แม้ชะตากรรมของ Vertu ในช่วงที่ผ่านมาจะย่ำแย่จนในที่สุดนำมาสู่ การปิดโรงงานในอังกฤษ คงเหลือแต่แบรนด์ เทคโนโลยี และความร่วมมือกับ TCL ตลอดจนถึงต้องย้ายสำนักงานที่ทำการไปยังฝรั่งเศสและหยุดออกมือถือใหม่ๆ มาเกินปี แต่ล่าสุดบริษัทก็กลับมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือหรูรุ่นใหม่ในชื่อว่า Aster P
เว็บไซต์ข่าวไอทีของประเทศจีน CNMO รายงานว่าโทรศัพท์รุ่นนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา หน่วยประมวลผลกลางเป็น Qualcomm Snapdragon 660 พร้อมกล้องหลัง 12 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,200 mAh พร้อม Quick Charge 3.0 ใช้ Android 8.1 ส่วนความหรูหราก็จัดเต็ม ด้วยหนังชั้นเยี่ยม ผสานเข้ากับหน้าจอแซฟไฟร์คริสตัลสุดทนทาน และมาพร้อมกับบริการเลขาส่วนตัวที่เรียกได้จากปุ่มทับทิมสีแดง (แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้วัสดุอะไรบ้าง และทองเป็นทองแท้หรือโลหะเป็นไทเทเนียมหรือไม่ อ่านสเปคเต็มได้ท้ายข่าว)
จุดแตกต่างระหว่างรุ่นก่อนหน้ากับรุ่นนี้ คือการนำเอาดีไซต์ของรุ่น Signature Touch ก่อนหน้า มาผสมกับ Constellation ซึ่งเป็นมือถือตัวเดิมทั้งคู่ เลยออกมาในแบบที่คล้ายๆ ของเดิมไม่ต่างกันมากเท่าใดนัก แถมวิดีโอนำเสนอก็ยังคงใช้วิดีโอของ Constellation V มาตัดต่อเพิ่มเติมรุ่นใหม่ (ดูได้ท้ายข่าว) และระบุว่ามือถือรุ่นนี้ยังทำอยู่ในประเทศอังกฤษเหมือนเดิม
แบ่งออกเป็นสองรุ่นคือ Baroque และ Gothic แตกต่างกันที่ความหรูหราและวัสดุตกแต่งประกอบ มีหลายสีให้เลือก และรอบนี้วางขายผ่านแพลตฟอร์ม JD ของจีน สนนราคาที่ 29,800 หยวน (ประมาณ 140,000 บาท) สำหรับรุ่น Baroque และ 35,800 หยวน (ประมาณ 168,000 บาท) สำหรับรุ่น Gothic ยกเว้นรุ่นสีดำทอง ที่แพงที่สุดคือ 98,000 หยวน (ประมาณ 460,000 บาท)
อนึ่ง ใครที่อยากซื้อมาใช้ ควรทราบว่า Vertu ที่ขายในประเทศจีนจะไม่มี Google Play Store และบริการอื่นๆ ของ Google ติดมาด้วย
ที่มา - หน้าผลิตภัณฑ์บน JD ( 1 , 2 ), CNMO , GSM Arena , Android Central
Vertu Aster P
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1
- หน้าจอขนาด 4.97 นิ้ว ที่ความละเอียด 1080p
- กล้องหลัง 12 เมกะพิกเซล, กล้องหน้า 20 เมกะพิกเซล
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB, แรม 6 GB
- ใช้ USB Type-C (3.0)
- รองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi
- หน่วยประมวลผลกลาง Qualcomm Snapdragon 660
- รองรับ 2 ซิม
- รุ่นย่อย Baroque มีสีดำ, สีส้ม, สีน้ำตาล และสีฟ้า
- รุ่นย่อย Gothic มีสีดำล้วน, ดำตัดขาว, ดำตัดทอง
Comments
ว่าแต่ vertu ประเทศไทยยังอยู่ไหมครับ เห็นโชว์รูมที่พารากอนปิดไปแล้ว
