Bill Campbell บอร์ดแอปเปิลที่อยู่ในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 1997 ประกาศเกษียณอายุ (ปัจจุบันเขาอายุ 73 ปี) โดยแอปเปิลแต่งตั้ง Sue Wagner ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลงทุนชื่อดัง BlackRock เป็นบอร์ดแทน
Bill Campbell เป็นคนดังของซิลิคอนวัลเลย์ และคนในวงการเรียกเขาว่า "โค้ช" ซึ่งมีที่มาเนื่องจากเขาเคยเป็นโค้ชทีมอเมริกันฟุตบอลของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และคอยสอน-ให้คำปรึกษาคนดังของโลกไอทีมากมาย ตั้งแต่ Steve Jobs (Apple), Eric Schmidt (Google), Marc Andreessen (Netscape), Jeff Bezos (Amazon), Evan Williams (Twitter)
Campbell เคยทำงานกับโกดักมาก่อน แล้วย้ายมาคุมงานด้านการตลาดกับแอปเปิลในปี 1983 ในช่วงที่ John Sculley เป็นซีอีโอ (แต่เขากลับสนิทกับ Jobs มากกว่าซะงั้น) ภายหลังเขาได้คุมบริษัทลูก Claris ที่มีแผนจะแยกตัวเป็นบริษัทอิสระและขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แต่เมื่อ John Sculley พับแผนนี้ ทำให้ Campbell ลาออก
หลังจากนั้นเขาไปเป็นซีอีโอของ GO Corp บริษัทแท็บเล็ตในยุค 1990s แล้วมาเป็นซีอีโอของบริษัทซอฟต์แวร์การเงิน Intuit ระหว่างปี 1994-2000 (ปัจจุบันเขายังเป็น ประธานบอร์ดของ Intuit )
Campbell เป็นเพื่อนบ้านกับ Jobs และ Jobs มักเดินมาคุยกับ Campbell ที่บ้านอยู่เสมอ หลังจาก Jobs กลับมาเป็นซีอีโอของแอปเปิลไม่นาน เขาก็เดินมาหา Campbell และขอให้เขารับตำแหน่งบอร์ดของแอปเปิล ซึ่ง Campbell เล่าว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขา "ตอบตกลงทันที"
Campbell ให้สัมภาษณ์กับ Fortune ว่าเขาเห็นพัฒนาการของ Jobs ตั้งแต่สมัยเป็นผู้จัดการฝ่ายแมคอินทอช และค่อยๆ พัฒนาตัวเองจากการเป็นผู้ประกอบการ กลายมาเป็นซีอีโอที่มีศักยภาพในการบริหารธุรกิจ
ช่วงที่ Campbell เป็นบอร์ดแอปเปิล เขาก็พัฒนาทักษะการ "โค้ช" ผู้ประกอบการไอทีรุ่นใหม่ๆ โดยเขาเป็นคนแนะนำให้ Jeff Bezos เป็นซีอีโอของ Amazon ต่อไป ไม่ต้องเลื่อนชั้นเป็นประธานบอร์ดแล้วหาคนอื่นมาเป็นซีอีโอแทน
ผู้บริหารไอทีอีกคนที่ Campbell สนิทสนมด้วยคือ Eric Schmidt อดีตซีอีโอของกูเกิล ซึ่งภายหลังเมื่อ Jobs หักกับ Schmidt ทำให้ Campbell ต้องลำบากใจเพราะเป็นคนกลาง โดย Jobs บอกกับ Campbell ว่า "ถ้าคุณช่วยเขา คุณก็ทำให้ผมเจ็บปวด" ซึ่ง Campbell ก็ตอบว่าเขาเขียน HTML ไม่เป็นด้วยซ้ำ และแค่สอนให้ Schmidt บริหารงานในบริษัทให้ดีขึ้นเท่านั้น
Campbell ให้คำปรึกษากับทั้ง Jobs และ Schmidt อยู่หลายปี แต่ภายหลังเขาก็หยุดให้คำปรึกษากับ Schmidt โดยเลือกอยู่กับแอปเปิลแทน (Schmidt ให้สัมภาษณ์ถึงเขาอย่างชื่นชมว่า Campbell แทบจะเป็นคนวางโครงสร้างองค์กรให้กูเกิลด้วยซ้ำ) - The New York Times
Comments
master yoda
ซิคิคอนวัลเลย์?
“I watched him emerge as a CEO in real time,” Campbell says. “I had a continuum with him. I watched him when he was general manager of the Mac division and when he went off and started NeXT. I watched Steve go from being a creative entrepreneur to a guy who had to run a business.”
สงสัยว่าตอนที่ Jobs เป็น GM ของ Mac DivisionApple มี Division อื่นด้วยเหรอครับ
เข้าใจว่าเอาเองว่า GM สมัยนั้นก็คือ CEO สมัยนี้แหละครับ ชื่อมันต่างกันออกไปมากกว่านะ
ตรงนี้ความหมายระหว่างบรรทัด ของมันคือ Campbell หมายถึงว่าเขาเห็น Jobs พัฒนาจนกลายเป็น CEO [in real time] ตั้งแต่ยังเป็น คนไฟแรงมีพลังสร้างสรรค์ล้นเหลือ (ออกจาก apple ไปก่อตั้ง next) จนกลายเป็นนักธุรกิจที่จะต้องบริหารจัดการทุกสิ่งอย่างด้วย (ไม่ใช่แค่เบ่งพลังแล้วโยนให้คนอื่น implement ผมอ่านความระหว่างบรรทัดได้แบบนี้หนะครับ)
Creative Entrepreneur นี่แปลยากอะครับ จริงๆคำว่าผู้ประกอบการ มันไม่ได้กินความหมาย Entrepreneur เสียทีเดียว คือ Entrepreneur หนะต้องเป็นผู้ประกอบการ แต่ว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกคนจะเป็น Entrepreneur หนะครับ
จริงๆคำว่า Creative Entrepreneur นี่ก็ออกจะฟุ่มเฟือยอะนะ Entrepreneur มันก็ต้อง Creative อยู่แล้วดิฟระ
IMHO นะครับ
ช่วงนั้นมีทีมฮาร์ดแวร์อื่นคือ Apple II กับ Lisa ไงครับ
จริงๆ ติดใจอีกนิดนึงตรงที่ข่าวไม่ได้แปลมาว่า เค้าบอกว่าเค้าไม่เคยคิดค่าปรึกษา และไม่เคยลงทุนกับบริษัทที่ให้การปรึกษายกเว้น RockMelt แต่สงสัยว่า รับเป็นหุ้นแทนหรือเปล่า 555
ตำนานอีกคนหนึ่ง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ก ... โกดัก ... ในเรืีองโปเกมอน
และทำให้บริษัทพัฒนาเป็น โกลดัก ในที่สุด//คอมเมนท์ไม่ส่งเสริมเนื้อหา