วันนี้ในงาน Google Playtime 2018 งานสรุปภาพรวมประจำปีของ Google Play ระบุว่าผู้ใช้ใหม่ที่จ่ายเงินมักนิยมการจ่ายเงินผ่านเครือข่ายโทรศัพท์หรือบัตรเติมเงินมากกว่า 80% ขณะที่การจ่ายแบบดั้งเดิมเช่นบัตรเครดิตนั้นคิดเป็น 20% เท่านั้น
กูเกิลไม่ได้เปิดเผยว่าผู้ใช้ที่จ่ายเงินในแอปทั้งหมดมีอัตราส่วนเป็นอย่างไร แต่สถิตินี้ก็แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้รายใหม่ๆ นิยมการจ่ายเงินที่ไม่ต้องผูกบัตรเครดิตอย่างมาก โดยตอนนี้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย กูเกิลสามารถตัดเงินผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์ได้ 25 เครือข่ายใน 7 ประเทศ และมีบัตรเติมเงินขายใน 4 ประเทศ
ในแง่การใช้จ่ายในแอป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตสูง โดยในไตรมาสสาม มีอัตราการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
รายงานของกูเกิลรวมกับเทมาเส็คระบุว่าในปีนี้จะมีอัตราการจับจ่ายผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet economy) สูงถึง 72,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตไปจนถึง 240,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025
ภาพรวมระดับโลกกูเกิลระบุว่าตอนนี้มีเครื่องที่อยู่บน Google Play มากกว่า 2,000 ล้านเครื่อง และมีอัตราการดาวน์โหลดแอปมากกว่าวันละ 250 ล้านครั้ง
ที่มา - งาน Google Playtime 2018
Comments
ผมว่าที่ลูกค้าใช้ช่องทางอื่นเพิ่มขึ้นน่าจะเพราะจำนวนคนใช้งานมือถือมันแพร่ไปหาคนที่ไม่มีบัตรเครดิตเป็นจำนวนมากเป็นทวีคูณเยอะกว่าคนที่มีเลยทำให้สัดส่วนการชำระเป็นแบบนี้
จริง คนจำนวนมากที่ไม่มีบัตรเครดิต แต่มีสมาร์ทโฟน
ไม่ใช้เพราะกลัวข้อมูลบัตรหลุดมากกว่า
ผมก็ตัดผ่านโอเปอเรเตอร์ ไม่อยากผูกบัตร เวลาผิดพลาดโอเปอเรเตอร์คุยง่าย
พูดไป ใช้แอนดรอยมาก็เกือบสิบปีแล้ว แต่เพิ่งเคยจ่ายเงินซื้อแอพไปครั้งเดียวเองมั้ง โคตรงก 555
อยู่เมืองไทยบัตรเครดิตถ้าไม่ใช่พนักงานกินเงินเดือนมีบัตรเครดิตไม่ได้ง่าย บางบริษัทเจ้าของมีบัตรเครดิตน้อยกว่าลูกน้องอีก หรือฟรีแลนซ์นี่ขนาดมีเงินฝากหลักล้านก็ใช่ว่าจะได้ง่ายๆ
เดี๋ยวนี้ไม่ยากแล้วครับ ถ้าเดินบัญชีสม่ำเสมอของ่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะครับ
ธนาคารหลายเจ้าตอนนี้ทำบัตรเดบิต โดยไม่ทำบัตร atm แล้วด้วย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สงสัยอย่าง เขานับพวก virtual card ในแอปต่างๆ เป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรใช่มั้ย?
แสดงว่าน้อยกว่าที่คิดแฮะ