ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดประเด็นการขุดโพสต์ทวีตเก่าๆ ขึ้นมาจนนำมาสู่การวิพากย์วิจารณ์ต่างๆ นานา ซึ่งประเด็นที่ Blognone ต้องการจะนำเสนอในบทความนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความเห็นของใครหรือประเด็นทางการเมืองใดๆ แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า การแก้ไขข้อความสเตตัสไม่ว่าจะบน Facebook หรือ Twitter นั้นง่ายดายมากๆ และการแคปหน้าจอหรือ screenshot อาจไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ได้อย่างที่คิด
อันดับแรกคือหาสเตตัสหรือทวีตเป้าหมายด้วย Chrome เมื่อได้แล้วให้คลิ๊กขวาที่สเตตัสหรือทวีตนั้นๆ แล้วเลือก Inspect
เสร็จแล้วจะมีคอนโซลด้านขวาปรากฎขึ้นมา เราสามารถใช้เครื่องมือรูปเม้าส์ด้านซ้ายบนของคอนโซล เพื่อจิ้มเลือก element ที่เราต้องการ ในที่นี้คือสเตตัสหรือทวีตที่เราต้องการเปลี่ยน ซึ่งจะอยู่ใน tag < p >
เมื่อเจอแล้วเราสามารถดับเบิลคลิ๊กข้อความดังกล่าวที่อยู่ใน tag < p >
ในคอนโซลด้านขวา และสามารถแก้ไขด้วยการพิมพ์ทับลงไปได้เลย เสร็จแล้วกด enter ข้อความในสเตตัสที่แสดงผลด้านซ้าย จะเปลี่ยนเป็นตามที่เราพิมพ์เอาไว้
ขณะที่บน Facebook ก็สามารถแก้ไขรายละเอียดของกิจกรรมที่ขึ้นบนสเตตัสได้ด้วยซ้ำไป ด้วยวิธีเดียวกับที่กล่าวไปข้างบน
สรุป
อย่างที่เกริ่นไป จุดประสงค์ของบทความนี้ ไม่ใช่เพื่อชี้นำวิธีการใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่าการแคปหน้าจอนั้น อาจไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ทุกกรณีไป เพราะการแก้ไขสเตตัสหรือทวีตนั้นทำได้ง่ายมากๆ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องตัดต่ออย่าง Photoshop ที่ดูมีความวุ่นวายกว่ามาก ที่สำคัญคือภาพที่ได้จากการแก้ไขเช่นนี้ เหมือนกับภาพที่ได้จากข้อความจริงทุกประการ ไม่สามารถแยกแยะได้เหมือนภาพปลอม หรือเว็บสร้างสเตตัสปลอมที่มักเหลือร่องรอยหรือความผิดปกติไว้บ้าง
Comments
screenshot ในมือถือยังพอน่าเชื่อถืออยู่เพราะเปิด inspect ไม่ได้
เปิดได้ครับ
ขอวิธีด้วยครับ
ตามนี้เลยครับ
ขอบคุณครับ
แถม iOS
:-)
มายืนยันว่าเปิดได้ จริง ๆ ต่อให้ไม่ใช่มือถือ Chrome บนคอมด้วยโหมดเดียวกันกับบทความคือ Dev Tools ก็สามารถเนรมิตรให้คุณเข้าเว็บเวอร์ชั่นมือถือได้เหมือนกัน
อันนี้จะน่าสงสัยหน่อยเพราะไม่มีแถบด้านบน
ถ้าเอาแบบคนใช้ไม่ค่อยจะเป็นก็ ก็อปอันนี้ไปใส่ address bar แล้ว enter
javascript:document.body.contentEditable='true'; document.designMode='on'; void 0
เอาเมาส์จิ้มแล้วพิมพ์แก้แบบเดียวกับเวลาพิมพ์ Word เลยครับ แก้จนเสร็จก็
javascript:document.body.contentEditable='false'; document.designMode='off'; void 0
บายจ้าความน่าเชื่อถือของโลกนี้
javascript:document.body.contentEditable='true'; document.designMode='on'; void 0ลองแล้วมันพาเข้า google search อ่ะครับ
จริงด้วยแฮะ โทษทีครับ ก็อปไปวางไม่ได้แต่ต้องทำเป็น favorite ไว้ครับ พอดีของผมมันมีอยู่ใน favorite มันเลยกดได้ - -"
ต้องพิมพ์ j ไว้แล้วก็อบ
avascript:document.body.contentEditable='true'; document.designMode='on'; void 0;
ไปวางต่อถ้าเอา javascript:xx ไปใส่มันจะตัดออกเองครับ
