สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป ACEA ออกรายงานสถิติยอดขายรถยนต์ในทวีปยุโรปปี 2024 ภาพรวมขายได้ 10.6 ล้านคัน เติบโต 0.8% จากปี 2023 โดยยอดขายในบางประเทศหดตัว เช่น ฝรั่งเศส -3.2%, เยอรมนี -1% ในขณะที่สเปนเติบโต 7.1%
ถ้าดูสัดส่วนยอดขายตามประเภทของรถยนต์ รถน้ำมันเบนซินยังครองส่วนแบ่งสูงสุด 33%, ตามด้วยรถยนต์ไฮบริด (HEV) 30.9% และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) 13.6% ประเด็นที่น่าสนใจคือยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV เริ่มลดลงในหลายประเทศ เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส กลายเป็นตลาดรถยนต์ไฮบริด (ทั้ง HEV และ PHEV) เติบโตมากขึ้นแทน
เมื่อดูยอดขายเป็นรายยี่ห้อ ค่ายรถที่มียอดขายสูงสุดในยุโรปยังเป็น Volkswagen Group 2.84 ล้านคัน เติบโต 3.2%, อันดับสอง Stellantis 1.74 ล้านคัน ลดลง 7.2%, อันดับสาม Renault Group 1.17 ล้านคัน เติบโต 1.9%
ยี่ห้อที่มีการเปลี่ยนแปลงยอดขายเยอะมีดังนี้
- Toyota +17.5%
- Volvo Cars +28%
- Suzuki +12%
- Tesla -13.1%
- Ford -13.7%
ประเด็นที่น่าสนใจคือยอดขายของ Tesla ตกลงมาก เว็บไซต์ Business Insider อ้างข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ราคารถยนต์ Argus Media ว่ายอดขายของ Tesla ในเยอรมนี บ้านของ Gigafactory ปี 2024 ลดลงถึง 41% ซึ่งถือว่าลดลงเยอะกว่าค่าเฉลี่ยตลาด BEV ในเยอรมนีที่ลดลง 27%
ยอดขายของ Tesla ยังลดลงในตลาดหลักๆ ของยุโรปอย่างฝรั่งเศสและอิตาลี แม้สามารถเพิ่มขึ้นในเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สาเหตุหลักๆ มาจากตัวสินค้าของ Tesla ยังไม่เคยถูกอัพเดตนับจาก Model Y ในปี 2021 (Model Y รุ่นใหม่อาจช่วยกู้สถานการณ์ได้) และการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ผลิตรถยนต์ BEV รายอื่นๆ ทั้งจากยุโรปและจีน
การเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองยุโรปของ Elon Musk ย่อมส่งผลต่อยอดขาย Tesla ในยุโรปด้วยเช่นกัน เมื่อมีบริษัทยุโรปหลายแห่งประกาศเลิกใช้ Tesla และหันไปใช้รถยนต์ EV ยี่ห้ออื่นแทน ยังไม่นับรวมผู้บริโภคทั่วไปที่อาจไม่พอใจ Elon Musk เชียร์พรรคฝ่ายขวาจัดทั่วยุโรป และ ทำท่านาซีในงานรับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Donald Trump
คลิปการประท้วงของกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย ที่ฉายภาพโปรเจคเตอร์ไปยังกำแพงโรงงาน Tesla Gigafactory ในเบอร์ลิน
Activists in Germany projected a message onto the @Tesla factory, tagging @elonmusk , with the title "Hitler Salute." They highlighted Elon Musk's open support for racist and fascist organizations and politicians. pic.twitter.com/4R9vnvPRMw
— kakasloi (@kakasloi) January 24, 2025
Michael Lohscheller ซีอีโอของ Polestar บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าในเครือ Volvo/Geely ให้สัมภาษณ์ว่าเขาสั่งให้ทีมขายของบริษัทตั้งใจเจาะฐานลูกค้า Tesla แล้ว เพราะสัมผัสได้ว่าคนไม่พอใจ Elon Musk กันมาก
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ Elon Musk วิดีโอคอลล์ไปบนเวทีการประชุมของพรรคขวาจัด AfD ของเยอรมนีด้วย
Elon Musk Addresses Germany’s Far-Right AfD Party In Surprise Rally Appearance—Amid ‘Nazi Salute’ Controversy https://t.co/4rlyy8htbK pic.twitter.com/xh7gLZxRrP
— Forbes (@Forbes) January 25, 2025
ที่มา - ACEA , Business Insider
Comments
ถ้ามองแบบการเมืองไทย การที่อีลอนมันทำมือเหมือนไฮฮิเลอร์ ทำไมคนไม่ชอบนาซีถึงดิ้นกันเพราะดูแล้วเหมือนอีลอนมันทำท่าล้อเลียนนาซี (คลิปเต็มนี่ดีดเหมือนเสพก่อนขึ้นเวที)
ส่วนกรณีเชียร์ขวา อันนี้แกก็บอกมานานแล้วแกเคยเป็นซ้ายอ่อนๆ(ทรั้มป์สมัยแรกแกก็เคยอยู่แล้วออกเพราะแนวคิดไม่เข้ากัน)
แต่เพราะซ้ายมันสุดโต่งมาจนเส้นมันถ่างไกลออกไปเอง จนจุดที่แกยืนกลายเป็นฝั่งสลิ่มเอ้ยเป็นยืนฝั่งขวา (ไหนจะไบเดนลำเอียงไม่ชอบอีลอนด้วยแกเลยย้ายไปเชียร์ทรั้มป์อีกรอบ)
ก็นะเจอสุดโต่งระดับ DEI/Woke เส้นสายสีผิว/เพศ ไม่ดูความสามารถ เข้าไปไหนจะลูกชายแปลงเพศอีก(ปัญหาครอบครัวก็อีกเรื่อง)
คืองงความโยงมั่วๆของข่าวนะ ยอดเป็นของปี 2024แต่อีลอนเพิ่งทำท่านี้ตอนพิธีสาบานตนของทรัมป์อาทิตย์ก่อนเองจะเกี่ยวอะไร? ปัจจัยหลักน่าจะมาจากตัวเลือกที่มีมากขึ้นในตลาดมากกว่าหลายๆเจ้าก็เริ่มทำรถไฟฟ้าได้ดีขึ้นด้วย
+1
ได้อ่านเนื้อข่าวไหมครับ?
