นับว่าเป็นปัญหาโลกแตกกับการเสียบพอร์ท USB-A ที่มักจะไม่ค่อยสำเร็จในครั้งเดียว ซึ่งแม้แต่ตัวผู้คิดค้นเองก็ยอมรับในปัญหานี้และรู้ตั้งแต่ในขั้นตอนการดีไซน์ด้วย ทว่าด้วยข้อจำกัด ณ ตอนนั้นทำให้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายจำเป็นต้องออกมาอย่างที่เราเห็นกัน
Ajay Bhatt ผู้คิดค้นและผู้นำทีมพัฒนาโปรโตคอล USB ที่ Intel ยอมรับว่าการต้องมาคอยเสียบ USB สลับด้านเพื่อให้เข้าได้ถูกต้องนั้นเป็นความน่ารำคาญ แต่ก็ปกป้องการตัดสินใจนี้ว่า ทีมพัฒนารู้ตั้งแต่แรกแล้วถึงปัญหานี้ แต่การจะให้ USB สามารถเสียบได้ทุกด้านหรือการทำเป็นวงกลมนั้น ต้องใช้สายไฟ แผงวงจร และต้นทุนที่มากขึ้น ดังนั้นทีมงานจึงตัดสินใจจบที่ทรงสี่เหลี่ยมเพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด
ทุกวันนี้เราอาจจะเห็นการใช้งาน USB กันอย่างแพร่หลาย แต่ในช่วงแรกๆ ความลำบากของทีมงานคือต้องทำให้ผู้ผลิตพีซียอมรับมาตรฐานและนำไปใช้งาน โดยพีซีเครื่องแรกที่มีเฉพาะ USB คือ iMac G3 ในปี 1998 ซึ่งหากต้นทุนของ USB สูงกว่านี้จากการสามารถเสียบได้ทุกด้าน มาตรฐานนี้อาจจะไม่ได้เกิดก็เป็นได้
Comments
เคยซื้อการ์ดเพิ่มช่อง usb มาเสียบ เพราะคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นไม่มีช่อง USBกว่าจะรวมมากับเมนบอร์ด ก็รออยู่หลายปีเชียว
เหมือนที่ USB-C ไม่ยอมเกิดสักทีอยู่ตอนนี้และกินเวลามาก ?
คงต้องรอ Apple ให้มีความกล้าหาญตัดพอร์ตต่างๆออกทั้งหมด เหลือไว้แต่เพียง type C เท่านั้นกระมัง - จริงๆ ไม่ได้ประชด
Macbook ก็ตัดออกหมดไปแล้ว
ผมหมายถึงอุปกรณ์ทุกตัว รวมถึง iPhone/iPad ด้วยครับ
พอโมเมนตัมมันมากพอ เดี๋ยวเมนบอร์ดพีซีธรรมดาก็อัดเข้ามาเองครับ
เรื่อง iPhone iPad นี่ผมไม่เห็นด้วยนะครับ มันไม่น่าจะทำให้ผู้ผลิตเมนบอร์ดเปลี่ยนได้เลย เพราะต่อให้สองอย่างนี้เป็น Type C มันก็มีสาย Type A TO C ใช้ได้อยู่ดี เผลอ ๆ แถมมาในกล่องด้วยซ้ำ
อีกอย่าง ผมคิดว่าน้อยมากครับที่คนจะเอา iPhone iPad มาเสียบกับคอมพิวเตอร์ PC ไม่น่าจะมาเป็นประเด็นได้เลย
ที่ผมบอก Macbook อันนั้นก็ทำให้วงการตื่นตัวในเรื่อง Type C และก็คาดหวังว่าจะได้เห็นอุปกรณ์ที่เป็น Type C เพิ่มขึ้น แต่เปล่าเลย วงการที่ตื่นตัวกลับเป็น USB Hub ซะมากกว่า แล้วตอนแรก ๆ ก็มี Laptop หลายเจ้าออกรุ่น Type C ล้วนแบบแอปเปิ้ล แต่ตอนนี้รุ่นใหม่ ๆ จะมี Type A ออกมาด้วยเสมอ เป็นงั้นไป - -*