ตามข่าวไม่ทัน ใครใจดีมีวาร์ปแจกมั้ยน้ออ 555
ไปเพจโหดสัสครับ
ขอบคุณครับบ
ปลอมได้ง่ายกว่าเดิมอีก เละสิครับแบบนี้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
วิพากย์วิจารณ์ => วิพากษ์วิจารณ์
คลิ๊ก => คลิก
เม้าส์ => เมาส์
ใช้วิธีนี้แก้ข้อความหน้าเว็บฮาๆมาตั้งแต่สมัยเรียน....ยุคนี้เอามาใช้ป้ายสีกันซะละ
นึกว่าข่าวเก่าในปี 2000
จริงครับ เพราะ inspect element มีเป็นสิบ ปีละ
ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องหนิครับ :)
+1 การที่เรารู้ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นต้องรู้ ทุกคนมีเรื่องที่สนใจและให้ความสำคัญแตกต่างกันหรือถ้าจะยึดหลักการว่าเรารู้โลกต้องรู้ งั้นคงต้องรู้ใช่ไหมครับว่าต้องแก้ไข dew point อย่างไรในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิเอาแน่เอานอนไม่ได้
comment แบบน้ำเต็มแก้ว
account blognone คุณมีอายุ 10 ปี และคุณพูดถึงข่าวไอทีช่วงยุค 2000 ซึ่งผ่านมา 15 ปีแล้ว กรณีที่คุณให้ความสนใจติดตามข่าวไอทีเร็วที่สุดก็น่าจะอายุราว 15+- เดาว่าตอนนี้คุณน่าจะอายุราว 30 เป็นอย่างน้อย
อายุขนาดนี้แต่คอมเมนต์แบบนี้ ดูเป็นคนน้ำเต็มแก้วและเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอย่างคอมเมนต์บนว่าไว้จริงๆ
ขอโทษด้วยครับ ผมจะปรับปรุงเรื่องนี้ครับ
ปล. ผมลืมคิดถึงว่า Blognone ไม่ใช่แค่คนใน IT ที่เข้ามาอ่านแบบแต่ก่อนแล้ว ขออภัยจริงๆครับ
แค่แซวว่าเหมือนข่าวเก่า โดนยำเละเลยครับ
ประโยคเดียวตีความกันไปได้ขนาดนี้ ขนาดไม่ได้แก้ inspect element อะไรเลยนะเนี้ย 555
นั่นสิครับ ยำกันแรงมาก แต่ตีความไปในทางเดียวกันว่าเค้าพูดดูถูก พูดเย้ยหยันหมดเลย หัวรุนแรงกันมาก
แต่ต้นเม้นน่ารักนะ ขอโทษง่ายดี อีโก้น้อยแบบนี้ผมเลื่อมใส
ใช้แกล้งเพื่อนตั้งแต่สมัยคนไทยเล่น Facebook ใหม่ๆเพราะซักพักก็รู้ตัวกันหมดไม่อยู่หน้าเครื่องล็อคจอทุกคนเลยพิมพ์จริงไม่ได้ ยังมีคนเชื่ออยู่อีกแหะ
เอาไว้แกล้งตอนตรวจหวย
อันนี้ผมเคยทำ ฮือฮากันใหญ่ ฮาๆ
ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ แนะอัด video ครับ
ถ้าเป็นสาย VDO ก็ไม่ยากเช่นกันครับ blue screen , green screen นี่สบายๆเลย โปรแกรมติดเครื่องอย่าง imovie ยังทำได้เลยครับ
ทำบ่อยจนและตอนเด็กๆ 55
หรือเวลาเกรดออก
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เคยเก็บหลักฐานเพื่อฟ้องหมิ่นประมาทนอกจากจะ Capture Screenshot แล้ว ผม Capture Video ด้วยครับ เริ่มตั้งแต่พิมพ์ URL แล้วคลิกพาไปดูข้อความ
ใช้เป็นหลักฐานได้อยู่หมัด
ได้ใช้หลักฐานมั้ยครับ
เอาจริงๆ แค่นั้นก็ใช้ไม่ได้หรอกครับ ทำ proxy หรือ extension แก้เอาก็ได้ ถ้าคนมีความพยายามมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นด้วย
แค่พิมพ์ url นี่ก็ทำขึ้นได้ง่ายมากๆ จึงไม่แน่ใจที่คุณบอกว่าใช้เป็นหลักฐานได้อยู่หมัดนั้น ศาลรับเป็นหลักฐาน หรือว่าจำเลยยอมรับสารภาพ (เพราะความไม่รู้ว่ามันปลอมกันได้) ครับ
อันนี้เหมือนชี้นำหรือเปล่านะครับ ถ้าคนเอาไปทำตามเยอะๆ น่าจะวุ่นวายกว่าเดิมนะครับ
ผมว่าถ้าจะเตือนไม่ให้คนเชื่อเฉยๆ ไม่มีความจำเป็นใดๆต้องสอนทำนะครับ (ทำไมเราถึงอยากให้คนทำเป็นมากขึ้นกันนะ? ?)
