จากความคืบหน้าล่าสุดของ Project Ara ที่ เลื่อนออกไปเป็นปี 2017
และ ลดความยืดหยุ่นลง
โดยการรวมเอาส่วนหลักของโทรศัพท์ เช่น หน่วยประมวลผล แบตเตอรี่ จอภาพ มาใว้ที่โครงหลักของตัวเครื่อง ข่าวนี้ดูเหมือนจะสร้างความผิดหวังให้หลายคนที่ติดตามโครงการนี้อยู่ไม่น้อย บางคนก็บอกว่าไม่ซื้อแล้ว!
ล่าสุดนักออกแบบชาวเนเธอร์แลนด์ Dave Hakkens ผู้ริเริ่มไอเดีย Phonebloks โทรศัพท์ปรับแต่งได้ในลักษณะของโมดูล (ก่อนจะมาเป็น Project Ara) ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ผ่าน หน้าเว็บไซต์ของเขา
เดิมทีไอเดียของโทรศัพท์ในลักษณะโมดูลนั้นริเริ่มขึ้นเพื่อพยายามลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงจากการสิ้นอายุขัยของชิ้นส่วนบางชิ้น ( คลิปคอนเซปต์ของ Phonebloks ) ซึ่ง Hakkens ให้ความเห็นว่าการที่รวมหน่วยประมวลผล เซ็นเซอร์ เสาอากาศ แบตเตอรี่ และจอ เข้ามาอยู่ในโครงหลักของเครื่องนี้ ทำให้เมื่อจอแตก หรือหน่วยประมวลผลเริ่มล้าหลัง เราก็ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ทั้งเครื่องอยู่ดี แล้วโมดูลก็กลายเป็นเพียงส่วนเสริมสำหรับปรับแต่งเพื่อความสนุกเท่านั้น
นอกจากนี้ Hakkens ยังพูดถึงเป้าหมายเดิมของโครงการที่จะ "สร้างโทรศัพท์เพื่อทั้งโลก" โดยสร้างมาตรฐานแบบเปิดขึ้นมาเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างโมดูลขึ้นมาขายเองได้ แต่กลับกลายเป็นทุกอย่างอยู่ภายใต้กูเกิล ซึ่งสิ่งที่จะเป็นมาตรฐานแบบเปิดนี้ไม่ควรอยู่ในมือของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดการแข่งขันกันมากกว่าความร่วมมือ
เขายังบอกอีกว่า หากกูเกิลยังต้องการสร้างโทรศัพท์เพื่อทั้งโลกจริง ๆ กูเกิลควรร่วมมือกับคนอื่นให้มากกว่านี้ และอย่ามุ่งแต่จะสร้างโทรศัพท์ใว้ขาย
ที่มา - Dave Hakkens ผ่าน The Verge
Comments
ดันความคิดเห็นนี้เต็มที่
ผมว่า ถ้าได้อย่างนั้นจริง สุดท้ายก็จะเหมือน pc คือจะได้แค่คนเฉพาะกลุ่ม
แพง ไม่ต้องมีทุกคนsmart phone มีเกือบทุกคน และถูก ซะส่วนมาก
คนทั่วไปก็ไม่ได้เป็นเป้าหมายของที่ปรับแต่งเองได้แบบนี้อยู่แล้วมั้ง?
เห็นด้วยคิดว่าสุดท้ายน่าจะเหมือน pc ประกอบ คือคงจะมีคนใช้บ้าง แต่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ เพราะแนวคิดแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับคนส่วนใหญ่
อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งคือไอเดียและเป้าหมายของตัวโปรเจ็คเอง ที่มันดูจะขัดแย้งกับในเรื่องของธุรกิจ การทำมือถือที่ออกมาช่วยให้คนประหยัดเปลี่ยนมือถือหรืออุปกรณ์ต่อปีน้อยๆ มันดูสวนทางกับแนวทางของผู้ผลิตในแง่ของกำไรและการลงทุน อยากให้มันแจ้งเกิดอยากใช้มือถือแบบนี้นะ อยากได้ราคา module แบบสมเหตุสมผล ที่ไม่ใช่ไปๆ มาๆ กลายเป็นราคาแพงเพราะขายได้แค่ตลาดเล็กๆ เฉพาะกลุ่ม ขอเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ
มากกว่าแยกส่วนได้คือ ความสวยครับ เพราะถ้าทำออกมาแบบในคลิปนี้และคลิปก่อนหน้า เจ๊งแน่นอน
หรือถ้าทำออกมาได้ตามคอนเซ็ปจริง จอน่าจะใหญ่เท่ามือถือทั่วไป แต่ตัวเครื่องนี่สิ คงหนาเท่าการ์ดจอ GTX 1080 แหงๆ
งานนี้คงออกมาดูไม่จืด
น่าเสียดายครับที่ขนาดมันไม่ได้ใหญ่แบบ PC ทำออกมาก็คนทั่วไปคงใช้ยาก
ถ้าทำให้ใหญ่ก็่น่าเกลียดอีกใครจะใช้ เสียดายครับอยากให้คนใช้แบบนี้เหมือน PC ประกอบแต่เป็นไปไม่ได้
The Last Wizard Of Century.
