ดีแทคเผยผลการศึกษาโดยร่วมกับ Wisesight ผู้ให้บริการวิเคราะห์ Big Data ในไทยศึกษา Social listening tool เรื่องการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ พบว่าการแกล้ง ล้อเลียน เหยียดยังคงเป็นเรื่องรูปลักษณ์ เพศวิถี และกระจุกตัวอยู่ในวงการการศึกษา ครูเองก็ยังคงขาดความเข้าใจและไม่มีวิธีการรับมือต่อปัญหา ขณะเดียวกัน ดีแทคยังผุดแคมเปญ #คำด่าไหนฝังใจที่สุด ให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์
โดยดีแทค และ Wisesight รวบรวมข้อความต่างๆ ทางโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, ฟอรั่ม และบล็อกข่าวในประเทศ ช่วงเดือน พ.ย. 2561 - ต.ค.2562 พบว่า
- โลกออนไลน์ของไทยประกอบด้วยข้อความที่เกี่ยวข้องกับการบูลลี่ แกล้ง ล้อ และเหยียดราว 700,000 ข้อความหรือเฉลี่ย 39 ข้อความต่อนาทีและมีการขยายความต่อผ่านการรีทวีต ไลค์ แชร์ ทำให้เกิดการขยายข้อความดังกล่าวทั้งสิ้นราว 20 ล้านรายการ
- ลักษณะการบูลลี่ที่ปรากฎในโซเชียลมีเดียของไทยนั้น 36.4% เป็นการบูลลี่ด้านรูปลักษณ์ ตามด้วย 31.8% เป็นการบูลลี่ทางเพศวิถี และ 10.2% เป็นการบูลลี่ทางความคิดและทัศนคติ ส่วนที่เหลือเป็นการบูลลี่ด้านอื่นๆ เช่น เชื้อชาติ ศาสนา บุคลิกลักษณะนิสัย รสนิยมความชอบ ฐานะทางการเงิน และครอบครัว เป็นต้น
- นอกจากนี้ยังพบว่าการแกล้งกันทางออนไลน์นั้นส่วนมากพบในวงการ “การศึกษา” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับ “อนุบาล” ไปจนถึงระดับมัธยม โดยมีเพื่อนเป็นคนที่ปรากฏในข้อความที่พูดถึงการบูลลี่มากที่สุด
ดีแทคยังระบุด้วยว่า ได้ร่วมมือกับองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย หน่วยงานภาคประชาสังคมด้านสวัสดิภาพเด็ก เพื่อพัฒนาและอบรมหลักสูตร Gender diversity to stop cyberbullying พัฒนาจากองค์ความรู้วิถีทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ การแสดงออกทางเพศ และลักษณะเพศ (Sexual Orientation, Gender Identity and Expression, and Sex Characteristics หรือ SOGIESC) ซึ่งเป็นแนวคิดในการอธิบายเพศสภาพ เพื่อสร้างความเข้าใจถึงความแตกต่างทางเพศของแต่ละบุคคลให้เกิดทัศนคติที่เหมาะสมและนำไปสู่ทัศนคติและการแสดงออกที่เคารพต่อบุคคลอื่นในสังคมที่มีความหลากหลาย โดยปัจจุบัน ได้ดำเนินการอบรมไปแล้วในหลายโรงเรียนของจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือของไทย
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments
หลายคนยังมาตกม้าตายเรื่องเหยียดอยู่เลยนะ อารมณ์แบบคนที่เราชอบโดนเหยียด เราจะลุกมาปกป้อง ติด # เท่ๆ แต่ถ้าเป็นฝ่ายที่เราไม่ชอบโดนเหยียดบ้าง เรากลับเฉย หรือบางทีก็ดันเข้าไปร่วมวงเฉย.. ทั้งนี้เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะกลับใครก็ตาม
แต่ก็นะ ค่อยๆ เปลี่ยนกันไป ซักวันนึง เรื่องแบบนี้คงหมดไปจากโลก
+1 ตัวอย่างง่ายๆ นี่ก็เรื่องการเมืองนี่แหละครับ วิจารณ์กันเรื่องผลงานนี่พอเข้าใจได้ แต่อยู่ดีๆ ซักพักไปเหยียดรูปลักษณ์เค้าเฉย ไอเราจะเข้าไปห้ามก็โดนด่ากลับมาว่าเป็นพวกฝ่ายการเมืองตรงข้ามอีก -_-
+1 ถ้าอีกฝ่ายมาเหยียดฝ่ายตัวเองนี้ป้องสุดตัว แต่พอทำฝ่ายตรงข้ามทำได้เฉย
เม้นแบบนี้ ระวังโดนว่าเป็นสายขนมหวานนะครับ
ฮ่าๆ เคยโดนมาแล้วด้วย
ไม่ต่างกันทั้งฝ่ายขนมหวาน หรือฝ่ายส้มหวาน
โอกาสโดนว่าเป็นอีกฝ่ายสูงกว่าครับ อาจเป็นเพราะพื้นฐานการใช้หลักเหตุผลต่างกัน
คนไทยใช้คำเหยียดกันจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดาด้วยแหละ ไอ้ดำ ไอ้อ้วน ไอ้ควาย บักหำน้อย ไอ้ตี๋ ฯลฯ รวมถึงล้อชื่อพ่อชื่อแม่
ส่วนล้อตุ๊ดขึ้นอยู่กับสภาพสังคมโรงเรียนว่าเกาะกลุ่มกันแข็งแกร่งไหมยิ่งมีตุ๊ดเรียนเก่งคนก็ไม่กล้าไปแหย่ให้มีเรื่องฟ้องครูล่ะเพราะครูชอบคนเรียนเก่งมากกว่าพวกเด็กเกเร
อย่างเอาแค่การเมือง ใครเห็นต่างโดนยัดเยียดโยนเป็นพวกหลากสี ยัดเป็นสลิ่ม มีการขุดอดีตมานั่งจับผิดให้ได้......
