ทายาทของ Lee Kun-hee อดีตประธาน Samsung Group ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2020 ทำข้อตกลงกับ Hana Bank เพื่อขายหุ้นบริษัทต่างๆ ในกองมรดกรวมมูลค่า 2.57 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายภาษีมรดก หุ้นที่ขายมีตั้งแต่ Samsung Electronics, Samsung C&T, Samsung Life Insurance
หุ้นที่ขายรอบนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาษีมรดกทั้งหมดที่กลุ่มทายาทต้องจ่าย มูลค่ารวมภาษีทั้งหมดประมาณ 12 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 326,000 ล้านบาท แบ่งจ่าย 5 ปีตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ตอนนี้จ่ายไปแล้วครึ่งทางประมาณ 6 ล้านล้านวอน
ในบรรดาทายาทนั้น Lee Jae-yong ประธานกลุ่ม Samsung เลือกที่จะไม่ขายหุ้นเลย แต่จ่ายภาษีด้วยเงินกู้และเงินปันผลหุ้น โดยเฉพาะส่วนของ Lee นั้นต้องจ่ายภาษีถึงปีละ 500,000 ล้านวอนทุกปี ถึงปี 2026
ภาษีมรดกของเกาหลีใต้มีอัตราสูงที่สุดประเทศหนึ่งของโลก อัตราภาษีอาจจะสูงถึง 60% ในบางกรณีที่มรดกเป็นหุ้น
ที่มา - The Korea Herald
Comments
ทุกข์ของมหาเศรษฐี
ตามทฤษฎี กลไก soft reset แก้ความเหลื่อมล้ำในระบบทุนนิยม คือภาษีที่ดิน, ภาษีเงินได้อัตราก้าวหน้า, ภาษีมรดก
แต่เกาหลีกลายเป็นกลุ่มเชโบลไปแล้ว
น่าสนใจว่าจะได้ผลขนาดไหน
หรือแค่ความมั่งคั่งเปลี่ยนมือไปสู่เชโบลด้วยกัน 🤔
ก็ดีกว่าไม่มีเลยแหละครับ อย่างน้อยในการส่งต่อแต่ละรุ่นก็จะถูกหั่นมาให้ส่วนกลางด้วย
แต่ผมยังมองไม่เห็นส่วนที่ว่า หรือจะเป็นการส่งต่อความมั่งคั่งระหว่างแชโบลด้วยกัน อันนี้พออธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ?
หุ้นที่ขายออกมาเพื่อจ่ายภาษีกลุ่มคนที่มีปัญญาซื้อ หลักๆจะเป็นกลุ่มแชโบลด้วยกัน
ถ้าในกลุ่มแชโบลสลับกันตายแบบมีระยะห่างมากพอ
จนสะสมความมั่งคั่งโดยรวมของทั้งกลุ่มคืนกลับมาได้
จะเกิดการซื้อวนอยู่ในกลุ่มแชโบล
มันเป็นลักษณะของทุนนิยมที่เสียสมดุลไปแล้วซึ่งจะแก้ยากมาก
ความมั่งคั่งของคนซื้อ เท่าเดิม เอาเงินไปแลกหุ้นความมั่งคั่งของคนขาย หายไปครึ่งนึง (รึเปล่านะ ผมไม่แน่ใจกรณีนี้โดนเท่าไหร่)
ทุกระบบมีปัญหาของมันเองครับ แล้วที่มีข่าวนี้ขึ้นมาคือพยายามแก้พยายามปรับสมดุลอยู่บ้างแล้วในระดับที่ก็ยังโน้มน้าวให้คนมีแรงจูงใจพอที่จะทำระดับนึงอยู่
ใช่ครีบ
ผมถึงบอกว่าในทางทฤษฎี มันเป็น soft reset อย่างนึง
ซึ่งผมชอบและเห็นด้วย
แต่ในทางปฏิบัติ
คนที่จะมีกำลัง/สภาพคล่องในการกวาดซื้อหุ้นที่ขายออกมา ก็คือ คนรวยสุดๆคือแชโบลด้วยกัน
และการผูกขาดทั้งระบบเศรษฐกิจของกลุ่มแชโบล
จะทำให้เงินที่ รบ. เก็บไปสุดท้ายจะจ่ายออกมาในรูปโครงการรัฐ
แล้วเม็ดเงินจะวนกลับเข้ากลุ่มแชโบลเรื่อยๆอยู่ดี
ผมเลยอยากตามดูต่อเหมือนกันว่ามันช่วยได้ในโลกจริงมากน้อยขนาดไหน
ถ้าเอาไม่อยู่ก็ต้องปรับ parameter อย่าง %ภาษีให้แรงขึ้น?
แต่แรงกว่านี้จะมีการโยกหนีไปนอกประเทศรึเปล่า? ฯลฯ
เอ ความมั่งคั่งมันเปลี่ยนมือยังไงครับ เขาไม่ได้ได้หุ้นฟรีนี่นา เขาต้องจ่ายซ์้อหุ้น และเงินที่จ่ายนั้นสุดท้ายก็เข้ารัฐ ไม่ได้แปลว่ากลุ่มแชโบลจะค่อย ๆ ลดความมั่งคั่งลงเหรอ? แถมเผลอ ๆ คนที่ซื้ออาจจะไม่ใช่กลุ่มแชโบลทั้งหมดหรือเปล่า (อันนี้ไม่มีข้อมูลแฮะ) ถ้าแบบนั้นก็กระจายความมั่งคั่งไปให้คนอื่นด้วยนะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อยากให้ไทยมีบ้าง
แต่รัฐไทยชอบไปทางมาขูดกับชนชั้นกลางที่ไม่มีอำนาจต่อรองตลอดเลย
ประเทศไทยก็มีภาษีมรดกครับ
ใช่ครับ แต่แตกต่างกันมากกกกก ของไทยถ้าเกิน 100ล้าน เอาส่วนที่เกินมาคิด โดยหักแค่ 5-10% ของส่วนเกินครับของเกาหลีใต้หัก 50% ของมรดกทั้งหมด...
อีกหน่อยต้องเก็บเงินสดไว้ให้ลูกหลานไว้จ่ายภาษีให้อีก
ฝังดินโดนมอดกิน ซ่อนในบ้านเมียก็เจอ ฝากธนาคารก็เสี่ยงคอลเซ็นเตอร์ ซื้อหุ้นเดี๋ยวกลายเป็นกระดาษเปล่า ซื้อบ้านที่ดินก็กลายเป็นมรดกเป็นภาระลูกหลานจ่ายภาษี ทุกข์ของคนมีตัง
บางทีก็อยากทุกข์แบบนั้นบางจังครับ