
Reuters อ้างแหล่งข่าวว่า Tesla ต้องเลื่อนการวางขายรถยนต์ Model Y ตัวใหม่เวอร์ชันราคาถูก จากเดิมที่ตั้งเป้าจะขายภายในครึ่งแรกของปี 2025
รถรุ่นที่ว่านี้คือ Model Y โฉมใหม่ที่เราเรียกกันว่า Juniper ส่วนรถรุ่นที่ต้องเลื่อนออกไป เป็นรุ่นถูกลงโดยตัดฟีเจอร์หลายส่วนออกไป มีขนาดเล็กลง ใช้วัสดุราคาถูกลง ต้นทุนการผลิตลดลง 20% จากเดิม มีโค้ดเนมภายในบริษัทว่า E41 แต่เหตุผลในการเลื่อนยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร
แหล่งข่าวของ Reuters บอกว่า Tesla ตั้งเป้าผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในสหรัฐจำนวน 250,000 คันในปี 2026 รวมถึงจะขยายไปผลิตในยุโรปและจีนต่อด้วยในระยะถัดไป

Bloomberg รายงานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่า ตอนนี้แอปเปิลมีสัดส่วน iPhone ที่ผลิตในอินเดียราว 20% หรือทุก 1 ใน 5 เครื่องแล้ว (ประเมินตามมูลค่า iPhone ที่ผลิตได้ ไม่ใช่ราคาขาย)
ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า แอปเปิลเริ่มย้ายฐานการผลิต iPhone ออกจากจีนอย่างจริงจัง เและ เราเห็นการส่งออก iPhone จากอินเดียออกไปขายยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะช่วงสหรัฐอเมริกาเพิ่มกำแพงภาษีนำเข้า
แอปเปิลเลือกใช้โรงงานของ Foxconn และ Tata (Wistron, Pegatron) ในอินเดีย และตอนนี้สามารถผลิต iPhone ได้ครบทั้งไลน์ รวมถึง รุ่น Pro ด้วย

The Washington Post มีรายงานเกี่ยวกับ ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ในสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นประกาศเพิ่มเติมหลังมีคำสั่งให้ชะลอแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมจากประเทศต่าง ๆ ออกไป 90 วัน ว่าแอปเปิลอาจมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจนี้
รายงานบอกว่า Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ได้เข้าพบกับ Howard Lutnick รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับผลกระทบของราคา iPhone จากคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม นอกจากนี้ Cook ยังเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบขาวอีกหลายคน

มีรายงานว่า OpenAI กำลังพูดคุยเพื่อซื้อกิจการ Windsurfผู้พัฒนาโปรแกรม IDE สำหรับเขียนโค้ดที่มี AI เป็นผู้ช่วย โดยมูลค่าที่เสนอซื้อคือ 3,000 ล้านดอลลาร์
Windsurf เดิมชื่อ Codeium เป็น IDE ที่มีจุดขายเรื่องผู้ช่วยเขียนโค้ด AI แนวเดียวกับ Cursor หรือ Replit ซึ่งปัจจุบันผู้พัฒนา AI รายใหญ่ ต่างก็ลงมาเล่นตลาดนี้กันทั้ง Microsoft ที่มี Visual Studio Code ในโหมด Agent รวมทั้ง Anthropic หรือแม้แต่ OpenAI ก็พยายามนำเสนอจุดขายนี้
หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่สุดของ OpenAI
ที่มา: CNBC

The Verge อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายรายระบุว่า OpenAI มีโครงการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเน้นส่งเสริมการใช้เครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย AI ของ ChatGPT ซึ่งต้นแบบแรกนั้นลักษณะคล้ายกับ X หรือ Twitter เดิม
รายงานบอกว่า Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ได้นำเสนอต้นแบบโซเชียลเน็ตเวิร์กอันนี้กับบุคคลภายนอกบริษัท เพื่อสอบถามความคิดเห็นไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามต้นแบบดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ รวมทั้งแผนการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กนี้ก็อาจเป็นเพียงไอเดียเท่านั้น