เหมือนจะยังมีที่เกษรชั้น 1 อีกแห่งนะครับ
ไปiPhone X
Galaxy Note 9ไม่ใส่เคส วางเฉยๆยังสวยกว่าอีก ไม่เข้าใจหลักการออกแบบที่แสดงความหรูหราของแบรนด์นี้เลย
ลิเกมาก
พวกนั้นมันก็เป็นแค่สมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่ง ส่วนของ luxury มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นครับ ความโดดเด่น การดึงดูดสายตา คืออีกอย่างที่ต้องคำนึงถึง ฉะนั้นจึงต้องมีการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อวัตถุประสงค์นี้ด้วย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าถ้ามองในเรื่องของความสวยงาม รสนิยมของผมอาจจะไม่ใช่แบบเดียวกันกับคนที่ออกแบบหรือกลุ่มคนที่ใช้สินค้าในกลุ่มนี้ เพราะผมก็มองเช่นเดียวกันกับคุณว่ามันไม่ได้มีความสวยงามอะไรเลย
ความสวยงามเป็นเรื่องปัจเจกน่ะครับ ไม่มีถูกไม่มีผิด
สมมติผมอาจจะเห็นว่าเครื่องทั้งหมดที่คุณพูดมัน look cheap มากกว่าเครื่องพวกนี้ก็เป็นได้ คำถามคือ มันมีคนพร้อมจ่ายไหม ซึ่งก็ต้องให้บริษัทพิสูจน์ว่ามีคนพร้อม
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
มือถือจะสเปกห่วยแค่ไหน ขอแค่บอกว่าจับตลาดคนรวย ก็ไม่ต้องสนใจคำด่าแต่ผมเดาว่าน่าจะคนไช้น้อยมากๆ ขนาดพวกดาราฮอลลีวูดที่รวยๆ ก็ยังถือ iphone sumsung กัน
มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรอรุ่นใหม่ออกด้วย
จ่ายเป็นแสน เพื่อ snapdragon 660 ?น่าจะขายยากอยู่
คนใชเครื่องอาจจะคนละกลุ่มกันครับ ^ ^''
ทำไมเวลา ss iphone แพง เราไห้เหตุผบว่าจับตลาดนละกลุ่มกันไม่ได้นะ ฮาาา
แพงขนาดนี้ยัด845มาให้ยังได้ แต่ไม่ทำ งงกะคนต้นคิด
ตัวฝาหลังสีขาวนี่สวยมาก อยากได้ แค่อยากได้แต่ไม่มีปัญญาจ่าย
ตกลงจะจับกลุ่มเป้าหมายอะไร แพงสุดๆ แต่ Spec อย่างห่วย ไม่ต้องพูดถึงเทคโนโลยีอื่นๆในเครื่องถ้ามัน premium แต่เอาไปใช้งานจริงไม่ได้ สู้เอามือถือดีๆ แล้วไป premium อย่างอื่นอย่างพวกกระเป๋า รองเท้า ไม่ดีกว่าเรอะ
ถ้ามันเวิร์ค บริษัทคงไม่เจ๊งหรอก
นี่ไม่ใช่ Premium Phones ครับ มันคือ Luxury Phones ครับ คุณต้องเริ่มต้นจากจุดนี้ก่อน ไม่งั้นก็จะไม่เข้าใจครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
+1 ถ้าคนที่เค้าอยากได้สเปกสูง เค้าก็ไปซื้อตัวทอป Android หรือ iPhone Xs Max ไปแล้ว แต่นี่เค้าแค่อยากซื้อมาเป็นเครื่องประดับเฉย ๆ
ลองนึกภาพนาฬิการาคาหลักล้านที่ดูเวลาได้อย่างเดียวดูครับว่าคนเค้าซื้อมาทำอะไร ถ้าจะแค่ดูเวลา วัดหัวใจก็ไม่ได้ ซิ้งกับ Smartphone ก็ไม่ได้ นาฬิกาหลักร้อยก็ดูเวลาได้
อันนี้มันเป็นโทรศัพท์หรูเฉย ๆ สเปกพอเพียงไว้รับสายโทรออกส่ง Message ได้นิดหน่อยก็พอแล้ว ไม่ได้เอามาเล่นเกมหรือรันโปรแกรมอะไรที่มันกินแรงเครื่องหนัก ๆ ถ้าเค้าอยากได้เค้าก็ซื้ออีกเครื่องแหละครับ อันนี้ไว้ถือออกงานเฉย ๆ ไม่ก็พกสองเครื่อง
