นอกจาก H&M ที่ออกตัวว่าไม่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานชาวอุยกูร์เพื่อเก็บฝ้ายในมณฑลซินเจียง จนตำแหน่งร้านหายไปจาก Apple Maps และอีกหลายแผนที่ในแอพของประเทศจีนแล้ว Nike กับ Adidas อีกสองแบรนด์ที่ออกแถลงการณ์ไปในทางไม่สนับสนุนฝ้ายจากมณฑลซินเจียง ก็ถูกลบหายไปจากทั้งแอพสโตร์ของ Xiaomi และ Huawei ในประเทศจีนเช่นเดียวกัน
ตัวแทนจาก Xiaomi ยืนยันกับ Global Times ว่าแอพ Nike และ Adidas รวมถึงโฆษณาทั้งหมดของสองแบรนด์นี้ ถูกนำออกจากแอพสโตร์ของ Xiaomi จริง แต่ไม่เปิดเผยสาเหตุ ส่วนฝั่ง Huawei ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม
ตลาดประเทศจีน กลายมาเป็นตลาดใหญ่ที่ทำยอดขายให้กับทั้งสองบริษัทมหาศาล รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เติบโตถึง 7% ได้ในปี 2020 ขณะที่ภูมิภาคอื่นยอดขายลดลง คงต้องติดตามว่า Nike และ Adidas จะมีท่าทีอย่างไรต่อไปกับผลกระทบนี้
ที่มา - Global Times
Comments
Nikeได้สัมปทานทำเสื้อทีมฟุตบอลใน Chinese Super League และทีมชาติจีนด้วย มีข่าวแบบนี้ปวดหัวทั้งทีมฟุตบอลด้วย
ผมว่า Nike ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าแบรนด์อื่นเท่าไหร่ครับ ถ้ากรณีนี้มันลามจนต้องยุติสัญญาก็ไม่น่าจะเสียหายมาก และอีกอย่าง Nike ค่อนข้างเชื่อในแนวทางของตัวเองในการที่จะแสดงออกแบบนี้อยู่แล้ว อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ที่ได้ส่งผลบวกมากกว่าก็เป็นได้นะครับ
เรื่องนี้มันค่อยข้างอิมแพกก็หลายๆ อย่าง อย่างเช่นรายการแข่งไอดอลจีนใน iqiyi ถึงขั้นเลื่อนออกอากาศจาก พฤหัสฯ ที่แล้วไปออกอากาศวันเสาร์แทน (ปกติออกอากาศ พฤ กับ เสาร์) แล้วเลื่อนของวันเสาร์ไปออกวันอาทิตย์ ตอนแรกก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้ดูตอนที่ออกอากาศก็พบว่า มีการเซนเซอร์ เสื้อผ้า เครื่องแบบ ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งปกติก็จะเซนเซอร์อยู่แล้วแหละในของบางคนที่ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ใช่สปอนเซอร์ แต่อันนี้มันเป็นชุดเครื่องแบบที่ทุกคนต้องใส่ ซึ่งคิดว่าที่ต้องเลื่อนออกอากาศก็เพื่อไปเซนเซอร์โลโก้สินค้าต่างๆ ที่อยู่ในข้อพิพาศนี้
The Dream hacker..
ประเด็นคือ สินค้าต่าง ๆ แอนตี้ฝ้ายจากการบังคับใช้แรงงานอุยกูร์ แต่ IO จีนและพวกบริษัทในจีนเบี่ยงประเด็นเป็นว่าสินค้าต่าง ๆ แบนฝ้ายของซินเจียง โดยไม่ยอมพูดถึงการบังคับใช้แรงงานซักคำ
เป็นการเบี่ยงประเด็นที่ห่วยแตก แต่ก็เหมือนว่าคนจีนไม่มีความรู้สึกว่าการบังคับใช้แรงงานอุยกูร์นั้นผิด ความละอายนี่ไม่มีเลย กลายเป็นปลุกชาตินิยมของตัวมาสู้ซะงั้น
คนละเรื่องเดียวกันไปเลย
แอบรู้สึกทึ่งกับการ re action ต่อการโจมตีจากต่างประเทศมากเลย ถ้าเกิดทุกคนในประเทศพร้อมเพรียงกันได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่ในข่าว ประเทศก็จะเข้มแข็งมาก ๆ ภายนอกจะแทรกแทรงก็ทำได้ยาก
/ เอะอะ ๆ ก็ IO ทำไมไม่คิดบ้าง ว่าเขาแค่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศเขา โดนกล่อมจนประสาทหลอนกันหมดละเหรอ XD
มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิครับถ้าเรายังมองชาวอุยกูร์เป็นคนเท่ากัน การที่เราเฮโลอะไรกันทั้งประเทศทำให้ผิดเป็นถูกได้เหรอ แล้วไม่ใช่แค่จีน ทุกประเทศนั่นแหละ
ครับ เรื่องที่เกิดขึ้นอาจมีอะไรลึกและผูกกันหลายอย่าง แต่เรื่องบางเรื่อง ต่อให้มองมาจากดาวอังคารแว่บเดียวก็รู้ว่าฝ่ายไหนผิด ก็ควรรับรู้และไม่เห็นแก่ประโยชน์ฝั่งตนจนเอาประเทศมาอ้างกระทำได้ครับ
กลัวเหมือนกรณีใช้ลิงเก็บมะพร้าวในเมืองไทย นั่งเทียนล้วนๆ