วันอาทิตย์พบกับข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิลโดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยเฮดเซต Apple Vision Pro และ iPadOS 19
เริ่มที่ Vision Pro ก่อน ข้อมูลของ Gurman บอกว่าแอปเปิลกำลังพัฒนา Vision Pro ใหม่อย่างน้อยสองรุ่น โดยมีสองแนวทางที่ต่างกัน รุ่นแรกจะมีน้ำหนักเบาลง ราคาถูกลง เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้น ส่วนอีกรุ่นเน้นขายตลาดลูกค้าองค์กร ที่ไม่ต้องการดีเลย์ จึงเชื่อมต่อผ่านสายกับ Mac สำหรับงานเช่น การผ่าตัด หรือ จำลองการบิน (Flight Simulation) เป็นต้น

เว็บไซต์ The Information รายงานว่ากูเกิลปลดพนักงานออกเป็นหลักร้อยคน (hundreds) ในทีม Android และ Pixel ซึ่งเป็นความต่อเนื่องจากข่าว กูเกิลเปิดโครงการพนักงานสมัครใจลาออก หลังรวมทีม Pixel, Android, Chrome เข้าด้วยกัน เมื่อเดือนมกราคม 2025
ทีมที่เป็นข่าวปลดพนักงาน เกิดจาก การปรับโครงสร้างในปี 2024 ที่รวมทีม Pixel, Android, Chrome เข้าด้วยกันในชื่อ Platforms and Devices หลังจากรวมทีมมีพนักงานที่ซ้ำซ้อนกัน จึงเปิดให้สมัครใจลาออก และนำมาสู่การปลดออกในที่สุด
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าพนักงานที่ถูกปลดออกมีทั้งหมดกี่คน และมีทีมย่อยไหนที่ได้รับผลกระทบบ้าง

มีรายงานว่า Safe Superintelligence หรือ SSI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์และผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ได้รับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่ 2 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนนำโดย Greenoaks ที่มูลค่ากิจการ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามที่ มีข่าวก่อนหน้านี้
มูลค่ากิจการที่เพิ่มเป็น 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ SSI เป็นสตาร์ทอัปที่มาแรงมากรายหนึ่ง เพราะย้อนไปในกันยายนปีที่แล้ว บริษัทยังมีมูลค่ากิจการที่ 5 พันล้านดอลลาร์ จาก เงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ เวลานั้น

ยังอยู่กับประเด็น ปัญหาของ Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะในอุปกรณ์ของแอปเปิล ซึ่งฟีเจอร์ปรับปรุงครั้งใหญ่ ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม พร้อมกับข่าวการ ปรับตำแหน่งผู้บริหาร ภายในแอปเปิล
ข้อมูลนี้มาจาก New York Times บอกว่าแอปเปิลยังเดินหน้าพัฒนา Siri ใหม่อยู่ ไม่ได้คิดยกเลิกโครงการ คาดว่าอัปเดตแรกจะออกช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้หรือปลายปี แต่ความสามารถอาจไม่ครบถ้วนเท่าที่แอปเปิลเคยประกาศในงาน WWDC 2024 ซึ่งที่มีรายงานคือการสั่งแก้ไขและแชร์รูปถ่ายให้เพื่อนได้

ก่อนหน้านี้แอปเปิลออกมา ยืนยันการเลื่อนออกฟีเจอร์ใหม่ Siri พลัง Apple Intelligence ที่จะล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งมีข้อมูลไม่ทางการว่าแอปเปิลอาจ ต้องรื้อทำทั้งหมด กว่าจะเปิดตัวได้อีกทีก็ปีหน้า กระทบต่อ แผนเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่นอุปกรณ์สมาร์ทโฮม นอกจากนี้แอปเปิลยัง ปรับตำแหน่งผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง อีกด้วย
The Information มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้างกับการพัฒนา Siri ในช่วงที่ผ่านมา และแอปเปิลวางแผนแก้ปัญหานี้อย่างไรบ้าง ซึ่งสรุปเป็นประเด็นได้ดังนี้
- แอปเปิลไม่มีแนวทางชัดเจนว่าจะใช้ LLM แบบไหน โดยมีทั้งสร้าง 2 โมเดล ขนาดเล็กรันที่ iPhone ขนาดใหญ่รันบนคลาวด์ แต่ต่อมาก็สั่งให้ทำแค่ 1 โมเดลอยู่บนคลาวด์ การเปลี่ยนใจไปมาทำให้วิศวกรลาออกหลายคน