คงอีกนานกว่าคนเค้าจะเปลี่ยนเป็น Type C ล้วนอ่ะนะผมว่า จุดนึงที่เป็นข้อได้เปรียบคือกระแสไฟ Type C ที่มากกว่า Type A ครับ นอกนั้นคนเค้าก็เฉย ๆ กัน
Apple ควบคุมแรงดันไฟของสินค้าผ่านตัว OS ได้ครับและเตรียมตัวกันมานานแล้วด้วย รอดู Iphone 2019 ได้เลยครับ น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่พอสมควร
ปล.การที่คนใช้ไม่สามารถใช้ได้ผมว่ามันมาจากผู้ผลิตไม่ทำออกมามากกว่า ถ้าทำแล้วขายดีก็คงผลิตเต็มที่ แต่ปัญหาคือรอบการเปลี่ยนมันไม่ได้เร็วแบบสมัยก่อนนี่สิ ซึ่งสิ่งที่ควรจะเป็นตอนนี้คือผู้ผลิตเลิกผลิตไปเลย แล้วให้ตลาดเคลียร์ของเก่ากันเองแทน ไม่ใช่ผลิตต่อไปแบบที่เป็นอยู่
งั้นต้องไปบีบทุกเจ้าให้เลิกผลิตครับ อุปกรณ์ที่ใช้ usb-A มีคนใช้เป็นล้านๆ คน ถึงเจ้านี้ไม่ผลิตก็มีคนอื่นผลิตแทน ของมันยังขายได้อยู่นิ
ถ้าจะเปลี่ยนฉับพลันมันต้องมีจุดขายที่โดดเด่นกว่าที่เป็นอยู่
จุดขายที่โดดเด่นกว่าราคาที่ถูกแสนถูกนี่น่าจะยากครับ
เคยโดนหลงกลซื้อ(Apple) Mighty Mouse มาเพราะ Designe มันไม่เข้ากับ Mac พวก Aluminum เลย แต่มันเข้ากับ Plastic รุ่นก่อนหน้ามากๆ ไม่นานก็ออก Magic Mouse คิดในใจ"สงสัยค้างสต๊อ"
สรุป iPhone 2019 หน้าตาเหมือนเดิม ใช้ Lightning ผ่างงง!!!
น่าจะต้องใช้เวลาซักระยะ กว่า usb 3 จะยอมใส่ใน mb/nb เป็นมาตรฐานก็ต้องระยะนึงเลยflashdrive ก็เหมือนกัน มีแต่ usb2 มาตั้งนาน
ผมว่าที่มันไม่เกิดก็เพราะราคามันสูงมาก และ User ทั่วไปไม่ได้มีความต้องการใช้ประโยชน์ทุกอย่างในสเปคของมันด้วยครับ
คงต้องรอให้ Cloud มันเร็วมากพอที่จะมาทดแทน Flashdrive USB 3.0 ในปัจจุบันนั่นแหละครับ คนถึงจะเลิกใช้ USB ที่กลับหัวไม่ได้
ก็ใช่ไงครับ พอราคามันสูงมันก็เลยเกิดยากแบบเดียวกับที่ข่าวนี้บอกนี่แหละ
ผมว่าเป็นข้อจำกัดเรื่องต้นทุนนะ
เขาก็บอกแบบนั้นนี่ครับ
อ่าวหรอ จำได้ว่าเขียนหัวไว้ว่าข้อจำกัดด้านกการออกแบบหรืออะไรแนวๆนี้แหละไม่ก็ผมมึนเอง
ต้นทุนและราคาขายก็ถือเป็นข้อจำกัดด้านการออกแบบนะครับ ยกตัวอย่างก็ "ออกแบบรถให้สามารถตั้งราคาขายคันละ 1 ล้านบาท"
ก็ถูกแล้วนะ สายไฟแค่ 4 เส้นเอง ประหยัดดีออก แต่ไอ้สองอันข้างล่างนี่สิ
รุ่นถัดไปไม่เยอะกว่า Parallel อีกรึ?