บอกแค่ว่าสามารถทำได้ น่าจะพอ หรือไม่ก็พิสูจน์ให้ดูโดยไม่ต้องบอกวิธีการ ก็น่าจะมีวิธีเยอะแยะครับ
อย่างน้อย developer จะเก่งไม่เก่งแค่ไหนทุกคนน่าจะทำเป็นครับโดยเฉพาะ web dev มันเป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ทำงานประจำเป็นปกติแค่นี้ก็เป็นคนจำนวนเท่าไหร่แล้ว เอาจริงแค่คนทำนู่นนี่บ่อยๆก็คงอาจจะเคยใช้มาบ้าง มันไม่เป็นความลับอะไรเลยแค่เขียนให้คนไม่รู้ให้เห็นว่าทำได้จริงเอาตัวอย่างมาแสดงก็ไม่เสียหายนะ
ครับ ประเด็นนี้ผมเข้าใจ และคาดอยู่แล้วว่าต้องมีคนมาเม้นท์ประมาณว่า "มันเป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้ว"
แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวนี้ target ไปที่ developer รึเปล่านะครับ?
น่าจะเจาะกลุ่มไปในคนที่ไม่รู้มากกว่า แต่สอนวิธีให้อย่างชัดเจน ซึ่งผมว่าไม่จำเป็นต้องทำเลยครับ ถึงแม้ต่อให้ว่าไม่เสียหาย (ซึ่งจริงๆแล้วก็มีโอกาส) แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
ทำให้ละเอียดไปเลยดีกว่า เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้แย่นะ
คือสมัย Hi5.com ดังๆ คนแก้ css ทำอะไรพวกนี้แต่งหน้า Hi5 ตัวเองกันเยอะแยะครับ แค่สมัยนี้มันไม่มีให้แต่ง ให้ทำก็เลยมองว่ามันละเอียดไป (สมัยนั้นเด็กอายุ 12-13 ปี ใช้ web dev tools แก้พวกนี้นี่ผมเห็นแล้วยังว้าวเลย)
จริงๆเราต้องการแค่ "โน้มน้าวให้เชื่อว่าทำได้" หรือต้องการ "สอนให้ทำเป็น" ด้วยนะครับ?
ยังมองไม่ออกว่าการพ่วง "สอนให้ทำเป็น" เข้าไปด้วย นี่มีประโยชน์มากกว่าผลเสียในแง่ไหนบ้าง
จะมีทางไหนไหมที่เรายัง "โน้มน้าวให้เชื่อว่าทำได้" โดยที่ไม่จำเป็นต้อง "สอนให้ทำเป็น"?
มันเป็นขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ขั้นตอนทางไสยศาสตร์นะครับ
โน้นน้าวให้คนเชื่อ มันต้องมีระเบียบวิธี และขั้นตอนการพิสูจน์สนับสนุน ทำซ้ำได้ ผลการทดลองต่างๆ ส่งต่อให้คนอื่นๆ ทำตามแล้วได้ผลเหมือนกัน นั้นทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ คนจึงเชื่อถือครับ
ปกติตอนคนที่เชื่อเรื่องการตัดต่อเป็นไปได้ นี่ตัดต่อเป็นทุกคนรึเปล่านะครับ ทั้งๆที่ไม่ใช่ไสยศาสตร์?