ประเด็นคือราคาเป็นแสนแต่พอไม่ใช้ CPU ตัวท็อปมันจะอืดกว่าเยอะครับ สุดท้ายประสบการณ์ใช้งานไม่ดี ดูแพงแค่ไหนก็โดนคนอื่นเยาะเย้ยว่าซื้อมาโชว์ใช้งานห่วยแทนครับ
เพราะคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายอ่ะครับ คนที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์เหล่านี้อาจไม่ต้องการประสิทธิภาพมากมาย มากเท่ากับการได้ครอบครอง status symbol หรือเครื่องบอกสถานะทางชนชั้นของตัวเอง (ถ้ากล่าวในภาษา Marxism)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
แสดงว่าปัจจุบันสมาร์โฟน ใช้บ่งบอกฐานะแล้วใใช่ไหมครับ ไม่ว่าข้ิางในจะกากขนาดไหน
งั้นเลิกด่าคนซื้อโทรศัพท์แพง แต่ไม่คุ้มราคา กับสเปคภายใน กล้อง ได้แล้วมั้งครับ เพราะเขาซื้อเพื่อแสดงถึงฐานะและเขามองว่าฟังชัน (ที่ได้เพิ่มเติม)ของโทรศัพท์เหล่านั้นคือแสดงฐานะ
สินค้าอะไรที่เข้าข่าย luxury ก็พอจะพอบอกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เอาไว้บ่งบอกถึงฐานะนั่นแหละครับ
"ถ้า" มือถือเหล่านั้นเน้นการแสดงฐานะ argument หรือข้อเสนอคุณมันจะถูกต้อง (valid)
แต่ "ถ้า" มือถือเหล่านั้นยังเน้นสเปค ยังเน้นกันที่ถ่ายภาพสวย ยังไงมันก็มีคนจับไปเปรียบน่ะครับ
คือผมมองๆ ความเห็นที่คุณพิมพ์ติดๆ กันในข่าว ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคุณไปโดนกดหรือเหยียดมาเหรอครับ? เห็นอินเรื่องนี้มากเป็นพิเศษในระดับต้องพิมพ์รวดถึง 3 ความเห็น เพราะเอาเข้าจริงมันอยู่ที่ตำแหน่งแห่งที่ของสินค้าที่คุณซื้อน่ะครับ
สมมติ ถ้า Apple วันหนึ่งออกมือถือหลักแสนโดยยังยืนยันจะแข่งกับคู่แข่งในตลาดด้วยสเปคและความสามารถ แต่วัสดุยังใช้พอๆ กับคู่แข่ง (อะไรดีล่ะ... stainless steel, aluminum) มันก็มีคนยังไงก็ด่าอ่ะครับว่า เพราะแบรนด์มันไม่ใช่ Luxury product มันเป็น Premium Mass (พูดจากจุดปัจจุบัน)
แต่ถ้า Apple จะเล่นเกมนี้ โดยยัด... อะไรล่ะ วัสดุมือถือเป็นไทเทเนียม จอเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ ปุ่มทำมาจากทับทิม ด้านหลังบุด้วยหนังแท้ แถมเคสผลิตจากผ้าอัลคันทารา บอกว่าตัวเองจับตลาด luxury นะ แล้วจะขายเครื่องละแสน สเปคที่ด้อยกว่ามันก็ irrelevant ชัดเจน เพราะตลาดที่มันต่างกันครับ
ผมเข้าใจคุณ เวลามีใครมาบอกว่ามือถือสเปคห่วยกว่า แต่ทำไมขายแพงกว่า ทว่าก็นั่นแหละ ขึ้นกับ "ตลาด" ที่คุณจะเล่นเกมด้วย
ยกตัวอย่างผมเองง่ายๆ ผมใช้ iPhone เป็นเครื่องประจำ ผมไม่ได้ต้องการใช้รุ่นล่าสุด เพราะจุดผมชัดเจนคือผมเอา iPhone ใช้เพราะระบบปฏิบัติการ, ตัว OS ที่มันให้ความปลอดภัยดีกว่า, ภาพถ่ายที่สมจริง ฯลฯ อะไรก็ว่าไป และผมทำใจไม่ได้ที่จะใช้มือถือราคาพอๆ กับ MacBook แถม iPhone ออกงานก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