ถ้าสายเยอะกว่าแล้วมันดีกว่าผมว่าก็เรื่องที่ดีนะครับ
ถ้าคน(ผู้ผลิต)ยอมจ่ายด้วยนะ
ดี แต่ต้นทุนสูง ขายไม่ได้ ผู้ผลิตก็เจ๊งไงครับ
แก้คำครับ
iMAC G3 --> iMac G3
กลับข้างเสียบไม่ได้นี่ยังพอทน เจอชื่อรุ่นไปแล้วปวดหัวเลย
USB 3.0USB 3.1 Gen 1
USB 3.1 Gen 2
อย่าลืมยังมี
- USB 3.2 Gen 1 (SuperSpeed USB)- USB 3.2 Gen 2 (SuperSpeed USB 10Gbps)
- USB 3.2 Gen 2x2 (SuperSpeed USB 20Gbps)
แต่ๆ USB 4 เดี่ยวก็จะมาอีก
พูดถึง USB4 นี่แค่ดัดแปลงเสปกจาก TB3(ซึ่งตัว TB3 เองมันก็พร้อมอยู่แล้วเรื่อง backward compatible ไปจนถึง EHCI) แต่กว่าจะออกเสปกตัวจริงก็ตั้งอย่างน้อยปี 2011..
แทนที่พี่จะตัด USB 3 2x2 ทิ้งไปแล้วรีบเร่งออกเสปก USB4(ที่พร้อมแล้ว แต่อยากดัดแปลงให้เป็นของตัวเอง?) กลายเป็นทำงานซ้ำซ้อน ล่าช้า แถมทำให้คนสับสนอีกซะงั้น
เทียบกับฝั่ง PCI-SIG นี่ต่างกันคนละขั้วเลย รายนี้เน้นออกเร็วไว้ก่อน ผู้ผลิตทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่อง
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ทีี่ว่า "โดยพีซีเครื่องแรกที่มาพร้อม USB คือ iMac G3 ในปี 1998" ไม่น่าใช่ แต่เป็นผู้ผลักดัน โดยตัดพอร์ตอื่นออก เช่นเดียวกับ Floppy Drive นั่นใช่
เพราะ COMPAQ มากับ Chipset intel มีมาก่อนแน่นอน
เข้าใจว่าคุณ nismod แปลผิดครับ
ต้องเป็น PC เครื่องแรกที่มีแต่พอร์ต USB(98)
เคยใช้พีซีที่มี USB1.0 สมัย 95OSR2(หรือ2.1หว่า) เหมือนกันครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมก็เข้าใจแบบคุณ McKay
PC เครื่องแรกผมใช้ MB รุ่นนี้ก็มี USB 1.1 มาพร้อมกันแล้วแต่ไม่มีอุปกรณ์เสียบ และ Win95 รุ่นแรกก็ไม่รองรับด้วย
https://www.cnet.com/products/ecs-p5tx-a-motherboard-atx-socket-7-i430tx/
ผมใช้สิทธิ์ admin แก้ไขตามนั้นครับ
lewcpe.com , @wasonliw
ผมว่า type C จะเกิดได้ต้องเริ่มที่ adapter ชาร์ทไฟมือถือนี่แหละครับ ทุกวันนี้ขนาดยี่ห้อจีนที่สามารชาร์ทไฟได้ 18w 30w ยังใช้ type A อยู่เลย ถ้าเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ตรงนี้แป๊บเดียวสาย type c to type c ก็มีคนใช้เป็น 100 ล้านคนแล้วครับ
USB 3 ก็เกินพอแล้ว เร็วขนาดนั้น ถ้าเร็ว 10 20 MB แบบ USB 2 ก็ว่าไปอย่าง
อีกทั้ง 2 3 ก็ใช้แทนกันได้
คงยากสำหรับ C จริงๆ
C มันคือหัวนะครับ จะวิ่งด้วย 2 หรือ 3 นั่นอีกเรื่อง