ผมเข้าใจว่าพาดหัวข่าวมันดูเกือบๆจะเบทนะครับ ประเด็นคือ ประโยคหลังมันไม่ได้เป็นสาเหตุของประโยคหน้าน่ะครับ
+1
+1
++
+
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
+1
ความจริงอาจต้องมองว่าซ้ายจัดกันจนทวีปยุโรปจะพังทะลายจากปัญหาก่อการร้ายจากผู้อพยพที่ไม่เคยมีมาก่อน Sweden Germany Denmark France พังไปกันหมด ผู้อพยพกลาสเป็นปัญหา ก็ไม่แปลกที่คนจะเชียร์ขวากันมากขึ้นเห็นจากผลโหวตที่ผ่านมาในยุโรป Musk ไม่มีอะไรหรอก เพียงแค่เกาะกระแสฝั่งที่คาดว่าจะชนะ ซึ่งมันเป็นไปได้เห็นได้จากความล้มเหลวของฝั่งซ้ายในการแก้ปัญหาของยุโรป ส่วนข่าวก็พยายามโยงไปโน่นนี่ ลองมองจากมุมมองไกลๆ มองภาพสถานการณ์ที่ผ่านมา อย่าเพิ่งตัดสินผลจากปัจจุบัน ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุ
คนยุโรปบางคน ใครบังอาจมาบอกว่า "ไม่อยากรับผู้อพยพ" โดนเหมาเป็นขวาจัดทันที ทั้งๆที่มันเป็นนโยบายปกติของแทบทุกประเทศ (นอกตะวันตก)
เหมือนหลัง WW2 เขาถูกฝ่ายสัมพันธมิตรปลูกฝังแนวคิดตรงข้ามเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ก่อสงครามอีก แต่มันก็สร้างปัญหาอีกแบบนึง เพราะสุดโต่งเกินไป
จะพูดงี้ก็ได้ ว่าซ้ายเพิ่มประชากรแบบมักง่าย แต่ขวาแก้ยังไง?คุณภาพชีวิตสูง ต้นทุนชีวิตแพงลิบลิ่ว จนคนไม่อยากมีลูก แต่ยุโรปเองก็หัวสูง ไม่ค่อยจะผลิตอะไรเองเลย ประชากรไม่โต ศก. ก็ยับอยู่ดี
หากจำเป็นต้องนำเข้าต่างจำนวนมาก ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมีให้ดูครับ คือ UAE กับสิงคโปร์ มันสำเร็จเพราะเขามองโลกแบบ realistic ว่าธรรมชาติของคนเป็นยังไง และคนแต่ละกลุ่มต่างกันยังไง เขาเลยรับมือได้ถูก
ส่วนยุโรปจะมองผ่านเลนส์ political correctness
ยังไม่ขอลงรายละเอียด เดี๋ยวจะยาว
อยากฟังเลยครับ ว่ามันเกี่ยวกับ political correctness อย่างไร
หลังๆ น่าจะชาตินิยมกันใช้ของตัวเองกันดีกว่า
ก็ EV มันแพง แล้วกันจีนออกไปแล้ว นาทีนี้คนยุโรปก็ลำบากจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากไป sanction russia ไว้
เหตุผลที่ยอดตกหลักๆคือ ทำราคาสู้ EV จีนไม่ได้ ไม่ใช่รึ? 🤔
จริง ๆ ตัวอีลอน มองยังไงก็เป็นซ้าย ถ้าเกิดเป็นนิยามปกติ
แต่ไม่รู้มันฉีกซ้ายออกไปขนาดนั้น ออกไปจนเกินความปกติไปมาก ๆหัวก้าวหน้า แต่ไม่ชอบการ woke หนัก ๆ โดนตีเป็นขวาหมด
ความฮาก็คือ รถจีน(Volvo) ก็โตเยอะสุดอยู่ดี นี่กีดกันเขาขนาดนั้นแล้วนะ