เห็นด้วยครับ สนับสนุนเต็มที่กับความเห็นนี้
Get ready to work from now on.
เคยจะผลิตรถยนต์แบบมาตราฐาน ATX เหมือนกัน แต่เพื่อนๆไม่เอาด้วย
ผมนึกถึง laptop แบบ barebone นะ ที่เลือกส่วนต่างๆ spec มาประกอบได้เองเหมือน pc ประกอบ ตอนแรกออกมาก็ฮือฮา ว่าจะได้เปลียน spec หรือupgradeได้ตามใจชอบเหมือนpc แล้ว น่าจะถูกใจนักเล่น pc
แต่ข้อเสียข้อใหญ่ คือความหนาของมัน เพื่อที่จะรองรับการเปลี่ยนอุปกรณ์นี่แหละสุดท้ายก็เห็นขายมาอยู่พักเดียวก็หายไป
มือถือประกอบได้ก็คงไม่ต่างกัน หากมันไม่สวย ไม่บางพอ ก็ขายไม่ออก...
อย่ากลายเป็นแอปเปิ้ล
เห็นด้วย แต่ต้องมองถึงความเป็นจริงในปัจจุบัน ตอนนี้ไม่ได้อนาคตไม่แน่ส่วนตัวไม่ได้มองว่า Google จะยึดไปทำคนเดียวนะ คนอื่นก็มีทำแต่ยังไม่มาก และยังไม่มีมาตราฐานกลางออกมานี่ซิ
ผมว่าแค่ทำมือถือให้เปลี่ยนแบตง่ายๆ แล้วก็กำหนดมาตรฐานกลางในส่วนของแบตเตอรี่และอุปกรณ์ชาร์จขึ้นมาแค่นี้ก็ลดขยะอิเล็คโทรนิคได้มากโขแล้วนะครับ
เห็นด้วย
The Last Wizard Of Century.
อย่างว่าล่ะ มุมคนพูดกับคนทำมันเห็นไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
ตามคอนเซปเริ่มต้นคือ อยากได้โทรศัพท์ที่ถูก สวย อุปกรณ์เปลี่ยนได้อิสระ ขนาดไม่ใหญ่ ซึ่งดูเพ้อฝันมากในความเป็นจริง การทำแบบนั้นมันไม่ได้ง่ายเหมือนทำตัวต่อ Lego นี่สิ เวลาจะต่อ Lego ยังไม่ต้องคิดอะไรมากอยากจะต่อก็ต่อเข้าไปเลย แต่วงจรอิเล็คทรอนิกส์มันคนละเรื่อง ไม่งั้นเวลาออกแบบวงจรก็คงไม่ต้องคำนวณอะไรแล้วอยากใส่อะไรก็ใส่ไปได้เลย
สุดท้ายก็เลยออกมาอย่างที่เห็นล่าสุดว่ามีการล็อคอุปกรณ์บางส่วนไว้ คนไม่เคยสัมผัสตรงนี้ก็จะบอกทำไมเอ็งไม่ให้ได้ตามคอนเซปฟระ ขี้โม้ หลอกลวง ส่วนคนทำ ในใจก็อยากจะสวนว่า "ก็เอ็งอยากได้ของดี ทน บาง สวย ใช้นาน ๆ แต่ขอถูก ๆ ด้วยนะ" หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือตายตรงเรื่องราคา
อุปกรณ์ที่อิสระแบบเปลี่ยนได้ตามคอนเซปเริ่มต้นเหมือนต่อ Lego ขนาดนั้น ไม่มีทางเลยที่มันจะถูก ไปดูของที่จีนปั๊มขายสิว่าไอ้ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ที่ราคาถูก ๆ ทำไมมันถึงถูก ไม่งั้นป่านนี้คงมีคนทำ computer notebook เปลี่ยนสเปคได้ไปนานแล้ว จุดสุดท้ายของแนวคิดพวกนี้มันก็ตายที่เรื่องราคากันทั้งนั้น และเชื่อเถอะว่ารูปทรงของโทรศัพท์คอนเซปนี้ มันไม่ใช่แบบที่คนทั่วไปนิยมหรอก เพราะสำหรับหลาย ๆ คน รูปลักษณ์ของโทรศัพท์มือถือมันคือแฟชั่นอย่างนึง