome ผ่านทาง Kickstarter ซึ่งตอนนี้มี early backers ลดราคาจาก $40 เหลือ $20 จะได้รับ license จาก Font Awesome อีกด้วย นอกจากนี้หากสนับสนุนเงินมากขึ้นก็จะรับของที่ระลึกเช่นเสื้อ แก้วน้ำ จำนวน license เพิ่มเติมหรือเพิ่มไอคอนที่ต้องการเข้าไปใน Font Awesome ได้
ที่มา : http://five.fontawesome.io
Mozilla ประกาศสร้างระบบแนะนำเว็บไซต์ชื่อ Context Graph เพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเว็บไปอีกขั้น
Mozilla บอกว่าการท่องเว็บในปัจจุบันมักตั้งต้นจาก search เพื่อค้นหาเว็บที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Back เพื่อกลับไปยังหน้าเดิม สิ่งที่เราแทบไม่ได้ใช้เลยคือปุ่ม Forward ดังนั้นถ้า Mozilla สามารถแนะนำได้ว่าเราควรไปยังหน้าไหนต่อ (โดยอิงจากข้อมูลของคนที่เคย search แบบเดียวกันมาก่อนเรา และลองผิดลองถูกมาก่อนเรา) ย่อมจะส่งผลให้การท่องเว็บเปลี่ยนโฉมไปมาก (และไม่ต้องพึ่งพา Google/Facebook มากเกินไป)
จากรายงานของ AP Style-book คลังคำศัพท์ที่สื่อทั่วโลกมักใช้อ้างอิงระบุว่า ตั้งแต่วันนี้ (1 มิถุนายน 2016) เป็นต้นไป คำว่า Internet และ Web ไม่ต้องเขียนขึ้นต้นด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่อีกต่อไป
สาเหตุที่ลดระดับลงมาจากคำเฉพาะเป็นคำธรรมดานี้คือ "internet และ web เป็นสิ่งสามัญพอๆกับคำว่า electricity และ telephone เหตุผลในการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่เพราะคำนั้นเป็นสิ่งใหม่ แต่อย่าลืมว่าเครื่องเล่นจานเสียง หรือ Phonograph ครั้งหนึ่งก็ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เช่นกัน" Tom Kent บรรณาธิการ AP กล่าว
ที่มา - abc News
- Read more about คำว่า Internet และ Web จะไม่ใช่ชื่อเฉพาะอีกต่อไป
- 1 comment
- Log in or register to post comments
แนวทางของ Amazon ที่เปิด Alexa ให้กับนักพัฒนาเข้าใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทำให้บริการนี้เริ่มกระจายตัวไปยังอุปกรณ์อื่นๆ และล่าสุดเว็บไซต์ Echosim.io ได้เปิดบริการ Amazon Alexa ที่ใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการทดลองแต่อย่างใด ซึ่งทำเลียนแบบคุณสมบัติของ Amazon Echo แทบทุกประการ และสั่งงานได้ใกล้เคียงกัน (บางอันที่ต้องใช้งานคุณสมบัติเฉพาะทางอาจจะสั่งไม่ได้)
Ronan Cremin หัวหน้าวิศวกรจาก Afilias Technologies และตัวแทนของ dotMobi ใน W3C สำรวจขนาดเว็บไซต์โดยเฉลี่ยใน HTTP Archive และพบว่าตอนนี้ขนาดเว็บโดยเฉลี่ยทั่วโลกทะลุ 2250KB ซึ่งเป็นขนาดของเกม Doom ภาคแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อกลางปีที่แล้ว Cremin ทำนายว่าขนาดเว็บไซต์เฉลี่ยจะเกินขนาดเกม Doom ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริงอัตราการเติบโตกลับช้ากว่าที่เขาทำนายไว้
สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะเว็บอันดับต้นๆ นั้น ลดขนาดเว็บกันเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ปี 2014 เว็บ 10 อันดับแรกลดขนาดจากเฉลี่ยประมาณ 1400KB ลงเหลือต่ำกว่า 1200KB แล้ว ขณะที่เว็บทั่วไปก็มีอัตราการเติบโตที่ช้าลง
- Read more about ขนาดเว็บทั่วโลกโดยเฉลี่ยเท่าเกม Doom ภาคแรกแล้ว
- 29 comments
- Log in or register to post comments
Reilly Grant และ Ken Rockot สองวิศวกรจากกูเกิลกำลังร่าง มาตรฐาน WebUSB เพื่อเปิดทางให้อุปกรณ์ USB สามารถรับคำสั่งตรงจากเว็บได้โดยตรง
แนวทางนี้เป็นการแก้ปัญหาไดรเวอร์ที่ต้องติดตั้งเอง โดยหากมาตรฐานนี้ได้รับการยอมรับ อุปกรณ์จะสามารถประกาศได้ว่าตัวเองต้องการรับคำสั่งตรงจากเว็บใด และเบราว์เซอร์จะแจ้งให้ผู้ใช้เข้าเว็บนั้นๆ เพื่อไปอนุญาตให้เว็บเข้าถึงอุปกรณ์ได้
เมื่อปี 2013 ทาง Google เปิดตัวโครงการ Project Shield ด้วยเป้าหมายเพื่อช่วยเว็บไซต์ในการเอาตัวรอดจากการโจมตี DDoS ซึ่งแรกเริ่มใช้ระบบการเชิญให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์บางเว็บเท่านั้นให้เข้าใช้บริการได้ แต่ตอนนี้ Google เปิดให้เว็บไซต์ข่าวโดยทั่วไปสมัครขอใช้งาน Project Shield กันได้ฟรีแล้ว
Andrea Faulds โปรแกรมเมอร์วัย 19 ปี ชาวสก็อตแลนด์ ได้นำ Windows 95 มาพอร์ทให้สามารถใช้งานได้โดยตรงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องลงปลั๊กอินเพิ่มเติม
โครงการนี้ได้ใช้อีมูเลเตอร์ emscripten สำหรับการคอมไพล์โค้ดภาษา C++ มาเป็น JavaScript โดยในเวลานี้เบราว์เซอร์ Internet Explorer เวอร์ชัน 3 ยังไม่สามารถใช้งานได้
ใครที่สนใจสามารถลองไปเล่นได้ ที่นี่
ที่มา - The Next Web
ตามที่กูเกิลเคยออกมาเปิดตัว มาตรฐานเว็บความเร็วสูง Accelerated Mobile Pages (AMP) ไปเมื่อปลายปีก่อน นอกจากเรื่องการแสดงผลที่เป็นหัวใจหลักแล้ว โฆษณาบน AMP ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน โดยล่าสุดกูเกิลออกมาอัพเดตรายละเอียดในส่วนนี้แล้ว หลังจากหารือกับพันธมิตรด้านเนื้อหามาได้พักใหญ่
กูเกิลประกาศแผนต่อเนื่องสำหรับ มาตรฐานแสดงผลเว็บไซต์ความเร็วสูง Accelerated Mobile Pages (AMP) โดยระบุว่าจะควบรวมมาตรฐานนี้เข้ามาไว้ในระบบค้นหาของตัวเองภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
นอกจากจะประกาศให้ AMP เข้ามาในระบบค้นหาของตัวเองแล้ว หน้าเว็บไซต์ที่รองรับ AMP อาจจะได้อันดับผลการค้นหาสูงขึ้นอีกด้วย โดยคาดว่าจะมาในทิศทางเดียวกับที่กูเกิลเคยปรับอันดับของเว็บไซต์ที่รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาได้ดี