Reuters มีข้อมูลใหม่ หลังจากทางการของอินเดีย เปิดเผยว่า แอปเปิลเร่งขนส่ง iPhone ไปอเมริกา ก่อนที่สหรัฐจะออกคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า โดยข้อมูลก่อนหน้านี้บอกว่ามีเครื่องบิน 5 ลำ ขนส่งสินค้าออกไปภายใน 3 วัน
แหล่งข่าวของ Reuters บอกว่าหลังจากสหรัฐ ออกคำสั่งเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้า เพิ่มเติมไป 90 วัน ทำให้แอปเปิลเร่งใช้โอกาสนี้ให้คุ้มที่สุด โดยคลังสินค้าที่สนามบิน Chennai ในอินเดียซึ่งเป็นจุดขนส่งหลักสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทต่าง ๆ แอปเปิลได้เร่งเจรจาให้กระบวนศุลกากรจบเร็วขึ้น จากปกติ 30 ชั่วโมง เหลือ 6 ชั่วโมง เพื่อหวังนำ iPhone ออกไปอเมริกาในช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด

The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า แอปเปิลได้สั่งเร่งนำเข้า iPhone จากอินเดียมาสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก เพื่อหวังชดเชยความเสี่ยงจาก คำสั่งขึ้นภาษีนำเข้า สินค้า ซึ่งอินเดียมีอัตราภาษีใหม่ 26% ส่วนจีนซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของ iPhone อัตราภาษีอาจสูงถึง 54%
ในปีที่ผ่านมาแอปเปิลผลิต iPhone ในอินเดียประมาณ 25 ล้านเครื่อง โดย 10 ล้านเครื่องทำเพื่อขายในอินเดีย แต่แผนล่าสุดนั้นแอปเปิลต้องการให้ iPhone ในอินเดียเกือบทั้งหมดส่งไปที่อเมริกา ซึ่งจะรองรับประมาณ 50% ของ iPhone ที่ขายได้ในอเมริกา นอกจากนี้แอปเปิลยังสั่งเพิ่มการผลิต iPhone ในอินเดียอีกด้วย

จดหมายข่าว Power On จาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg สัปดาห์นี้ ว่าด้วยสินค้าใหม่แอปเปิลหลายอย่าง รวมถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้า ซึ่งตอนนี้ทำหลายคนคาดว่า iPhone จะราคาพุ่งสูง
เริ่มที่ iPhone 17 Pro ที่จะออกมาในปีนี้ Gurman บอกว่าตอนนี้มีภาพเรนเดอร์ออกมาจำนวนมาก แต่เขายืนยันว่านอกจากส่วน กล้องหลังที่เป็นแผงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้ว นอกนั้นดีไซน์เหมือนเดิมทั้งหมด แผงด้านหลังก็โทนสีเดียวกันทั้งหมด ไม่ใช่ทูโทน และด้านหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง

SamMobile เว็บข่าวสายซัมซุง ให้ข้อมูลว่าซัมซุงเตรียมแก้ตัวจาก One UI 7 ล่าช้าหลายเดือน โดยจะออก Galaxy Z Flip 7 และ Z Fold 7 มือถือจอพับของปีนี้ มาพร้อมกับ One UI 8 ที่เป็น Android 16 เลย
แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซัมซุงทำได้คือ กูเกิลปรับวิธีการออก Android 16 ใหม่ มาเป็นช่วงไตรมาส 2 แทนของเดิมไตรมาส 3 ซัมซุงจึงมีเวลาในการรอ Android 16 รุ่นเสถียรแล้วนำมาใช้กับ One UI 8 ของตัวเอง
ที่มา - SamMobile

คำสั่งเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายแบน TikTok ในสหรัฐนั้น เดิมมีกำหนดถึงวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้ เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 75 วัน โดยให้เหตุผลว่าการทำข้อตกลงนั้นมีความคืบหน้า แต่มีรายละเอียดอีกหลายอย่าง จึงต้องใช้เวลาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามหลายสำนักข่าวได้อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลคล้ายกันว่าข้อตกลงนั้นสามารถสรุปได้แล้ว แต่สาเหตุที่ดีลยังไม่สามารถประกาศได้เป็นเพราะรัฐบาลจีนไม่อนุมัติ โดยเชื่อว่าเหตุผลหนึ่งมาจากการ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เป็น 34%

Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าไมโครซอฟท์ได้สั่งพักหรือชะลอแผนการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ในหลายประเทศทั้ง สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย ส่วนในสหรัฐอเมริกามีทั้งศูนย์ข้อมูลในรัฐนอร์ทดาโคตา, รัฐอิลลินอย และรัฐวิสคอนซิน
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าโครงการศูนย์ข้อมูลนี้อาจยกเลิกหรือชะลอจากเหตุผลที่แตกต่างกัน โดยไมโครซอฟท์ได้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ทั้งในลอนดอน, เคมบริดจ์ และชิคาโก ส่วนกรณีของอินโดนีเซียกับรัฐวิสคอนซิน มาจากปัญหาในการก่อสร้าง

มีรายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องสองรายบอกว่าอินเทลและ TSMC ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) สำหรับดำเนินการโรงงานผลิตชิปของอินเทลในสหรัฐอเมริกา โดย TSMC จะร่วมลงทุน 20% ในบริษัทใหม่นี้
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้หารือ กับ TSMC และต้องการให้ TSMC ซื้อหุ้นโรงงานผลิตชิปของอินเทล ซึ่งเบื้องต้น TSMC ตอบรับข้อเสนอนี้ ข้อมูลที่ออกมาล่าสุดจึงน่าจะเป็นความคืบหน้าของแผนงานดังกล่าว
ตัวแทนของ TSMC, อินเทล และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อรายงานนี้

คำสั่ง เลื่อนการแบน TikTok ในสหรัฐอเมริกาใกล้ครบกำหนดในวันที่ 5 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศข้อสรุปได้เร็ว ๆ นี้ จึงมีรายงานเพิ่มเติมของบริษัทที่เข้ามาเสนอซื้อกิจการอีก
โดยข้อมูลคราวนี้เป็น AppLovin บริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ ซึ่งระบุว่ากำลังหารือและยื่นข้อเสนอกับหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐในการซื้อกิจการ TikTok ในอเมริกาเช่นกัน
รายงานเมื่อวานนี้บอกว่า Amazon ก็เป็นอีกบริษัทที่เข้ามายื่นข้อเสนอซื้อกิจการเช่นกัน ส่วน บริษัทอื่น ที่เคยมีรายงานเช่น Oracle หรือกลุ่มทุนนำโดย Frank McCourt

Politico รายงานว่าประธานาธิบดี Donald Trump ได้แจ้งบุคคลรอบตัวรวมทั้งกลุ่มรัฐมนตรีว่า Elon Musk จะลาออกจาก DOGE และทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐเร็ว ๆ นี้ โดยเขาจะกลับไปบริหารธุรกิจเหมือนเดิม แต่ยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลสหรัฐต่อไป
แหล่งข่าว Politico บอกว่าทีมงานของ Trump และคนที่เกี่ยวข้องมองว่า Musk มีพฤติกรรมที่คาดเดาได้ยาก และสร้างปัญหาที่เป็นผลกระทบต่อสถานะทางการเมืองของรัฐบาลด้วย ซึ่ง ผลการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสุดของรัฐวิสคอนซิน ทำให้รัฐบาล Trump ใช้เป็นเหตุผลในการให้ Musk ลาออกจากทุกตำแหน่ง
ตัวแทนของทำเนียบปฏิเสธรายงานข่าวนี้ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นของ Tesla ก็ปรับเพิ่มขึ้นถึง 6% หลังรายงานข่าวนี้ออกมา

คำสั่ง เลื่อนการแบน TikTok ในอเมริกากำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 5 เมษายนนี้ ที่ผ่านมาประธานาธิบดี Donald Trump บอกว่า มีคนสนใจซื้อกิจการ TikTok ในอเมริกาหลายราย แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปออกมาอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด The New York Times อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง 3 ราย เปิดเผยว่า Amazon ได้ยื่นข้อเสนอนาทีสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ TikTok ในอเมริกาด้วยอีกราย อย่างไรก็ตามฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูไม่ให้ความสนใจกับรายละเอียดข้อเสนอจาก Amazon มากนัก
Amazon และ TikTok ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวนี้