อะไรที่เป็นดาบ 2 คม หรือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถห้ามเด็ดขาดได้ แล้วมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม การพยายามปกปิดไม่ให้สาธารณะชนรู้ เท่ากับสงเสริมให้เฉพาะคนที่รู้อยู่แล้ว หรือหาความรู้เอง เอาเปรียบคนหมู่มากที่มีโอกาสรู้น้อยครับ
การที่ทุกคนไม่ได้ตัดต่อเป็น ไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับการห้ามสอนคนตัดต่อครับ การตัดต่อภาพมีสอนกันอยู่ทั่วไป และการที่มีการสอนอย่างโจ่งแจ้งอยู่ทั่วไป ทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่าการตัดต่อภาพไม่ใช่เรื่องยากเกินความพยายามคนทั่วไป และระวังตัวมากขึ้นครับ
ประเด็นก็ไม่เห็นด้วยกับการปกปิดตั้งแต่แรกนะครับ
เพียงแต่อยากทราบว่าทำไมแค่ทำให้รู้ว่าทำได้ถึงยังไม่เพียงพอครับ?
คนจำนวนหนึ่งไม่เชื่อจนกว่าจะหลักฐานคาตาครับ
คนอีกกลุ่มหนึ่งจะเชื่อต่อเมื่อโดนกับตัวครับ
etc
เพราะการบอกให้เชื่อว่ามันง่าย ไม่หนักแน่นเท่ากับพิสูจน์ว่ามันทำได้ง่ายจริงๆด้วยการให้ลองทำเองครับ
คือแบบนี้ผมก็เห็นเด็กๆมัธยมใช้กันแล้ว และมันก็ search วิธีง่ายมากๆถึงบอกว่าปิดไปไม่มีประโยชน์ ไม่ได้สำหรับทุกกรณีนะครับ
ค่อนข้างเห็นด้วยนะ คือแค่อาจจะบอกวิธีการคร่าวๆ และพิสูจน์ให้เห็นก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะเว็บนี้จะมีใครก็ได้ที่มาดูข้อมูลแล้วทำตาม เอาไปใช้ในทางที่ผิดได้ต่ออีก แต่แค่อาจจะไม่เป็นข่าวใหญ่โต แต่ก็ได้ทำความเสื่อมเสียให้กับผู้เสียหายไปเรียบร้อยแล้ว
แบบนี้ถูกต้องแล้วครับ ถ้าจะวุ่นวายมันก็ต้องวุ่นวายให้ผ่านเรื่องนี้ไปให้รู้กันว่ามันใช้ไม่ได้ แบบเดียวกับที่ Project Zero ประกาศช่องโหว่นั่นแหละครับ เค้ารู้โลกก็ต้องรู้ ไม่งั้นจะมีคนกลุ่มนึงที่คอยหาประโยชน์จากตรงนั้นอยู่เรื่อยๆ
เหมือนการตัดต่อรูป ทำเว็บไซต์ ก็มีคนนำไปทำรูปใส่ร้าย เว็บข่าวปลอม แต่พอคนเริ่มรู้ คนก็จะไม่เชื่อกัน เพราะรู้ว่ามันตัดต่อได้ หรือใครก็สร้างเว็บขึ้นมาได้
ยิ่งอันนี้ทำง่ายกว่าตัดต่อรูปหรือทำเว็บไซต์อีก คนจะได้ระวังไว้เยอะๆครับ เพราะว่ามันทำง่ายมากๆ
แต่ถ้าการเอามาเป็นหลักฐานยากขนาดนี้ คงต้อง live ออกวีดีโอกันแล้วล่ะ คนจะได้เชื่อถือ และ refresh เว็บไปรอบเพื่อเรียก code จริงจากเว็บมาใหม่ แล้วเลื่อนมาดูอีกทีก็เชื่อถือได้แล้ว เพราะ live มันตัดต่อไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เครื่องมือแบบในหนังนะ ที่เอาภาพวีดีโอมาหลอกกล้องวงจรปิด
capture vdo ก็ไม่ช่วยหรอก ทำ MITM proxy เพิ่ม แล้วแก้ไข content ระหว่างทางก่อนอัดวิดีโอ มันก็ได้เหมือนกัน เผลอๆ ทำการปลอม request บน localhost ปรกติ ก็ไม่รู้แล้วว่าจริงหรือปลอม
ของแบบนี้ จริงๆ ต้องใช้บริษัทผู้ให้บริการเป็นคนส่งข้อมูลและเป็นพยานให้ครับ เพราะเป็นผู้เก็บข้อมูลต้นฉบับ ไม่ใช่เอาพวกสำเนามาใช้งาน
ทำ script replace text ตอน reload web ได้อยู่ดีครับ
อืม...แล้วแบบนี้ถ้าเราใช้บริการ web archive จะพอใช้เป็นหลักฐานได้มั้ยครับ?
