ตามที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ออก กฎหมายดิจิทัล DMA เพื่อกำหนดให้ผู้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้ามาเชื่อมต่อระบบได้ ทำให้ไม่เป็นการกีดกันนักพัฒนารายย่อย หนึ่งในบริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้คือแอปเปิล ซึ่งกรณีใหญ่ก็คือการ เปิดให้ลงสโตร์ภายนอก ตั้งแต่ iOS 17.4 และ ปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม นักพัฒนา หรือล่าสุดคือการเปิด NFC ใน iPhone ให้แอปจ่ายเงินเข้าถึงได้ ตามคำสั่งของสหภาพยุโรป หรือ EU รวมทั้งต้องปฏิบัติตามคำร้องขอของนักพัฒนาหากต้องการเข้าถึงส่วนอื่นเพิ่มเติม

ล่าสุดแอปเปิลออกมาเปิดเผยว่ามีบริษัทหนึ่งที่ยื่นคำขอเป็นจำนวนมากคือ Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook, Instagram โดยส่งคำร้องขอเข้าถึงระบบต่าง ๆ อ้างกฎหมาย DMA รวมกันถึง 15 คำขอ ซึ่งแอปเปิลมองว่าหลายคำขอนั้นล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยผู้ใช้งานจนเกินขอบเขตกฎหมาย DMA

แอปเปิลไม่ได้ระบุรายละเอียดคำขอของ Meta แต่บอกว่าหลายกรณีเป็นคำขอที่เป็นเรื่องของอุปกรณ์ Meta Smart Glasses หรือ Meta Quest ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มแอปเปิลโดยตรง ถ้าหากแอปเปิลต้องเปิดการเข้าถึงตามคำขอทั้งหมด แอปของ Meta จะสามารถอ่านข้อความ, อีเมล, บันทึกการโทร, รูปภาพ, ไฟล์, ปฏิทิน ไปจนถึงประวัติการใช้งานแอปและรหัสผ่านใน iPhone ได้เลย แอปเปิลยังโจมตีว่า Meta มีประเด็นละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานและเคยถูก EU สั่งปรับมาก่อนหน้านี้

ตัวแทนของ Meta ตอบโต้ข้อกล่าวหานี้ บอกว่าแอปเปิลพยายามบอกกับทุกคนว่าบริษัทไม่เชื่อเรื่องการเปิดกว้างต่อการเข้าถึง โดยนำความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานมาอ้างเป็นพื้นฐานในทุกครั้งทั้งที่ไม่จริง

ก่อนหน้านี้ EU กำหนดให้นักพัฒนาและองค์กรที่เกี่ยวข้องเสนอแนวทางที่ต้องการให้แอปเปิลเปิดแพลตฟอร์มต่อการเข้าถึง ภายในวันที่ 9 มกราคม เพื่อหารือกับแอปเปิลในแนวทางต่อไป ซึ่งหัวข้อหนึ่งที่น่าจะถูกสั่งให้มีผลแน่นอนคือระบบเชื่อมต่อการแจ้งเตือนจาก iOS โดยอุปกรณ์คู่แข่งอื่นต้องได้ฟังก์ชันการทำงานเท่ากับใน Apple Watch และ Apple Vision Pro

ที่มา: Reuters