สำหรับตัวที่บอกว่าหน้าเว็บไซต์ใดรองรับ AMP กูเกิลบอกว่าอาจจะใช้แนวทางเดียวกับหน้าเว็บไซต์ที่รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพา (ซึ่งใช้คำว่า Mobile Friendly) โดยในกรณีของ AMP น่าจะเป็นคำว่า Fast ซึ่งตรงตัว และเข้าใจง่ายแทน
ให้หลังหนึ่งเดือนนับตั้งแต่เปิดตัว Accelerated Mobile Pages (AMP) มาตรฐานใหม่สำหรับการแสดงเนื้อหาจากเว็บไซต์ที่สามารถดึงข้อมูลมาแสดงผลบนหน้าจอผู้ใช้ได้รวดเร็วขึ้น ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการนี้แล้ว
ในโพสต์ล่าสุดของโครงการ AMP กูเกิลประกาศเร่งเดินหน้าเต็มที่ โดยคาดว่าจะเปิดให้สามารถใช้งานหน้าแสดงเนื้อหาแบบ AMP อย่างสาธารณะได้ครั้งแรกในช่วงต้นปี 2016 โดยตอนนี้มีบรรดาสำนักข่าวกว่าพันแห่งให้ความสนใจกับ AMP อย่างมาก ซึ่งมีสื่อรายใหญ่อย่าง BBC, Sankei, New York Times, News Corp และ Washington Post รวมอยู่ด้วย
Drupal 8 ระบบจัดการเนื้อหายอดนิยมตัวหนึ่ง (ที่เมืองไทยไม่ค่อยนิยม) ออกเวอร์ชั่นใหม่วันนี้ (19 พ.ย. 2558) โดยเป็นการออกแบบ และพัฒนาใหม่ทั้งหมด ไม่ได้อาศัยโค้ดจากเวอร์ชั่นเก่า
สำหรับในเวอร์ชั่นนี้พัฒนาด้วย PHP Framework ที่ชื่อ Symfony (เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน Laravel ด้วย)
โดยมีจุดเด่นที่สำคัญจากเวอร์ชั่น 7 ดังนี้
- Read more about Drupal 8 ออกแล้ววันนี้
- 12 comments
- Log in or register to post comments
กูเกิลออกมาตรฐาน Accelerated Mobile Pages (AMP) แนวทางการสร้างเว็บเนื้อหาโดยคำนึงถึงความเร็วในการแสดงผลเป็นสำคัญ
AMP ประกอบไปด้วยแนวทางการพัฒนาเว็บ AMP HTML, AMP Validator ซอฟต์แวร์ตรวจสอบว่าหน้าเว็บทำตามมาตรฐานหรือไม่, และไลบรารีจาวาสคริปต์ AMP JS ที่ช่วยเร่งความเร็วในการดึงข้อมูลจากภายนอก ตอนนี้รองรับ YouTube, ทวิตเตอร์, และโฆษณา
แนวทางสำคัญของ AMP คือการกำหนดขนาดของทรัพยากรทั้งหมดล่วงหน้าก่อนดาวน์โหลดมาจริง เช่นภาพที่ใช้แท็ก amp-img
จะต้องกำหนดความกว้างและสูงเสมอ หรือโฆษณาที่เป็นแท็ก amp-ad
ก็ต้องกำหนดขนาดเช่นกัน
กูเกิลเปิดขั้นตอนวิธีบีบอัดเว็บแบบใหม่สู่สาธารณะ ครั้งแรกเมื่อปี 2013 ในชื่อ Zopfli ที่เป็นตัวบีบอัดไฟล์ในฟอร์แมต DEFLATE ที่ข้อมูลเล็กลงแต่เบราว์เซอร์สามารถใช้ตัวขยายเดิมได้ทันที ตอนนี้กูเกิลก็พัฒนาฟอร์แมตใหม่ในชื่อ Brotli มีจุดเด่นที่อัตราการบีบอัดสูง ขณะที่ประสิทธิภาพการขยายไฟล์ก็ยังสูงอยู่ด้วย
Brotli ใช้เทคนิคสมัยใหม่ ทำให้อัตราการบีบอัดดีกว่าขั้นตอนวิธีเดิมๆ ประสิทธิภาพการบีบอัดไฟล์ของ Brotli แย่กว่า gzip มาก โดยรวมแล้วข้อมูลจะเล็กกว่าการบีบอัดด้วย Zopfli (ซึ่งไม่ต้องแก้ไขเบราว์เซอร์) อยู่ 20-26%