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ส่วนตัวคิดว่า มีคนจำนวนมากที่รู้
แต่ก็ผสมโรงเข้าไปด่า เหมือนไม่สนว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
ขอแค่คนที่เขาต้องการด่า โดนเหยียบย่ำทำลายให้ได้มากที่สุด
ค่อนข้าเหนื่อยใจกับ วิจารณญาณ ของคนใน social มาก ๆ
มันกลายเป็นยุคที่คนเริ่มเรียนรู้การใช้อินเตอร์เน็ตผิดๆ ด้วยการสอนกันไปมาแบบไม่รู้ตัวครับ
ด่าตามน้ำกันไป คนก็ไม่ห้าม แล้วก็เห็นดีเห็นงามตามกัน สุดท้ายทำกันจนเป็นนิสัยเหมือนสอนให้ตัวเองและคนอื่นๆ "ด่าไว้ก่อน"
สุดท้ายแล้วใครมีสติก่อน แก้ไขนิสัยตัวเองได้ก่อนก็โชคดีไปครับ
จริงๆแล้ว ควรรวมพวก
-cap chat จาก Line ก็ทำง่าย
-อีกอันก็พวก พิมพ์เอกสารเลียนแบบราชการ แล้ว print ออกมาเป็นกระดาษแล้วกดถ่ายรูปกระดาษ จากนั้นก็แชร์ไปว่า รบ.จะ โน่นนั่นนี่แล้ว
ด้วยนะคนไม่เฉลียว เชื่อทันทีเยอะมาก
-----BEGIN PGP SIGNED MESSAGE-----Hash: SHA512
อีกหน่อยคงต้องใช้ PGP มาช่วยยืนยัน
-----BEGIN PGP SIGNATURE-----
Version: GnuPG v1
iQIcBAEBCgAGBQJdFw97AAoJEIAqe5NNHeDL3oUP/jFS4GkzzdyQf1YL09GVHKN5
MgzWc+1QpAz9/deJB72gMlpo12N10zVn1DB9JpI14zv3E6yCKQp1LAWQdD+g9Wb0
bTeamkegh1BroGtfEjNScSpwBzWso7S4lMo8diPsXFG+zi0LmcVq7fAEjrmpoow7
Y/2ibPDz/5Sr2EVsqaZFkH2q6n3QF5FHtFf2MFoKX2bdwbyCgiIXWqlmHHseJNp7
ocfAyCjUEiwO9wiQi6SM9BdzcOp2fceE7KHyC2PhTLE1yDmvHvBq+4g6Cce3pjyS
c7ml0pXViPG7BWQLZuWtrCBLmNXsMdz/oBmLnU8vnT5XUsKrUSwduqTyXTAm9k1N
l+kNp1nHVt9MXmEOQMIWcgbe5TI19oW6lpC57chOZtj1styySWuMVdqJ264piyOV
bcxyhuo1au/bp+WTbDvcFiGEagqqAT6PlD/c98hyXIu8rsYfGl2zwpykX9d4Ueg1
OfSeES19HQkVbedgqnCsUVNy/m5uW9Ix97E093kKvj2Xn4MokLYYdHUuScWY1RGL
8EfJDIZ0QlDcpwrJ0l2xFQSiduA/IrJXrFuRMeDYn2Jr0cKc3be/MBcGVP/O6PZt
HB8uUnh8XNzyTKPRWEfksfG6F2IWURBy/zTCAAI2GDCvw+hnoQCJ7eOgUE3lyEsJ
O5DPJNM9zQ70IZbJLYEs
=B79L
-----END PGP SIGNATURE-----