แต่ถ้าวันไหน ผมจำเป็นต้องออกงาน มีวันที่ผมจำเป็นต้อง "แสดงฐานะ" ผมก็อาจจำเป็นต้องใช้ Vertu แทน เพื่อบ่งบอกว่าผมเป็นใครในวงสังคมนี้ (ปัจจุบันไม่มีฐานะเช่นนั้น เลยไม่ต้องซื้อ)
อนึ่ง ผมค่อนข้าง firm argument อย่างหนึ่งว่า ของที่เราใช้ อะไรก็ตาม มันแสดงถึงฐานะทั้งนั้นครับ แค่กระดาษทิชชู่ก็บอกแล้ว
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
คุณลองใช้ Snapdragon 660ดูรึยังครับผมลองแค่ Mi A2 ผมพยายามใช้งานหนักมากๆแล้วจากการใช้งานทั่วไปไม่พบอาการ lag ช้า ค้างใดๆเลย จริงๆจะเห็นความต่างจาก Snapdragon 845 แค่เรื่องของการเล่นเกมหนักๆ หรือ render video เท่านั้นแหละครับ ซึ่งคนที่ซื้อ Vertu นั้นเค้าไม่มีเวลามาทำอะไรพวกนี้ในโทรศัพท์มือถือหรอกครับ ถ้าจะเล่นเกมจริงจัง เค้าคงเล่นผ่าน console จอใหญ่ๆเผลอๆใช้โปรเจคเตอร์ พร้อมชุดโฮมเธียเตอร์เสียงอลังการ เท่าที่ผมเคยร่วมงานหรือพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจที่พอจะซื้อ Virtu ได้ เค้าไม่เล่นเกมบนมือถือกันอ่ะครับ ยกเว้นเกมเล็กๆที่ Snapdragon series 4 ก็ยังเล่นลื่นครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ความคุ้มค่าผมว่าอยู่ที่ แบรนด์ วัสดุ และเลขาส่วนตัวที่ใช้ได้ คิดเป็นเงินเดือนถ้าจ้างคนมาทำหน้าที่แบบนี้ ปีนึงอาจจะแพงกว่าโทรศัพท์ก็ได้ครับ
+1 เพราะฟังก์ชั่นหลักอย่างหนึ่งของสินค้าประเภทนี้คือการบ่งบอกฐานะครับ
ยี่ห้อนี้ไม่ได้ขายสเปคนี่ครับ ทำไมต้องใส่อัดมาเยอะ ๆ แล้ว 660 ก็ไม่ได้ใช้งานได้แย่ตรงไหน
ก็ไม่แปลกถ้ามันจะเจ๊งนะตั้งราคาหรูแต่สเปคเทียบเท่าแบรนด์ถูก อารมณ์ซื้อ benz แต่สเปคเครื่อง city,vios เนี่ย
คงขายได้แต่ indy ล่ะ
ราคาขนาดนี้ทั้งที่สามารถยัดทุกอย่างลงไปได้
ข้างบนเถียงกันเรื่องสเปค เถียงไปก็แพ้ครับ ราคานี้ ทำไมไม่ยัด SD845 555
ยัดมาก็กลุ่มเดิมที่ซื้ออยู่ดี
Spec ก็เป็นหนี่งในความ Luxury ที่ไม่ได้ต่างจาก Material หรือ Design นะครับไม่อย่างนั้น Vertu Signature Touch รุ่นเมื่อ 4 ปีที่แล้วมันจะยัด 810 , ลำโพงที่ให้ Bang & Olufsen จูน หรือระบบเสียง Dolby Digital Plus Surround มาทำไม ?
แล้วก็ Spec (ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว) นี่แหละที่ทำให้ Vertu ยากลำบากในโลก Luxury
ผมว่าจะสรุปว่าสเป็คเป็นปัจจัยที่ทำให้ Vertu ลำบากก็ดูเหมือนจะไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้สักเท่าไหร่ เพราะจริงๆ แล้วก็มีบริษัทมือถือที่เน้นสเป็คหลายบริษัท ที่ไม่ได้ประสบผลสำเร็จในการดำเนินการอยู่มากมายเช่นกัน