Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ Dyson V12 Detect Slim หัวแปรงดูดฝุ่นมีไดโอดเลเซอร์สีเขียว ช่วยฉายให้เห็นฝุ่นที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น หัวแปรงออกแบบใหม่ แถบแปรงเป็นทรงกรวย แบบ anti-tangle hair screw ลดการติดพันของเส้นผมและเส้นขนต่างๆ
ที่หัวแปรงยังมีเซ็นเซอร์ Acoustic Piezo ที่จะใช้เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ตรวจจับและคำนวณจำนวนอนุภาคฝุ่นที่เครื่องกำลังดูดอยู่ถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที และไปแสดงขนาดและปริมาณฝุ่นที่เครื่องดูดได้บนจอ LCD
Dyson V12 Detect Slim ใช้ระบบการกรองของ Dyson ดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.99% รวมถึงมีเทคโนโลยีไซโคลนของ ดูดฝุ่นได้ลึกขึ้น และเก็บกักฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกลับออกมาด้านนอก
Dyson V12 Detect Slim วางแล้ววันนี้ มีสามรุ่นคือ Fluffy แถม 1 หัวดูดทำความสะอาดและ 5 อุปกรณ์เสริม ราคา 21,900 บาท รุ่น Total Clean มีหัวทำความสะอาดไดเร็คไดรฟ์สำหรับพรม เพิ่มเข้ามา ราคา 24,900 บาท และ รุ่น Absolute Extra มีทุกอย่างของรุ่นก่อนหน้า เพิ่มแท่นวางแบบตั้งพื้น และแบตเตอรี่เสริม ราคา 28,900 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Dyson.co.th
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์
Comments
ปกติจะเอาไฟฉายส่องเฉียบๆกับพื้นแล้วดูด (เอาไว้ดูว่าดูดสะอาดยัง)
แม่บ้านไฮโซ สะอาดเนียนกริบ
ไม่ทันชุดใหญ่แม่บ่นอยากได้อยู่เศร้าเลยต้องไปหาตามห้างอีกและ
แบรนที่คุณก็รู้ว่าใครเตรียมลอก ไม่เกินสองอาทิตย์ออกมาเหมือนเป๊ะ
รอดูXaiomiได้เลย
รอซื้อ Dreame ได้เลย
เอาเป็นหุ่นยนต์ ไม่ต้องดูดเอง
ถ้าหมายถึงแบบที่วิ่งดูดตามพื้นมันจะมีหลายจุดที่ไม่สามารถเข้าไปดูดได้ ยกเว้นว่าจะจัดบ้านเพื่อให้หุ่นดูดได้สะดวกๆ
มันคุ้นราคาไหมครับ เทียบกับยี่ห้อจากจีนมีตัวเลือกเพียบจบเลือกไม่ถูกเลย
ถ้าเอาคุ้ม .... ซ่อมง่ายอะหลั่ยเยอะไม่เน้นรูปร่างหน้าตาผมว่ายี่ห้อเครื่องมือก่อสร้างดีกว่าครับ แบตพังก็เอาแบตสว่านมาใส่แทนได้
ถ้าเทียบกับพวกไร้สายลากๆพื้นตัวอื่น ดีกว่าเยอะมากครับโดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักเวลายก ผมมีใช้อยู่บางยี่ห้อที่ราคาเกิน 20k พอๆกันหัวมอเตอร์ดูดพื้น Dyson ดีกว่ามากแต่ไม่กล้าบอกว่าทุกยี่ห้ออาจมีรุ่นที่ผมไม่เคยลอง
ถ้าเทียบกับที่ทำหน้าตาเลียนแบบเท่าที่เคยเล่นรุ่นท็อปๆของ Dyson ดูดดีกว่าครับ พวกนั้นมันจะแรงพอๆกับ series เก่าๆซัก v8 อะไรแบบนี้ไม่กล้าบอกว่าทุกยี่ห้ออีกเช่นกันเพราะก็เคยใช้แค่บางยี่ห้อ
แต่ถ้าเอาคุ้มราคาพูดรวมๆของราคากลางๆมักจะคุ้มสุดครับแม้แต่ในยี่ห้อเดียวกันเอง ตัวท็อปๆมันจะออกมาราคาโดดจากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไปพอสมควร
ที่บ้านมีของ Philips ไร้สายกับ Dyson คิดว่า Dyson โอเคกว่า ดูดแรงกว่าหน่อยนึง ของ Phillips สักพักเหมือยมันดูดแรงน้อยลงไม่เหมือนแรกๆ
คนใช้ยี่ห้อนี้ ดูดอย่างเดียวเสร็จเลย หรือว่าถูต่อด้วยครับ
คนอื่นไม่รู้ยังไงปกติดูดฝุ่นกับถูพื้นแยกกันครับดูดฝุ่นก็ถี่หน่อยถูพื้นก็ราวๆ อาทิตย์ละครั้ง
ต้องถูครับ แยกกัน แต่ถูน้อยลงเยอะนะเพราะดูดผม ดูดขน ดูดฝุ่น ดูดเศษนั่นนี่ กด 5-10วิ เสร็จแขวนต่อ สักสองสามอาทิตย์ถูทีหรือผมขี้เกียจก็ไม่รู้
ถ้าไม่ใช่พื้นพรมยังไงก็ต้องถูครับ พวกฝุ่นที่โดนความชื้นเป็นคราบยังไงก็ดูดไม่ออก
ตอนแรกอ่านความเห็นนี้ ก็เข้าใจปกติ
พอมาอ่านรอบสอง ทำไมมันคิดไม่เหมือนเดิมนะ
ตอนพิมพ์ถามไปก็ไม่ได้คิดแบบนี้หรอก พอกลับไปอ่านปุ้บ ม่ายย
พออ่านความเห็นนี้ เลื่อนขึ้นไปกับไปอ่านความเห็นหลัก พบว่า เออแฮะไม่เหมือนเดิมจริงด้วย
ขอบคุณครับ ผมใช้ยี่ห้อจีนอยู่ดูดเสร็จแล้วก็ถูต่อไปเลย ก็เดาๆว่าข้อดีของ Dyson น่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก, ดูดเกลี้ยงกว่าอะไรแบบนี้ ซึ่งผมโอเคที่จะใช้ยี่ห้อจีนต่อไป 55
เมื่อไหร่ Dyson จะทำหุ่นยนต์ซักที!
วางขายอยู่นะครับ
https://www.dyson.co.uk/vacuum-cleaners/robot-vacuums/dyson-360-heurist/dyson-360-heurist-overview
แต่ตัวค่อนสูงกว่ายี่ห้ออื่น
ใช้ Digital Slim อยู่ ชอบมาก รุ่นนี้มาก็อยากได้นะ แต่ตัวที่ใช้อยู่ยังรู้สึกประสิทธิภาพดีมากอยู่เลย ไม่คุ้มเงินที่จะเปลี่ยน