พอพวกผู้ใหญ่ทำ เด็กก็เอาเป็นตัวอย่างเพราะเห็นว่าทำกันปกติ
แต่ก็ยังมีคำเหยียดเปลี่ยนตามเวลาบ้างนะ
สมัยก่อนไปเรียนประถมโดนล้อเจ๊ก ไอ้เราก็เฉยๆเพราะไม่รู้ความหมาย
พอขึ้นมัธยมเข้ากทม.ก็ไม่มีใครเรียกล่ะ จนเดี๋ยวนี้เหมือนไม่เคยได้ยินล่ะ ยกเว้นเห็นแต่ตามเวบโซเชี่ยลเวลาพูดถึงคนจีนนิสัยแย่ๆแทน
บักหำน้อย ปกติ คนอีสานใช้เรียกเด็กผู้ชายตัวเล็กๆนะครับ ไม่ได้เป็นคำเหยียดอะไร
คนภาคอื่นมองความหมายไปอีกแบบนะ (อาจเฉพาะบางพื้นที่) ประมาณล้อเรื่องกระจู๋
ก็เหมือนคำว่าเสี่ยวครับ คนอิสานใช้เรียกเพื่อนสนิท แต่คนภาคอื่นมองว่าเป็นคำล้อ (และเอามาใช้ล้อกัน)
อาจจะมองเป็นเรื่องปกติ แต่จุดเริ่มต้นมันก็มาจากขนาดของตรงนั้นรึเปล่าครับ 55 เพราะเป็นเด็กเลยเรียกแบบนี้
ูดูเหมือนกลุ่มเดียวที่จะรอดจากการถูกเหยียด คือ พวกเด็กแว้นซ์ ไม่เคยเห็นกลุ่มวัยรุ่นล้อเพื่อนเรื่องแว้นรถ ? แปลกดี
มีโดนบุลลี่ว่าเน็ทช้ามั้ยครับ
ลั่น 5555
ควรเปลี่ยนทัศนคติล้อเล่น/แซวเล่นด้วย หงายการ์ดนี้มาคนบุลลี่สามารถพลิกเป็นฝ่ายโกรธได้.
คนบูลลี่คนอื่นก็ทำเพื่อกลบปมด้อยของตัวเองทั้งนั้น
ธรรมดาที่ต้องยอมรับว่า ความเป็นคนก็เช่นนี้ มันต้องแก้ไขหลายส่วน แต่สำคัญคงต้องอยู่ที่จิตสำนึกเท่านั้น
โดนบูลลี่ว่าใช้ dtac อยู่อีกหรอ
แต่ก่อนโดนบ่อยครับ ทั้งประถมและมัธยม
เวลาเดินไปที่ต่างๆ โดน "ไอ้บอดไปไหน" ตลอด 55 อย่างถ้าเด็กมาเจอเราก็ "แม่ๆ พี่ตาบอดมา"
มีแต่ผู้ชายแฮะที่ทำ ไม่เคยถูกผู้หญิงว่าแบบนี้
เสียใจกับช่วงวัยเด็กของคุณที่ทำให้รู้สึกแย่ในวัยนั้นนะครับ แต่คุณผ่านมาได้แล้ว ผมเชื่อว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้คุณแข็งแกร่งและเป็นตัวเองจนถึงทุกวันนี้ได้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ครับ จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร มองว่ามันเป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งของชีวิตครับ
สุดท้ายแล้วคนที่เราร่วมงานด้วยก็โอเคกันทุกคน
อย่างบางคนที่ไม่เคยเจอหน้ากัน เวลาคุยกันเรื่องคอม เรื่อง CMS ตัวนั้นตัวนี้ เราก็คุยกันได้ตลอด
ภายหลังผมบอกว่าตาบอด ดันไม่ค่อยอยากจะเชื่อซะงั้น ต้องอธิบายกันยาวเลย 55+
ไม่พัฒนาเครือข่ายแล้วเหรอ มาทำอะไรที่มันไม่ใช่ core business อีกละ
แปลกไหมที่ผมไม่ชอบการ bully แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ มนุษย์ห้ามไม่ให้คิดไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนตัวผมเป็น lgbt อยู่แล้วแต่ผมก็คิดแบบนั้นด้วย