Apple Card บริการบัตรเครดิตของแอปเปิล ที่มีเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มีรายงาน มาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วว่าธนาคาร Goldman Sach ที่เป็นพันธมิตร ต้องการยกเลิกข้อตกลง ตามกลยุทธ์หลักของธนาคารที่จะเลิกธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมี รายงาน ผู้สนใจ รับช่วงต่อ หลายราย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป
The Wall Street Journal มีข้อมูลล่าสุดจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่านอกจากแอปเปิลต้องพิจารณาธนาคารที่ดูแลสินเชื่อใหม่แล้ว ตอนนี้ Visa ได้ยื่นข้อเสนอกับแอปเปิลเป็นเงิน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้แอปเปิลเปลี่ยนมาใช้เครือข่ายชำระเงินเป็น Visa แทน Mastercard ที่ใช้อยู่ปัจจุบันด้วย จากนั้นให้แอปเปิลหาธนาคารที่รองรับเครือข่ายต่ออีกที

มีรายงานจาก Nikkei Asia อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า GlobalFoundries กำลังพิจารณาควบรวมกิจการกับ United Microelectronics หรือ UMC บริษัทรับผลิตชิปในไต้หวัน
รายงานบอกว่าสาเหตุที่ทำให้สองบริษัทนี้พิจารณาข้อตกลง เป็นผลจากประเด็นสงครามการค้า ซึ่งทำให้สองบริษัทที่ไม่มีโรงงานในบางภูมิภาคอาจได้รับผลกระทบ แต่หากควบรวมกิจการกันจะทำให้บริษัทใหม่มีโรงงานกระจายอยู่ในทุกภูมิภาค ซึ่งรวมทั้ง อเมริกา ยุโรป และในทวีปเอเชียที่ไต้หวัน

ข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิลประจำสัปดาห์นี้โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยชิป Apple Silicon รุ่นใหม่ M5
สินค้าแรกคือ MacBook Pro โดยเป็นการอัปเกรดสเป็กตามรอบด้วยชิป M5 ช่วงเวลาน่าจะเป็นตุลาคมเหมือนรุ่น M4 ปีที่แล้ว และ รุ่น M3 เมื่อสองปีก่อน ดีไซน์แบบเดิม โดย Gurman บอกว่า MacBook Pro จะมีรุ่นที่ออกแบบใหม่ในปี 2026 พร้อมกับชิป M6
อีกสินค้าที่จะได้ M5 ในปีนี้คือ iPad Pro ซึ่งจะใช้ดีไซน์เดิมเหมือน รุ่นปีที่แล้ว ทำให้เป็นสินค้าตัวแรกที่ได้ชิป M5 เริ่มขายภายในครึ่งหลังปีนี้
[ลือ] OpenAI เจอเงื่อนไขเพิ่มทุนรอบใหม่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ - ต้องเป็นบริษัท For-Profit ให้ได้ในปีนี้

The Wall Street Journal มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนเพิ่มทุนของ OpenAI รอบใหม่ ที่จะรับเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ นำโดย SoftBank ร่วมกับผู้ลงทุนรายอื่น นั่นคือเงินรอบนี้มาพร้อมเงื่อนไขที่ OpenAI ต้องทำให้ได้ด้วย
ข้อตกลงนั้นระบุว่า OpenAI ต้องสามารถปรับโครงสร้างบริษัทให้เป็นบริษัทอิสระ ที่แสวงหากำไรเต็มรูปแบบ (For-Profit) ให้ได้ ภายในปีนี้หากไม่สามารถทำได้ เงินลงทุนจะลดลงเหลือ 20,000 ล้านดอลลาร์

มีรายงานว่าแอปเปิลได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอีกครั้ง โดยเลื่อนตำแหน่ง Vanessa Trigub เป็นรองประธานฝ่ายร้านค้าและธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก ซึ่งตอนนี้แอปเปิลยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ จากเดิมงานส่วนนี้รับผิดชอบโดย Deirdre O’Brien ที่ดูแลควบทั้งส่วนร้านค้าปลีก Apple Store และฝ่ายบุคคล (HR)
ก่อนหน้านี้ Trigub เป็นผู้บริหารที่ระดับผิดชอบ Apple Store ส่วนอเมริกาฝั่งตะวันตก การขยายความรับผิดชอบนี้จึงเป็นการดูแล Apple Store ทั่วโลก ทั้งนี้ Trigub ทำงานที่แอปเปิลมานานกว่า 30 ปี และดูแลส่วนธุรกิจค้าปลีกและ Apple Store มาตลอด