กรณีของจีน เหมือนมีอำนาจ ในการต่อรองนะครับ กำลังซื้อเยอะ
เอกสารต่าง ๆ รวมทั้งเอกสารนโยบายของรัฐบาลทางออนไลน์ และรายงานข่าวของสื่อทางการจีน เผยให้เห็นว่า ปี 2018 เมืองอากซู และเมืองโฮทาน ส่งคนงาน 210,000 คน "ผ่านการโอนย้ายแรงงาน" ไปเก็บฝ้ายให้กับ บรรษัท ซินเจียง คอนสตรักชัน แอนด์ โปรดักชัน จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการทหารของจีน
เอกสารหลายชิ้นได้พูดถึงคนเก็บฝ้ายที่กำลัง "ถูกเกณฑ์และจัดหา" เพื่อส่งไปยังไร่ฝ้ายที่อยู่ไกลออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
ปีนี้ เมืองอากซู ระบุว่าต้องการคนงาน 142,700 คน สำหรับทำงานในไร่ และส่วนใหญ่ก็ได้ตามที่ร้องขอผ่านหลักการ "การโอนย้ายผู้ที่ควรถูกโอนย้าย"
มีเอกสารที่อ้างอิงถึง "การแนะนำ" คนเก็บฝ้ายให้ "ต่อต้านกิจกรรมทางศาสนาที่ผิดกฎหมายอย่างมีสติ" บ่งชี้ว่า มีการออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อครอบงำชาวอุยกูร์ในซินเจียง และกลุ่มมุสลิมดั้งเดิมอื่น ๆ
https://www.bbc.com/thai/international-55329600
เอาจริงๆ ความน่าเชื่อถือของสื่อ BBC ก็พอๆ กับ สนข.ซินหัวของจีนนะ
ขนาดคราวก่อนเรื่องลิงเก็บมะพร้าวก็ลงข่าวเสี้ยมรัวไปทีนึงแล้ว ถึงกับทำสกูปลงพื้นที่ไปถ่ายคนที่ใช้ลิงเก็บมะพร้าว ส่วนข่าวรัฐ-เอกชนปฏิเสธ ลงก็จริงแต่เอาไว้เล็กๆ =__=
PETA ครับ ที่ทำคลิปเรื่องลิงเก็บมะพร้าว
ส่วนบอกว่า BBC พอๆกับซินหัวนี่........
ผมว่าเค้าก็พูดถูกแลเวนะ BBC นี่ hidden agenda เยอะ จนเป็นแค่กระบอกเสียงตะวันตกแล้ว ต้องฟังหูไว้หู
ตะวันตกมันยังตีกันไปกันมาเพราะมีเสรีภาพสื่อ(จะขวาสุด ซ้ายสุดก็เชิญ) ฝั่งจีนเนี่ยออกมาแบบเดียวกันหมดเลยนะครับเว้น SCMP ที่บางข่าวจะมาแหวก ๆ หน่อยแต่ก็นะเพราะเบสอินฮ่องกงด้วยละ
ฟังแล้วต้องตรวจสอบน่ะถูกครับ แต่ยกBBC ที่เป็นองค์กรอิสระที่ด่ารบ.วิจารณ์สถาบันฯ ตัวเอง มาเทียบเท่าซินหัวซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลพรรคคอมฯ ที่จะไม่มีตำหนิรบ.เลยนี่มันก็เกินไปหน่อยนะครับ
BBC พอกับซินหัว เหอ ๆ ๆ
นี่เอาตลกหรือเอาฮาครับ
จริงBBC นี่กระบอกเสียงฝรั่งชัดเจน
ถ้ามั่นใจขนาดนั้นก็เชิญสื่อต่างชาติเข้าไปสังเกตการณ์แบบไม่เซ็นเซอร์สิครับ
ใครได้ ใครเสีย
https://www.bbc.com/thai/resources/idt-sh/China_hidden_camps_thai
https://www.youtube.com/watch?v=bXdLIbWqm-8
แรงงานเก็บฝ้ายเป็นแรงงานจีน จ้างมาจากมณฑลใกล้เคียงและซินเจียงเองด้วย ภายใน 1 ปีมีงานแบบนี้แค่ 2 เดือนในฤดูเก็บเกี่ยว
การใช้แรงงานคนมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าใช้เครื่องจักร แต่ต้องใช้สำหรับฝ้ายคุณภาพสูง เพราะจะได้ฝ้ายที่คุณภาพสูงกว่าการเก็บด้วยเครื่องจักร
การเก็บฝ้ายจำนวนมากขนาดนั้น น่าจะต้องใช้ทั้งแรงงานคนและเครื่องจักรนะครับ เพราะมันต้องมีบางพื้นที่ที่เครื่องจักรทำงานไม่ถนัด
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าไปตามหลักฐาน ซึ่งที่ผ่านมาก็เหมือนจะมีเอกสารหลุดว่าจีนใช้แรงงานจริงอยู่นะ
That is the way things are.
คนเก็บฝ้าย คนเก็บชา คนเก็บกาแฟ คนตัดอ้อย งานบางงานก็ต้องใช้คน เรื่องของเรื่องคือ เค้าใช้แส้ ใช้หวาย บังคับให้มาทำงานหรือเปล่า หรือจ้างมาทำงาน
แทนที่ทางการจีนจะจัดทัวร์ในพื้นที่ที่มีข้อสงสัย เอาให้ชัดๆ สร้างความโปร่งใสไปเลย จะได้จบๆ ไป เผลอๆ ไปหักหน้าบริษัทเอกชนที่แบนเสียด้วยซ้ำ
แต่กลับมาใช้กดดันโดยตลาดขนาดใหญ่ของตัวเอง และการควบคุมผ่านบริษัทเอกชนด้วยการแบนสินค้า-บริการของยี่ห้อนั้นๆ แบบนี้ เออ ก็ชวนให้น่าสงสัยหนักขึ้นไปอีก